คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ข้อดีของเขา
1 .เขาดูแลเราดีค่ะ เวลาไปกินอาหาร กินข้าวอะไร เขาจะออกให้หมด (ในช่วงที่เขาเทรดได้) แต่ถ้าช่วงที่เขาเสีย เราบอกเขาว่า เดี๋ยวเราช่วยแชร์ เพราะเรารู้ว่าเขาเองก็ไม่มีเงินเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
2.เขาตามใจเราเป็นส่วนมากค่ะ อะไรที่เราจะทำแล้วมีความสุข เขาก็พร้อมจะทำให้ เช่น อยากดูหนังอะไร เขาก็จะพาไปดู อยากกินอะไรก็พาไป อยากไปไหน เที่ยวไหนก็พาไป ไม่ค่อยขัดค่ะ แต่เรื่องเที่ยวส่วนมากยังไม่ได้ไปไหนกันเท่าไหร่ค่ะ ต่างคนต่างทำงาน ที่เคยไปตจว.มีแค่ 1 ครั้งเองค่ะ ตั้งแต่คบกัน
3.เขาไม่เจ้าชู้ เป็นคนหนักแน่นเรื่องความรัก แม้ว่าเขาจะดูดี สะอาดสะอ้าน มีผู้หญิงมองบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยวอกแวกค่ะ รักแค่เราคนเดียว เราเลยไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องผู้หญิงเลย สบายใจตรงนี้ (แต่ไปหนักใจเรื่องด้านบนแทน 5555)
4.เขาเป็นคนรักสะอาด ดูแลตัวเอง ไม่สกปรก ที่อยู่บ้านช่องก็ทำความสะอาดตลอด จะไม่ปล่อยให้ในห้องมีขยะ หรือในรถมีขยะ อนามัยดีค่ะ
5.เรื่องเซ็กส์เข้ากันได้ดี
6.ความรับผิดชอบในงานประจำที่เขาทำ ถือว่าดี ในเรื่องงานที่ไม่ใช่โลกชีวิตส่วนตัว เขาไม่น่าเป็นห่วงค่ะ เขาดูเอาตัวรอดได้ ในสายตาเรา
เรามองว่าเวลาทำงาน เขาดูเท่ ดูมีเสน่ห์ที่สุด เราชอบเขาจากที่เห็นมุมที่เขาทำงานนี่แหละค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องชีวิตจริง นอกเรื่องงานแล้ว เราว่าเขายังขาดอีกเยอะค่ะ
เราเคยพูดคุยปัญหาทั้งหมดนี้กับเขาแล้ว เราร้องไห้ บอกว่าเรารู้สึกว่าเขาไม่มั่นคง เราบอกว่าอยากถอยออกมา เขาถามเรากลับมาว่า เขาดูเป็นคนพึ่งพาไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรอ เราอึ้งมากที่เขาถามกลับแบบนี้ คือเขามองว่าตัวเองยังไม่หมดหนทางหรือจนตรอก แต่จากที่เราประเมินแล้ว เราว่าเขาพึ่งพาไม่ได้ ทุกวันนี้มีอะไรที่เราพอจะทำเองได้เราก็พยายามทำเอง ไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากเขา เพราะเรามองว่าเขาช่วยอะไรเราไม่ได้ ที่จริงไม่ใช่ไม่เคยไว้ใจให้ช่วยนะคะ เคยลองแล้ว มีครั้งนึงที่เราให้วานช่วยหาร้านกาแฟที่มีที่จอดรถ ใกล้ๆที่ทำงานเรา สกิลการค้นหาข้อมูลใน internet เขาก็สู้เราไม่ได้ เขาบอกว่าการเสิจหาข้อมูลอะไรสักอย่างมันเป็นเรื่องยากสำหรับเขา สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถหาได้ว่าต้องไปที่ไหน สุดท้ายก็เป็นเราที่หา
