ขอแชร์ประสบการณ์การเลี้ยงปลาทอง นับตั้งแต่ซื้อปลาทองมา จนถึงวันนี้ ก็ถือว่าครบ 2 ปีพอดิบพอดีเลยครับ
หากใครจะเริ่มเลี้ยง น่าจะพอจะได้รับประโยชน์บ้างกับสิ่งที่ผมจะเล่าให้ฟังงงง....
ปลาทองตัวน้อยของผมนั้น ได้มาจากตลาดปลาจตุจักร
ตอนไปก็ น่าจะเกือบ 6 โมงแล้วร้านก็ทยอยปิดไปหมด
ก็เลยมีตัวเลือกไม่มาก จึงเดินเข้าไปในร้านที่เห็นมันว่ายๆอยู่ในตู้ เจอตัวใหญ่ ราคาหลักร้อย... ไม่ไหวๆ...
เอาตัวเล็กล่ะกัน ราคา 60 บาทต่อตัว (แต่ลืมไปแล้วว่าซื้อพันธุ์อะไรมา)
สรุป จัดมา 6 ตัวเลย เพราะบ่อเราก็ไม่ใหญ่มาก ขนาด 60x60 ลึกแค่ 15 cm เองฮ่าๆ
ว่าจะปรับฮวงจุ้ยบ้านซะหน่อย เอาปลามาลงก่อนเลย ตอนนี้บ่อยังไม่มีออกซิเจน ไม่มีกรองอะไรทั้งนั้นครับ
(เดิมเคยเลี้ยงปลาหางนกยูง แต่มันตายบ่อย ให้อาหารเยอะก็น้ำเน่าเร็ว และชอบกระโดดออกจากบ่อ และสีมันไม่ค่อยสวย )
หลังจากกลับจากตลาดปลา ถึงบ้านก็ลอยน้ำอยู่ จนอุณหภูมิในถุงกับในบ่อเท่าๆกัน (ตามคำแนะนำของ google)
ก็ไม่ได้วัดอุณหภูมิหรอกครับ แช่ประมาณ ชม.นึง ก็ปล่อยเลย
พอมันลงไป มันคงตกตะลึก หวั่นสะพรึงกลัวบ้าง... เพราะบ่อ มีตะไคร่ น้ํา ดำๆ เต็มพื้นบ่อเลย ไอ้เราก็รีบซื้ออยากได้จัด บ่อยังไม่ได้ล้างเลย
แต่เห็นน้ำมันใสๆอยู่ เลยปล่อยลงไปซะ ... พอดีเป็นคนถ้าคิดนานจะไม่ได้ซื้อ เลยซื้อมาก่อน แล้วค่อยปรับสภาพแวดล้อมแทน...
อีกวัน เลยรีบล้างบ่อดีกว่า กลัวมันจะไม่สบายเอา
เริ่มแรก ผมก็ให้อาหาร ยอดฮิต ราคาไม่แพง ให้อาหารไม่นาน น้ำก็เริ่มสกปรก ต้องคอยดูดน้ำเก่าออก คอยเปลี่ยนน้ำใหม่บ่อยๆ
ตามข้อมูลต้องมีออกซิเจนให้มันด้วย ก็จัดปั้มออกซิเจน แบบ USB มา แล้วห้อยไว้ข้างๆอ่าง 2-3 ตัว ตัวละ 50 บาทได้นะ
กับซื้อกระบอกกรอง ที่ใส่ใยไว้ข้างใน แล้วจิ้มสายอากาศเข้าด้านล่าง แล้วฟองอากาศก็วิ่งขึ้นปุดๆด้านบน ซื้อมาใช้ 2-3 อัน
ใช้มาซักระยะ อืมมม น้ำมันก็ไม่ได้สกปรกลดลงซักเท่าไหร่
เลยตัดสินใจ ไปซื้อกรองในมาใช้งาน ทำให้เห็นเลยว่า น้ำใสขึ้นจริงๆ ดีใจมากๆเลย แต่ 3 วัน ก็ต้องถอดมาล้างซักที เพราะเหมือน
มันตันด้านใน เพราะน้ำมันสกปรกมาก เข้าใจว่าบ้านอยู่ติดถนนด้วย ฝุ่นผงต่างๆมันก็ตกลงในบ่อด้วย
