เราไปจัดฟันกับคลินิกทำฟัน ชื่อ Trusr สหคลินิค สาขาซีคอนศรีนครินทร์
ตอนไปปรึกษากับหมอ ฟันล่างมันซ้อน จึงไปขอจัดฟัน หมอบอกไม่ต่ำกว่า 3 ปีครึ่ง เดิมเราถอนฟันมาก่อนมาจัดฟัน 2 ซี่ ระหว่างที่ทำฟัน หมอถอนฟันไป2ซี่ จัดฟันมาหมอมือเบาทุกอย่างผ่านมาเรื่อยๆ ผ่านไปปีที่3 หมอบอกลืมถอนฟัน 1 ซี่ ขณะที่ฟันข้างหน้าเข้าที่เข้าทางแล้ว ทำให้ต้องดึงใหม่ ขยับห่างเข้าออกไปมา มาปีที่ 4 หมอบอกต้องถอนฟันคุดเพราะฟันขยับต่อไม่ได้ ถ้าไม่ยอมถอนก็ดึงได้แค่นี้ ก็คือมันยังไม่ตรงดี ฟันเอียง เราก็ต้องยอมให้ถอนอีก ได้เย็บด้วยนะเพราะเป็นฟันคุดที่โผล่หมดแล้วและไม่ได้ปวด ซี่ใหญ่รากลึก คิดภาพตามนะคะ ว่าช่องฟันจะเหลือเยอะขนาดไหน เมื่อต้นปี 66 ถามหมอว่า อีกกี่เดือนคะ เพราะเห็นว่านานแล้ว หมอบอก 6 เดือน ล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ถามหมออีกนานไหมคะ เพราะตอนนี้ท้องได้เกือบ5 เดือน หมอก็ยังบอกว่า อีก 6 เดือน ยังจะ 6 เดือนอีกหรอคะ ( ต้นปียันปลายปีก็ยังบอก 6 เดือน ) หมอมีถามเราว่าอยู่แถวไหนคะ เราก็บอกปากน้ำสมุทรปราการ หมอบอกหมอไปที่สมุทรปราการด้วยนะคะ มาร์เก็ตวิลเลจสุวรรณภูมิ เราปฏิเสธเพราะไม่สะดวก (ในใจคิดว่าโหวไปไกลกว่าเดิมอยู่ที่เดิมดีกว่า) แต่หมอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหรือจะมีการบอกเรื่องปิดสาขาก็ไม่มี จากนั้นวันที่ 20 พ.ย. เจ้าหน้าที่คลีนิคโทรมาแจ้งสาขาซีคอนศรีนครินทร์จะปิดสาขา ให้นัดวันตามไปหาหมอที่สาขาที่หมอย้ายไปซึ่งมีที่เดียวเท่านั้น นัดได้วันเดียวเท่านั้น เราจึงสอบถามไปทำไมสาขาเพิ่งบอก และทำไมคนไข้ต้องกลายเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้เอง ถ้าอยู่ไกลจะตามไปอย่างไร อีกอย่างเราท้อง ไม่มีรถส่วนตัว ต้องนั่งรถโดยสารหรือแท็กซี่ไปเอง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเพิ่งทราบเหมือนกัน เจ้าหน้าที่บางคนต้องหางานใหม่ และไม่ได้ตามไปยังสาขาใหม่ เรื่องนี้รู้สึกรับไม่ได้และไม่โอเครเลยที่บริษัททำแบบนี้หากมีการหมดสัญญากับทางห้างทำไมไม่เเจ้งล่วงหน้าเนิ่นๆ แล้วการที่หมอย้ายสาขาทำไมไม่ดูแลคนไข้ให้ได้ไปรักษาต่อที่สาขาใกล้บ้าน และรับผิดชอบด้วยการรักษาเคสคนไข้ย้ายสาขา ส่วนของเราเราขอย้ายมาสาขาที่โรบินสันสมุทรปราการ ซึ่งตอนหาหมอที่ซีคอนเราจ่ายครั้งละ 500 เพราะเราใกล้เสร็จแล้ว แต่อุปกรณ์หลุดหรือทำรายการอื่นๆ ก็จ่ายตามรายการ
