สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนเลย อยากจะมาแชร์ความประทับใจ (ด้านลบ55555) เกี่ยวกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือ Samsung S22 Ultra ขออนุญาตเกริ่นสักเล็กน้อย เนื่องจากตัวผมเองใช้โทรศัพท์แบรนด์นี้มานานตั้งแต่ Note 5, Note 9 จนมาถึงปัจจุบัน S22 Ultra ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่นเนื่องจากชอบ และชินกับการใช้งานของแบรนด์นี้แล้ว และชอบตรงปากกาที่สามารถใช้จดงานได้ ก็เลยใช้แต่แบรนด์นี้มาตลอดเริ่มที่
-> Note 5 ใช้งานดีมาก ไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไหร น้องไม่ค่อยงอแงอะไร อาจจะมีตอนปีท้ายๆ (ปีที่ 4) ที่ใช้ หน้าจอเริ่มเสื่อม เลยขายและซื้อเครื่องใหม่คือ Note 9
-> Note 9 ใช้งานดีเหมือนเคย ประทับใจมากเหมือนเดิมในปีแรก แต่ช้าก่อนนนน ความพังกำลังจะเริ่มหลังจากนี้พอหมดประกันปุ๊ปหน้าจอเสื่อมกลายเป็นสีเหลืองทันที ผมเลยส่งโทรศัพท์เข้าศูนย์เพื่อให้เจ้าหน้าที่เช็คอาการ ทางศูนย์แจ้งว่าจอเสื่อมจากอายุการใช้วิธีแก้คือเปลี่ยนจอใหม่ค่าใช้จ่ายประมาณ 6000 บาท แต่ผมไม่ได้เปลี่ยนเนื่องจากราคาแพงเกินไปเลยยอมทนใช้มาเรื่อยๆ (ลืมแจ้งว่าของแฟนผมก็ใช้ note 9 เหมือนกันของแฟนผมก็หน้าจอเสื่อมตามมาหลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน แต่แฟนผมเปลี่ยนหน้าจอกับทางศูนย์) จนขายทิ้งและมาซื้อ S22 Ultra แทน
-> S22 Ultra ปีแรกใช้งานดีมากตามปกติ แต่พอหมดประกันได้เพียงแค่ 2 เดือน ปัญหาเดิมก็กลับมาคือจอเสื่อมครับผม (ประกันผมหมดวันที่ 31 สิงหาคม) โดยผมได้โทรเข้าไปที่ศูนย์บริการ samsung ทางศูนย์มีการประสานงานกับทาง samsung shop ให้โดยที่ผมได้ถามหาความรับผิดชอบจากทาง SS ว่าเครื่องใช้งานมาแค่ 1 ปี 2 เดือนเท่าน้ัน ไม่เคยตก เวลาใช้ก็จะถนอมเป็นพิเศษเนื่องจากราคามันค่อนข้างแพงเราก็อยากใช้เค้าให้นานๆ แต่นี่ทำไมจอถึงเสื่อมเร็วขนาดนี้ ทาง SS จะรับผิดชอบยังไง เพราะ โทรศัพท์ 1 เครื่องราคา 30,000 ++ บาทแต่หน้าจอมีอายุการใช้งานได้ 1 ปี มันดูไม่ค่อยจะเมคเซนส์สักเท่าไร
