นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาขึ้นมาตลอดตั้งแต่ต้นปี ทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้นมากจนบริษัทเอกชนที่เปราะบางบางรายเกิดปัญหาในการชำระหนี้คืน แต่ในช่วง3 ไตรมาสแรกของปี 66 ตลาดตราสารหนี้ไทยขยายตัวได้ 5.8% จากสิ้นปีที่แล้ว หรือมีมูลค่าเท่ากับ 16.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 96% ของ GDP โดยเพิ่มขึ้นจากพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชน
กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ของนักลงทุนต่างชาติ มียอดการขายสุทธิตราสารหนี้ไทยติดต่อกันอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส ทำให้มียอดการขายสุทธิสะสม 1.5 แสนล้านบาท การถือครองตราสารหนี้ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นไตรมาส 3/66 มียอดรวมที่ 9.4 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.6% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย โดยตราสารหนี้ไทยที่ต่างชาติถือครองมีอายุคงเหลือเฉลี่ยที่ 8.3 ปี เพิ่มขึ้นจาก 8.0 ปี เมื่อ ณ สิ้นปี 65
นายกวี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในภาคตลาดทุนไทยก็ยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับตลาดหุ้นกู้เอกชนในปีหน้าที่จะมีหุ้นกู้ครบกำหนดรวมมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านบาท ที่จะต้องมีการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด (โรลโอเวอร์) หรือรีไฟแนนซ์จำนวนมาก และจากนโยบายรัฐบาลในการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งหากมีการออกพันธบัตรรัฐบาลออกมาอีก 5.6 แสนล้านบาท นั้นก็จะทำให้ดึงเม็ดเงินจากตลาดออกไป โดยจะกระทบบริษัทขนาดเล็ก และขนาดกลางทำให้โรลโอเวอร์หุ้นกู้ หรือรีไฟแนนซ์ ทำได้ยาก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะล้มละลายในปีหน้า
https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/552223
info: ทำสวยดูง่าย
หุ้นกู้ที่อยู่ระหว่างการเสนอขาย :
https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/566835
หุ้นกู้ครบกำหนดชำระคืนในปี 2566 มียอดรวมกว่า 6.51 แสนล้านบาท พีคสุดไตรมาส 2 วงเงินแตะ 169,846 ล้านบาท
กลุ่มไฟแนนซ์ วงเงินรวม 133,564 ล้านบาท
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ วงเงินรวม 127,358 ล้านบาท
กลุ่มไอซีที วงเงินรวม 91,473 ล้านบาท
กลุ่มพลังงาน วงเงินรวม 55,148 ล้านบาท
กลุ่มการสื่อสาร วงเงินรวม 54,477 ล้านบาท
กลุ่มอาหาร วงเงินรวม 49,432 ล้านบาท
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง วงเงินรวม 36,656 ล้านบาท
กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ วงเงินรวม 26,109 ล้านบาท
กลุ่มธนาคาร วงเงินรวม 20,409 ล้านบาท
กลุ่มการเกษตร วงเงินรวม 11,828 ล้านบาท
ปีหน้า 'หุ้นกู้' ครบกำหนด '1ล้านล้าน' บจ.กลาง - เล็กเสี่ยง
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาขึ้นมาตลอดตั้งแต่ต้นปี ทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้นมากจนบริษัทเอกชนที่เปราะบางบางรายเกิดปัญหาในการชำระหนี้คืน แต่ในช่วง3 ไตรมาสแรกของปี 66 ตลาดตราสารหนี้ไทยขยายตัวได้ 5.8% จากสิ้นปีที่แล้ว หรือมีมูลค่าเท่ากับ 16.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 96% ของ GDP โดยเพิ่มขึ้นจากพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชน
กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ของนักลงทุนต่างชาติ มียอดการขายสุทธิตราสารหนี้ไทยติดต่อกันอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส ทำให้มียอดการขายสุทธิสะสม 1.5 แสนล้านบาท การถือครองตราสารหนี้ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นไตรมาส 3/66 มียอดรวมที่ 9.4 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.6% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย โดยตราสารหนี้ไทยที่ต่างชาติถือครองมีอายุคงเหลือเฉลี่ยที่ 8.3 ปี เพิ่มขึ้นจาก 8.0 ปี เมื่อ ณ สิ้นปี 65
นายกวี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในภาคตลาดทุนไทยก็ยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับตลาดหุ้นกู้เอกชนในปีหน้าที่จะมีหุ้นกู้ครบกำหนดรวมมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านบาท ที่จะต้องมีการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด (โรลโอเวอร์) หรือรีไฟแนนซ์จำนวนมาก และจากนโยบายรัฐบาลในการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งหากมีการออกพันธบัตรรัฐบาลออกมาอีก 5.6 แสนล้านบาท นั้นก็จะทำให้ดึงเม็ดเงินจากตลาดออกไป โดยจะกระทบบริษัทขนาดเล็ก และขนาดกลางทำให้โรลโอเวอร์หุ้นกู้ หรือรีไฟแนนซ์ ทำได้ยาก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะล้มละลายในปีหน้า
https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/552223
info: ทำสวยดูง่าย
หุ้นกู้ที่อยู่ระหว่างการเสนอขาย : https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/566835
หุ้นกู้ครบกำหนดชำระคืนในปี 2566 มียอดรวมกว่า 6.51 แสนล้านบาท พีคสุดไตรมาส 2 วงเงินแตะ 169,846 ล้านบาท
กลุ่มไฟแนนซ์ วงเงินรวม 133,564 ล้านบาท
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ วงเงินรวม 127,358 ล้านบาท
กลุ่มไอซีที วงเงินรวม 91,473 ล้านบาท
กลุ่มพลังงาน วงเงินรวม 55,148 ล้านบาท
กลุ่มการสื่อสาร วงเงินรวม 54,477 ล้านบาท
กลุ่มอาหาร วงเงินรวม 49,432 ล้านบาท
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง วงเงินรวม 36,656 ล้านบาท
กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ วงเงินรวม 26,109 ล้านบาท
กลุ่มธนาคาร วงเงินรวม 20,409 ล้านบาท
กลุ่มการเกษตร วงเงินรวม 11,828 ล้านบาท