หรือเวลาจะไปกินข้าวกับเพื่อนๆเขา เพื่อนจะถามว่าไปกินที่ไหนดี เขาก็ไม่เคยมาช่วยหา ช่วยคิด ช่วยเสิจเลย เพราะเขาไม่ชอบ ไม่ถนัด ไม่เคยทำ ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของคนอื่นไป ตัวเองก็ปล่อยจอย รอกิน รอจ่ายอย่างเดียว เราเห็นในช่วงแรกๆที่คบกันเราก็รู้สึกว่าไม่ค่อยโอเคนิดๆแล้ว จนมันมาพอกพูนกับเรื่องอื่นๆในชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้อง เลยรู้สึกว่ามันเป็นปัญหา เราคบแฟน เราก็หวังอยากให้ผู้ชายเป็นผู้นำ พึ่งพาได้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่สบาย ติดขี้เกียจ แบบนี้
ช่วยเราด้วยค่ะ เราอยากได้คำแนะนำแล้วเราต้องทำยังไงต่อไป เรื่องนี้เป็นปัญหาเรามากค่ะ มันคิดวนๆอย่างนี้ตลอด ทำให้เราจะเดินไปข้างหน้า ก็พุ่งไปได้ไม่สุด ถ้าไม่ใช่ก็ไม่อยากคบให้เสียเวลา เราอายุมากแล้วด้วย อยากคบคนที่มั่นคง อยากแต่งงาน อยากมีครอบครัวค่ะ
กระทู้ยาวมาก คือเราอยากให้รายละเอียดเยอะที่สุด คนอ่านจะได้มีข้อมูลประกอบการแสดงความเห็น ถ้าเห็นต่างแล้วจะด่าเราก็ได้นะคะ แต่ขอแบบสุภาพค่ะ เราพร้อมน้อมรับและรับฟังทุกอย่าง ขอบคุณค่ะ
1 .เขาดูแลเราดีค่ะ เวลาไปกินอาหาร กินข้าวอะไร เขาจะออกให้หมด (ในช่วงที่เขาเทรดได้) แต่ถ้าช่วงที่เขาเสีย เราบอกเขาว่า เดี๋ยวเราช่วยแชร์ เพราะเรารู้ว่าเขาเองก็ไม่มีเงินเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
2.เขาตามใจเราเป็นส่วนมากค่ะ อะไรที่เราจะทำแล้วมีความสุข เขาก็พร้อมจะทำให้ เช่น อยากดูหนังอะไร เขาก็จะพาไปดู อยากกินอะไรก็พาไป อยากไปไหน เที่ยวไหนก็พาไป ไม่ค่อยขัดค่ะ แต่เรื่องเที่ยวส่วนมากยังไม่ได้ไปไหนกันเท่าไหร่ค่ะ ต่างคนต่างทำงาน ที่เคยไปตจว.มีแค่ 1 ครั้งเองค่ะ ตั้งแต่คบกัน
3.เขาไม่เจ้าชู้ เป็นคนหนักแน่นเรื่องความรัก แม้ว่าเขาจะดูดี สะอาดสะอ้าน มีผู้หญิงมองบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยวอกแวกค่ะ รักแค่เราคนเดียว เราเลยไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องผู้หญิงเลย สบายใจตรงนี้ (แต่ไปหนักใจเรื่องด้านบนแทน 5555)
4.เขาเป็นคนรักสะอาด ดูแลตัวเอง ไม่สกปรก ที่อยู่บ้านช่องก็ทำความสะอาดตลอด จะไม่ปล่อยให้ในห้องมีขยะ หรือในรถมีขยะ อนามัยดีค่ะ
5.เรื่องเซ็กส์เข้ากันได้ดี
6.ความรับผิดชอบในงานประจำที่เขาทำ ถือว่าดี ในเรื่องงานที่ไม่ใช่โลกชีวิตส่วนตัว เขาไม่น่าเป็นห่วงค่ะ เขาดูเอาตัวรอดได้ ในสายตาเรา
เรามองว่าเวลาทำงาน เขาดูเท่ ดูมีเสน่ห์ที่สุด เราชอบเขาจากที่เห็นมุมที่เขาทำงานนี่แหละค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องชีวิตจริง นอกเรื่องงานแล้ว เราว่าเขายังขาดอีกเยอะค่ะ
