ช่วงนี้ดอกเบี้ยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น มีการพูดถึงดอกเบี้ยเงินกู้และภาระในการผ่อนบ้านหรือคอนโดค่อนข้างเยอะ
จึงขอแชร์ประสบการณ์ผ่อนบ้านและคอนโด ซึ่งสมัยหนึ่งดอกเบี้ยบ้านเคยขึ้นถึง 14-15%
ผมซึ่งบ้านหลังแรกก่อนต้มยำกุ้งประมาณ 1 ปี กู้ธนาคาร 10 ปี ตอนที่กู้ดอกเบี้ยเงินกู้ยังไม่สูงมาก หลังต้มยำกุ้ง
ดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นไปถึง 14-15% แต่เนื่องจากผมกู้ 10 ปี ดอกเบี้ยขึ้นสูงแต่ค่างวดยังพอ cover ดอกเบี้ย แต่แทบไม่ได้
หักเงินต้น ส่วนเพื่อน ๆ บางคนค่างวดไม่พอดอกเบี้ยก็มี ช่วงนั้นอยู่อย่างประหยัด เพราะช่วงต้มยำกุ้ง นอกจากดอกเบี้ย
แพงแล้ว เงินเดือนไม่ขึ้น โบนัสไม่ได้ หลังต้มยำกุ้ง กลับสู่ปกติ เงินเดือนขึ้น มีโบนัส ผมก็เริ่มโป๊ะ ใช้เวลาผ่อนประมาณ
5 ปีเศษ
การโป๊ะบ้าน กับโป๊ะรถ ต่างกัน
1. โป๊ะบ้าน เนื่องจากดอกเบี้ยจะอยู่ในค่างวดปกติแล้ว เวลาโป๊ะบ้าน จะลดเงินต้นทันที และงวดต่อไปก็คิดดอกเบี้ยจาก
ยอดเงินต้นที่ลดลงภายหลังโป๊ะ ทำให้จำนวนดอกเบี้ยต่องวด พอดอกเบี้ยต่องวดลด ก็หักเงินต้นได้มากขึ้น
2, ส่วนรถ คิดตามตารางเช่าซื้อ ไม่ได้คิดดอกเบี้ยตามเงินต้นคงเหลืองวดที่ผ่านมา การโป๊ะรถจึงทำให้ได้ประโยชน์น้อยกว่า
ประเด็นที่หลายท่านมีความเห็นว่าอยากโป๊ะ แต่จะเอาเงินที่ไหนมาโป๊ะ ประเด็นดังกล่าวอยู่ที่
1. ความพร้อมในการซื้อบ้าน การซื้อบ้านเป็นการก่อหนี้ระยะยาว จึงควรมั่นใจในกระแสเงินสดว่า เพียงพอที่จะชำระเงินกู้
เช่น มีความมั่นคงในการทำงาน มีรายได้ที่แน่นอน ถ้ามีงานที่มั่นคง เงินเดือนปรับขึ้นทุกปี มีโบนัสทุกปี ก็จะมีกระแสเงินสด
เป็นบวก และมีความพร้อมที่จะเจียดเงินมากโป๊ะในส่วนของเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น หรือเมื่อได้รับโบนัส
2. ราคาที่กู้เหมาะสมตามกำลัง และมีเงินเหลือพอที่จะโป๊ะ หลายคนกู้แบบ จ่ายเงินงวดแล้วแทบจะไม่เหลือเงินให้ใช้จ่าย
อย่างนี้โป๊ะไม่ไหวแน่ บางคนเช่าคอนโดเดือนละ 7 พัน (คอนโดราคาล้านต้น) แต่เวลากู้ซื้อคอนโด กู้ 2 ล้าน ตีว่าค่าผ่อน
คอนโดล้านละ 7 พัน กู้ 2 ล้าน ค่างวดประมาณ 14,000 แต่ถ้ากู้คอนโดราคาล้านต้น ก็จะได้คอนโดในสภาพใกล้เคียงกับ
ที่เช่าในปัจจุบัน เสียค่างวด 8-9 พัน ยังเหลือเงินโป๊ะได้เดือนละ 5-6 พัน ระยะยาว เงินเดือนเพิ่มขึ้น โบนัสมากขึ้น ก็โป๊ะ