ตอนนี้ก็หาพวกน้ำพุ เล็กๆมาเสริมฮวงจุ้ยอีกที ก็สวยดี ได้ยินเสียงน้ำ สบายหูมากๆเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา
และแล้ว อากาศหนาวก็มา ดันซื้อช่วงปลายปีพอดี หาข้อมูลก็บอกว่า ต้องมีฮีตเตอร์ให้น้องๆด้วย ถ้าอุณหภูมิลดต่ำเร็วมันจะปรับตัวไม่ทัน
เลยจัด ซื้อออนไลน์ แล้วให้มาสั่งวันนั้นเลย (ใจร้อนมาก) ลักษณะมันเป็นแท่งแก้ว ปรับอุณหภูมิได้ถึง 32 องศา ต่ำสุดน่าจะ 20 องศา
(ระวัง อย่าย้ายไปมา เพราะผมเคยปัดโดนแล้วหล่นแตกเลย เสียดายมาก) การทำงานของมันคือ เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า ค่าอุณหภูมิที่เราตั้งไว้
มันจึงจะเริ่มทำงาน เช่น ผมตั้งไว้ 28 องศา ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 28 องศา มันจึงจะเริ่มทำงานให้อุณหภูมิอยู่ที่ 28 องศา
ก็จะมีไฟแดงๆติดขึ้นมา เพื่อให้รู้ว่ามันกำลังทำงานอยู่ แล้วถ้าเอามือจับตรงแท่งแก้วก็จะรู้สึกอุ่นๆครับ
มีครั้งนึง เช้ามา สังเกตเห็นปลาตัวนึง หงายท้อง ว่ายเบาๆ เราก็เอ๊ะ เป็นไรวะเนี่ย
มาสังเกต น้ำพุไม่ทำงาน อ้าว ไฟไม่เข้าสิ ฮีตเตอร์มันเลยไม่ทำงานไปด้วยครับ อากาศกำลังหนาวพอดีเลย
สรุปปลั๊กหลุด โห มันบอบบางขนาดนี้เลย แต่เป็นแค่ตัวเดียวนะ ตัวอื่นๆ ไม่ยักกะเป็น เคยเป็นแบบนี้อยู่ 2-3 รอบ ตัวหงายท้องก็ตัวเดิม
และแล้ว สุขภาพน้องปลาก็เริ่มมีปัญหา ตอนน้องๆมา แรกๆ ก็ดูแข็งแรงกันดี แต่พออยู่ไปซักพัก
สังเกต ทำไม ตรงด้านในแผ่นปิดเหงือก มันบวมๆ ทีนี้ไปหาข้อมูลก็เจอยาเพียบเลย เขาว่าเหงือกอักเสบ
เราก็ไม่ใช่หมอปลา เอาไงดี เลยถามร้านที่ซื้อ ก็ได้ยาเหลืองมาหยด ตอนแรกก็หยดลงในอ่างเดียวกันทั้งหมดเลย เพราะคิดว่า
ถ้าเป็นก็คงเป็นทั้งอ่าง 6 ตัวเลยได้ ยาเหลืองไปทั้งหมด ก็ให้อยู่อาทิตย์ มันก็ไม่เห็นจะยุบเลย ไม่รู้ทำไง
ก็เลยเอาใหม่ คราวนี้จับแยกมาใส่ยาเหลืองข้างนอก ในตัวที่เป็น สรุป ก็ยังไม่เห็นจะหาย ก็หายวิธีอยู่นาน ลองนู้นลองนี่
สรุป ช่างมัน ไม่รู้จะทำไงเหมือนกันแล้ว เลยปล่อยไป
กลับมาเรื่องกรองน้ำ เริ่มเซ็ง ที่จะต้องมานั่งล้างทุกๆ 3 วัน เริ่มขี้เกียจจจ ทำไงดี คิดว่าจะซื้อกรองในเพิ่มอีก
แต่มันคงแน่นอ่างมากเลย เพราะอ่างผมตื้นแค่ 15 cm เอง
จึงได้เวลาเปลี่ยนเป็นกรองนอกแล้ว เลยจัดมาตัวนึง ราคาไม่แพงมาก เห็นมันมีอะไหล่ขาย พวกมอเตอร์ ฟองน้ำ เลยคิดว่า
ระยะยาว น่าจะดีหน่อย พอนำมาใช้งาน !!!น่าจะใช้กรองนอกตั้งนานแล้ว น้ำใสกว่ากรองใน มาก
ผมทิ้งไว้ 2 อาทิตย์ ค่อยล้างกรองทีนึง ไม่เหนื่อยเหมือนเดิมอีกแล้ว
พอเอากรองในออก พื้นที่ก็จะว่างขึ้นอีกเยอะเลย ให้ปลาได้ว่ายเล่นกัน ไม่ต้องมีอะไรมาขวางกั้น
แต่พบปัญหาของกรองนอก ก็คือ ถ้าใช้ไปซักพักนึง จุดต่อต่างๆอาจจะหลวม ทำให้อากาศไหลเข้าไปข้างในได้
ซึ่งระบบกรองนอกมันจะต้องเป็นสูญญากาศ ถ้าตรงข้อต่อหรือตรงจุดไหน มีอากาศเข้า จะทำให้กรองทำงานได้ไม่เต็มที่
บางที ล้างกรองบ่อยๆ ก็ทำให้จุดต่อต่างๆ มันหลวามออกมาได้เหมือนกัน หลังๆพบว่า ตอนน้ำผ่านกรองนอกแล้วออกมา มีฟองอากาศค่อนข้างเยอะ
ผมเลยค่อยๆหาจุดที่อากาศเข้า ไล่ไปจนเจอตรงข้อต่อขาออก ก่อนถึงมอเตอร์หลวม เพราะตรงมอเตอร์มันเป็นท่อที่สามารถหมุนไปมา
ให้เหมาะกับจุดที่ติดตั้งได้ ตรงนี้แหละ ผมหมุนจนมันหลวม แต่พอจัดการ ขันนอตใหม่แล้วก็ ใช้งานต่อได้สบาย
แต่ถ้าเจอว่า ทำยังไงน้ำกรอง ก็ยังไหลอ่อน หรือไม่ไหลแล้ว ทั้งที่ระบบเป็นสูญญากาศหมด เป็นไปได้ว่า มอเตอร์มันน่าจะไม่มีกำลังแล้ว
อาจจะต้องหาอะไหล่มอเตอร์มาเปลี่ยนแทนครับ
และแล้ว ก็ผ่านไป 1 ปี ไวเหมือนโกหก ตอนเช้าตื่นมา เจอเจ้าปลาตัวใหญ่ที่สุดในอ่าง ก็มีอาการแปลกๆ มันว่ายแล้วหยุดเหมือนเป็นลม
แล้วก็ว่ายใหม่แล้วก็หยุด ทิ้งตัวให้ไหลไปตามน้ำ เหมือนมันช็อค เป็นอยู่ซักพัก ก็เอ เป็นไรหว่า คิดขึ้นได้
รีบเอาไปปล่อยอีกบ่อแล้วใส่ยาเหลือง ยานู้นยานี่ (อันนี้อย่าทำตามผมเรื่องยานะ ผมก็มั่วๆ)
แต่ก็ไม่ช่วยอะไรมันได้แล้ว ก็ถึงเวลากลับบ้านเก่า T_T เป็นเจ้าบิ๊กประจำบ่อเลยตัวนี้
ปลาทองของฉัน ครบ 2 ปีพอดี
ขอแชร์ประสบการณ์การเลี้ยงปลาทอง นับตั้งแต่ซื้อปลาทองมา จนถึงวันนี้ ก็ถือว่าครบ 2 ปีพอดิบพอดีเลยครับ
หากใครจะเริ่มเลี้ยง น่าจะพอจะได้รับประโยชน์บ้างกับสิ่งที่ผมจะเล่าให้ฟังงงง....
ปลาทองตัวน้อยของผมนั้น ได้มาจากตลาดปลาจตุจักร
ตอนไปก็ น่าจะเกือบ 6 โมงแล้วร้านก็ทยอยปิดไปหมด
ก็เลยมีตัวเลือกไม่มาก จึงเดินเข้าไปในร้านที่เห็นมันว่ายๆอยู่ในตู้ เจอตัวใหญ่ ราคาหลักร้อย... ไม่ไหวๆ...
เอาตัวเล็กล่ะกัน ราคา 60 บาทต่อตัว (แต่ลืมไปแล้วว่าซื้อพันธุ์อะไรมา)
สรุป จัดมา 6 ตัวเลย เพราะบ่อเราก็ไม่ใหญ่มาก ขนาด 60x60 ลึกแค่ 15 cm เองฮ่าๆ
ว่าจะปรับฮวงจุ้ยบ้านซะหน่อย เอาปลามาลงก่อนเลย ตอนนี้บ่อยังไม่มีออกซิเจน ไม่มีกรองอะไรทั้งนั้นครับ
(เดิมเคยเลี้ยงปลาหางนกยูง แต่มันตายบ่อย ให้อาหารเยอะก็น้ำเน่าเร็ว และชอบกระโดดออกจากบ่อ และสีมันไม่ค่อยสวย )
หลังจากกลับจากตลาดปลา ถึงบ้านก็ลอยน้ำอยู่ จนอุณหภูมิในถุงกับในบ่อเท่าๆกัน (ตามคำแนะนำของ google)
ก็ไม่ได้วัดอุณหภูมิหรอกครับ แช่ประมาณ ชม.นึง ก็ปล่อยเลย
พอมันลงไป มันคงตกตะลึก หวั่นสะพรึงกลัวบ้าง... เพราะบ่อ มีตะไคร่ น้ํา ดำๆ เต็มพื้นบ่อเลย ไอ้เราก็รีบซื้ออยากได้จัด บ่อยังไม่ได้ล้างเลย
แต่เห็นน้ำมันใสๆอยู่ เลยปล่อยลงไปซะ ... พอดีเป็นคนถ้าคิดนานจะไม่ได้ซื้อ เลยซื้อมาก่อน แล้วค่อยปรับสภาพแวดล้อมแทน...
อีกวัน เลยรีบล้างบ่อดีกว่า กลัวมันจะไม่สบายเอา
เริ่มแรก ผมก็ให้อาหาร ยอดฮิต ราคาไม่แพง ให้อาหารไม่นาน น้ำก็เริ่มสกปรก ต้องคอยดูดน้ำเก่าออก คอยเปลี่ยนน้ำใหม่บ่อยๆ
ตามข้อมูลต้องมีออกซิเจนให้มันด้วย ก็จัดปั้มออกซิเจน แบบ USB มา แล้วห้อยไว้ข้างๆอ่าง 2-3 ตัว ตัวละ 50 บาทได้นะ
กับซื้อกระบอกกรอง ที่ใส่ใยไว้ข้างใน แล้วจิ้มสายอากาศเข้าด้านล่าง แล้วฟองอากาศก็วิ่งขึ้นปุดๆด้านบน ซื้อมาใช้ 2-3 อัน
ใช้มาซักระยะ อืมมม น้ำมันก็ไม่ได้สกปรกลดลงซักเท่าไหร่
เลยตัดสินใจ ไปซื้อกรองในมาใช้งาน ทำให้เห็นเลยว่า น้ำใสขึ้นจริงๆ ดีใจมากๆเลย แต่ 3 วัน ก็ต้องถอดมาล้างซักที เพราะเหมือน
มันตันด้านใน เพราะน้ำมันสกปรกมาก เข้าใจว่าบ้านอยู่ติดถนนด้วย ฝุ่นผงต่างๆมันก็ตกลงในบ่อด้วย
ตอนนี้ก็หาพวกน้ำพุ เล็กๆมาเสริมฮวงจุ้ยอีกที ก็สวยดี ได้ยินเสียงน้ำ สบายหูมากๆเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา
และแล้ว อากาศหนาวก็มา ดันซื้อช่วงปลายปีพอดี หาข้อมูลก็บอกว่า ต้องมีฮีตเตอร์ให้น้องๆด้วย ถ้าอุณหภูมิลดต่ำเร็วมันจะปรับตัวไม่ทัน
เลยจัด ซื้อออนไลน์ แล้วให้มาสั่งวันนั้นเลย (ใจร้อนมาก) ลักษณะมันเป็นแท่งแก้ว ปรับอุณหภูมิได้ถึง 32 องศา ต่ำสุดน่าจะ 20 องศา
(ระวัง อย่าย้ายไปมา เพราะผมเคยปัดโดนแล้วหล่นแตกเลย เสียดายมาก) การทำงานของมันคือ เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า ค่าอุณหภูมิที่เราตั้งไว้
มันจึงจะเริ่มทำงาน เช่น ผมตั้งไว้ 28 องศา ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 28 องศา มันจึงจะเริ่มทำงานให้อุณหภูมิอยู่ที่ 28 องศา
ก็จะมีไฟแดงๆติดขึ้นมา เพื่อให้รู้ว่ามันกำลังทำงานอยู่ แล้วถ้าเอามือจับตรงแท่งแก้วก็จะรู้สึกอุ่นๆครับ
มีครั้งนึง เช้ามา สังเกตเห็นปลาตัวนึง หงายท้อง ว่ายเบาๆ เราก็เอ๊ะ เป็นไรวะเนี่ย
มาสังเกต น้ำพุไม่ทำงาน อ้าว ไฟไม่เข้าสิ ฮีตเตอร์มันเลยไม่ทำงานไปด้วยครับ อากาศกำลังหนาวพอดีเลย
สรุปปลั๊กหลุด โห มันบอบบางขนาดนี้เลย แต่เป็นแค่ตัวเดียวนะ ตัวอื่นๆ ไม่ยักกะเป็น เคยเป็นแบบนี้อยู่ 2-3 รอบ ตัวหงายท้องก็ตัวเดิม
และแล้ว สุขภาพน้องปลาก็เริ่มมีปัญหา ตอนน้องๆมา แรกๆ ก็ดูแข็งแรงกันดี แต่พออยู่ไปซักพัก
สังเกต ทำไม ตรงด้านในแผ่นปิดเหงือก มันบวมๆ ทีนี้ไปหาข้อมูลก็เจอยาเพียบเลย เขาว่าเหงือกอักเสบ
เราก็ไม่ใช่หมอปลา เอาไงดี เลยถามร้านที่ซื้อ ก็ได้ยาเหลืองมาหยด ตอนแรกก็หยดลงในอ่างเดียวกันทั้งหมดเลย เพราะคิดว่า
ถ้าเป็นก็คงเป็นทั้งอ่าง 6 ตัวเลยได้ ยาเหลืองไปทั้งหมด ก็ให้อยู่อาทิตย์ มันก็ไม่เห็นจะยุบเลย ไม่รู้ทำไง
ก็เลยเอาใหม่ คราวนี้จับแยกมาใส่ยาเหลืองข้างนอก ในตัวที่เป็น สรุป ก็ยังไม่เห็นจะหาย ก็หายวิธีอยู่นาน ลองนู้นลองนี่
สรุป ช่างมัน ไม่รู้จะทำไงเหมือนกันแล้ว เลยปล่อยไป
กลับมาเรื่องกรองน้ำ เริ่มเซ็ง ที่จะต้องมานั่งล้างทุกๆ 3 วัน เริ่มขี้เกียจจจ ทำไงดี คิดว่าจะซื้อกรองในเพิ่มอีก
แต่มันคงแน่นอ่างมากเลย เพราะอ่างผมตื้นแค่ 15 cm เอง
จึงได้เวลาเปลี่ยนเป็นกรองนอกแล้ว เลยจัดมาตัวนึง ราคาไม่แพงมาก เห็นมันมีอะไหล่ขาย พวกมอเตอร์ ฟองน้ำ เลยคิดว่า
ระยะยาว น่าจะดีหน่อย พอนำมาใช้งาน !!!น่าจะใช้กรองนอกตั้งนานแล้ว น้ำใสกว่ากรองใน มาก
ผมทิ้งไว้ 2 อาทิตย์ ค่อยล้างกรองทีนึง ไม่เหนื่อยเหมือนเดิมอีกแล้ว
พอเอากรองในออก พื้นที่ก็จะว่างขึ้นอีกเยอะเลย ให้ปลาได้ว่ายเล่นกัน ไม่ต้องมีอะไรมาขวางกั้น
แต่พบปัญหาของกรองนอก ก็คือ ถ้าใช้ไปซักพักนึง จุดต่อต่างๆอาจจะหลวม ทำให้อากาศไหลเข้าไปข้างในได้
ซึ่งระบบกรองนอกมันจะต้องเป็นสูญญากาศ ถ้าตรงข้อต่อหรือตรงจุดไหน มีอากาศเข้า จะทำให้กรองทำงานได้ไม่เต็มที่
บางที ล้างกรองบ่อยๆ ก็ทำให้จุดต่อต่างๆ มันหลวามออกมาได้เหมือนกัน หลังๆพบว่า ตอนน้ำผ่านกรองนอกแล้วออกมา มีฟองอากาศค่อนข้างเยอะ
ผมเลยค่อยๆหาจุดที่อากาศเข้า ไล่ไปจนเจอตรงข้อต่อขาออก ก่อนถึงมอเตอร์หลวม เพราะตรงมอเตอร์มันเป็นท่อที่สามารถหมุนไปมา
ให้เหมาะกับจุดที่ติดตั้งได้ ตรงนี้แหละ ผมหมุนจนมันหลวม แต่พอจัดการ ขันนอตใหม่แล้วก็ ใช้งานต่อได้สบาย
แต่ถ้าเจอว่า ทำยังไงน้ำกรอง ก็ยังไหลอ่อน หรือไม่ไหลแล้ว ทั้งที่ระบบเป็นสูญญากาศหมด เป็นไปได้ว่า มอเตอร์มันน่าจะไม่มีกำลังแล้ว
อาจจะต้องหาอะไหล่มอเตอร์มาเปลี่ยนแทนครับ
และแล้ว ก็ผ่านไป 1 ปี ไวเหมือนโกหก ตอนเช้าตื่นมา เจอเจ้าปลาตัวใหญ่ที่สุดในอ่าง ก็มีอาการแปลกๆ มันว่ายแล้วหยุดเหมือนเป็นลม
แล้วก็ว่ายใหม่แล้วก็หยุด ทิ้งตัวให้ไหลไปตามน้ำ เหมือนมันช็อค เป็นอยู่ซักพัก ก็เอ เป็นไรหว่า คิดขึ้นได้
รีบเอาไปปล่อยอีกบ่อแล้วใส่ยาเหลือง ยานู้นยานี่ (อันนี้อย่าทำตามผมเรื่องยานะ ผมก็มั่วๆ)
แต่ก็ไม่ช่วยอะไรมันได้แล้ว ก็ถึงเวลากลับบ้านเก่า T_T เป็นเจ้าบิ๊กประจำบ่อเลยตัวนี้