เราเคยพูดคุยปัญหาทั้งหมดนี้กับเขาแล้ว เราร้องไห้ บอกว่าเรารู้สึกว่าเขาไม่มั่นคง เราบอกว่าอยากถอยออกมา เขาถามเรากลับมาว่า เขาดูเป็นคนพึ่งพาไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรอ เราอึ้งมากที่เขาถามกลับแบบนี้ คือเขามองว่าตัวเองยังไม่หมดหนทางหรือจนตรอก แต่จากที่เราประเมินแล้ว เราว่าเขาพึ่งพาไม่ได้ ทุกวันนี้มีอะไรที่เราพอจะทำเองได้เราก็พยายามทำเอง ไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากเขา เพราะเรามองว่าเขาช่วยอะไรเราไม่ได้ ที่จริงไม่ใช่ไม่เคยไว้ใจให้ช่วยนะคะ เคยลองแล้ว มีครั้งนึงที่เราให้วานช่วยหาร้านกาแฟที่มีที่จอดรถ ใกล้ๆที่ทำงานเรา สกิลการค้นหาข้อมูลใน internet เขาก็สู้เราไม่ได้ เขาบอกว่าการเสิจหาข้อมูลอะไรสักอย่างมันเป็นเรื่องยากสำหรับเขา สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถหาได้ว่าต้องไปที่ไหน สุดท้ายก็เป็นเราที่หา
หรือเวลาจะไปกินข้าวกับเพื่อนๆเขา เพื่อนจะถามว่าไปกินที่ไหนดี เขาก็ไม่เคยมาช่วยหา ช่วยคิด ช่วยเสิจเลย เพราะเขาไม่ชอบ ไม่ถนัด ไม่เคยทำ ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของคนอื่นไป ตัวเองก็ปล่อยจอย รอกิน รอจ่ายอย่างเดียว เราเห็นในช่วงแรกๆที่คบกันเราก็รู้สึกว่าไม่ค่อยโอเคนิดๆแล้ว จนมันมาพอกพูนกับเรื่องอื่นๆในชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้อง เลยรู้สึกว่ามันเป็นปัญหา เราคบแฟน เราก็หวังอยากให้ผู้ชายเป็นผู้นำ พึ่งพาได้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่สบาย ติดขี้เกียจ แบบนี้
ช่วยเราด้วยค่ะ เราอยากได้คำแนะนำแล้วเราต้องทำยังไงต่อไป เรื่องนี้เป็นปัญหาเรามากค่ะ มันคิดวนๆอย่างนี้ตลอด ทำให้เราจะเดินไปข้างหน้า ก็พุ่งไปได้ไม่สุด ถ้าไม่ใช่ก็ไม่อยากคบให้เสียเวลา เราอายุมากแล้วด้วย อยากคบคนที่มั่นคง อยากแต่งงาน อยากมีครอบครัวค่ะ
กระทู้ยาวมาก คือเราอยากให้รายละเอียดเยอะที่สุด คนอ่านจะได้มีข้อมูลประกอบการแสดงความเห็น ถ้าเห็นต่างแล้วจะด่าเราก็ได้นะคะ แต่ขอแบบสุภาพค่ะ เราพร้อมน้อมรับและรับฟังทุกอย่าง ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
กับผู้ชายคนนี้ เราควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้
เกริ่นก่อนนะคะ เราอายุมากกว่าแฟน 2 ปี (เราอายุ 30 ) เราทำงานเป็นพนักงานบริษัท
ส่วนแฟนเราเพิ่งจะลาออกจากงานได้ 1 เดือน
เหตุผลที่แฟนลาออกจากงานก็เพราะ ไม่ชอบในงานอาชีพนี้แล้ว และอยากมีธุรกิจส่วนตัว
ก่อนที่แฟนจะลาออก มีเงินเก็บประมาณ 300,000
แต่ปัจจุบัน เหลือประมาณ 50,000 หมดไปเพราะเทรดเสีย (ปกติเขาเทรดทองเหมือนเป็น Job ที่2)
แฟนเรา : เช่าคอนโดอยู่ , มีรถ 1 คัน (ผ่อนหมดแล้ว ,ตอนดาวน์รถ ที่บ้านเขาเป็นคนออกให้ ส่วนงวดรถเขาเป็นส่งเอง ส่งงวดได้ประมาณ 2 ปี ที่บ้านก็มีเงินมรดกแบ่งให้ 300,000 เขาเลยเอามาปิดหนี้รถจนหมด )
พื้นฐานบ้านแฟน : ไม่ได้ร่ำรวย พอมีพอกิน
เรา : มีคอนโดที่กำลังผ่อน , ไม่มีรถ, พื้นฐานที่บ้านไม่ได้ร่ำรวย พอมีพอกิน
ปัจจุบันคบกันมาได้ 1 ปีพอดี
ปัญหาที่เกิด
1.เรารู้สึกว่าแฟนเรา ความรู้รอบตัวน้อย คุยอะไรไปก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ถามอะไรก็ตอบไม่ได้ บอกว่าจำไม่ได้ ไม่แน่ใจ หรือไม่ก็ตอบมั่วๆ
เช่น คุยกันเรื่องสายตาสั้น แฟนบอกว่า สายตาสั้นนี่เพราะปัญหากล้ามเนื้อตา เราเลยบอกว่าไม่ใช่ เพราะเลนส์ที่ตาต่างหาก หรือจะเรื่องว่าจังหวัดไหนอยู่ภาคอะไร ทุกวันนี้เขายังไม่รู้ว่า โคราช คือนครราชสีมาอยู่อีสาน และยังไปสับสนกับนครศรีธรรมราชที่อยู่ภาคใต้ เราต้องการคนที่คุยกันรู้เรื่อง คุยด้วยแล้วสามารถถกเถียง หรือเปิดหูเปิดตาเปิดเวลามีอะไรดีๆ หรือความรู้ใหม่ก็มาแชร์กัน แต่นี่เหมือนเราแชร์อยู่ฝ่ายเดียว เขาได้แค่เออ ออ ตามไปเพราะไม่รู้เรื่อง ทำได้แค่ งึมๆ ตามเรา ไม่สามารถมาถกเถียง มาคุยตอบโต้ได้ หรือจะเป็นเรื่องข่าวสารบ้านเมือง เราเคยพูดถึงข่าวซานติก้าผับ ที่คนตายเยอะๆ เขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่ามันคือผับที่มีคนตายเยอะมากเหตุจากไฟไหม้ เขาแค่คุ้นๆชื่อว่ามันเป็นข่าวดัง แต่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร เราเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ วนไปวนมา จนเริ่มเก็บฉุกคิดว่า เรื่องนี้มันคือปัญหาสำหรับเราเรื่องนึงเหมือนกัน
2.เราสองคนมีความคิดที่ไม่ตรงกันบ่อยมาก เขาชอบคิดอะไรที่ดูเหมือนจะเพ้อฝันไปหน่อยสำหรับเรา (สำหรับคนอื่นไม่รู้นะ ลองอ่านดูค่ะ) แต่เราชอบคิดถึงความเป็นจริง และความเป็นไปได้มากกว่า เช่น เขาบอกว่าจะออกจากงาน มาทำธุรกิจ แผนของเขาคืออยากขายอาหารที่เป็นแนวเฟรนไซส์อารมณ์เต็นท์แดงเกาหลี ขายอาหารเกาหลีแบบ a la carte ที่นครนายก (บ้านเกิดเขา) เขาให้เหตุผลว่า ที่นั่นยังไม่มีร้านแนวนี้ คนน่าจะให้ความสนใจกัน
มูลค่าเฟรนไชส์เริ่มต้น 800,000 ยังไม่รวมค่าเช่าที่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าอื่นๆอีกมากมายที่แฝงอยู่ รวมๆ 1 ล้านบาท เอาอยู่รึป่าวก็ไม่รู้ ตอนนั้นเราก็คัดค้านตั้งแต่เห็นมูลค่าเฟรนไชส์แล้วค่ะ แต่เขายังดื้อที่จะคิดจะทำ บอกว่าจะกู้เงินมาทำ
