สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน ขอแนะนำสันดานตัวเองก่อนนะครับ
ปัจจุบัน ผมอายุ 29 ปีกว่าๆ ครับ กินเหล้าขาว"ทุกวัน"มา 3-4 ปีแล้วครับ
กินแต่รวงข้าว 40 ดีกรี เลิกงานมาต้องมี ขวดเล็กนึง หรือมากกว่า
ถ้าวันหยุดก็ขวดใหญ่นึง หรือมากกว่า อยู่ได้ทั้งวัน
แต่ 1 ปีหลังมานี่ เริ่มกิน"ทั้งวัน"แล้วครับ เพราะไปเจอเหล้าราคาถูกครับ แถวนี้เรียกเหล้าต้มครับ ราคาถูกกว่า และได้เยอะกว่า เลยกินเยอะเลย
เรียกได้ว่า เดินเป๊กทั้งวัน
ปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะได้ป่วยจริงๆซักเท่าไหร่ครับ จะป่วยก็ป่วยการเมืองมากกว่า และก็ไม่อยากไปหาหมอด้วย เพราะว่าโรง'บาลที่รับประกันสังคมมันอยู่ไกลซะเหลือเกิน จะมีก็แค่ไม่กี่ครั้งที่ต้องไปหาหมอจริงๆและทุกๆครั้งที่ไป หมอจะพูดกับผมเหมือนเดิมเสมอ
"ทำไมความดันสูงจัง"
"ความดันค่อนข้างสูงนะคะ"
ทุกๆครั้งที่วัดได้ ก็จะประมาณ 140-160 หมอก็ไม่ได้ว่าอะไร
และผมก็ไม่ได้คิดอะไรเช่นกัน
จนเมื่อ ตุลาคม ปีที่แล้วครับ ผมเป็นโควิด ผมไปหาหมอ วัดความดัน
ความดันผมขึ้นไปถึง 180-220 วัดแล้ววัดอีก พักแล้วพักอีก เท่าเดิมเลย
ตอนนั้นหมอไม่สนใจโควิดผมแล้วครับ เล็งมาที่ความดันผมอย่างเดียวเลย นัดผมเจาะเลือด นัดผมเก็บฉี่ 3 วัน บลาๆ จำได้ว่านัดเยอะมาก
บวกกับช่วงนั้น ผมเปลี่ยนงานใหม่ด้วย เลยไม่สะดวกทำให้หมอจริงๆ
ผมเลยตัดสินใจ "ย้ายโรง'บาลประกันสังคม" หนีหมอเหมือนเดิมครับ
และใ้ช้ชีวิตแบบปกติครับ ทำงาน กินเหล้า นอน ไม่ไปหาหรอกหมอ
นั่นละครับนิสัยผม และมันไม่เคยส่งผลอะไรกับตัวผมเลย
จนวันนึง อาการแปลกๆก็เกิดขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ผมสงสัยครับ
ท้าวความก่อนนะครับ
ย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ผมเกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน
กินอะไรไม่ได้เลย แม้แต้น้ำก็กินไม่ได้ อาเจียนออกหมด และแน่นอน เหล้าก็กินไม่ได้ ฝืนตัวเองไปทำงาน ได้ 2-3 วัน เริ่มไม่ไหว
สุดท้ายต้องไปหาหมออีกครั้งครับ และก็เหมือนเดิมครับ
ความดันโลหิตผมสูงอีกแล้วครับ รอบนี้ 160-180 ครับ
หมอไม่สนใจอาการปวดท้องผมอีกแล้วครับ แต่จะให้รักษาความดัน
เนื่องจากโรง'บาลนี้ เป็นโรง'บาลสุดท้ายที่ใกล้ที่ทำงานที่สุดแล้วครับ
ผมเลยต้องยอมรักษาละครับ หนีไม่ได้ละ
หาหมอครั้งที่ 1 : นับจากรอบนี้ หมอให้ยาแก้ปวดท้อง กับยาลดความดันมา 5 เม็ด และนัดครั้งต่อไป 1 อาทิตย์
**พอหายปวดท้องก็กินเหล้าเหมือนเดิม
หาหมอครั้งที่ 2 : ความดันเหลือ 140-160 ได้ยาลดความดันมา 5 เม็ด และนัดครั้งต่อไป 1 เดือน
**เนื่องจากหมอให้ยามาแค่ 5 เม็ด เลยกะจะเก็บไว้กินตอนอาทิตย์สุดท้ายก่อนไปหาหมอ เลขความดันจะได้สวยๆ
และก็ยังคงกินเหล้าต่อไปเหมือนเดิม