ได้มากขึ้น ไม่นานก็ผ่อนหมด
เวลากู้ซื้อบ้านหรือคอนโด จึงไม่ได้กู้แบบเต็มขีดความสามารถในการชำระ ทำให้สามารถโป๊ะได้ทุกเดือน คอนโดบางห้อง
ผมโป๊ะได้หมดภายใน 1 ปี หรือเสียดอกเบี้ยไม่ถึง 5 หมื่น
อีกส่วนหนึ่ง คือ ความมุ่งมั่นในการโป๊ะ เวลาเงินเดือนออก สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ โป๊ะ จนพนักงานธนาคารจำได้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง
ตอนที่ผมโป๊ะงวดสุดท้าย ผู้จัดการธนาคารถามว่า ถ้าจะกู้ มาที่สาขาได้เลย
ในส่วนของการเลือกซื้ออสังหา หลายคนอาจคิดว่า ซื้ออสังหาให้ดี ๆ และแพงไปเลย จะไม่ต้องซื้อหลายรอบ ก็เป็นเหตุผลที่
ดี แต่จะทำให้โป๊ะไม่ได้ มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน บางคนซื้อดี ๆ ไปเลย แต่พอหน้าที่การงานดีขึ้น มาตรฐานการดำรงชีวิตสูงขึ้น
ก็ต้องซื้อใหม่เหมือนกัน
สำหรับการโป๊ะจะทำให้ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น ยังใช้จ่ายแบบสบาย ๆ เพียงแต่ไม่ฟุมเฟือย
ทั้งนี้ การซื้ออสังหาอยู่ที่ความพร้อม หากยังไม่พร้อม หรือหน้าที่การงาน / กระแสเงินสดยังไม่มั่นคงเพียงพอที่จะก่อหนี้ระยะยาว
การเช่าก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าครับ
แชร์ประสบการณ์ผ่อนบ้านและคอนโด
จึงขอแชร์ประสบการณ์ผ่อนบ้านและคอนโด ซึ่งสมัยหนึ่งดอกเบี้ยบ้านเคยขึ้นถึง 14-15%
ผมซึ่งบ้านหลังแรกก่อนต้มยำกุ้งประมาณ 1 ปี กู้ธนาคาร 10 ปี ตอนที่กู้ดอกเบี้ยเงินกู้ยังไม่สูงมาก หลังต้มยำกุ้ง
ดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นไปถึง 14-15% แต่เนื่องจากผมกู้ 10 ปี ดอกเบี้ยขึ้นสูงแต่ค่างวดยังพอ cover ดอกเบี้ย แต่แทบไม่ได้
หักเงินต้น ส่วนเพื่อน ๆ บางคนค่างวดไม่พอดอกเบี้ยก็มี ช่วงนั้นอยู่อย่างประหยัด เพราะช่วงต้มยำกุ้ง นอกจากดอกเบี้ย
แพงแล้ว เงินเดือนไม่ขึ้น โบนัสไม่ได้ หลังต้มยำกุ้ง กลับสู่ปกติ เงินเดือนขึ้น มีโบนัส ผมก็เริ่มโป๊ะ ใช้เวลาผ่อนประมาณ
5 ปีเศษ
การโป๊ะบ้าน กับโป๊ะรถ ต่างกัน
1. โป๊ะบ้าน เนื่องจากดอกเบี้ยจะอยู่ในค่างวดปกติแล้ว เวลาโป๊ะบ้าน จะลดเงินต้นทันที และงวดต่อไปก็คิดดอกเบี้ยจาก
ยอดเงินต้นที่ลดลงภายหลังโป๊ะ ทำให้จำนวนดอกเบี้ยต่องวด พอดอกเบี้ยต่องวดลด ก็หักเงินต้นได้มากขึ้น
2, ส่วนรถ คิดตามตารางเช่าซื้อ ไม่ได้คิดดอกเบี้ยตามเงินต้นคงเหลืองวดที่ผ่านมา การโป๊ะรถจึงทำให้ได้ประโยชน์น้อยกว่า
