ัรับมือกับคนขี้อิจฉายังไงดีคะ

สวีสดีค่ะ หนูเป็นนัศึกษาพยาบาลชั้นปีที่สอง มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือค่ะ  เรื่องมีอยู่ว่าครอบครัวของป้าหนูค่ะ เป็นพี่สาวพ่อ ครอบครัวเขาประกบไปด้วย ป้า น้าที่เป็นลูกป้า แฟนน้า แล้วก็หลานป้าค่ะ อายุพอๆกับหนูค่ะ หนูจะเล่าแบบรวบรัดนะคะ แล้วก้หนูอยากจะถามผู้ใหญ่ทุกท่านว่าคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ค่ะ

คือบ้านนี้อะค่ะ มีปัญหากับญาติหลายคนแล้ว เพราะพวกเขาชอบทำตัวอวดเบ่ง อวดรวย  ซึ่งก็รวยๆจริงๆนั่นแหละค่ะ แบบไม่เห็นหัวคนอื่น ใช้คำพูดเสียดแทงมากค่ะ ตอนเด็กๆหนูก็เคยโดนดูถูก ที่จำขึ้นใจนะคะ ประมาณว่า หนูเรียน รร รัฐบาล แต่ลูกน้า(อายุน้อยกว่าหนู 1 ปี ) เรียนเอกชน อย่าเอามาเทียบกันนะ มันคนละชั้นกัน ประมาณว่า อย่าเอาตัวไปเทียบกับลูกหลานเขาอะค่ะ ซึ่งเมื่อก่อนตอนหนูยังเด็กหนูกับบ้านนั้นไม่มีปัญหากันค่ะ เพราะหนูไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ชอบโดนป้าดุบ่อยๆ เป็นเรื่องที่ ไม่มีเหตุผลเลย อยากดุก็ดุ เมื่อก่อนหนุเป็นคนเงียบค่ะ โดนว่าอะไรก้เงียบ เก็บมาคิดคนเดียว เป็นเด็กเก็บกดไปเลยค่ะ (ลืมบอกไปค่ะ หนูไปทำงานที่บ้านนั้นตั้งแต่ ป.3 - ม.1 ค่ะ เขาก็เลยกลายเป็นผู้มีพระคุณที่ให้งานหนูทำ ซึ่งปัจจุบันไม่ทำแล้วค่ะ แต่น้องสาวหนูไปทำแทน น้องอายุ 12 ขวบค่ะ) ตั้งแต่ออกจากงาน หนูก็ สนใจเรียน ทำงานที่อื่นบ้างช่วงปิดเทอมค่ะ ไม่เคยไปยุ่ง ไปว่าร้ายบ้านนั้นเลย หนูใช้ชีวิตของหนูมาตลอดจนช่วน ปี 1 หนูมีแฟนค่ะ น้องมาเล่าให้ฟังว่า บ้านนั้นเห็นหนูเอารูปแฟนลงสตอรี่ก็พากันพูดว่า ไม่เรียนแล้วมั้ง จะเอาผัวแล้ว ทั้งๆที่หลานสาวเขาก็มีแฟนค่ะ แต่น้องเขาปิดบัง หนูก็ไม่อะไร จนแม่หนูที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งมาหลายปี อาการหนักค่ะ ป้าก็เอาไปเล่าให้คนแถวบ้านฟังว่า หนูกับแฟนผิดผีเลยทำให้แม่ป่วย แล้วก็ชมหลานตัวเองว่าดี ไม่เคมีเรื่องแบบนี้ ( อันนี้เพื่อนมาบอกค่ะ เพื่อนอยู่ในเหตุการณ์) จนแม่เสียค่ะ ก่อนแม่จะเสีย หนูกลับบ้านไปดูใจแม่ค่ะ ในบ้านหนูมีญาติๆมาดูใจแม่เยอะค่ะ ร่วมป้าด้วย แล้วสิ่งที่หนูเห็นคือ ป้ายังเอาเรื่องหนูไปเล่าให้ญาติคนอื่นฟัง เรื่องที่หนูขอพ่อซื้อรถให้ ซึ่งหนูปรึกษากับพ่อแม่แล้วว่าซื้อไหวไหม เป็นรถมอไซมอสองค่ะ ซื้อหลายเดือนแล้ว แต่ป้ายังเอามาพูดว่าหนูไม่นึกถึงพ่อแม่ พ่อเป็นหนี้เพื่อมาซื้อรถให้มัน แต่มันไม่นึกถึงพ่อมันเลย แต่พ่อที่เป็นคนซื้อให้ไม่ว่าอะไรค่ะ พ่อบอก็มันจำเป็น ในบ้านหนูที่แม่นอนหายใจโรยรินอยู่อะค่ะ หนูไม่เข้าใจเลยว่า สถานการณ์แบบนี้ทำไมถึงยังคิดแต่เรื่องว่าร้ายคนอื่น  หนูพาแฟนกลับบ้าน 2 ครั้ง พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่คนที่มีปัญหาคือป้าและลูกหลานเขาค่ะ
พองานแม่ผ่านไปได้ 2 เดือน หนูไปเจอลูกหมาที่ถังขยะหน้าหอพักค่ะสองตัว เลยถามพ่อว่า พ่ออยากเลี้ยงไหม เลี้ยงไหวไหม อีกอย่างไม่อยากให้พ่อเหงาค่ะ แกรักหมา บางทีอาจจะช่วยฮีลใจได้บ้าง พ่อก็ไม่ได้ติดอะไรค่ะ จนช่วงปิดเทอมพ่อก็มารับกลับบ้านพร้อมกับหมาสองตัว ไม่กี่วันป้าก็มาที่บ้าน มาเห็นหมาก็ถามว่าใครเอามา ย่าก็บอกว่าหนูเอามา จากนั้นป้าจัดเลยค่ะ บอกว่า เอามาเป็นภาระพ่อหรอ พวกแกไม่เหนื่อยหรอก พ่ออะเหนื่อย ไม่มีความคิด ไม่ทางเจริญหรอก  ในหัวคือ นี่บ้านเรา มาสร้างความวุ่นวาย แล้วเดินจากไป หนูโกรธมากค่ะ คือจะเอาเรื่องหนูไปเล่าที่อื่นไม่ว่า แต่นี่บ้านหนูอ่ะค่ะ มาจากไหนไม่รู้ๆอยู่ๆก็มาว่าให้กันเลย หนูเลยเอาคลิปนึงลงสตอรี่ค่ะ เป็นคลิปที่พยาบาลพูดเรื่องโรคเกี่ยวกับการแซะค่ะ แล้วก็ลงข้อความเกี่ยวกับคนปากสุนัขโดยไม่เอ่ยชื่อ ไม่ได้หมายถึงใคร แล้วตั้งให้แค่บ้านนั้นเห็นค่ะ ผ่านไป สิบกว่าวันก้ได้รู้ค่ะว่าเขารับรู้ (ทั้งๆที่ไม่ได้เอ่ยชื่อด้วยซ้ำ) น้องหนูอัดคลิปเสียงส่งมาให้ค่ะว่าป้า บอกว่าหนูไปด่าเขา ว่าปากเสีย ถามเอาป้าเขาโรงบาลประสาท หนูนิสัยไม่ดี ไม่รู้จักบุญคุณคน   แล้วก็พูดประมาณว่า