การย้ายเคสเขาส่งประวัติมาที่ใหม่ก็จริง แต่ก็แล้วแต่หมอว่าจะรับเคสไหม หรือเริ่มใหม่ เรารู้สึกไม่ยุติธรรมตรงข้อนี้ ที่เรารักษามาตั้งนานกลับอาจจะต้องมาเริ่มใหม่รับผิดชอบใหม่เอง โดยอาจจะเริ่มใหม่และจ่ายครั้งละ 1000-1500 บาท ถ้าเป็นกรณีเราไปค่อยไปหาหมอ ขาดหายการจัดฟันไปหลายเดือนหรือเป็นปีแล้วต้องเริ่มใหม่เรารับได้ แต่สาขาจะปิด ทิ้งเราไว้กลางทางให้รับผิดชอบตัวเองว่าจะตามไปหรือเริ่มใหม่ แล้วอย่างน้อยถ้าหมอเห็นแก่คนไข้ที่รักษาด้วยมานาน เราท้อง หมอมีน้ำใจช่วยส่งต่อหรือฝากต่อให้หมอที่เราย้ายสาขา คุยกับหมอให้เราหน่อย ว่าเป็นอย่างไรต่ออย่างไร เราก็จะเข้าใจ วันนี้เราไปเจอหมอคนใหม่ เขาดูฟันเราเกือบ 15 นาที ดูอย่างเดียว ให้อ้าปาก กัดฟัน อยู่แบบนั้น ทั้งส่ายหัว ดูแล้วดูอีก และบอกว่าไปไม่ถูกเริ่มไม่ถูก (เราเข้าใจหมอคนใหม่นะว่าการต่อเคสที่มึนงงแบบของเรา มันก็ทำให้หมอทำงานยาก เพราะหมอคนเก่าดึงช่องฟันไว้ใหม่ ข้างหน้าห่างออกเยอะมากทั้งฟันบนฟันล่าง ห่างจนลิ้นโผล่ได้ ) และสุดท้ายหมอนัดให้มาพบหมออีกคน ว่าทำได้ไหม ถ้าอีกคนไม่ได้ ต้องคุยแพลนรื้อเริ่มใหม่ ถามว่าเริ่มใหม่ไม่รู้นานแค่ไหน เดี๋ยวเราก็ต้องคลอดลูก แล้วต่อไปยังต้องเดินทางไปหาหมออีก จากที่คิดว่าคงเสร็จก่อนคลอดลูก ลากมาจนป่านนี้ รู้สึกเสียใจที่ต้องเจออะไรแบบนี้ ทั้งที่เคยมั่นใจในชื่อสถาบันคลีนิคนี้ แต่ตอนนี้รู้สึกแย่มาก อย่างน้อยทางคลินิกควรจะซัพพอร์ตเราบ้างนะ
เพื่อนๆคิดว่าที่เราคิดมันถูกหรือไม่ ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำอย่างไร บอกเราที ขอบคุณค่ะ
ถ้าเป็นคุณจะรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์นี้
ตอนไปปรึกษากับหมอ ฟันล่างมันซ้อน จึงไปขอจัดฟัน หมอบอกไม่ต่ำกว่า 3 ปีครึ่ง เดิมเราถอนฟันมาก่อนมาจัดฟัน 2 ซี่ ระหว่างที่ทำฟัน หมอถอนฟันไป2ซี่ จัดฟันมาหมอมือเบาทุกอย่างผ่านมาเรื่อยๆ ผ่านไปปีที่3 หมอบอกลืมถอนฟัน 1 ซี่ ขณะที่ฟันข้างหน้าเข้าที่เข้าทางแล้ว ทำให้ต้องดึงใหม่ ขยับห่างเข้าออกไปมา มาปีที่ 4 หมอบอกต้องถอนฟันคุดเพราะฟันขยับต่อไม่ได้ ถ้าไม่ยอมถอนก็ดึงได้แค่นี้ ก็คือมันยังไม่ตรงดี ฟันเอียง เราก็ต้องยอมให้ถอนอีก ได้เย็บด้วยนะเพราะเป็นฟันคุดที่โผล่หมดแล้วและไม่ได้ปวด ซี่ใหญ่รากลึก คิดภาพตามนะคะ ว่าช่องฟันจะเหลือเยอะขนาดไหน เมื่อต้นปี 66 ถามหมอว่า อีกกี่เดือนคะ เพราะเห็นว่านานแล้ว หมอบอก 6 เดือน ล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ถามหมออีกนานไหมคะ เพราะตอนนี้ท้องได้เกือบ5 เดือน หมอก็ยังบอกว่า อีก 6 เดือน ยังจะ 6 เดือนอีกหรอคะ ( ต้นปียันปลายปีก็ยังบอก 6 เดือน ) หมอมีถามเราว่าอยู่แถวไหนคะ เราก็บอกปากน้ำสมุทรปราการ หมอบอกหมอไปที่สมุทรปราการด้วยนะคะ มาร์เก็ตวิลเลจสุวรรณภูมิ เราปฏิเสธเพราะไม่สะดวก (ในใจคิดว่าโหวไปไกลกว่าเดิมอยู่ที่เดิมดีกว่า) แต่หมอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อหรือจะมีการบอกเรื่องปิดสาขาก็ไม่มี จากนั้นวันที่ 20 พ.