ประเด็นที่หลายท่านมีความเห็นว่าอยากโป๊ะ แต่จะเอาเงินที่ไหนมาโป๊ะ ประเด็นดังกล่าวอยู่ที่
1. ความพร้อมในการซื้อบ้าน การซื้อบ้านเป็นการก่อหนี้ระยะยาว จึงควรมั่นใจในกระแสเงินสดว่า เพียงพอที่จะชำระเงินกู้
เช่น มีความมั่นคงในการทำงาน มีรายได้ที่แน่นอน ถ้ามีงานที่มั่นคง เงินเดือนปรับขึ้นทุกปี มีโบนัสทุกปี ก็จะมีกระแสเงินสด
เป็นบวก และมีความพร้อมที่จะเจียดเงินมากโป๊ะในส่วนของเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น หรือเมื่อได้รับโบนัส
2. ราคาที่กู้เหมาะสมตามกำลัง และมีเงินเหลือพอที่จะโป๊ะ หลายคนกู้แบบ จ่ายเงินงวดแล้วแทบจะไม่เหลือเงินให้ใช้จ่าย
อย่างนี้โป๊ะไม่ไหวแน่ บางคนเช่าคอนโดเดือนละ 7 พัน (คอนโดราคาล้านต้น) แต่เวลากู้ซื้อคอนโด กู้ 2 ล้าน ตีว่าค่าผ่อน
คอนโดล้านละ 7 พัน กู้ 2 ล้าน ค่างวดประมาณ 14,000 แต่ถ้ากู้คอนโดราคาล้านต้น ก็จะได้คอนโดในสภาพใกล้เคียงกับ
ที่เช่าในปัจจุบัน เสียค่างวด 8-9 พัน ยังเหลือเงินโป๊ะได้เดือนละ 5-6 พัน ระยะยาว เงินเดือนเพิ่มขึ้น โบนัสมากขึ้น ก็โป๊ะ
ได้มากขึ้น ไม่นานก็ผ่อนหมด
เวลากู้ซื้อบ้านหรือคอนโด จึงไม่ได้กู้แบบเต็มขีดความสามารถในการชำระ ทำให้สามารถโป๊ะได้ทุกเดือน คอนโดบางห้อง
ผมโป๊ะได้หมดภายใน 1 ปี หรือเสียดอกเบี้ยไม่ถึง 5 หมื่น
อีกส่วนหนึ่ง คือ ความมุ่งมั่นในการโป๊ะ เวลาเงินเดือนออก สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ โป๊ะ จนพนักงานธนาคารจำได้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง
ตอนที่ผมโป๊ะงวดสุดท้าย ผู้จัดการธนาคารถามว่า ถ้าจะกู้ มาที่สาขาได้เลย
ในส่วนของการเลือกซื้ออสังหา หลายคนอาจคิดว่า ซื้ออสังหาให้ดี ๆ และแพงไปเลย จะไม่ต้องซื้อหลายรอบ ก็เป็นเหตุผลที่
ดี แต่จะทำให้โป๊ะไม่ได้ มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน บางคนซื้อดี ๆ ไปเลย แต่พอหน้าที่การงานดีขึ้น มาตรฐานการดำรงชีวิตสูงขึ้น
ก็ต้องซื้อใหม่เหมือนกัน
สำหรับการโป๊ะจะทำให้ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น ยังใช้จ่ายแบบสบาย ๆ เพียงแต่ไม่ฟุมเฟือย
ทั้งนี้ การซื้ออสังหาอยู่ที่ความพร้อม หากยังไม่พร้อม หรือหน้าที่การงาน / กระแสเงินสดยังไม่มั่นคงเพียงพอที่จะก่อหนี้ระยะยาว
การเช่าก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าครับ