หากถามว่า “นนทบุรี” มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออก เหตุเพราะคิดว่าจังหวัดปริมณฑลคงไม่มีอะไรน่าสนใจ จริงอยู่ที่ที่นี่ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แต่บอกเลยว่านนทบุรียังมีสถานที่เด็ดๆ ซ่อนอยู่อีกมาก อยากรู้ว่านนทบุรีมีดีอะไร ตามผมไปเที่ยวกันครับ
ขอเริ่มที่วัดบางไผ่ ในเขตอำเภอบางบัวทอง (พิกัด :
https://maps.app.goo.gl/w8s2GZ7PJ1ZRDrnx6 ) วัดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่ปัจจุบันได้มีการสร้างพระอุโบสถขึ้นมาใหม่ เสียดายที่วันที่ผมไป พระอุโบสถปิดครับ เห็นว่าด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลศรีสุโขทัย หรือหลวงพ่อทอง ซึ่งเป็นพระประธานปางมารวิชัย องค์พระเป็นเนื้อทองคำ
นอกจากกำแพงที่คล้ายป้อมปราการของทหารแล้ว ยังมีการสร้างหอพระไตรปิฎกกลางน้ำทรงจัตุรมุข สำหรับเก็บหนังสือพระไตรปิฎกและเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลองด้วย
ภายในวัดมีถาวรวัตถุอีกหนึ่งสิ่งที่ดูคุ้นตามากๆ นั่นคือโรงเรียนพระปริยัติธรรมรูปแบบทรงไทย ที่ดูยังงั้ยยังไงก็เหมือนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตัวอาคารจะเป็นตึก 3 ชั้น จะเรียกว่าแฝดคนละฝาก็คงไม่ผิดนัก
อีกหนึ่งจุดเด่นของวัดบางไผ่ เห็นจะเป็นบริเวณกำแพง ที่มีการสร้างเลียนแบบป้อมปราการของทหารครับ
ไปต่อที่วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (พิกัด :
https://maps.app.goo.gl/AyrqxLx8sWd5fQkc6 ) หรือที่ชาวนนท์รู้จักกันดีในนามวัดเล่งเน่ยยี่ 2 วัดสวยแห่งอำเภอบางบัวทอง ที่มีการก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมจีน ผสมผสานกับพุทธศิลป์ไทย ที่ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 12 ปี เดิมวัดแห่งนี้เป็นเพียงโรงเจขนาดเล็ก ต่อมาคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ได้คิดจัดสร้างวัดขึ้นใหม่ โดยเปิดโอกาสให้พุทธบริษัทชาวไทยและชาวจีนได้ร่วมบุญกันจัดสร้างวัดแห่งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เนื่องในวโรกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปีครับ
สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในวัด จะตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมจีนโดยใช้พุทธศิลป์ในราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง และมีการวางผังตามแบบวัดพระพุทธศาสนานิกายฌานครับ สำหรับจุดที่น่าสนใจในวัดมีหลายจุดเลย เริ่มต้นที่ด้านหน้าวัด จะพบวิหารท้าวจตุโลกบาล โดยมีบันไดหินที่มีภาพสลักมังกรที่สลักอยู่บนหิน ดูอ่อนช้อยสวยงามมากๆ ครับ
ด้านในวิหารท้าวจตุโลกบาลประดิษฐานรูปเคารพของพระอรหันต์และพระโพธิสัตว์ รวมทั้งองค์ทวยเทพที่สำคัญของนิกายมหายานหลายองค์ อาทิ พระศรีอริยเมตไตรย ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ทิศครับ
หนึ่งในทวยเทพที่สำคัญ คือเทพเจ้าไท่ส่วยเอี๊ยะ หรือเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาชีวิต ที่คนไทยเชื้อสายจีน รวมถึงผู้มีจิตศรัทธาในองค์ทวยเทพนิยมมากราบไหว้ขอพร เสริมดวงและแก้ปีชง เพื่อความเป็นสิริมงคล และให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ปีครับ
เดินถัดขึ้นมา จะพบอาคารทรงจีนหลังใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถ ภายในประดิษฐานพระพุทธเจ้าสามพระองค์ พระศากยมุนีพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน (องค์กลาง) พระอมิตาภะพุทธเจ้า พยากรณ์ว่าท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต (องค์ซ้าย) และพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าในอดีตกาล (องค์ขวา) เป็นพระประธาน พร้อมทั้งรูปปั้นอรหันต์ทั้ง 18 พระองค์อยู่ทั้งสองฝั่งซ้ายขวาครับ
นอกจากความงดงามที่ดูอร่ามตาของพระพุทธเจ้าสามพระองค์แล้ว ด้านในวิหารยังมีภาพเขียนสีพุทธศิลป์แบบจีน โดยใช้สีน้ำเงิน แดง และทองเป็นหลัก ดูงดงามส่งเสริมกันเป็นอย่างมากครับ
ถัดจากพระอุโบสถจะเป็นวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ครับ
ด้านในวิหารประดิษฐานเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมปางเนตรพันกร ที่ถูกแกะสลักจากไม้หอมต้นเดียว ส่งตรงจากประเทศจีนเลย องค์เจ้าแม่กวนอิมมีความอ่อนช้อยงดงามมากๆ ครับ
เดินขึ้นมาชั้น 2 จะเห็นมุมนี้ สวยงามเลยครับ เดินเพลินๆ ก็ทำให้นึกว่าได้มาเที่ยวเมืองจีนเลยครับ
บนชั้นสองเป็นที่ตั้งของวิหารสุขาวดีหมื่นพุทธ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระอมิตาภะพุทธเจ้า องค์ประธานพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และบริเวณฝาผนังยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้าหมื่นองค์ ที่สื่อถึงความหมายว่า พระพุทธเจ้านั้นได้เกิดขึ้นจำนวนมากมาย เหมือนดั่งเม็ดทรายที่อยู่ในมหาสมุทรครับ
