กูก็ลูกพระยานาหมื่น อยากถามว่า ลูกพระน้ำพระยาสมัยก่อนมีนาเป็นหมื่นไร่เชียวฤ

สมัยนี้ไร่เดียวราคาก็เหยียบล้านแล้ว ใครจะมีครับเป็นหมื่นไร่ ถ้าไม่ใช่ระดับเจ้าสัวเจริญ เจ้าสัวธนินทร์ เจ้าสัวประยุทธิ์
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 20
ศักดินาในสังคมอยุทธยาถึงรัตนโกสินทร์  เป็นตัวเลขที่ใช้กำหนดสถานะของบุคคลในสังคม ทุกคนในสังคมมีศักดินาหมดตั้งแต่พระราชวงศ์ชั้นสูงลงไปถึงไพร่ทาส เป็นจำนวนตั้งแต่สูงสุด 100,000 ไร่ ลงไปถึงต่ำสุดคือ 5 ไร่   โดยจะมีกฎหมายกำหนดว่าใครสามารถมีศักดินาเท่าไหร่ได้บ้าง  ผู้ที่เป็นขุนนางจะต้องมีศักดินา 400 ขึ้นไป

สันนิษฐานว่าเดิมศักดินาอาจเป็นการกำหนดจำนวนที่ดินสูงสุดที่กษัตริย์แบ่งสรรให้ราษฎรถือครองได้  แต่ในเวลาต่อมาเป็นแค่ตัวเลข ไม่ได้สัมพันธ์กับกรรมสิทธิเหนือที่ดินจริงๆ   ชนชั้นต่ำสุดอย่างทาส ลูกทาส ยาจก วณิพก ยังมีศักดินา 5 ไร่  ทั้งที่ในทางปฏิบัติไม่น่าสามารถถือครองที่ดินได้มากขนาดนั้น

ศักดินาใช้บอกลำดับการนั่งเฝ้าในท้องพระโรงของข้าราชการ  ใช้เป็นฐานคำนวณเบี้ยหวัดข้าราชการ  ใช้เป็นฐานกำหนดจำนวนเสมียนทนายที่ผู้มีศักดินา 400 ขึ้นไปสามารถมีได้   ใช้ในการพิจารณาปรับไหมคู่ความในกรณีที่มีข้อพิพาทขึ้นสู่ศาล เช่น เมื่อผู้มีศักดินาสูงกระทำละเมิดผู้มีศักดินาต่ำกว่า จะต้องจ่ายสินไหมชดเชยให้เป็นสัดส่วนตามศักดินาของตน แต่หากผู้มีศักดินาต่ำกระทำละเมิดผู้มีศักดินาสูงกว่า จะต้องจ่ายค่าสินไหมชดเชยตามสัดส่วนศักดินาของคู่กรณีที่มีศักดินาสูงกว่า    เมื่อมีคดีความในโรงศาล ผู้มีศักดินา 400 ขึ้นไปสามารถตั้งทนายว่าความแทนตัวได้

บุคคลเดียวในสังคมที่ไม่มีการกำหนดศักดินาคือพระมหากษัตริย์ เพราะถือว่าทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมดในอาณาจักร ซึ่งจะพระราชทานให้ผู้ใดก็ได้  ศักดินาทั้งหมดจึงมาจากการที่พระมหากษัตริย์มอบให้


นาหมื่น เป็นคำที่ใช้เรียกขุนนางผู้ใหญ่ที่มีศักดินา 10,000 ไร่ ซึ่งเป็นจำนวนศักดินาสูงสุดที่ขุนนางสมัยอยุทธยาสามารถมีได้ซึ่งมีน้อยตำแหน่ง   อ้างอิงจากพระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน และพระไอยการตำแหน่งนาทหารหัวเมือง  ขุนนางที่มีศักดินา 10,000 ประกอบด้วย (บรรดาศักดิ์ไม่ตายตัว)

อัครมหาเสนาบดี

- เจ้าพระยามหาอุปราชชาติวรวงษองคภักดีบดินทรสุรินทรเดโชไชยมหัยสุริยภักดีแสนอญาธิราช

- เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษสมุหนายกอัครมหาเสนาธิบดีอภัยพิริยปรากรมภาหุ เอกอุ สมุหนายก อัครมหาเสนาบดีฝ่ายพลเรือน

- เจ้าพระยามหาเสนาบดีวิริยภักดีบดินทรสุรินทรฤๅไชยอภัยพิริยปรากรมภาหุ สมุหพระกลาโหม อัครมหาเสนาบดีฝ่ายทหาร



