“พระตำหนักสง่างาม ลือนามสวนสมเด็จ เกาะเกร็ดแหล่งดินเผา วัดเก่านามระบือ เลื่องลือทุเรียนนนท์ งามน่ายลศูนย์ราชการ”

สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปเที่ยวจังหวัดใกล้ๆกรุงเทพอย่างเมืองนน นนบุรี หรือนนทบุรีก็แล้วแต่คนจะเรียก ซึ่งใกล้มากจนอาจจะไม่รู้ว่าตรงใหนกรุงเทพ ตรงใหนนน เอาเป็นว่าถ้ามาจากถนนวิภาวดี รังสิต จะไปเดอะมอลงามวงศ์วาน พอข้ามคลองประปาปุ๊บ ก็เข้าเขตนนทบุรีเลย ผมไปนนทบุรีนับครั้งไม่ถ้วน ส่วนมากก็จบที่อิมแพ็ค เมืองทอง แต่รอบนี้เราจะไปนนทบุรีให้ไกลกว่าอิมแพค เมืองทอง...แต่แทบไม่ได้เที่ยวตามสถานที่ตามคำขวัญจังหวัดที่เขียนไว้ตอนต้นเลย

กระทู้นี้รวดเดียวจบนะครับ ยาวหน่อย และผมจะเรียงการรีวิวจากที่เที่ยว ที่กิน และจบที่ที่พักนะครับ...พร้อมแล้ว ไปกันครับ

สถานที่: ชมเฌยสตูดิโอ
ที่ตั้ง: ซอยกำนันทินกร อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

การเดินทาง: หากเดินทางด้วยรถยนต์ มุ่งหน้ามหาวิทยาลัยมหิดลศาลายา จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 3004 ตามป้ายไปสนามกอล์ฟเดอะรอยัลเจมส์ เลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 1011 ตามป้ายไปบางกรวย ขับตรงไปเรื่อยๆอีกประมาณเกือบ 3 กม. ซอยจะอยู่ขวามือ

ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-18:00
เวปไซท์: https://www.facebook.com/ChomcheiCafe/?fref=ts

           ชมเฌยสตูดิโอ เป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำภาพยนต์ โฆษณาและอื่นๆ ที่เห็นล่าสุดที่ถ่ายที่นี่คือไอศครีม calippo ที่ร้องเป็นแรพๆอ่ะ ที่นี่เดินทางมาจากถนนพุทธมณฑลสาย 4 จะสะดวกกว่าเพราะอยู่ติดกับจังหวัดนครปฐมเลย...เข้าไปดูเฟซบุ๊คของชมเฌยด้วยนะครับ วันใหนที่เขามีถ่ายทำจะปิดสถานที่ครับ ส่วนวันใหนไม่มีก็เข้าชมได้ฟรีเลย

เราไปกันวันศุกร์ตอนเช้า...แน่นอน่ว่าคนไม่เยอะ แต่ที่เยอะน่ะ แดด แสบร้อนกันตั้งแต่สิบโมง มาถึงแล้วก็เข้าไปเลย

ถ้าจะมาเดินเฉยๆ ชมเฌยเดิน 5 นาทีก็รอบแล้ว แต่เราใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆได้ที่นี่ มุมถ่ายรูปเยอะจริงๆ มีซอยซอยเล็กๆน้อยๆ มุมเก๋ๆแบบย้อยยุคเต็มไปหมด

ที่นี่จำลองมาแทบจะทุกอย่าง ร้านค้า ปั้มน้ำมัน ตู้โทรศัพท์ โรงหนังหรือแม้กระทั่งอู่รถยนต์ รายละเอียดต่างๆในอาคารเรียกว่าละเอียดใช้ได้ทีเดียว แต่เกือบทั้งหมดไม่เปิดให้เข้าไปชมข้างในนะครับ
เช่นร้านนี้เป็นร้านขายยาก็จะมีสินค้าเก่าๆตามยุคนั้นๆให้ชมกัน(จากภายนอก) บางอย่างยังพอจำได้เช่นหมากหอมเยาราช ส่วนชาริดอนนี่...ไม่สะกิดความจำในสมองได้เลย...การเดินชมค่อนข้างสะดวก และไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าแต่ละที่เลย ดังนั้นไปชมที่นี่ เคารพกติกาด้วยนะครับ อย่าเข้าพื้นที่ อย่าหยิบ อย่าจับอะไรของเขา เดี๋ยวเขาปิดไม่ให้เข้าแล้วจะอดถ่ายรูปสวยๆกัน