(ที่บ้านเขาไม่มีทุนให้ ถ้าล้มมาก็คือจบ เป็นหนี้ยาวๆ) เราก็เป็นห่วงว่า ยังไม่เคยมีประสบการณ์จากการทำธุรกิจอะไรมาก่อนเลย จะเริ่มจากติดลบเลยหรอ ส่วนตัวเรามองว่าการกู้เงินมามันคือติดลบ มันไม่ได้ใช้เงินทุนจากที่ตัวเองมีอยู่มาทำ เริ่มแรกก็เป็นหนี้แล้ว ถ้าสมมติขายไม่ดีล่ะ แผนจะทำยังไงเราถามเขากลับไปแบบนี้ เขาตอบมาว่า ก็จะขายต่อ เราถามต่อว่า ขายให้ใคร ขายแบบไหน ใครมาซื้อ
เราถามว่าจะเอาอุปกรณ์ถ้วยจานชาม,เครื่องครัว,เครื่องใช้ต่างๆ ไปเร่ขายให้ร้านอาหารอื่นๆงี้หรอ เขาก็เงียบ ไม่ได้ตอบอะไร เหมือนคิดไม่ออกว่าจะต้องทำยังไง
เราเลยพูดไปว่า ปกติมันก็ต้องเซ้งร้านไหม เขาเลยตอบมาว่า เออใช่ เซ้งร้านไง ใช่ๆๆ เซ้งร้าน
มาถึงจุดนี้เรารู้สึกแล้วว่า เขาจะทำธุรกิจ แต่ยังอ่อนต่อโลกที่เขาวาดฝันไว้เยอะมาก ยังไม่รู้ว่าจริงๆมันมีการเซ้งร้านเลย ถ้าเราไม่พูดเป็นไกด์ไลน์ให้ก่อน
เรื่องแผนทำร้านของเขา เขาคุยเรื่องนี้กับเราตอนเดือน 8/65 บอกว่าจะเร่งเปิดร้าน ให้ทันปีใหม่ อยากจัดโปรโมชั่นเรียกลูกค้า อยากคิด campaign อะไรๆครีเอตให้คนมาเยอะๆ เราได้ยินเขาคิดจะทำต่อ เราก็เริ่มเครียดเข้าไปใหญ่ว่า มันค่อนข้างเป็นไปได้ยากที่คนอย่างเขาจะมาทำอะไรแบบนี้ ทำไมยังคิดจะดื้อรั้นจะทำต่อ (หรือเราเองที่เอาแต่ขัดความคิด ความฝันเขา เราก็ถามตัวเองอยู่ตลอดๆ ว่าจริงๆแล้วเราคือ คนที่ Toxic รึป่าว)
สุดท้ายเรื่องโปรเจคร้านอาหารเกาหลีของเขาก็พับลง เพราะเขาโทรไปคุยกับแม่เขาว่าเขาอยากเปิดร้านขายอาหารเกาหลี
แม่เขาตอบมาว่า เขาไม่น่าจะทำได้ สเกลร้านมันใหญ่ไป ต้องกู้เงิน และมันเสี่ยงไม่มีอะไรมาการันตี
แม่เขาบอกว่า เขาเป็นคนความรู้รอบตัวน้อย แถมยังติดขี้เกียจ น่าจะยากที่จะทำสำเร็จ พอเขาคุยกับแม่เสร็จเขาก็ซึมค่ะ
เขาบอกว่าแค้นใจที่คนที่บ้านและเรา สบประมาทเขา มองว่าเขาไม่มีความสามารถ แต่เขาเองก็บอกว่ารู้ตัวว่าตัวเองความรู้รอบตัวน้อย และไม่ค่อยสนใจเรื่องอะไร (เพราะแม่เขาเคยบอกกับเขาอยู่บ่อยๆ จนมาเจอเราที่เป็นอีกคนที่บอกเขาเรื่องนี้)
เขาบอกว่าเจ็บใจ ทำไมทุกอย่างไม่เป็นแบบที่คิด อยากพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าเก่ง แต่มันยังทำไม่ได้ ณ ตอนนี้ ก็เลยเจ็บใจ แค้นใจ ส่วนเราที่เราคัดค้านร้านเกาหลีเพราะมูลค่าสูง อยากให้เขาทำธุรกิจสเกลเล็กๆดีกว่า ที่มูลค่าหลักหมื่น- แสนต้นๆ ซึ่งปัจจุบันมีเยอะแยะ ควรจะเริ่มจากตรงนี้ เพราะประสบการณ์ยังไม่มี จะไปเล่นใหญ่ทำไม กลายเป็นเขาก็ซึมไปพักนึงเลย หลังจากที่ต้องล้มเลิกความคิดเปิดร้านเกาหลีไป
