คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 32
ละครพรหมลิขิตมันไม่ใช่ละครประวัติศาสตร์ 100%
ฉะนั้น มีน้อยไม่แปลกใจ
จะมาคาดหวังอะไรกับฉากประวัติศาสตร์
เราดูละครเพื่อความสนุก คิดเยอะไปก็ไม่สนุก
คิดเยอะมากก็เลิกดูไปแค่นั้นเอง ไม่ถูกจริตก็แค่เท
เอาตัวเอาออกมาจากจุดนั้น
เราดูบุพเพสันนิวาส และ พรหมลิขิต
ไม่ใช่เพราะเน้นประวัติศาสตร์ เราดูเพราะความความสนุก
ความกุ๊กกิ๊กนี่แหล่ะ มันทำให้เรามานั่งดู
เราดูละคร ไม่มานั่งจับผิดหรอก เสียเวลา
ดูเพื่อความสนุก ผ่อนคลาย ดูแล้วมาจับผิด
ดูแล้วเครียด เป็นเราเลิกดู ชีวิตจะมาเครียดอะไรเยอะแยะ
ฉะนั้น มีน้อยไม่แปลกใจ
จะมาคาดหวังอะไรกับฉากประวัติศาสตร์
เราดูละครเพื่อความสนุก คิดเยอะไปก็ไม่สนุก
คิดเยอะมากก็เลิกดูไปแค่นั้นเอง ไม่ถูกจริตก็แค่เท
เอาตัวเอาออกมาจากจุดนั้น
เราดูบุพเพสันนิวาส และ พรหมลิขิต
ไม่ใช่เพราะเน้นประวัติศาสตร์ เราดูเพราะความความสนุก
ความกุ๊กกิ๊กนี่แหล่ะ มันทำให้เรามานั่งดู
เราดูละคร ไม่มานั่งจับผิดหรอก เสียเวลา
ดูเพื่อความสนุก ผ่อนคลาย ดูแล้วมาจับผิด
ดูแล้วเครียด เป็นเราเลิกดู ชีวิตจะมาเครียดอะไรเยอะแยะ
ความคิดเห็นที่ 43
นี่…ถ้าเธออยากเสพ ประวัติศาสตร์ขนาดนั้น
ไปซื้อดีวีดี หนังหม่อมน้อยมาดูซะนะ เรื่องอะไรนะ ศรีอโยธยาหรือเปล่า
หรือหนัง สุริโยไท ของท่านมุ้ยมาวนดูก็ได้นะ 555
ละครเรื่องนี้ชื่อ พรหมลิขิต นะเธอ “พรหมลิขิต” ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ พระเจ้าท้ายสระ!
หรือถ้าอุตส่าห์ทนดูจากจิ้น จิกหมอน ในพรหมลิขิตไม่ไหวขนาดนั้น
เธอลองกดรีโมทไปดูพญานาค ช่องเจ็ดก็ได้นะ
ไปซื้อดีวีดี หนังหม่อมน้อยมาดูซะนะ เรื่องอะไรนะ ศรีอโยธยาหรือเปล่า
หรือหนัง สุริโยไท ของท่านมุ้ยมาวนดูก็ได้นะ 555
ละครเรื่องนี้ชื่อ พรหมลิขิต นะเธอ “พรหมลิขิต” ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ พระเจ้าท้ายสระ!
หรือถ้าอุตส่าห์ทนดูจากจิ้น จิกหมอน ในพรหมลิขิตไม่ไหวขนาดนั้น
เธอลองกดรีโมทไปดูพญานาค ช่องเจ็ดก็ได้นะ
แสดงความคิดเห็น
พรหมลิขิตเน้นแต่วิถีชาวบ้านกับบทพระนาง เรตติ้งอาจวนแค่ 6-7 ไปจนกว่าจะจบ
ส่วนตอนกลางเรื่องคงได้แค่ 6-7 เพราะมีแต่แฟนละครขาประจำดู ส่วนขาจรคงเทหมด
เพราะไม่มีเนื้อหาอิงประวัติศาสตร์ที่จะมาดึงขาจรให้สนใจใคร่รู้แบบภาคแรก
ขาประจำคงชอบแหละ แต่ขาจรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่และเป็นกลุ่มคนที่ทำให้เรตติ้งพุ่งกระฉูดเหมือนตอนบุพเพฯ คงจะเบื่อกับเนื้อหาจิ้นฟินแบบยัดเยียดแบบนี้
4 ตอนมาแล้วที่ไม่มีพาร์ทประวัติศาสตร์เลย มีแต่วิถีชาวบ้านกับบทกุ๊กกิ๊กของคู่พระนาง
อย่างวันนี้ทั้งตอน เนื้อเรื่องวนในอ่างมาก ประเด็นมีแค่พระนางงอนง้อกัน เน้นแต่ความจิ้นฟิน หมุนตัวมาชนกัน ลบทับกันทั้งตอน
นี่ผู้จัดเขาไม่รู้จริงๆ เหรอว่าที่บุพเพฯ มันดังเพราะมันเป็นละครรักโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ มีตัวละครที่สนใจใคร่รู้ประวัติศาสตร์ตลอดเวลาอย่างเกศสุรางค์ ภาคแรกเกือบทุกตอนเลยจะมีเนื้อหาประวัติศาสตร์มาสอดแทรกเสมอ
แต่พรหมลิขิตเท่าที่ฉายมา มีแค่ 3-4 ตอนที่มีพาร์ทประวัติศาสตร์
ส่วนอีก 7-8 ตอนไม่มีพาร์ทประวัติศาสตร์เลย มีแต่ความรักของคู่พระนางกับวิถีชาวบ้านทั่วไป
กล้าพูดได้เลยว่าพรุ่งนี้ประกาศเรตติ้งก็คงอยู่ที่ 6 หรือ 7 ไม่มีทางขึ้นไปถึง 8