ซึ่งการแก้ปัญหาของทาง SS ในการจัดการปัญหาหน้านี้คือทาง SS ขอมอบส่วนลด 50% สำหรับการเปลี่ยนหน้าจอซึ่งค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหน้าจอราคาเต็มอยู่ที่ 6,000+ บาท SS ให้ส่วนลด 50% เหลือ 3,000+ บาท แต่ถามจริงๆว่าเราจำเป็นต้องเสียเงินส่วนนี้จริงๆหรอคับ มันสะท้อนให้เห็นถึงความไม่มีคุณภาพของสินค้ามากๆ รวมถึงวิธีการจัดการปัญหาให้ลุกค้าของทาง SS หรือเค้าคิดแค่ว่าให้ส่วนลดไปลูกค้าก็ไม่โวยวายอะไรมากแล้ว สุดท้ายลูกค้าก็คือคนที่เสียผลประโยชน์อยู่ดี ปีแรกจ่ายค่าซื้อเครื่อง 30,000+ บาท ปีที่ 2 จ่ายค่าเปลี่ยนจออีก 6,000+ บาท ถึงแม้จะลดราคาให้ 50% เหลือค่าใช้จ่าย 3000 บาท ถ้าสมมติมีลูกค้าที่มีปัญหาหน้าจอแบบนี้สัก 1,000 คนเท่ากับว่า SS จะได้เงินจากค่าเปลี่ยนหน้าจอ 6,000,000 บาท (ในกรณีที่ไม่ได้ส่วนลด) มีแต่บริษัทที่ได้กับได้ ส่วนลูกค้าที่ใช้มีแต่จ่ายกับจ่าย
ที่สำคัญเรายังจะเชื่อถือในคุณภาพของทางแบรนด์นี้ได้อยู่อีกหรอ ไม่ใช่ว่าใช้ไปอีก 1 ปี หน้าจอก็เสื่อมเหมือนเดิมอีก ซึ่งมีแนวโน้มที่เป็นอย่างนั้นสูงมาก จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เจอกับโทรศัพท์ทั้ง 2 รุ่น (Note 9 และ S22 Ultra) ตอนนี้ถึงน่าจะต้องถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแบรนด์ ย้ายค่ายกันบ้างแล้ว ลาแล้ว Samsung (จุดเด่นคือหน้าจอ จุดอ่อนก็คือหน้าจอเหมือนกัน55555)
ไม่แน่ใจเราสามารถส่งเรื่องนี้ไปที่สคบ.ได้ไหม? และทางสคบ.เค้าจะดำเนินการอะไรให้เราได้บ้างหรือเปล่า เพื่อนๆพอจะรู้คำตอบบ้างไหมครับ หรือถ้าใครเจอปัญหานี้แบบผม เราสามารถรวมตัวกันร้องเรียนไปที่ SS หรือ สคบ. ได้ไหมครับ
SAMSUNG S22 Ultra หมดประกันปุ๊ป หน้าจอไปทันที มีใครเจอปัญหานี้บ้าง
-> Note 5 ใช้งานดีมาก ไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไหร น้องไม่ค่อยงอแงอะไร อาจจะมีตอนปีท้ายๆ (ปีที่ 4) ที่ใช้ หน้าจอเริ่มเสื่อม เลยขายและซื้อเครื่องใหม่คือ Note 9
-> Note 9 ใช้งานดีเหมือนเคย ประทับใจมากเหมือนเดิมในปีแรก แต่ช้าก่อนนนน ความพังกำลังจะเริ่มหลังจากนี้พอหมดประกันปุ๊ปหน้าจอเสื่อมกลายเป็นสีเหลืองทันที ผมเลยส่งโทรศัพท์เข้าศูนย์เพื่อให้เจ้าหน้าที่เช็คอาการ ทางศูนย์แจ้งว่าจอเสื่อมจากอายุการใช้วิธีแก้คือเปลี่ยนจอใหม่ค่าใช้จ่ายประมาณ 6000 บาท แต่ผมไม่ได้เปลี่ยนเนื่องจากราคาแพงเกินไปเลยยอมทนใช้มาเรื่อยๆ (ลืมแจ้งว่าของแฟนผมก็ใช้ note 9 เหมือนกันของแฟนผมก็หน้าจอเสื่อมตามมาหลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน แต่แฟนผมเปลี่ยนหน้าจอกับทางศูนย์) จนขายทิ้งและมาซื้อ S22 Ultra แทน
