ในชีวิตจริง กากี่นั้งมันก็เป็นดาบสองคมเหมือนกัน
แทนที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน กลับทำให้เราตกที่นั่งลำบาก
ช่วงนี้ naked short หรือ
การขายหุ้นไป โดยไม่มีหุ้นอยู่ในครอบครองกำลังฮิตมาก
มานึกดู เออ ผมก็เคย naked short แบบกากีนั้งอยู่สองสามครั้งเหมือนกันแฮะ
แต่ว่ามันเป็นก่อนยุคซื้อขายออนไลน์เต็มรูปแบบ ที่มี tsd เป็นศูนย์กลางของหุ้นไร้กระดาษ
ความจริงมันเป็นการ naked short ไม่เต็มรูปแบบนัก
คือเรามีหุ้นอยู่จริง แต่ว่าหุ้นมันยังไม่ได้อยู่ที่โบรกเกอร์ที่เราใช้บริการ
ครั้งที่ 1
ขายใบหุ้นธนาคารกรุงเทพให้พ่อ
ตอนนั้นมีหุ้นหลายตัว จะยังมีส่วนต่างระหว่างกระดานไทยกับกระดาษต่างประเทศ
ของ bbl มีส่วนต่างราคาหุ้นอยู่หนึ่งร้อยบาท จากพาร์ 100
เกิดอยากลองของ ก็เลยโทรถามส่วนทะเบียนหุ้นของธนาคารกรุงเทพ (เมื่อก่อนธนาคารเป็นนายทะเบียนเอง)
ว่าสัดส่วนการถือครองของต่างด้าวเต็มหรือยัง
ปรากฏว่ายังเหลือว่างเป็๋นจุดทศนิยม ซักสี่ห้าพันหุ้น
ก็เลยขอถอนเป็นใบหุ้นออกจากโบรกเกอร์ 500 หุ้น
เอาไปโอนเป็นผู้ถือสัญชาติจีนให้พ่อ โดยแนบใบต่างด้าวไปด้วย
พอได้ใบหุ้นมา ก็จัดการขายในกระดานต่างประเทศให้พ่อ ได้ส่วนต่างง่ายๆมาประมาณ 5 หมื่นบาท
ตอนจะขาย ก็ยังมีระบบกากีนั้ง ระหว่างมาร์เก็ตติ้งกับลูกค้าอยู่
คือเขาต้องเชื่อใจเรา เพราะไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นใดๆทั้งสิ้น
มาร์เก็ตติ้งต้องยอมรับความเสี่ยง
เชื่อใจว่าเราจะเอามาใบหุ้นที่ยืนยันความเป็นต่างด้าว ไปให้เขาได้ภายในเวลาที่กำหนด(น่าจะเป็นก่อนเทียงวันทำการรุ่งขึ้น)
ครั้งที่ 2
ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นการขายใบหุ้น occ ที่ซื้อมาตอนมันลงไปที่ ห้าบาท จากพาร์ 10
หุ้นเกรดเอของกลุ่มสหพัฒน์ เป็นหุ้นกลุ่มแรกๆที่พุ่งสิบ ยี่สิบเท่าหลังฟองสบู่แตก
ใครกล้าซื้อไว้ช่วงฟองสบูแตก รวยเละ
ตอนนั้นระบบไร้ใบหุ้นยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไร
ก็เลยยังขายในระบบกากี่นั้งได้ คือมาร์เก็ตติ้งต้องเชื่อใจว่า เรามีใบหุ้นอยู่แน่ๆ และต้องเอามาให้เขาทันตามกำหนดด้วย
ครั้งที่ 3 (บกพร่องโดยสุจริต)
คราวนี้แหละเป็นเรื่องแล้ว เพราะหลังจากระบบซื้อขายหุ้นทุกอย่างลงตัว ลงออนไลน์จนหมด
ไม่มีมาร์เก็ตติ้งคนไหน กล้าให้ทำ naked short เพราะความเชื่อใจอีกแล้ว (ไม่อยากกินข้าวฟรี)
อยากขายแบบมีใบหุ้น ต้องเอาใบหุ้นมาโอนเข้าบัญชีก่อนฃาย
ตอนต้นเดือนนี้ (พฤศจิกายน 2566 ) ดันบกพร่องโดยสุจริต
ขาย AIT W 2 ในบัญชีเพื่อน หลังจากเพื่อนส่ง otp เพื่อเข้าพอร์ตมาให้
ไม่รู้ไปจำอีท่าไหน เช้าใจว่าเพือนมีวอร์แรนท์อยู่ หนึ่งแสนหน่วย
พอกดส่งคำสั่งขายปั๊บ ธนชาตทำการล็อกออเดอร์ ห้ามขายทันที
ตอนนั้นตกใจมาก รีบไปดูจำนวนวอร์แรนท์ที่เพื่อนมีอยู่จริง แล้วก็รีบ ลบคำสั่งขายนั้นทิ้ง
ในที่สุด ก็ได้ขายตามจำนวนที่มีอยู่จริง
ใครอยากลองดูว่า ระบบซื้อขายของโบรกเกอร์ จะล็อกคำสั่งนั้นโดยอัตโนมัติหรือไม่
ก็ลองส่งคำสั่ง ขายหุ้นที่ตัวเองไม่มีในพอร์ต หรือมีไม่ถึงจำนวนหุ้นที่ขายดู
ตอนนี้ คาใจเรื่องกากีนั้งอยู่เรื่องเดียวคือ
ถ้ามีคนทำ naked short จริง คำถามคือทำไมเขากล้าทำ ???
นึกไปถึงหนังหุ้นสุดคลาสสิกเรื่อง wallstreets ที่รายใหญ่หลอกไอ้หนุ่มมาร์เ้ก็ตติ้ง
ให้ช่วยทำอินไซด์เพื่อซื้อหุ้น หลอกว่าจะซื้อมาฟื้นฟูกิจการ
แต่ความจริงคือ เสี่ยเกร๊กโก้ซื้อมา เพื่อจะเลหลังขายต่อ ฟาดเอากำไรต่างหาก
ประโยคที่เสี่ยเกร๊กโก้ตอบนี้แหละ คือหัวใจของคนที่ทำ naked short
😎😎😎😎 ๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ประสบการณ์ตรงจากการทำ naked short แบบ 自 己 人 😎😎😎😎
ในชีวิตจริง กากี่นั้งมันก็เป็นดาบสองคมเหมือนกัน
แทนที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน กลับทำให้เราตกที่นั่งลำบาก
ช่วงนี้ naked short หรือ
การขายหุ้นไป โดยไม่มีหุ้นอยู่ในครอบครองกำลังฮิตมาก