ถ่ายรูปจนผ้าเช็ดหน้าเปียกชุ่ม ไปหาที่เย็นๆนั่งดีกว่า ที่นี่มีคาเฟ่ด้วยครับ อยู่ตรงด้านหน้าทางเข้าเลย
ร้านไม่ใหญ่มากแต่หรูหราใช้ได้ทีเดียว มีเค้กและเครื่องดื่มให้เลือกรับประทานหรือดื่มดับร้อนกัน นั่งจนตัวเย็นได้ที่ก็ไปกันต่อ

สถานที่: แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนมาลัยบัววิคตอเรีย
ที่ตั้ง: ซอยสุเหร่าปากคลองลำรี ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี บางบัวทอง นนทบุรี

การเดินทาง: หากเดินทางผ่านมาจาก Central west gate มุ่งหน้าจังหวัดปทุมธานี จากนั้นเข้าถนนหมายเลข 345 ผ่านปั้มน้ำมัน PT ชิดซ้ายกลับรถใต้สะพาน ซอยจะอยู่ซ้ายมือ เข้าซอยไปอีกพอสมควร เปิด google map ร่วมด้วยจะช่วยได้มาก

ค่าเข้าชม: คนละ 20 บาท แต่ถ้าลงบัวจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00น.
           สวนบัวที่มีจุดเด่นตรงบัวที่สามารถลงไปนั่งหรือยืนได้ถ้าน้ำหนักไม่เกิน 60 กก. วันที่เราไปกันโชคไม่ดีที่ฝนสาดลงมาชุดใหญ่ อดลงเลย (จริงๆโทษฝนไปอย่างนั้นแหละ น้ำหนักเกินยังไงก็ลงไม่ได้) สวนบัวมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ไม่ใหญ่โตมากนัก มีบัวปลูกไว้ตามท้องร่อง ช่วงที่ฝนตกได้คุยกับป้ามาลัยและลุงได้ความรู้มาเยอะทีเดียว ถามอะไรไปลุงและป้าตอบอย่างกระตือรือร้น

มาที่นี่อย่ามาดูเฉยๆแล้วกลับนะครับ คุยกับลุงและป้าจะได้รับความรู้เรื่องบัวกระด้งกลับบ้านเป็นของแถมฟรีๆ
สถานที่: บ้านศิลปินแห่งชาติ ครูมนตรี ตราโมท
ที่ตั้ง: ซอยติวานนท์3แยก4 ซอยติวานนท์3 ตรงข้ามกระทรวงสาธารณสุข ตลาดขวัญ นนทบุรี

การเดินทาง: เข้าซอยติวานนท์3 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกระทรวงสาธารณสุข เข้าไปประมาณ 200 เมตรเลี้ยวขวาเข้าซอยติวานนท์3แยก4 อีกประมาณ 50 เมตรบ้านครูอยู่สุดซอย หรือลง MRT สถานีกระทรวงสาธารสุขแล้วเดินมาก็ได้ไม่ไกลมาก

ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00น.
          บ้านศิลปินแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2528 สาขาดนตรีไทย ครูมนตรี ตราโมท ที่จริงแล้วเราก็ไม่ได้รู้จักครูหรือผลงานของครูหรอกครับ แต่การไปบ้านของปูชณียบุคคลเช่นนี้น่าจะมีอะไรให้ศึกษาบ้างล่ะ
บ้านครูมนตรีเป็นบ้านไม้ ซ่อนตัวอยู่ในสวนร่มรื่น ต้นไม้บังจนไม่เห็นตัวบ้านปัจจุบันเปิดสอนดนตรีไทยให้ผู้สนใจด้วย วันที่ผมไปเห็นเด็กๆมานั่งเรียนกันหลายคนเลย
หลังจากลงชื่อลงทะเบียน รับคู่มือประวัติครูมนตรีมาเรียบร้อยเราก็เดินสำรวจตัวบ้านกันเลย บ้านเปิดให้ดูทุกห้องอย่างใกล้ชิดมากๆ ไม่มีการกั้นเขตอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้เราเดินชมสัมผัสความเก่าความขลังกันเต็มที่
ห้องนอนของครูที่ใช้พักผ่อนและแต่งเพลงไว้กว่า 200 เพลงในช่วงอายุของท่าน ห้องดูธรรมดามากเครื่องใช้เก่าๆยังวางอยู่เหมือนกับไม่ได้ถูกย้ายไปใหนเลย
          เราเดินออกจากห้องนี้ไปแล้ว และกลับเข้ามาอีกครั้งหลังอ่านเอกสารที่ได้มาและพบว่าครูใช้หัวเตียงเป็นที่นับจังหวะเวลาครูจะประพันธ์เพลง ครูจะเคาะไปบนหัวเตียง พอได้มาเห็น ขนก็ลุกเบาๆ ไม่อยากคิดว่าถ้าคนมาเที่ยวเกิดมือบอนไปปัดไปเขียนตรงนั้นเข้า หน้าประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งจะเสียหายไปเลย

หลังจากออกจากบ้านครู ผมรู้สึกเหมือนตอนออกจากเจษฎาเทคนิคมิวเซี่ยม คือเป็นที่ที่มีของดีอยู่เยอะ มีเรื่องราวอยู่มากแต่การให้ข้อมูลค่อนข้างน้อย น่าจะมีองค์กรอะไรสักอย่างมาช่วยดูพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้มากกว่านี้หน่อย...ถอนหายใจเบาๆแล้วไปต่อดีกว่า
สถานที่: ศาลากลางหลังเก่าจังหวัดนนทบุรี
ที่ตั้ง: วงเวียนหอนาฬิกา ท่าน้ำนนทบุรี

การเดินทาง: มาถึงท่าน้ำนนได้ อาคารก็อยู่ตรงนั้นเลยครับ

ค่าเข้าชม: ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: ไม่มีข้อมูล
          เที่ยวนนรอบนี้ ที่นี่คือที่ที่ผมรู้สึกเสียดายที่สุด ประวัติบอกว่าอาคารนี้เป็นอาคารไม้สัก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ในปี พ.ศ. 2453 เพื่อใช้เป็นโรงเรียนกฎหมาย และใช้เป็นศาลากลางจังหวัดนนทบุรีช่วงปี พ.ศ. 2471-2535 ถ้านับตั้งแต่สร้างเสร็จ อาคารนี้มีอายุถึงปัจจุบัน 109 ปี
อาคารเป็นไม้สักทั้งหลัง สวยงามมากและมีความยิ่งใหญ่มาก ถ้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์กว่านี้จะดูน่าเกรงขามและสวยงามทีเดียว แต่ดูเหมือนอาคารจะไม่ได้รับการบำรุง ตอนผมเดินชมพื้นไม้กระดานยังกระดกเป็นระยะๆ บางจุดก็เป็นที่นอนพักผ่อนของคนไร้บ้าน(ผมเดาเอาจากสิ่งที่ผมเห็นนะครับ)...เสียดายจริงๆ
สถานที่: พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney museum
ที่ตั้ง: ปากซอยศรีสมาน 8 ถนนศรีสมาน ปากเกร็ด นนทบุรี

การเดินทาง: ถ้าตั้งต้นจากปากเกร็ด วิ่งเข้าเมืองทองธานี ทะลุเข้าถนนเลียบคลองประปาแล้วเลี้ยวซ้ายที่ถนนศรีสมาน ขับไปอีกนิดเดียว

ค่าเข้าชม: คนละ 150 บาท
เวลาเปิด-ปิด: ศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10:00-20:00
เวปไซท์: http://www.tooneymuseum.com/
          เราเคยมาที่นี่กันครั้งหนึ่งแล้วแต่นั่นก็หลายปีมาแล้วเช่นกัน กลับมารอบนี้ Tooney ใหญ่ขึ้นอีก มีของเล่นมากขึ้นอีก จ่าย 150 บาทแล้วเข้าไปเลย
Tooney museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกิดจากความรักในของเล่นของคุณสมพร โพธิ์อยู่และภรรยาซึ่งเก็บของเล่นไว้เป็นของประดับบ้าน วันหนึ่งเลยคิดว่าทำพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปได้ดู จึงเกิดเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา
ถ้าคุณไม่ชอบของเล่นแต่จำเป็นต้องมาคุณอาจใช้เวลาที่นี่นับเป็นนาที แต่ถ้าคุณเป็นผู้ใหญ่หัวใจเด็ก เป็นโอตาคุ หรือเป็นผู้ปกครองที่มีเด็กๆมาด้วยแล้วล่ะก็ เวลาที่คุณใช้ที่นี่จะขยับเป็นหลักชั่วโมง
ที่นี่ไม่เน้นของเล่นเก่าแบบของเล่นสังกะสี แต่เป็นของเล่นในยุค 80 เป็นต้นมา(บางชิ้นอาจจะเก่ากว่านั้น) ของเล่นที่แสดงไว้มีความหลากหลายมาก มิกกี้เมาส์ก็มีเกือบหมื่นชิ้นเข้าไปแล้ว Gundamนี่เรียงรุ่นมาเลย แถมมีตัวใหม่ๆมาเติมตลอด ผมถูกกาว Gundam ดูดขาไว้ระยะหนึ่งเลยไม่ยอมเดินต่อ
สำหรับคนที่ชอบของเล่น หุ่นยนต์ ฟิกเกอร์ หรือของสะสม ที่นี่คือสวรรค์และที่สร้างความอิจฉาไปพร้อมกัน ค่อยๆดูของแต่ละชิ้นไปครับ ไม่ต้องรีบ ที่นี่ติดแอร์เย็นฉ่ำทุกห้อง