เริ่มมีอาการครั้งที่ 1 : 2 อาทิตย์ ก่อนถึงวันหมอนัด รอบที่ 3 ผมก็กินเหล้าทุกวันเหมือนเดิม แต่วันนั้นน้องเอาเหล้าขาวมาเลี้ยง ผมกินได้ 4-5 เป๊ก
กับแกล้มวันนั้นเป็น กุ้งแช่น้ำปลา กับ ยำมะม่วง ผมกินอย่างละ 4-5 คำ
เริ่มมีอาการปากชา แบบ ตึงๆตรงริมฝีปาก ยังไม่คิดอะไร ยังงงๆอยู่
ผมลุกไปสูบบุหรี่ เริ่มมีอาการเท้าชา ยังรู้สึกอยู่ แต่ยืนไม่ถนัด
เลยกลับมานอนบนเตียง เล่นโทรศัพท์ สักพัก มือเริ่มชา เริ่มจับโทรศัพท์ไม่ถนัด แต่ยังรู้สึกอยู่ ผมเลยนอนกำมือแบมืออยูแบบนั้น สัก 20-30 นาที
อาการเริ่มดีขึ้น แล้วก็หายไปเลย จนถึงวันหมอนัด
หาหมอครั้งที่ 3 : ความดัน 140-160 เหมือนเดิม ได้ยาลดความดัน 30 เม็ด นัดครั้งต่อไป 2 อาทิตย์
เริ่มมีอาการครั้งที่ 2 : รอบนี้ค่อยข้างจะหนักหน่อย เรียงตามลำดับคือ
วันอังคาร ผมไปหาหมอรอบที่ 3
วันพุธ มาทำงานปกติ ตอนเย็น ก็กินเหล้าเหมือนเดิม
กับแกล้มวันนั้นเป็น กุ้งแช่น้ำปลา กับ ส้มตำ กินส้มตำไปคำนึง กินกุ้งไป 5 ตัว เริ่มมือชา ตามด้วยเท้าชา สักพักปากเริ่มเบี้ยว ลิ้นเริ่มแข็ง พูดไม่ได้ มือเกร็ง เท้าเกร็ง แข็งหมด รู้สึกตัวทุกอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้
ได้แต่นอนนิ่งๆ ไปประมาณ 30-40 นาที เริ่มดีขึ้น
วันพฤหัสฯ ไปหาหมอ เล่าทุกอย่างให้หมอฟัง
หมอถามว่า มือชาอยู่มั้ย ผมตอบว่า ชาอยู่นิดหน่อยครับ
หมอสรุปว่าปลายประสาทอักเสบ เพราะทำงานหนัก แล้วให้วิตามินมาบำรุง แค่นั้น จบ....
ตกลงผมเป็นอะไร หรือเพราะอะไรครับ
เป็นเพราะความดันโลหิตสูง หรือผมเป็นอะไรกันแน่???
ปัจจุบัน ผมอายุ 29 ปีกว่าๆ ครับ กินเหล้าขาว"ทุกวัน"มา 3-4 ปีแล้วครับ
กินแต่รวงข้าว 40 ดีกรี เลิกงานมาต้องมี ขวดเล็กนึง หรือมากกว่า
ถ้าวันหยุดก็ขวดใหญ่นึง หรือมากกว่า อยู่ได้ทั้งวัน
แต่ 1 ปีหลังมานี่ เริ่มกิน"ทั้งวัน"แล้วครับ เพราะไปเจอเหล้าราคาถูกครับ แถวนี้เรียกเหล้าต้มครับ ราคาถูกกว่า และได้เยอะกว่า เลยกินเยอะเลย
เรียกได้ว่า เดินเป๊กทั้งวัน
ปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะได้ป่วยจริงๆซักเท่าไหร่ครับ จะป่วยก็ป่วยการเมืองมากกว่า และก็ไม่อยากไปหาหมอด้วย เพราะว่าโรง'บาลที่รับประกันสังคมมันอยู่ไกลซะเหลือเกิน จะมีก็แค่ไม่กี่ครั้งที่ต้องไปหาหมอจริงๆและทุกๆครั้งที่ไป หมอจะพูดกับผมเหมือนเดิมเสมอ
"ทำไมความดันสูงจัง"
"ความดันค่อนข้างสูงนะคะ"
ทุกๆครั้งที่วัดได้ ก็จะประมาณ 140-160 หมอก็ไม่ได้ว่าอะไร
และผมก็ไม่ได้คิดอะไรเช่นกัน
จนเมื่อ ตุลาคม ปีที่แล้วครับ ผมเป็นโควิด ผมไปหาหมอ วัดความดัน
ความดันผมขึ้นไปถึง 180-220 วัดแล้ววัดอีก พักแล้วพักอีก เท่าเดิมเลย
ตอนนั้นหมอไม่สนใจโควิดผมแล้วครับ เล็งมาที่ความดันผมอย่างเดียวเลย นัดผมเจาะเลือด นัดผมเก็บฉี่ 3 วัน บลาๆ จำได้ว่านัดเยอะมาก
บวกกับช่วงนั้น ผมเปลี่ยนงานใหม่ด้วย เลยไม่สะดวกทำให้หมอจริงๆ
ผมเลยตัดสินใจ "ย้ายโรง'บาลประกันสังคม" หนีหมอเหมือนเดิมครับ