3. แฟนเราชอบบอกว่าอยากรวย เดี๋ยวจะเป็นคนรวยให้ได้สักวัน (เนื่องจากปมในวัยเด็กที่เขาเคยบอกว่าที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงิน โตขึ้นมาเลยอยากรวยเพื่อชดเชยวัยเด็ก)
แต่ด้วยความที่ แฟนเราเป็นคนใจร้อน เขาเลยเล่น Forex เทรดทอง หวังจะรวยไวๆ เวลาเล่นได้ก็ได้เป็นหมื่น - แสน แต่เวลาเสียก็เสียเป็นแสนเช่นกัน ด้วยนิสัยที่เขาโลภ เลยทำให้บางทีเวลาที่เทรดได้มากกว่าแผนแล้ว เขาไม่หยุด
เช่น เวลากำไรบวกไปที่ 4 หมื่น (ตามแผน) เขายังถือรอ คิดว่ามันจะพุ่งไปถึง 1 แสน แต่มันไม่เป็นตามที่คิด จากที่จะได้ 4 หมื่นกลายเป็นกราฟเปลี่ยนทิศพุ่งลง Stop loss ที่ขาดทุนบ้าง หรือเท่าทุนบ้าง หรือได้มา 1 หมื่นบ้าง แล้วแต่เคส
แต่โดยรวมแล้วเขาขาดวินัยในการเทรด เทรดเอาสนุก ไม่ได้เทรดเพื่อจะสร้างรายได้จริงจัง เขาบอกว่าบางทีเขาอยากเอาชนะกราฟ อยากวัดว่าจริงๆแล้วมองออกว่า กราฟจะไปทางไหน เลยถือรอ โดยไม่สนว่าเงินจะสูญหรือไม่
เราฟังแล้วเราก็ปวดใจค่ะ เครียด ว่าทำไมเราต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ แต่ที่พีคสุดคือ แม่เขาฝากเงิน 200,000 ไว้ที่เขาเพื่อที่จะให้เขาเอาไปช่วยลงทุนในหุ้น/กองทุน ให้ แต่แล้วจนวันนึงเขาเทรดเสียจนเงินหมดตัว แล้วเขาเอาเงินที่แม่ฝากไว้กับเขามาเทรด โดยที่ไม่ได้บอกแม่ แต่ยังโชคดีที่เทรดรอบนี้ได้กำไรมา 5 หมื่น เลยไม่มีปัญหาอะไร
พอเรารู้ว่าเขาทำแบบนี้ เราเลยบอกว่า เงินแม่ไม่ต้องไปยุ่งได้ไหม อันนั้นเงินแม่ไม่ใช่เงินเธอ แบบนี้มันเท่ากับขโมยเงินแม่ รอบหน้าถ้าจะเทรดควรกันเงินไว้ไหม ว่าจะแบ่งไว้เล่นเท่าไหร่ เงินที่ที่ควรจะสำรองเท่าไหร่ ไม่งั้นมันจะหมดตัว แบบนี้มันไม่ต่างอะไรกับพนัน! เราโมโหและเครียดมากที่เขาทำแบบนี้ ไม่คิดว่าผู้ชายที่เราตกลงคบจะเป็นแฟนเขาจะทำแบบนี้ (เราคิดไม่ตกค่ะ เพราะเราเลิกกับคนเก่า เพื่อมาคบเขา แต่แล้วมันก็ไม่ได้ราบรื่นแบบที่ใจคิด เราก็เจ็บใจตัวเองเหมือนกันค่ะ ว่าเลือกคนผิดรึป่าว )
เราทะเลาะกันเรื่องนี้มาโดยตลอดค่ะ บางทีเขาก็รับฟังและปรับปรุงตัว แต่บางทีเขาก็กลับมาทำแบบเดิมอีก เลยกลายเป็นว่า ชีวิตของเขาไม่มีความแน่นอน ต้นอาทิตย์เทรดได้เป็นแสน ปลายอาทิตย์เงินแสนหายหมดในพริบตา กลับมาเป็นแบบเดิม แทนที่จะได้ก้าวหน้าไปทีละนิด แต่กลายเป็นวนๆอยู่ที่เดิม เราก็เหนื่อยกับความไม่แน่นอนของเขา จนเริ่มจะท้อไปหมดทุกอย่าง จนเกิดคำถาม จนต้องมาตั้งกระทู้ว่าเอาไงต่อดี
