เริ่มแรกคือเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อตอนเราอยู่ปี2 น้องแมวที่บ้านที่ธรรมดาจะเคยวิ่งเล่นในบ้านหรืออยู่ได้ตามปกติ เกิดเหตุการณ์แมวข้างบ้านมากัดซึ่งทำให้ขนของแมวหลุดออกมาเยอะมากๆ ทำให้อยู่ดีๆคุณพ่อก็เกิดอาการโมโหขึ้นมาแล้วสั่งให้เอาแมวไปปล่อยวัด รู้มั้ยขนแมวจะเข้าปอด เขาแพ้คนแมว แต่จริงๆแล้วพ่อก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนะคะ ซึ่งแม่กับเราก็พยายามไกล่เกลี่ยพ่อให้เลี้ยงแมวไว้ได้เพราะตั้งแต่ที่เลี้ยงมาก็ไม่เคยมีปัญหา (เรากับแม่เลี้ยงน้องแมวตัวนี้มาตั้งแต่เล็กมากๆรักเหมือนคนในครอบครัว ซึ่งแมวเรามีความพิเศษกับเรามากจริงๆ) สุดท้ายเราได้ตกลงกันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก จนมีวันนึงที่คุณพ่อได้ทำงานบ้านอยู่แล้วเขาได้วางจานข้าวไว้บนพื้น แมวเราที่สงสัยว่าคืออะไร ก็เข้าไปดมทันใดนั้นพ่อก็ไล่ตะคอกจะเตะแมวเรา เราตกใจมากและห้ามเอาไว้ เขาก็เกิดอาการโมโหค่ะแล้วบอกมันมากินข้าวคนได้ไง เราที่เห็นเหตุการณ์ก็อธิบายให้พ่อฟัง แต่เหมือนเขาไม่รับฟังเลยค่ะ เราบอกว่ามันเป็นสัตว์เห็นอะไรวางไว้ก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา แต่พ่อเนี่ยเป็นคนนะน่าจะรู้ว่าควรเอาจานข้าวไว้บนโต๊ะกินข้าวสิ เขาโมโหเรามากค่ะ จนพูดออกมาว่า เดี๋ยวกูฆ่ามัน(แมว)ทิ้งส่ะนิ เราก็โกรธมากเลยค่ะ วันนั้นเลยมีปากเสียงกันใหญ่โตมากและพ่อก็ปาของใส่เราซึ่งมันอันตรายมากๆ เราก็บอกเขาว่าไม่ควรทำร้ายร่างกายแบบนี้นะ เขาก็มาด่ามาว่าเราค่ะว่ากูเป็นพ่อนะ มารักแมวมากกว่าพ่อได้ไง เรางงเลยค่ะ🥲 จากนั้นจึงตกลงกันว่าห้ามให้แมวเราออกจากห้องเราเด็ดขาด (เสียใจมากค่ะสงสารแมวเพราะธรรมดาได้อยู่นอกห้องตลอด) จนวันที่เราต้องไปเรียนมหาลัยไกลบ้านค่ะ เลยตัดสินใจเอาแมวไปอยู่ด้วยค่ะ ทุกอย่างก็ปกติดีเรื่อยๆ แต่พ่อก็จะมีแซะมีพูดมั่งค่ะว่าแมวเนี่ยไม่ดีเลย ขนแมวเขาปอดตายๆ มันทำให้เครียดและจิตตกเวลาต้องกลับบ้านมากค่ะ จนช่วงนึงที่คุณพ่อป่วยค่ะเป็นโรคถุงลมโป่งพอง (ท่านสูบบุหรี่ตั้งแต่หนุ่มๆ ตอนเราเด็กสูบวันละ2ซอง ) เขาก็ได้ทำการรักษาค่ะและได้ไปหาหมอที่ศิริราชแล้วเขาก็มาบอกว่าหมอที่ศิริราชเนี่ยบอกห้ามให้แมวอยู่ในบ้านนะ เพราะตอนนี้ขนแมวเข้าปอดเต็มเลย (เรางงมากว่าเป็นไปได้ด้วยหรอ แล้วไม่ใช่ว่าสาเหตุหลักคือบุหรี่หรอ หมอเขาบอกแบบนั้นจริงหรอเพราะพ่อได้ฟังหมอแค่คนนเดียว😓) เป็นแบบนั้นมาเรื่อยๆพูดกลอกหูเรา กินข้าวก็ยกเอาเรื่องนี้มาพูด จนตอนนี้เหมือนเป็นปมในใจเลยค่ะ มาถึงปัจจุบันตอนนี้อาการคุณพ่อก็ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ลดบุหรี่ได้เยอะมากๆ ดูแลสุขภาพเราอย่างดี แมวเราก็อยู่แต่ในห้องเหมือนเดิม จนเกิดเหตุการณ์ที่ตอนนี้เราปิดเทอมกลับมาบ้านค่ะแค่ครั้งนี้เราเอาแมวไว้ที่บ้าน เรานอนอยู่ๆแม่เข้าห้องมาปลุกเราว่าแมวเราได้หลุดออกไปนอกห้องช่วยกันจับหน่อย เราเครียดมากค่ะเพราะกลัวมีปากเสียงกับพ่ออีก จนเราใกล้จะจับได้แล้วแต่เหมือนพ่อเราเกิดขาดสติอ่ะค่ะไล่ตะคอกแมวเราและไล่จับแมวเรา เราก็ห้ามเขาไว้ บอกทำแบบนั้นทำไมรู้มั้ยจับยากกว่าเดิมอีก มันตกใจ เขาก็มาตะคอกใส่เราค่ะว่ารู้มั้ยแมวมันจะทำให้เขาตาย ตอนนั้นเหมือนที่เราอัดอั้นมานานกํพูดไปเลยค่ะว่าโอ้ยมันตายไม่ได้หรอกพ่อ เขาก็มาบอกเราค่ะว่าขนแมวเข้าปอดเนี่ยรู้มั้ยจะตายๆๆๆ หมอเขาบอกมา เราก็อธิบายด้วยเหตุผลกับหลักวิทยาศาสตร์ค่ะ เขาก็ไม่รับฟังเลย แล้วมาพูดว่าเอางี้ถ้ามีแมวไม่มีพ่อ เขาจะออกจากบ้าน เราโมโหมากค่ะว่าทำไมต้อง Over acting ด้วยจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไมกัน เขาก็มาบอกค่ะว่าเราเถียงเนี่ยไปถามหมอด้วยกันเลยไหม เราก็แน่วแน่ค่ะว่าก็ไปสิก็ไปเลยไปด้วยกัน เขาก็ทำท่าทีอึกอักค่ะ เพราะเราเคยท้าให้เขาพาเราไปถามหมอ สุดท้ายก็ไม่ได้ไป เขาก็ตะคอกและโมโหใส่เราค่ะ เราก็ไม่อยากพูดกับเขาแล้วเพราะเราจะร้องไห้เราเสียใจมากที่เขาทำแบบนี้ จนแม่เรามาบอกว่าขอโทษพ่อสิเร็วๆ เราไม่พอใจมากค่ะ คิดว่าทำไมเราต้องขอโทษเรายังไม่ได้ทำอะไรเขาเลย เราเลยเดินเข้ามาแล้วมานอนร้องไห้ในห้องค่ะ😥 จนตอนนี้ยังไม่รู้ค่ะว่าชะตาแมวเราจะเป็นยังไง เครียดและจิตตกมาก ควรจัดการปัญหานี้ยังไงดีคะ ขนแมวมันเข้าปอดได้ทำไมคุณหมอพูดกับพ่อแบบนั้น มันเป็นเรื่องจริงหรอ เขาบอกเอ็กซเรย์เจอแต่ขนแมว พ่อมั่นใจมากเลยค่ะ เราไปอยากยุ่งกับพ่อเลยค่ะ มันทำให้เราไม่ชอบพ่อมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนมีความเห็นยังไงบ้านคะ ขอคำปรึกษาหน่อยคะ หาทางออกไม่ได้จริงๆ กลับบ้านมาอยากอยู่แบบมีความสุขต้องมาจิตตกระแวงพ่อตลอด ขอบคุณที่อ่านมาจนจบและขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ🙏🏻🙏🏻
ปล.พ่อเราอายุจะ70แล้วค่ะอาจเป็นวัยทองรึป่าว
ปล.2 เขาก็เลี้ยงและเอ็นดูแมวมานานแล้วนะคะอยู่ดีๆมาบอกตัวเองแพ้แมวเฉยเลยค่ะ
ช่วยด้วยค่ะ เรื่องขนแมวเข้าปอดกับคุณพ่อ
ปล.พ่อเราอายุจะ70แล้วค่ะอาจเป็นวัยทองรึป่าว
ปล.2 เขาก็เลี้ยงและเอ็นดูแมวมานานแล้วนะคะอยู่ดีๆมาบอกตัวเองแพ้แมวเฉยเลยค่ะ