  อีนี่มันไม่มีทางเจริญหรอก สักวันหนึ่งมันล่มจมแน่
  เงินห้าแสน(จากงานศพแม่ค่ะ แม่เป็น  อสม . ) มันก็เอาไปผลาญเล่น กินๆเที่ยว เดี๋ยวก้หมด เงินฟรีมันหมดไว้ ห้าแสนก้เท่าขี้ตีน
  ตอนนี้พ่อมันเชื่อมันอยู่ อยากได้อะไรก็ซื้อให้ แต่พ่อมันอะลำบาก ลุกอยู่สุขสบาย ซื้อโทณศัพ?์ใหม่ ไอแพดใหม่ ใช้เงินสิ้นเปลือง
  พ่อมันยังเชื่อหรอว่าอนาคตมันจะมาเลี้ยง ตอนี้มีแฟนแล้ว เยนจบันก็มีลูกมีผัว มันจะมาเลี้ยงพ่อมันทำไม
  แล้วก็พูดกับน้องหนูว่าทำงานเก็บตังค์นะ อีนั่นมันไม่ส่งเรียนแน่นอน ไม่งั้นไม่มีทางได้เรียนแน่ๆ

ทั้งๆที่ เงินส่วนนั้นเขาไม่มีสิทะเข้ามาวิจารณ์เลยด้วยซ้ำ แล้วหนูก้ไม่ได้แตะเงินที่ได้มาเลย ส่วนใหญ่ที่เสียไปเพื่อเอาไปปรับปรุงบ้าน ซื้อของใช้จำเป็นเข้าบ้านก้เท่านั้น ซึ่งพอป้าไปเห็นว่าปรับปรุงบ้านใหม่ เปลี่ยนชักโครกใหม่ก้หาว่าหนูไปป่าหุพ่อ ทั้งๆที่ การปรับปรุงบ้านให้มันดีขึ้นคนในบ้านก็จะสะดวกสบายขึ้น แล้วคนในบ้านก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เป็นแม่กับน้องเขานั้นแหละค่ะ นอกนั้นก็ไม่ได้เอาไปทำไรเลย มือถือกับไอแพดกซื้อนานแล้วแต่เขาพึ่งเห็น


หนูคิดว่าตอนนี้เรื่องของหนูคงไปไกลแล้ว เขาคงไม่เล่าหรอกค่ะว่าเขาทำอะไรกับหนูบ้างแต่เขาจะเล่าว่าหนูทำอะไรกับเขาบ้าง ตอนนี้หนก็รู้สึกเสียใจนะคะที่ลดค่าตัวเองลงไปยุ่งด่วย พราะไม่กี่วันก็จะทำบุญร้อยวันให้แม่ ก้อาจจะเจอเขาอีก ไม่รู้ว่าในงาน เขาจะจัดหนักหนูไหม เหตุผลหนูมีเต็มร้อยค่ะ แต่คิดว่าคงไม่มีใครฟัง เพราะหนูอายุน้อยกว่า แค่นี้ก็แพ้แล้วค่ะ ตอนนี้หนูไม่ได้โกรธแล้วนะคะถ้าเจอหนูก็จะยกมือไหว้ตามปกติ

คำถามคือ
  หนูกลายเป็นคนที่เนรคุณไปแล้วใช่ไหมคะ ตอนนี้หนูยังไม่เข้าใจค่ะว่า คนที่หยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้พร้อมกับความtoxic ยังคงเป็นผู้มีพระคุณอยู่ไหม
  ถ้าหนูโดนเขาด่าต่อหน้าคนมากๆในงานครั้งหน้า หนูควรทำไงดีคะ นิ่งเฉย หรือตอบโต้อะไรไปบ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่