📌Highlight :
> วันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ นักลงทุนรายย่อยนัดกัน จะหยุดเทรด หลังตลาดหุ้นไทยเกิดวิกฤติความเชื่อมั่นอย่างหนัก

- - - - - -

กระแสข่าวมาแรงเป็นวงกว้าง ในเรื่องของนัดกันหยุดเทรดหุ้นไทยของนักลงทุนรายย่อย ที่ประกาศกร้าวไว้ว่า วันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ จะหยุดเทรดเพื่อแสดงการต่อต้านต่อผู้กำกับดูแลตลาดทุน หลังตลาดหุ้นไทยเกิดวิกฤติความเชื่อมั่นอย่างหนัก จากการทำธุรกรรม Short Sell และการใช้ระบบส่งคำสั่งซื้อขายความถี่สูง (HFT) ที่ไม่เป็นธรรมในการลงทุน

ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า การนัดหยุดเทรดหุ้นของนักลงทุนรายย่อยนั้น จะทำให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นหายไป แต่ก็ยังต้องติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อตลาดหุ้นไทยนั้น จะสามารถทำให้ผู้กำกับดูแลนโยบาย มีความเคลื่อนไหว ต่อการควบคุมการใช้ระบบอัลกอริทึมในซื้อขาย และการทำธุรกรรม Short Sell หรือไม่

ขณะเดียวกัน แนะนำนักลงทุนรายย่อยให้ “อยู่เฉยๆ” ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เพราะปัจจุบันจะเห็นว่าตลาดไม่สามารถเทรดได้แล้ว เนื่องจากมีระบบอัลกอริทึม 30% - 40% ของปริมาณการซื้อขายต่อวัน

ด้าน ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หากมีการนัดหยุดซื้อขายหุ้นของนักลงทุนรายย่อยจริง อาจจะกระทบต่อมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ จากที่นักลงทุนรายย่อยมีสัดส่วนราว 32-33% ของยอดซื้อขายต่อวัน

ทั้งนี้ มองว่าการทำธุรกรรม Short Sell เป็นเครื่องมือในการทำกำไรช่วงขาลง แต่ในอีกมุม ก็เป็นการซ้ำเติมบรรยากาศการลงทุนให้แย่ลงด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า การ Short Sell มาจากระบบอัลกอริทึมในสัดส่วนเท่าไร ซึ่งยังไม่เห็นข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

แม้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะชี้แจงว่าข้อมูลการทำธุรกรรม Short Sell ไม่มีความผิดปกติ แต่นักลงทุนในประเทศก็ยังคงสงสัยอยู่ จากความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงผิดปกติ จะเห็นได้จากหุ้นบางตัวที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เมื่อราคาหลุดแนวรับทางเทคนิคแล้ว ปรากฏว่าราคาปรับตัวลดลงจนไม่สามารถสร้างแนวรับใหม่ได้ ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น

ข่าวเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566
ที่มา : Thairath Money