ต้องยอมรับถึงความยิ่งใหญ่และงดงามของวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์เป็นอย่างมาก มาไหว้พระขอพรที่นี่ ได้ฟิลเหมือนมาเที่ยวพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่งเลยครับ วัดแห่งนี้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 06.00 น.-16.30 น. ของทุกวัน บริเวณลานจอดรถ จะมีเต็นท์อำนวยการ โดยทางวัดได้จัดเตรียมถุงผ้าใส่รองเท้า ให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้นำรองเท้าใส่ไว้ในถุงและหิ้วติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันรองเท้าสูญหาย รวมถึงมีกระโปรง สำหรับผู้ที่แต่งกายไม่เรียบร้อยไว้ให้พร้อมครับ
ไม่ต้องไปไกลถึงทะเลก็เที่ยวเกาะได้ นั่งเรือยนต์ข้ามฟากเพียงแค่อึดใจก็ถึงเกาะเกร็ด เกาะเล็กๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตอำเภอปากเกร็ด ชุมชนบนเกาะเกร็ดมีการผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างชาวพุทธ มุสลิม และชาวมอญ มาเที่ยวบนเกาะเกร็ดเราจะได้เรียนรู้และสัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ ได้เห็นกระบวนการทำเครื่องปั้นดินเผาลายวิจิตร ซึ่งถือเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านที่สืบถอดมาจากบรรพบุรุษเชื้อสายมอญที่อาศัยอยู่บนเกาะเกร็ด เป็นเครื่องปั้นดินเผาชนิดไม่เคลือบ เมื่อเผาสุกแล้วจะได้สีส้มอ่อนจนถึงสีอมแดง และจะมีการสร้างลวดลายที่มีเอกลักษณ์ด้วยการขีด การฉลุลายโปร่ง และการกดเพื่อให้เกิดความนูนของเนื้อดิน ปัจจุบันการใช้ประโยชน์จากเครื่องปั้นดินเผาลดน้อยลง การสร้างสรรค์งานเครื่องปั้นดินเผาเกาะเกร็ดจึงหันมาทำเพื่อเป็นของประดับตกแต่งหรือของสะสม แทนการใช้งานจริงครับ
นอกจากนี้ในช่วงวันหยุด จะมีร้านขายขนมไทย ข้าวแช่ ทอดมันหน่อกะลา ดอกไม้ทอด ให้เลือกช้อปเลือกชิมมากมาย
ปิดท้ายด้วยการไหว้พระขอพรที่วัดปรมัยยิกาวาส วัดโบราณศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะเกร็ด ที่มีพระเจดีย์มุเตาเอียงตั้งอยู่บริเวณหัวแหลมของเกาะ จนกลายเป็น Gimmick ของเกาะเกร็ดไปแล้ว
หากใครมีเวลา ลองนั่งเรือเที่ยวชมบรรยากาศโดยรอบของเกาะเกร็ดดูนะครับ บรรยากาศชิลมาก เราจะได้เห็นพระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่ปางมารวิชัย อยู่บริเวณท่าน้ำวัดบางจาก นอกจากนั้นเรือจะพาลัดเลาะไปตามลำคลอง พาชมบ้านขนมไทยด้วย การท่องเที่ยวทางเรือแบบนี้ นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเที่ยวเกาะเกร็ดครับ
เกาะเกร็ดจะมีชีวิตชีวามากๆ ในช่วงวันหยุด หากใครอยากจะชิมอาหารพื้นบ้าน ขนมไทยที่หาทานได้ยาก แนะนำให้มาเที่ยวในวันหยุดเสาร์อาทิตย์นะครับ
[SR] “นนทบุรี” มีดีอะไร
ขอเริ่มที่วัดบางไผ่ ในเขตอำเภอบางบัวทอง (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/w8s2GZ7PJ1ZRDrnx6 ) วัดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่ปัจจุบันได้มีการสร้างพระอุโบสถขึ้นมาใหม่ เสียดายที่วันที่ผมไป พระอุโบสถปิดครับ เห็นว่าด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลศรีสุโขทัย หรือหลวงพ่อทอง ซึ่งเป็นพระประธานปางมารวิชัย องค์พระเป็นเนื้อทองคำ
ไปต่อที่วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (พิกัด : https://maps.app.goo.gl/AyrqxLx8sWd5fQkc6 ) หรือที่ชาวนนท์รู้จักกันดีในนามวัดเล่งเน่ยยี่ 2 วัดสวยแห่งอำเภอบางบัวทอง ที่มีการก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมจีน ผสมผสานกับพุทธศิลป์ไทย ที่ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 12 ปี เดิมวัดแห่งนี้เป็นเพียงโรงเจขนาดเล็ก ต่อมาคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ได้คิดจัดสร้างวัดขึ้นใหม่ โดยเปิดโอกาสให้พุทธบริษัทชาวไทยและชาวจีนได้ร่วมบุญกันจัดสร้างวัดแห่งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เนื่องในวโรกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปีครับ
สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในวัด จะตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมจีนโดยใช้พุทธศิลป์ในราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง และมีการวางผังตามแบบวัดพระพุทธศาสนานิกายฌานครับ สำหรับจุดที่น่าสนใจในวัดมีหลายจุดเลย เริ่มต้นที่ด้านหน้าวัด จะพบวิหารท้าวจตุโลกบาล โดยมีบันไดหินที่มีภาพสลักมังกรที่สลักอยู่บนหิน ดูอ่อนช้อยสวยงามมากๆ ครับ
ถัดจากพระอุโบสถจะเป็นวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม