Life Is Beautiful | Official Trailer (HD)
Life is Beautiful Soundtrack - Nicola Piovani
ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง (อังกฤษ: Life Is Beautiful, อิตาลี: La vita è bella) เป็นภาพยนตร์ดราม่าตลกสัญชาติอิตาเลียน กำกับและร่วมเขียนบทภาพยนตร์ โดยโรแบร์โต เบนิญี่ (และยังเป็นนักแสดงนำในบท กุยโด อีกด้วย) มีนักแสดงร่วมด้วย อาทิเช่น นิโคเล็ตต้า บราสชี่, จิออร์จิโอ แคนทารินี่, กุสติโน ดูราโน, ฮอสท์ บุชโฮลซ์, อาเมริโก้ ฟอนตานี่ และมาริซา ปาเรเดส ดนตรีประกอบโดยนิโคล่า พิโอวานี่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนจากหนังสือ In the End, I Beat Hitler โดย Rubino Romeo Salmonì และโดยพ่อของเบนิญี่ซึ่งใช้เวลาสองปีในค่ายกักกันแบร์เกน-เบลเซินในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
กุยโดชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและมองโลกในแง่ดี ชาวยิวในอิตาลี มีความฝันอยากจะเปิดร้านหนังสือของตัวเอง ในปี ค.ศ. 1939 เขาย้ายเข้ามาอยู่ที่อาเรซโซและตกหลุมรักดอร่าครูสาวแสนสวยที่ทำให้ชีวิตเขาเต็มไปด้วยความสุข ทั้งคู่แต่งงานกันและมีลูกชายที่ชื่อว่าจิโอซู กุยโดสามารถเปิดร้านขายหนังสือได้สำเร็จ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่มีการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยนาซีเยอรมนีที่อิตาลี เมื่อจิโอซูอายุได้ 5 ปี กุยโดและจิโอซูถูกพาตัวไปเข้าค่ายกักกัน ส่วนดอร่าถึงแม้จะไม่ใช่ชาวยิว แต่เธอก็ไปยังค่ายกักกันพร้อมกับครอบครัว กุยโดพยายามรักษาภาพอันสวยงามให้กับลูกชาย ในภาวะเหตุการณ์ที่เลวร้ายนี้ เขาต้องคอยโกหกลูกชายอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้มีรอยยิ้ม และมีความหวัง
รางวัลประจำปี ค.ศ. 1998
รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
รางวัลกรังด์ปรีซ์ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
รางวัลภาพยนตร์ยุโรป สาขาภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
รางวัลภาพยนตร์ยุโรป สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
เรื่องย่อ :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ในปี พ.ศ.2482 ในฟาสซิสต์อิตาลี กุยโด โอเรฟิซ เป็นชายหนุ่มเชื้อสายยิวชาวอิตาลีที่เดินทางมาทำงานในเมืองอาเรซโซในทัสคานีซึ่งลุงของเขาเอลิเซโอ ทำงานในร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่ง กุยโดเป็นคนตลกและมีไหวพริบที่เฉียบคม เขาตกหลุมรักหญิงสาวต่างชาติที่ชื่อ ดอร่า ต่อมาเขาได้พบเธออีกครั้งในเมืองโดยที่เธอเป็นครู และเตรียมจะหมั้นหมายกับโรดอลโฟ เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นที่ร่ำรวยแต่มีนิสัยหยิ่งยโส ซึ่งกุยโดเคยพบปะบ่อยๆ กุยโดสร้างเหตุการณ์ "บังเอิญ" ขึ้นมากมายเพื่อแสดงความสนใจในตัวดอร่า
ในที่สุด ดอร่าก็มองเห็นความรักและคำมั่นสัญญาที่จริงใจของกุยโด และเธอยอมจำนนต่อวิจารณญาณที่ดีกว่าของเขา กุยโดพาหญิงสาวหนีจากงานหมั้นของเธอบนหลังม้า ทำให้คู่หมั้นและแม่ของเธออับอาย ทั้งคู่แต่งงานกันในเวลาต่อมา มีลูกชายชื่อ จิโอซู และเปิดร้านหนังสือ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ในปี 1944 เมื่ออิตาลีตอนเหนือถูกยึดครองโดยนาซีเยอรมนี กุยโด, ลุงของเขาเอลิเซโอ และจิโอซู ถูกควบคุมตัวในวันเกิดของจิโอซู พวกเขาและชาวยิวอีกหลายคนถูกบังคับให้ขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าสู่ค่ายกักกัน ดอร่าเผชิญหน้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสถานะของสามีและลูกชายของเธอ แต่เธอได้รับคำตอบว่าไม่มีข้อผิดพลาด ดอร่าจึงอาสาขึ้นรถไฟไปด้วยเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวของเธอ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ชายและผู้หญิงต้องถูกแยกออกจากกันในค่าย ดอร่าและกุยโดจึงไม่ได้เจอกันอีกในระหว่างการถูกคุมขัง กุยโดยอมเสี่ยงภัยอันตรายกระทำการหลายอย่าง เช่น การใช้ลำโพงของแคมป์เพื่อส่งข้อความทั้งที่เป็นสัญลักษณ์หรือตัวอักษรถึงดอร่า เพื่อให้เธอรับรู้ว่าเขาและลูกชายของพวกเขาปลอดภัย เอลิเซโอถูกสังหารในห้องแก๊สไม่นานหลังจากที่พวกเขามาถึง จิโอซูหลีกเลี่ยงการถูกรมควันด้วยแก๊สพิษได้อย่างหวุดหวิดเพราะเขาเกลียดการอาบน้ำ เลยไม่ได้เดินตามเด็กคนอื่นๆไป เมื่อได้รับคำสั่งให้เข้าไปในห้องแก๊สและบอกว่าพวกเขากำลังอาบน้ำ
ในค่าย กุยโดปิดบังสถานการณ์ที่แท้จริงไม่ให้ลูกชายของเขารู้ กุยโดบอกจิโอซูว่าแคมป์นี้เป็นเกมที่ซับซ้อนซึ่งเขาต้องทำงานตามที่กุยโดมอบหมายให้ แต่ละภารกิจจะได้รับคะแนน และใครก็ตามที่ได้รับหนึ่งพันคะแนนก่อนจะเป็นผู้ชนะได้รับรางวัลเป็นรถถังหนึ่งคัน กุยโดยังบอกจิโอซูอีกว่าถ้าเขาร้องไห้ บ่นว่าอยากหาแม่ หรือบอกว่าหิว เขาจะเสียคะแนน ส่วนเด็กเงียบๆ ที่ซ่อนตัวจากผู้คุมค่ายจะได้รับคะแนนพิเศษ บางครั้งจิโอซูก็ไม่อยากที่จะเล่นเกมนี้ต่อไปแล้ว แต่กุยโดก็ได้โน้มน้าวใจให้เขาเล่นต่อในทุกๆครั้ง
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่กุยโดใช้ประโยชน์จากการปรากฏตัวของเจ้าหน้าที่เยอรมันและครอบครัวของพวกเขาเพื่อแสดงให้จิโอซูเห็นว่าเด็กคนอื่น ๆ กำลังซ่อนตัวเป็นส่วนหนึ่งของเกม และเขายังใช้ประโยชน์จากพี่เลี้ยงชาวเยอรมันที่คิดว่าจิโอซูเป็นหนึ่งในหน้าที่ของเธอในการเลี้ยงอาหารเขา ในขณะที่กุยโดรับใช้เจ้าหน้าที่เยอรมัน กุยโดและจิโอซูเกือบจะถูกจับได้ว่าเป็นนักโทษเพราะใช้ภาษาอิตาลีซึ่งไม่ใช่เยอรมันพูดคุยกัน จนกระทั่งพบว่ากุยโดกำลังสอนเด็กๆ ชาวเยอรมันทุกคนให้รู้ถึงวิธีพูด "ขอบคุณ" ในภาษาอิตาลี ซึ่งเป็นกลอุบายที่มีประสิทธิภาพ
