กว่าจะมาเป็นพยากรณ์อากาศให้เห็นกันนั้น ต้องผ่านการคำนวนที่มีความซับซ้อน จากตัวแปรที่มีมหาศาลมาก การประมวลผลย่อมตกเป็นของ ‘ซูเปอร์คอมพิวเตอร์’ จากนั้นค่อยนำมาย่อยเป็นข้อมูลที่เข้าใจง่ายอีกที แต่เร็ว ๆ นี้เองทาง Google ได้เสนอใช้ AI เข้ามาทำนายสภาพอากาศ ชูทำได้เร็วกว่า และอาจมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ภายใต้เงื่อนไขบางประการด้วย
แผนก DeepMind ของ Google เปิดตัว GraphCast โมเดล AI ล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อการพยากรณ์อากาศทั่วโลกโดยเฉพาะ พร้อมชูประสิทธิภาพในการทำงานที่รวดเร็วใช้เวลาคาดการณ์ภายในไม่ถึงหนึ่งนาที พร้อมให้ความแม่นยำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และใช้พลังงานการประมวลผลน้อยกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นจุดที่ทาง Google ชูเป็นพิเศษ
ตัว AI เผยสามารถทำนายสภาพอากาศ ได้หลายร้อยรายการทั่วโลกในระยะเวลาเพียง 10 วัน โดยเบื้องหลังการเทรนด์หรือฝึกฝนนั้น ก็มาจากข้อมูลสภาพอากาศในอดีตกว่า 40 ปี ที่ได้รับจากศูนย์พยากรณ์อากาศช่วงกลางแห่งยุโรป (ECMWF) นี้เอง โดยใช้เวลาประมวลผลเพียง 1 นาที บนระบบคลาวด์ Google TPU v4 ซึ่งหากเทียบกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมแล้ว ก็จำเป็นต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจมีราคาแพงกว่าต้นทุนพลังงานถึง 1,000 เท่าของ GraphCast
ใด ๆ ก็ตาม แม้จะประสบความสำเร็จหลายด้าน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดด้วยเช่นกัน โดยตัว AI ไม่ได้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ที่รองรับการคาดการณ์ได้ในทุกสถานการณ์ และไม่ได้มีความละเอียดของข้อมูลมากกว่าด้วย ฉะนั้นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ ในการพยากรณ์อากาศและอีกหลาย ๆ หน้าที่ต่อไป
ที่มา -
https://www.techhub.in.th/google-graphcast/
แม่นและเร็วกว่า Google เสนอใช้ AI ตัวช่วยพยากรณ์อากาศ
กว่าจะมาเป็นพยากรณ์อากาศให้เห็นกันนั้น ต้องผ่านการคำนวนที่มีความซับซ้อน จากตัวแปรที่มีมหาศาลมาก การประมวลผลย่อมตกเป็นของ ‘ซูเปอร์คอมพิวเตอร์’ จากนั้นค่อยนำมาย่อยเป็นข้อมูลที่เข้าใจง่ายอีกที แต่เร็ว ๆ นี้เองทาง Google ได้เสนอใช้ AI เข้ามาทำนายสภาพอากาศ ชูทำได้เร็วกว่า และอาจมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ภายใต้เงื่อนไขบางประการด้วย
แผนก DeepMind ของ Google เปิดตัว GraphCast โมเดล AI ล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อการพยากรณ์อากาศทั่วโลกโดยเฉพาะ พร้อมชูประสิทธิภาพในการทำงานที่รวดเร็วใช้เวลาคาดการณ์ภายในไม่ถึงหนึ่งนาที พร้อมให้ความแม่นยำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และใช้พลังงานการประมวลผลน้อยกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นจุดที่ทาง Google ชูเป็นพิเศษ
ตัว AI เผยสามารถทำนายสภาพอากาศ ได้หลายร้อยรายการทั่วโลกในระยะเวลาเพียง 10 วัน โดยเบื้องหลังการเทรนด์หรือฝึกฝนนั้น ก็มาจากข้อมูลสภาพอากาศในอดีตกว่า 40 ปี ที่ได้รับจากศูนย์พยากรณ์อากาศช่วงกลางแห่งยุโรป (ECMWF) นี้เอง โดยใช้เวลาประมวลผลเพียง 1 นาที บนระบบคลาวด์ Google TPU v4 ซึ่งหากเทียบกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมแล้ว ก็จำเป็นต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจมีราคาแพงกว่าต้นทุนพลังงานถึง 1,000 เท่าของ GraphCast
ใด ๆ ก็ตาม แม้จะประสบความสำเร็จหลายด้าน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดด้วยเช่นกัน โดยตัว AI ไม่ได้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ที่รองรับการคาดการณ์ได้ในทุกสถานการณ์ และไม่ได้มีความละเอียดของข้อมูลมากกว่าด้วย ฉะนั้นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ ในการพยากรณ์อากาศและอีกหลาย ๆ หน้าที่ต่อไป
ที่มา - https://www.techhub.in.th/google-graphcast/