และใ้ช้ชีวิตแบบปกติครับ ทำงาน กินเหล้า นอน ไม่ไปหาหรอกหมอ
นั่นละครับนิสัยผม และมันไม่เคยส่งผลอะไรกับตัวผมเลย
จนวันนึง อาการแปลกๆก็เกิดขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ผมสงสัยครับ
ท้าวความก่อนนะครับ
ย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ผมเกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน
กินอะไรไม่ได้เลย แม้แต้น้ำก็กินไม่ได้ อาเจียนออกหมด และแน่นอน เหล้าก็กินไม่ได้ ฝืนตัวเองไปทำงาน ได้ 2-3 วัน เริ่มไม่ไหว
สุดท้ายต้องไปหาหมออีกครั้งครับ และก็เหมือนเดิมครับ
ความดันโลหิตผมสูงอีกแล้วครับ รอบนี้ 160-180 ครับ
หมอไม่สนใจอาการปวดท้องผมอีกแล้วครับ แต่จะให้รักษาความดัน
เนื่องจากโรง'บาลนี้ เป็นโรง'บาลสุดท้ายที่ใกล้ที่ทำงานที่สุดแล้วครับ
ผมเลยต้องยอมรักษาละครับ หนีไม่ได้ละ
หาหมอครั้งที่ 1 : นับจากรอบนี้ หมอให้ยาแก้ปวดท้อง กับยาลดความดันมา 5 เม็ด และนัดครั้งต่อไป 1 อาทิตย์
**พอหายปวดท้องก็กินเหล้าเหมือนเดิม
หาหมอครั้งที่ 2 : ความดันเหลือ 140-160 ได้ยาลดความดันมา 5 เม็ด และนัดครั้งต่อไป 1 เดือน
**เนื่องจากหมอให้ยามาแค่ 5 เม็ด เลยกะจะเก็บไว้กินตอนอาทิตย์สุดท้ายก่อนไปหาหมอ เลขความดันจะได้สวยๆ
และก็ยังคงกินเหล้าต่อไปเหมือนเดิม
เริ่มมีอาการครั้งที่ 1 : 2 อาทิตย์ ก่อนถึงวันหมอนัด รอบที่ 3 ผมก็กินเหล้าทุกวันเหมือนเดิม แต่วันนั้นน้องเอาเหล้าขาวมาเลี้ยง ผมกินได้ 4-5 เป๊ก
กับแกล้มวันนั้นเป็น กุ้งแช่น้ำปลา กับ ยำมะม่วง ผมกินอย่างละ 4-5 คำ
เริ่มมีอาการปากชา แบบ ตึงๆตรงริมฝีปาก ยังไม่คิดอะไร ยังงงๆอยู่
ผมลุกไปสูบบุหรี่ เริ่มมีอาการเท้าชา ยังรู้สึกอยู่ แต่ยืนไม่ถนัด
เลยกลับมานอนบนเตียง เล่นโทรศัพท์ สักพัก มือเริ่มชา เริ่มจับโทรศัพท์ไม่ถนัด แต่ยังรู้สึกอยู่ ผมเลยนอนกำมือแบมืออยูแบบนั้น สัก 20-30 นาที
อาการเริ่มดีขึ้น แล้วก็หายไปเลย จนถึงวันหมอนัด
หาหมอครั้งที่ 3 : ความดัน 140-160 เหมือนเดิม ได้ยาลดความดัน 30 เม็ด นัดครั้งต่อไป 2 อาทิตย์
เริ่มมีอาการครั้งที่ 2 : รอบนี้ค่อยข้างจะหนักหน่อย เรียงตามลำดับคือ
วันอังคาร ผมไปหาหมอรอบที่ 3
วันพุธ มาทำงานปกติ ตอนเย็น ก็กินเหล้าเหมือนเดิม
กับแกล้มวันนั้นเป็น กุ้งแช่น้ำปลา กับ ส้มตำ กินส้มตำไปคำนึง กินกุ้งไป 5 ตัว เริ่มมือชา ตามด้วยเท้าชา สักพักปากเริ่มเบี้ยว ลิ้นเริ่มแข็ง พูดไม่ได้ มือเกร็ง เท้าเกร็ง แข็งหมด รู้สึกตัวทุกอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้
ได้แต่นอนนิ่งๆ ไปประมาณ 30-40 นาที เริ่มดีขึ้น
วันพฤหัสฯ ไปหาหมอ เล่าทุกอย่างให้หมอฟัง
หมอถามว่า มือชาอยู่มั้ย ผมตอบว่า ชาอยู่นิดหน่อยครับ
หมอสรุปว่าปลายประสาทอักเสบ เพราะทำงานหนัก แล้วให้วิตามินมาบำรุง แค่นั้น จบ....
ตกลงผมเป็นอะไร หรือเพราะอะไรครับ