กุยโดเก็บเรื่องราวนี้ไว้จนถึงตอนจบ ท่ามกลางความวุ่นวายในการปิดค่ายขณะที่กองกำลังพันธมิตรเคลื่อนพลเข้ามาใกล้ เขาบอกให้ลูกชายซ่อนตัวอยู่ในกล่องจนกว่าทุกคนจะจากไป นี่เป็นภารกิจสุดท้ายในการแข่งขัน แล้วรางวัลรถถังตามที่สัญญาไว้ก็จะตกเป็นของเขา กุยโดไปหาดอร่า แต่เขาถูกทหารเยอรมันจับตัวไว้เสียก่อน เจ้าหน้าที่สั่งให้ประหารชีวิตกุยโด แล้วกุยโดก็ถูกทหารนำตัวออกไป ขณะที่เขากำลังเดินไปสู่ความตาย กุยโดซึ่งเดินผ่านจิโอซูที่ซ่อนตัวอยู่ในกล่องเป็นครั้งสุดท้าย เขาได้ขยิบตาให้โดยที่ยังคงมีบุคลิกท่าทางคล้ายกำลังเล่นเกมอยู่ จากนั้นกุยโดก็ถูกยิงและทิ้งให้ตายในตรอก
เช้าวันรุ่งขึ้นจิโอซูโผล่ออกมาจากกล่องด้วยสภาพที่เหงื่อชุ่มโทรมกาย ขณะที่หน่วยกองทัพสหรัฐฯ ที่นำโดยรถถังเชอร์แมนมาถึง และค่ายแห่งนี้ก็ได้รับการปลดปล่อย จิโอซูรู้สึกมีความสุขมากที่ได้รับชัยชนะในเกมนี้ (เขาไม่รู้ว่าพ่อของเขาเสียชีวิตแล้ว) เขาคิดว่าเขาชนะได้รับรถถังคันนั้น และทหารอเมริกันคนหนึ่งก็ยอมให้จิโอซูขึ้นไปอยู่บนรถถังคันนั้น
ระหว่างที่รถถังเคลื่อนไปตามทางอย่างปลอดภัย ในไม่ช้าจิโอซูก็สังเกตเห็นดอร่า แม่ของเขาซึ่งอยู่ในขบวนของคนที่กำลังเดินออกจากค่าย เขาจึงกลับไปหาแม่เพื่ออยู่ด้วยกันอีกครั้ง แล้วจิโอซูในวัยเยาว์ก็เล่าให้แม่ของเขาฟังอย่างตื่นเต้นว่าเขาได้รับรางวัลรถถังได้อย่างไร เช่นเดียวกับที่พ่อของเขาสัญญาไว้ จิโอซูในวัยที่เป็นผู้ใหญ่ก็เล่าให้ฟังถึงความเสียสละที่พ่อของเขาทำเพื่อเขา และเรื่องราวของเขาในบทพูดคนเดียวตามที่ได้ยิน
Life Is Beautiful | ‘Look at Me, Princess’
Life Is Beautiful | ‘Take Me Away’
๐ โรแบร์โต เบนิญี่ รับบทเป็น กุยโด โอเรฟิซ
๐ นิโคเล็ตตา บราสชี่ รับบทเป็น ดอร่า โอเรฟิซ ภรรยาของกุยโด
๐ จิออร์จิโอ แคนทารินี่ รับบทเป็น จิโอซู โอเรฟิซ ลูกชายของกุยโด
๐ ฮอสท์ บุชโฮลซ์ รับบทเป็น ดร.เลสซิ่ง แพทย์ในค่ายกักกันซึ่งเป็นลูกค้าประจำของร้านอาหารของเอลิเซโอ
๐ กุสติโน ดูราโน รับบทเป็น เอลิเซโอ โอเรฟิซ ลุงของกุยโด
๐ อาเมริโก้ ฟอนตานี่ รับบทเป็น โรดอลโฟ คู่หมั้นของดอร่า
๐ มาริซา ปาเรเดส รับบทเป็น แม่ของดอร่า
Life Is Beautiful Ending
✨️🎬📢 (หนังดีน่าดู) ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง Life Is Beautiful (1998) 📢🎬✨️
รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
รางวัลกรังด์ปรีซ์ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
รางวัลภาพยนตร์ยุโรป สาขาภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
รางวัลภาพยนตร์ยุโรป สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
๐ นิโคเล็ตตา บราสชี่ รับบทเป็น ดอร่า โอเรฟิซ ภรรยาของกุยโด
๐ จิออร์จิโอ แคนทารินี่ รับบทเป็น จิโอซู โอเรฟิซ ลูกชายของกุยโด
๐ ฮอสท์ บุชโฮลซ์ รับบทเป็น ดร.เลสซิ่ง แพทย์ในค่ายกักกันซึ่งเป็นลูกค้าประจำของร้านอาหารของเอลิเซโอ
๐ กุสติโน ดูราโน รับบทเป็น เอลิเซโอ โอเรฟิซ ลุงของกุยโด
๐ อาเมริโก้ ฟอนตานี่ รับบทเป็น โรดอลโฟ คู่หมั้นของดอร่า
๐ มาริซา ปาเรเดส รับบทเป็น แม่ของดอร่า