ย. เจ้าหน้าที่คลีนิคโทรมาแจ้งสาขาซีคอนศรีนครินทร์จะปิดสาขา ให้นัดวันตามไปหาหมอที่สาขาที่หมอย้ายไปซึ่งมีที่เดียวเท่านั้น นัดได้วันเดียวเท่านั้น เราจึงสอบถามไปทำไมสาขาเพิ่งบอก และทำไมคนไข้ต้องกลายเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้เอง ถ้าอยู่ไกลจะตามไปอย่างไร อีกอย่างเราท้อง ไม่มีรถส่วนตัว ต้องนั่งรถโดยสารหรือแท็กซี่ไปเอง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเพิ่งทราบเหมือนกัน เจ้าหน้าที่บางคนต้องหางานใหม่ และไม่ได้ตามไปยังสาขาใหม่ เรื่องนี้รู้สึกรับไม่ได้และไม่โอเครเลยที่บริษัททำแบบนี้หากมีการหมดสัญญากับทางห้างทำไมไม่เเจ้งล่วงหน้าเนิ่นๆ แล้วการที่หมอย้ายสาขาทำไมไม่ดูแลคนไข้ให้ได้ไปรักษาต่อที่สาขาใกล้บ้าน และรับผิดชอบด้วยการรักษาเคสคนไข้ย้ายสาขา ส่วนของเราเราขอย้ายมาสาขาที่โรบินสันสมุทรปราการ ซึ่งตอนหาหมอที่ซีคอนเราจ่ายครั้งละ 500 เพราะเราใกล้เสร็จแล้ว แต่อุปกรณ์หลุดหรือทำรายการอื่นๆ ก็จ่ายตามรายการ
การย้ายเคสเขาส่งประวัติมาที่ใหม่ก็จริง แต่ก็แล้วแต่หมอว่าจะรับเคสไหม หรือเริ่มใหม่ เรารู้สึกไม่ยุติธรรมตรงข้อนี้ ที่เรารักษามาตั้งนานกลับอาจจะต้องมาเริ่มใหม่รับผิดชอบใหม่เอง โดยอาจจะเริ่มใหม่และจ่ายครั้งละ 1000-1500 บาท ถ้าเป็นกรณีเราไปค่อยไปหาหมอ ขาดหายการจัดฟันไปหลายเดือนหรือเป็นปีแล้วต้องเริ่มใหม่เรารับได้ แต่สาขาจะปิด ทิ้งเราไว้กลางทางให้รับผิดชอบตัวเองว่าจะตามไปหรือเริ่มใหม่ แล้วอย่างน้อยถ้าหมอเห็นแก่คนไข้ที่รักษาด้วยมานาน เราท้อง หมอมีน้ำใจช่วยส่งต่อหรือฝากต่อให้หมอที่เราย้ายสาขา คุยกับหมอให้เราหน่อย ว่าเป็นอย่างไรต่ออย่างไร เราก็จะเข้าใจ วันนี้เราไปเจอหมอคนใหม่ เขาดูฟันเราเกือบ 15 นาที ดูอย่างเดียว ให้อ้าปาก กัดฟัน อยู่แบบนั้น ทั้งส่ายหัว ดูแล้วดูอีก และบอกว่าไปไม่ถูกเริ่มไม่ถูก (เราเข้าใจหมอคนใหม่นะว่าการต่อเคสที่มึนงงแบบของเรา มันก็ทำให้หมอทำงานยาก เพราะหมอคนเก่าดึงช่องฟันไว้ใหม่ ข้างหน้าห่างออกเยอะมากทั้งฟันบนฟันล่าง ห่างจนลิ้นโผล่ได้ ) และสุดท้ายหมอนัดให้มาพบหมออีกคน ว่าทำได้ไหม ถ้าอีกคนไม่ได้ ต้องคุยแพลนรื้อเริ่มใหม่ ถามว่าเริ่มใหม่ไม่รู้นานแค่ไหน เดี๋ยวเราก็ต้องคลอดลูก แล้วต่อไปยังต้องเดินทางไปหาหมออีก จากที่คิดว่าคงเสร็จก่อนคลอดลูก ลากมาจนป่านนี้ รู้สึกเสียใจที่ต้องเจออะไรแบบนี้ ทั้งที่เคยมั่นใจในชื่อสถาบันคลีนิคนี้ แต่ตอนนี้รู้สึกแย่มาก อย่างน้อยทางคลินิกควรจะซัพพอร์ตเราบ้างนะ
เพื่อนๆคิดว่าที่เราคิดมันถูกหรือไม่ ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำอย่างไร บอกเราที ขอบคุณค่ะ