The Boy in the Striped Pajamas (2008) กับ Life is Beautiful (1997)

แนะนำหนังรางวัลออสการ์!

Life is Beautiful (1997) ความเหมือนที่แตกต่างกันคนละขั้วกับ
The Boy in the Striped Pajamas (2008)



หนังสงครามเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแนวหนึ่ง สมรภูมิแห่งการฆ่าฟันนองเลือดนั้นไม่ได้มีแต่ภาพของผู้ชนะที่สวยงาม สงครามสร้างผลกระทบมากมาย สะท้อนภาพภายในจิตใจ ความกดดันเจ็บปวดและสูญเสีย จึงเริ่มมีการใส่แนวคิดต่อต้านสงครามเข้ามาในหนังหลายต่อหลายเรื่อง และยังคงทยอยทำออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานเมื่อปี 2016 อย่าง Hacksaw Ridge ปีที่แล้วอย่าง Dunkirk หรือภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่เพิ่งเข้าโรงบ้านเราอย่าง Darkest Hour


สำหรับหนังต่อต้านสงคราม หลายคนคงเคยได้ดูหนังเรื่อง The Boy in the Striped Pajamas หนังเมื่อปี 2008 ที่เล่าถึงผลกระทบจากสงคราม ที่เปลี่ยนชีวิตครอบครัวนายทหารใหญ่ชาวเยอรมันให้เต็มไปด้วยบาดแผล เมื่อพวกเขาถูกส่งไปประจำที่บ้านพักใกล้กับค่ายกักกันชาวยิว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ชีวิตที่สุขสบาย มีชาวยิวเป็นคนรับใช้ แต่เต็มไปด้วยความอ้างว้างและคำถามมากมายของเด็กชายเยอรมันที่ต้องการเพื่อน แม้จะเป็นเพื่อนที่ใส่ชุดนอนลายทางในค่ายกักกันก็ตาม



ผมอยากแนะนำหนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่มีเส้นเรื่องคู่ขนานเกิดในช่วงเวลาเดียวกัน แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอย่างเรื่อง Life is Beautiful หนังที่เลือกถ่ายทอดเรื่องราวในฝั่งของครอบครัวชาวยิวที่โดนจับไปอยู่ในค่ายกักกัน ต้องพบเจอกับชีวิตที่ยากลำบากใช้แรงงานเพื่อต่อชีวิตของตัวเอง หนังมีเนื้อเรื่องที่กินใจ หลากหลายอารมณ์ ยอดเยี่ยมไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันแน่นอน



Life is Beautiful อีกหนึ่งหนังรางวัลออสการ์ ในปี 1999 ออสการ์ครั้งที่ 71 ที่เริ่มต้นใช้เวลาเกือบครึ่งเรื่อง เล่าถึงชีวิตที่เรียบง่าย แต่สนุกสนานของชายชาวยิวคนหนึ่ง ให้ค่อยๆซึมซับอุปนิสัยใจคอ ความมีอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี ก่อนจะขมวดปมเข้าสู่ความขัดแย้ง การกีดกันในเรื่องชาติกำเนิดจากฝั่งเยอรมัน



หนังได้เปลี่ยนโทนจากโรแมนติกคอมเมดี้ ให้กลายเป็นดราม่าอย่างเต็มตัว เมื่อทั้งครอบครัวนี้เข้าสู่ค่ายกักกันและถูกแยกชายหญิง พ่อเพียงคนเดียวจะทำยังไงเพื่อปกป้องลูกชายที่เป็นแค่เด็กเล็กๆให้เข้มแข็งและมีชีวิตรอด เขาจึงเริ่มต้นสร้างเรื่องว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นคือ เกมการแข่งขันที่พวกเขาทั้งสองกำลังเข้าร่วม เก็บคะแนนเพื่อชิงรางวัลเป็นรถถัง





ในขณะที่หนังโทนหม่นนี้แสดงออกถึงความรุนแรงของสงคราม ตัวละครผู้เป็นพ่อสามารถทำให้ลืมบรรยากาศซีเรียสเหล่านั้นไปได้ทั้งหมด ด้วยการสร้างมุมมองสงครามสำหรับลูกชายจากดำให้กลายเป็นขาวสนิท แสร้งทำบุคคลิกให้สนุกสนาน บทพูดที่ร่าเริงเพ้อฝันและมุขตลกที่ขัดแย้งกับสถานการณ์กลายเป็นเรื่องตลกร้ายที่แปลกใหม่



หนังใส่อารมณ์ บีบครั้นความรู้สึกหดหู่ที่เกิดจากผู้เป็นพ่อได้อย่างตราตรึงใจ สะท้อนบาดแผลความเจ็บปวดจากสงครามที่จุกอก ยิ้มหัวเราะทั้งน้ำตา แต่อบอวนไปด้วยความรัก ความห่วงใย สานสัมพันธ์ครอบครัวที่มีฉากหลังเป็นสงครามที่โหดร้าย หนังเก็บได้ทุกปมที่วางไว้ได้อย่างเนียนตาและเป็นเหตุเป็นผล


ผลงานกำกับ เขียนบทและนำแสดงที่ส่งให้ Roberto Benigni ผู้รับบทเป็นพ่อคว้ารางวัลออสการ์
- รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
- รางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
- รางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
กับมุมมองสงครามที่พร่ำสอนตลอดทั้งเรื่องว่า ถ้าเลือกที่จะมอง ชีวิตก็งดงามได้จริงๆ

Life is Beautiful (1997)
8.6/10 IMDb
80% Rotten Tomatoes

หากชอบการเขียนเหล่านี้ และเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับหนัง
ฝากติดตามเพจ "ในหนังเรื่องหนึ่ง" ด้วยนะครับ
https://m.facebook.com/nainung.rn/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่