สถานะตอนนี้เขาลาออกจากงานแล้ว ใช้เงินที่เหลืออยู่น้อยนิด แผนใหม่เขาคือขายขนมปังปิ้งซึ่งคิดไว้ว่าขายในช่วงเช้า แต่เราก็ยังไม่เห็นเขาลุกขึ้นมาทำอะไรจริงๆจังๆ สูตรขนม อุปกรณ์ที่จะใช้ หาทำเลที่จะขาย ยังไม่ทำอะไรเห็นเป็นรูปร่างสักอย่าง เอาแต่เทรดอย่างเดียว ซึ่งเราถามว่าไม่ทำแล้วหรอขายขนมปัง เขาบอกว่า ขอเทรดก่อน เขาให้เหตุผลว่าตอนเขาทำงานประจำเขาไม่มีเวลาเทรดเต็มที่ เพราะต้องทำงาน มันเสียโอกาสหลายรอบมากในช่วงที่ไม่ได้ดูกราฟ พอออกมาว่างเต็มที่ เลยอยากเทรดนั่งเฝ้ากราฟทั้งวันบ้าง เขาก็ทำได้นะ จากที่มีกำไรจากที่ยืมเงินแม่มาเล่น ก็ได้กำไรมา 50,000 เขาก็ต่อยอดจนมี 1 แสนได้ แต่สุดท้ายก็วนลูปค่ะ เงินแสนหายไปในไม่กี่วัน เพราะความโลภและความไม่มีแผนในการเล่น ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่เขาได้บทเรียน เพราะตอนนี้ว่างงาน เงินเก็บไม่มีแล้ว
แต่เรื่องไม่หมดเท่านี้ พอเจออะไรมาซ้ำเยอะๆ เขากลับไม่มีแรงบันดาลใจจะมาทำอะไรต่อแล้วค่ะ สาเหตุเกิดจากช้ำจากเทรด กราฟมันทำให้เขาดีใจสุดๆ แล้วก็เสียใจสุดๆเช่นกัน เจอความดีใจและความผิดหวังซ้ำๆ เขาเลยรู้สึกว่าท้อ หมดไฟ หมดแรง ทำให้ทุกวันนี้เขาเหมือนคนไม่มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตค่ะ ตื่นสาย ติดขี้เกียจ เล่นเกม เวลาว่างออกไปเล่นบาสกับเพื่อน เวลาว่างไม่เอามาหาความรู้เพิ่มเติม รายการ youtube ที่เขาดูประจำก็คือ ก็มาดิค้าบ , ช่องต้ายัดชัยโสโร เทือกๆนี้ แต่เวลาเราเปิด podcast ,people you may know , the standard,the money coach อะไรพวกนี้ เขาก็จะปิดของเขา แล้วฟังกับเรานะคะ แต่ถ้าให้เปิดเอง เขาไม่เปิดค่ะ ก็จะดูรายการตลก รายการบันเทิงของเขาไป
(เราเข้าใจนะ ว่าคนเราต้องมีความบันเทิงบ้าง เราเองก็ดูรายการเบาสมองบ้างเหมือนกัน แต่เขา ณ จุดนี้ ที่รู้ตัวเองแล้วว่าไม่เก่ง ขาดความรู้ อยากรวย อยากเก่ง ก็ควรใส่ data เข้าไปแล้วหรือป่าว ไม่ใช่ยังปล่อยตัวแบบนี้)
.....เหมือนว่าโชคชะตาจะรู้ค่ะ ว่าเขาตกต่ำ ไม่มีเงินเก็บไม่มีเงินสำรองแล้ว ที่ทำงานที่เขาเพิ่งลาออกมา เรียกเขากลับไปอีกครั้ง แต่เป็นแบบรับจ๊อบชั่วคราว 1 เดือน ยื่นข้อเสนอ 70,000 บาท แต่ทำแค่ 1 เดือนนะคะ (จากเดิมเงินเดือนเขา 40,000)
เขาถามเราว่าเอาไงดี เราบอกว่า ควรไป เพราะตอนนี้ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินเก็บแล้ว อย่างน้อยลองกลับไปทำงานดู เผื่อจะได้มีไฟ มีแรงบันดาลใจอะไรบ้าง เพราะช่วงที่ลาออกมาอยู่บ้าน 1 เดือน เขาก็เอาแต่เทรดและชิวๆ เรื่อยเปื่อย ด้วยความเปื่อยเลยทำให้หมดไฟหรือป่าว เราเลยแนะนำให้กลับไปทำงาน เขาก็ตอบตกลงที่จะกลับไปทำงาน
ต่อคอมเม้นล่างนะคะ