เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของแฟนเราตอนเป็นทหารเกณฑ์แห่งหนึ่งในกทม. เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2547 จากที่แฟนเรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับชวิต ในขณะนั้นได้เป็นนักฟุตบอลฝึกหัดอยู่สโมสรแห่งหนึ่ง ด้วยความที่อยู่กับปู่กับย่าพออายุครบเกณฑ์จะต้องไปคัดเลือกทหาร ปู่อยากให้หลานมีระเบียบวินัยจึงได้พาไปสมัครเป็นทหาร จำต้องพักเรื่องฟุตบอลไว้ก่อน เมื่อถึงกำหนดวันที่ต้องเข้ากรม (ทหารราบ) ปู่ก็ได้พาไปรายงานตัว มีทหารใหม่มากมายจากหลายจังหวัดที่ผลัดเดียวกันร่วมๆ 500 กว่าคน วันแรกของการเข้ากรม ยังไม่มีกิจกรรมหรือภารกิจอะไรมากมาย มีรุ่นพี่มาแนะนำการใช้ชีวิต กฎระเบียบต่างๆ รวมถึงเลือกเตียงนอน วันแรกยังไม่มีการฝึกหรือเข้าแถวอะไร จนถึงช่วงหัวค่ำ เมื่อทหารใหม่ทุกคนได้ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ ได้มารวมตัวกันในหอนอน มีรุ่นพี่บางส่วนมาคุย มาตั้งวงเล่นไพ่กันอยู่บริเวณปลายเตียงนอน บางคนนั่งเล่นโทรศัพท์ แต่แฟนเราเลือกที่จะนอนเพราะตอนนั้นยังเล่นไพ่ไม่เป็น และยังไม่รู้จักหรือสนิทสนมกับใคร หอนอนจะเป็นห้องโถงยาวประมาณ 20 เมตร มีประตูทางเข้า 2 ทางซ้ายขวา มีหน้าต่างหลายบาน การนอนจะหันเท้าไปทางหน้าต่างหัวเตียงชิดกำแพง เตียงเรียงกันไป จุดเริ่มต้นรื่องราวน่าตื่นเต้นตกใจที่ไม่สามารถอธิบายได้ ที่เล่าแล้วอาจจะไม่มีใครเชื่อก็ได้เริ่มขึ้น
          EP.1 คืนแรกนี้เองระหว่างที่แฟนเรากำลังเคลิ้มจะหลับ สายตาก็เหลือบไปเห็นเงาใครคนหนึ่งเดินผ่านหน้าต่างบานแรกไป ลักษณะเป็นชายแต่งกายชุดทหารมีเป้เดินป่าสะพายมาด้วยตอนแรกแฟนคิดว่าเป็นรุ่นพี่ทหาร หรือไม่ก็ครูฝึกจึงไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นเงาผ่านไปจนถึงหน้าต่างบานสุดท้ายริมทางเข้าอีกฝั่ง แต่พอมองอีกทีเงานั้นกลับย้อนมาที่ประตูทางเข้าหอนอนที่แฟนนอนอยู่ ด้วยความตกใจแฟนเรารีบหลับตา พอลืมตาอีกทีเงานั้นก็มาอยู่ข้างเตียงแฟนเราแล้ว จากที่เป็นเงาก็เห็นเป็นตัวตนชัดเจน ด้วยความตกใจแฟนเราพยามลุกขึ้น เรียกเพื่อนๆ และรุ่นพี่ในห้อง แต่ตอนนั้นไม่สามารถขยับร่างกายหรือส่งเสียงได้เลย มองเห็นเพื่อนทหารเดินผ่านไปมาแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ในใจแฟนเราก็พยายามจะสวดมนต์แต่ ณ เวลานั้นตกใจคิดอะไรไม่ออก ร่างนั้นก็จ้องมองด้วยใบหน้าซีดเผือด (แฟนบอกว่าวิญญาณไม่ได้หน้าตาน่ากลัวเหมือนในหนัง) พอได้สบตากันสักพักร่างนั้นไม่ได้มีทีท่าว่าจะไป แฟนเราก็นึกพูดในใจว่าอย่ามาทำอะไรผมเลย ผมกลัว ผมเพิ่งมาวันแรกเอง ไม่นานผ่านไปราวๆ เกือบ 10 นาทีร่างนั้นก็ได้จางหายไป พอได้สติลุกขึ้นมาได้ เพื่อนทหารคนนึงบอกว่าเห็นแฟนเรานอนตัวแข็งนิ่ง ถามอะไรก็ไม่ตอบ คิดว่าไม่สบายเลยไม่ได้ไปปลุก แฟนเราเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ได้เล่าให้ใครฟังเพราะคิดว่าคงไม่มีใครเชื่อ จนเวลาผ่านไปได้ประมาณ 3 อาทิตย์ จึงได้รู้ข่าวจากครูฝึกว่ามีทหารคนนึงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ลักษณะท่าทางที่ครูฝึกเล่ามาเหมือนคนที่แฟนเราเห็นคืนแรกแฟนเราได้แต่นึกในใจ มีทหารใหม่ตั้ง 500 กว่าคน ทำไมถึงเห็นอยู่คนเดียว แต่ก็ยังไม่ได้เล่าให้ใครฟังใช้ชีวิตในนั้นตามปกติไป แต่ก็ไม่เห็นร่างนั้นอีกเลย
          EP.2 วันนึงแฟนเรามีหน้าที่ขับรถพาครูฝึกไปกินข้าวเที่ยง หลังจากกลับมาเวลาประมาณเที่ยงสี่สิบนาที เป็นเวลาพักแฟนเรากะจะงีบสักหน่อยก่อนเข้าสู่การฝึกรอบบ่าย ตรงปลายเตียงจะมีพัดลมเปิดส่ายระบายความร้อนอยู่ ระหว่างที่กำลังเคลิ้มจะหลับสายตาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งมาพร้อมกับเด็กชายตัวเล็กๆ ยืนอยู่ตรงพัดลมปลายเตียง ลักษณะผู้หญิงเหมือนคนโบราณนุ่งผ้าถุง ห่มสไบสีเขียว เด็กน้อยหัวจุก ไม่ใส่เสื้อมีแต่สร้อยสังวาลสะพายคาดซ้ายขวา ด้วยความตกใจจึงหลับตาพลางนึกว่ากลางวันแสกๆ ต้องตาฝาดแน่ๆ จึงค่อยๆ ลืมตามองอีกครั้ง ครั้งนี้สองร่างนั้นขยับมาอยู่ตรงข้างเตียงแฟนเราจ้องมองมาที่แฟนเรา แต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เหมือนเดิมแฟนเราขยับตัวไม่ได้อีกแล้ว ส่งเสียงก็ไม่ออก นิ่งอยู่อย่างนั้นสักพักใหญ่ จนสองร่างนั้นได้หายไปเอง พอแฟนเราขยับตัวได้ จึงสังเกตุได้ว่าด้านข้าง และหน้าโรงนอนบางส่วนเป็นป่ากล้วยตานี แฟนเรานอนติดกำแพงริมสุดปลายเท้าชี้ไปทางป่ากล้วย จึงคิดได้ว่าน่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้เห็นสองร่างนั้น จึงได้ยกมืออธิษฐานในใจว่าไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ เมื่อเล่าให้เพื่อนเตียงข้างๆ ฟัง วันรุ่งขึ้นเพื่อนย้ายเตียงหนีกันหมดเลย หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอสองร่างนั้นอีกเลย
...เรื่องเล่าในกรม (ทหาร) ของแฟนเรายังไม่จบ ไว้จะมาเล่าต่อในโอกาสต่อไป เพื่อนๆ คิดว่าเรื่องลี้ลับพวกนี้มีจริงไหมคะ ส่วนตัวไม่เคยเจอจังๆ แต่ก็เชื่อว่าอาจจะมีพลังงานบางอย่างที่อยากจะสื่อสารกับเรา เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรบอกเล่ากันได้นะคะ..