เสนาบดีจตุสดมภ์ ฝ่ายพลเรือน

- ออกพญายมราชอินทราธิบดีศรีวิไชยบริรักโลกากรทัณทะราธรกรมพระนครบาลบดีอภัยพิริยปรากรมภาหุ  เสนาบดีกรมพระนครบาล

- ออกพญาธรรมาธิบดีศรีวิริยพงษวงษภักดีบดินทรเดโชไชยมไหยสุริยาธิบดีศรีรัตนมณเฑียรบาลอัครมหาเสนาธิบดีอภัยพิริยปรากรมภาหุ เสนาบดีกรมวัง

- ออกพญาศรีธรรมราชเดชะชาติอำมาตยานุชิตพิพิทรัตนราชโกษาธิบดีอภัยพิริยปรากรมภาหุ เสนาบดีกรมพระคลัง

- ออกพญาพลเทพราชเสนาบดีศรีไชยนพรัตนเกษตราธิบดีอภัยพิริยปรากรมภาหุ เสนาบดีกรมนา



แม่ทัพกรมอาสาหกเหล่า ฝ่ายทหาร

- พระยารามจัตุรงค์ จางวางอาสาหกเหล่า

- ออกพญาศรีราชเดโชไชยอภัยพิริยปรากรมภาหุ เจ้ากรมอาสาเดโชขวา

- ออกพญาศรีราชเดชไชยท้ายน้ำอภัยพิริยปรากรมภาหุ เจ้ากรมอาสาท้ายน้ำซ้าย



ขุนนางพลเรือนนาหมื่นอื่นๆ

- ออกญาพระเสด็จสุเรนทราธิบดีศรีศุภราชพิริยภาหุ  จางวางธรรมการ

- พระมหาราชครูพราหมณ์ในกรมลูกขุน คือ พระมหาราชครูพระครูมหิธรธรรมราชสุภาวดีศรีวิสุทธิคุณวิบูลธรรมวิสุทธิพรมจาริยาธิบดีศรีพุทธาจารย์  และ  พระมหาราชครูพระราชประโรหิตาจารย์ราชสุภาวดีศรีบรมหงษองคบุริโสดมพรหมญาณวิบุลสิลสุจริตวิวิทธเวทยพรหมพุทธาจารย์



เจ้าเมืองชั้นเอก

- เจ้าพระยาสุรศรีพิศมาธิราชชาติพัทยาธิเบศวราธิบดีอภัยพิริยปรากรมภาหุ  เจ้าเมืองพิษณุโลก เอกอุ

- เจ้าพระยาศรีธรรมราชชาติเดโชไชยมไหยสุริยาธิบดีอภัยพิริยปรากรมภาหุ  เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช



เจ้าเมืองชั้นโท

- ออกญารามราชแสนญาธิบดีศรีสัชนาลัยอภัยพิริยปรากรมภาหุ เจ้าเมืองสวรรคโลก

- ออกญาศรีธรรมโศกราชชาติบดินทรสุรินทรฤๅไชยอภัยพิริยภาหุ เจ้าเมืองสุโขทัย

- ออกญารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริยภาหะ เจ้าเมืองกำแพงเพชร

- ออกญาเพชรรัตนสงครามรามภักดีพิริยภาหะ เจ้าเมืองเพชรบูรณ์

- ออกญากำแหงสงครามรามภักดีพิริยภาหะ เจ้าเมืองนครราชสีมา

- ออกญาไชยยาธิบดีศรีณรงคฤๅไชยอภัยพิริยปรากรมภาหุ เจ้าเมืองตะนาวศรี



เจ้าเมืองตรีได้แก่เมืองพิชัย พิจิตร นครสวรรค์ จันทบูร ไชยา  พัทลุง ชุมพร  ในกฎหมายตราสามดวงสมัยรัชกาลที่ 1 ระบุว่าศักดินา 5,000   แต่ในพระไอยการเก่าตำแหน่งนาหัวเมืองฉบับอยุทธยาซึ่งกล่าวถึงเจ้าเมืองตรีฝ่ายเหนือคือเมืองพิชัย พิจิตร นครสวรรค์ ว่ามีศักดินา 10,000  จึงอนุมานว่าเดิมเจ้าเมืองตรีเป็นชั้นนาหมื่น แล้วลดลงมาเป็น 5,000 ในสมัยรัชกาลที่ 1


ส่วนพระยารามณรงค์เมืองสองแควพ่อของการะเกด  บุพเพสันนิวาสฉบับนิยายไม่ได้ระบุว่าเป็นเจ้าเมืองพิษณุโลกหรือเป็นพระยานาหมื่น คุณรอมแพงอธิบายว่าเป็นเพียงขุนนางจากอยุทธยาที่ถูกส่งไปทำราชการที่เมืองพิษณุโลกเท่านั้นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่