-> S22 Ultra ปีแรกใช้งานดีมากตามปกติ แต่พอหมดประกันได้เพียงแค่ 2 เดือน ปัญหาเดิมก็กลับมาคือจอเสื่อมครับผม (ประกันผมหมดวันที่ 31 สิงหาคม) โดยผมได้โทรเข้าไปที่ศูนย์บริการ samsung ทางศูนย์มีการประสานงานกับทาง samsung shop ให้โดยที่ผมได้ถามหาความรับผิดชอบจากทาง SS ว่าเครื่องใช้งานมาแค่ 1 ปี 2 เดือนเท่าน้ัน ไม่เคยตก เวลาใช้ก็จะถนอมเป็นพิเศษเนื่องจากราคามันค่อนข้างแพงเราก็อยากใช้เค้าให้นานๆ แต่นี่ทำไมจอถึงเสื่อมเร็วขนาดนี้ ทาง SS จะรับผิดชอบยังไง เพราะ โทรศัพท์ 1 เครื่องราคา 30,000 ++ บาทแต่หน้าจอมีอายุการใช้งานได้ 1 ปี มันดูไม่ค่อยจะเมคเซนส์สักเท่าไร
ซึ่งการแก้ปัญหาของทาง SS ในการจัดการปัญหาหน้านี้คือทาง SS ขอมอบส่วนลด 50% สำหรับการเปลี่ยนหน้าจอซึ่งค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหน้าจอราคาเต็มอยู่ที่ 6,000+ บาท SS ให้ส่วนลด 50% เหลือ 3,000+ บาท แต่ถามจริงๆว่าเราจำเป็นต้องเสียเงินส่วนนี้จริงๆหรอคับ มันสะท้อนให้เห็นถึงความไม่มีคุณภาพของสินค้ามากๆ รวมถึงวิธีการจัดการปัญหาให้ลุกค้าของทาง SS หรือเค้าคิดแค่ว่าให้ส่วนลดไปลูกค้าก็ไม่โวยวายอะไรมากแล้ว สุดท้ายลูกค้าก็คือคนที่เสียผลประโยชน์อยู่ดี ปีแรกจ่ายค่าซื้อเครื่อง 30,000+ บาท ปีที่ 2 จ่ายค่าเปลี่ยนจออีก 6,000+ บาท ถึงแม้จะลดราคาให้ 50% เหลือค่าใช้จ่าย 3000 บาท ถ้าสมมติมีลูกค้าที่มีปัญหาหน้าจอแบบนี้สัก 1,000 คนเท่ากับว่า SS จะได้เงินจากค่าเปลี่ยนหน้าจอ 6,000,000 บาท (ในกรณีที่ไม่ได้ส่วนลด) มีแต่บริษัทที่ได้กับได้ ส่วนลูกค้าที่ใช้มีแต่จ่ายกับจ่าย
ที่สำคัญเรายังจะเชื่อถือในคุณภาพของทางแบรนด์นี้ได้อยู่อีกหรอ ไม่ใช่ว่าใช้ไปอีก 1 ปี หน้าจอก็เสื่อมเหมือนเดิมอีก ซึ่งมีแนวโน้มที่เป็นอย่างนั้นสูงมาก จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เจอกับโทรศัพท์ทั้ง 2 รุ่น (Note 9 และ S22 Ultra) ตอนนี้ถึงน่าจะต้องถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแบรนด์ ย้ายค่ายกันบ้างแล้ว ลาแล้ว Samsung (จุดเด่นคือหน้าจอ จุดอ่อนก็คือหน้าจอเหมือนกัน55555)
ไม่แน่ใจเราสามารถส่งเรื่องนี้ไปที่สคบ.ได้ไหม? และทางสคบ.เค้าจะดำเนินการอะไรให้เราได้บ้างหรือเปล่า เพื่อนๆพอจะรู้คำตอบบ้างไหมครับ หรือถ้าใครเจอปัญหานี้แบบผม เราสามารถรวมตัวกันร้องเรียนไปที่ SS หรือ สคบ. ได้ไหมครับ