https://mgronline.com/stockmarket/detail/9600000102146
แม้จะถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สอดส่อง สั่งให้ชี้แจงข้อมูลบ่อยครั้ง แต่หุ้นบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาขน) หรือหุ้น PACE ยังร้อนแรง เคาะซื้อขายสนั่นหวั่นไหว มูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งประจำวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา
แต่แมลงเม่าที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว แห่เข้าไปเก็งกำไร PACE ต้องบาดเจ็บตามเคย เพราะราคารูดลงต่อ หลังจากถูกลากขึ้นไปในช่วงแรก ถูกถล่มในช่วงท้าย และปิดตลาดที่ 1.17 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่เข้ามาซื้อขาย
PACE เข้าในจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเวลาไล่เลี่ยกับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ANAN อีกทั้งสามารถเข้ามาภายใต้กฎเกณฑ์การเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือ “มาร์เก็ตแคป” มากกว่า 5,000 ล้านบาท จึงไม่ต้องพิจารณา “ผลกำไร” จากการดำเนินงาน
ANAN เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 ธันวาคม 2555 หลังจากนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา4.20 บาท จากพาร์ 0.10 บาท แต่เข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว ดีวันดีคืน ผลประกอบการมีกำไรต่อเนื่อง สามารถจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ราคาหุ้นแม้จะไม่ขึ้นลงอย่างหวือหวา แต่เคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ
ส่วน PACE เจ้าของตึกมหานครอันลือลั่น เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 7 สิงหาคม 2556 หลังจากนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา 3.50 บาท จากพาร์ 1 บาท กลับเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ขายฝืด จนต้องยัดเยียดขาย และเมื่อเข้ามาซื้อขายวันแรกถูกถล่มทันที จนคนที่จองซื้อไว้เลือดสาดตามๆ กัน เพราะราคาต่ำกว่าจองหลายสิบเปอร์เซ็นต์
ผลดำเนินงาน PACE ขาดทุนตลอด ขาดทุนปีละนับพันล้านบาท เพิ่งจะมีกำไรงวด 6 เดือนแรกปีนี้ และเป็นกำไรที่โลดโผนโจนทะยานถึง 4,734.84 ล้านบาท แต่ผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินงวด 6 เดือนแรกปี 2560
กำไรที่โลดโผนของ PACE ทำให้ค่าพี/อี เรโชเหลือเพียง 1.58 เท่า และน่าจะเป็นหุ้นที่มีค่าพี/อี เรโชต่ำที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับมีนักลงทุนถล่มขายทิ้ง จนราคาทรุดลงสู่เหวลึก สะท้อนให้เห็นว่า มีนักลงทุนส่วนหนึ่งประเมินแล้วว่า
ตัวเลขกำไรที่โลดโผนของหุ้นตัวนี้ อาจไม่จีรังยั่งยืน เป็นเพียงภาพลวงตา ไตรมาสต่อไป ไม่มีใครรับประกันได้ว่า ผลดำเนินงานจะกำไรหรือไม่ ดังนั้นเมื่อแมลงเม่าบินเข้าไปลุย PACE จึงเป็นโอกาสในการ “ขายหุ้นทิ้ง”
PACE เป็นหุ้นอีกตัวที่เพิ่มทุนจดทะเบียนถี่ แต่ผลประกอบการกลับไม่ฟื้น และหลังจากแจ้งผลประกอบการงวดครึ่งปี ถูกตลาดหลักทรัพย์จี้ถามถึงข้อสงสัยในการดำเนินงานในหลายประเด็น
ล่าสุดถูกก.ล.ต.สั่งให้ชี้แจงข้อมูลการทำข้อตกลงร่วมทุนอันอาจส่งผลให้มีภาระผูกพันและหนี้สินภายใน 7 วัน และตลาดหลักทรัพย์ออกมาสำทับให้นักลงทุนรอติดตามข้อมูลการชี้แจงขอ PACE ต่อก.ล.ต.
งบการเงินงวด 6 เดือนแรกที่ผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุป ข้อตกลงร่วมทุนกับกลุ่มผู้ร่วมทุน 3 รายในบริษัทลูกของ PACE อันอาจส่งผลให้มีภาระผูกพันและหนี้สิน เป็นปมที่ทำให้ต้องระวังในการลงทุนหุ้นตัวนี้
การถูกทั้งก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์เฝ้าจับตาในธุรกรรมต่างๆ ทำให้ PACE ตกอยู่ในฐานะหุ้นอโคจร เหมือนสถานที่อโคจรที่นักลงทุนไม่ควรพาตัวเองเข้าไป
หุ้น PACE กลายเป็น “ของแสลง” ไปเสียแล้ว นักลงทุนจึงควรหลีกเลี่ยง ถอยห่างชั่วคราว เพราะนักลงทุนที่คิด “ลองดี” หรือ “ลองของ” ก็ตาม เจอของแข็งจนสลบเหมือดกันเป็นแถวแล้ว
ราคาที่คิดว่าต่ำแล้ว ยังมีต่ำกว่า และยังไม่รู้ว่า จะต่ำเตี้ยไปถึงไหน น่าเห็นใจนักลงทุนที่พัดหลงเข้าไป “ติด”หุ้น PACE จริงๆ
หุ้น aโคจร “PACE”
แม้จะถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สอดส่อง สั่งให้ชี้แจงข้อมูลบ่อยครั้ง แต่หุ้นบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาขน) หรือหุ้น PACE ยังร้อนแรง เคาะซื้อขายสนั่นหวั่นไหว มูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งประจำวันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา
แต่แมลงเม่าที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว แห่เข้าไปเก็งกำไร PACE ต้องบาดเจ็บตามเคย เพราะราคารูดลงต่อ หลังจากถูกลากขึ้นไปในช่วงแรก ถูกถล่มในช่วงท้าย และปิดตลาดที่ 1.17 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่เข้ามาซื้อขาย
PACE เข้าในจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเวลาไล่เลี่ยกับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น ANAN อีกทั้งสามารถเข้ามาภายใต้กฎเกณฑ์การเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือ “มาร์เก็ตแคป” มากกว่า 5,000 ล้านบาท จึงไม่ต้องพิจารณา “ผลกำไร” จากการดำเนินงาน
ANAN เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 ธันวาคม 2555 หลังจากนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา4.20 บาท จากพาร์ 0.10 บาท แต่เข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว ดีวันดีคืน ผลประกอบการมีกำไรต่อเนื่อง สามารถจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ราคาหุ้นแม้จะไม่ขึ้นลงอย่างหวือหวา แต่เคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ
ส่วน PACE เจ้าของตึกมหานครอันลือลั่น เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 7 สิงหาคม 2556 หลังจากนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา 3.50 บาท จากพาร์ 1 บาท กลับเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ขายฝืด จนต้องยัดเยียดขาย และเมื่อเข้ามาซื้อขายวันแรกถูกถล่มทันที จนคนที่จองซื้อไว้เลือดสาดตามๆ กัน เพราะราคาต่ำกว่าจองหลายสิบเปอร์เซ็นต์
ผลดำเนินงาน PACE ขาดทุนตลอด ขาดทุนปีละนับพันล้านบาท เพิ่งจะมีกำไรงวด 6 เดือนแรกปีนี้ และเป็นกำไรที่โลดโผนโจนทะยานถึง 4,734.84 ล้านบาท แต่ผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินงวด 6 เดือนแรกปี 2560
กำไรที่โลดโผนของ PACE ทำให้ค่าพี/อี เรโชเหลือเพียง 1.58 เท่า และน่าจะเป็นหุ้นที่มีค่าพี/อี เรโชต่ำที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับมีนักลงทุนถล่มขายทิ้ง จนราคาทรุดลงสู่เหวลึก สะท้อนให้เห็นว่า มีนักลงทุนส่วนหนึ่งประเมินแล้วว่า
ตัวเลขกำไรที่โลดโผนของหุ้นตัวนี้ อาจไม่จีรังยั่งยืน เป็นเพียงภาพลวงตา ไตรมาสต่อไป ไม่มีใครรับประกันได้ว่า ผลดำเนินงานจะกำไรหรือไม่ ดังนั้นเมื่อแมลงเม่าบินเข้าไปลุย PACE จึงเป็นโอกาสในการ “ขายหุ้นทิ้ง”
PACE เป็นหุ้นอีกตัวที่เพิ่มทุนจดทะเบียนถี่ แต่ผลประกอบการกลับไม่ฟื้น และหลังจากแจ้งผลประกอบการงวดครึ่งปี ถูกตลาดหลักทรัพย์จี้ถามถึงข้อสงสัยในการดำเนินงานในหลายประเด็น
ล่าสุดถูกก.ล.ต.สั่งให้ชี้แจงข้อมูลการทำข้อตกลงร่วมทุนอันอาจส่งผลให้มีภาระผูกพันและหนี้สินภายใน 7 วัน และตลาดหลักทรัพย์ออกมาสำทับให้นักลงทุนรอติดตามข้อมูลการชี้แจงขอ PACE ต่อก.ล.ต.
งบการเงินงวด 6 เดือนแรกที่ผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุป ข้อตกลงร่วมทุนกับกลุ่มผู้ร่วมทุน 3 รายในบริษัทลูกของ PACE อันอาจส่งผลให้มีภาระผูกพันและหนี้สิน เป็นปมที่ทำให้ต้องระวังในการลงทุนหุ้นตัวนี้
การถูกทั้งก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์เฝ้าจับตาในธุรกรรมต่างๆ ทำให้ PACE ตกอยู่ในฐานะหุ้นอโคจร เหมือนสถานที่อโคจรที่นักลงทุนไม่ควรพาตัวเองเข้าไป
หุ้น PACE กลายเป็น “ของแสลง” ไปเสียแล้ว นักลงทุนจึงควรหลีกเลี่ยง ถอยห่างชั่วคราว เพราะนักลงทุนที่คิด “ลองดี” หรือ “ลองของ” ก็ตาม เจอของแข็งจนสลบเหมือดกันเป็นแถวแล้ว
ราคาที่คิดว่าต่ำแล้ว ยังมีต่ำกว่า และยังไม่รู้ว่า จะต่ำเตี้ยไปถึงไหน น่าเห็นใจนักลงทุนที่พัดหลงเข้าไป “ติด”หุ้น PACE จริงๆ