คุณสมบัติ จขกท. (ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2568)
อายุ 27 ย่าง 28
รายได้คงที่ต่อเดือน ฐานเงินเดือน 36,460 + ค่า Job 1500 = 37,960 บาท
อายุงานที่ปัจจุบัน 1 ปี 7 เดือน ทำจนถึง 30 ก.ย. 68 จากนั้นจะได้เงินชดเชยเนื่องจากบริษัทปิดตัว

ภาระหนี้สิน
1.รถกระบะ (ISUZU ปี 2016) เดือนละ 8,283 บาท (ณ เดือน เม.ย. 2568 เหลืออีก 50งวด ต้องผ่อนอีกประมาณ 4 ปี)
**ที่บ้านบังคัญให้ออกรถให้น้องสาวของพ่อเลี้ยง พอมีปัญหาจึงไปตามกลับมา**
  : ปัจจุบันผ่อนอยู่ และกำลังหาคนมาเปลี่ยนสัญญานำไปผ่อนต่อฟรีๆและจะแถมเงินให้ สถานะตอนนี้ยังหาไม่ได้
2.มีผ่อนสินเชื่อบัตรเครดิต 2 ใบ (กู้ยืมมาเพื่อดำเนินเรื่องสืบและตามรถคืน + ชำระค่างวดที่อีกฝ่ายค้าง 3 งวดให้เป็นปัจจุบัน)
  : ปัจจุบันผ่อนอยู่ และวางแผนจะปิดยอดด้วยเงินชดเชยตอนต้นเดือน ต.ค. 68
ดังนั้น หลังจากได้ชดเชยและเคลียร์หนี้บัตรแล้วก็จะเหลือแค่ผ่อนรถ

จริงๆแล้วเรื่องรถ เหตุผลที่ไม่อยากเก็บไว้เพราะยังไงก็ไม่ได้ใช้งานอยู่แล้ว เสียเงินผ่อนฟรีๆ
จึงได้ลองปรึกษาคนรู้จักของแม่แฟนที่เขาทำเต้นท์รถ เขาบอกว่าเนื่องจากรถปีมันเก่าและมีตำหนิตามการใช้งาน ราคาจะตกมาก ขายเทิร์นยากมาก
ถ้าจะขายทิ้งเอาเงินไปปิดบัญชี ก็มีส่วนต่าง อย่างน้อยต้องเตรียมเงินไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด 1.4 แสน
ถ้าจะผ่อนต่อไปเรื่อยๆ รอจนได้เงินชดเชย เอามาเป็นส่วนต่างเพื่อขายเต้นท์รถปิดบัญชีกับไฟแนนซ์ เกรงว่าราคารถจะตกและส่วนต่างเยอะกว่านี้ ไม่มั่นใจว่าชดเชยจะเหลือพอกับส่วนต่างไหม

ซึ่งที่วางแผนไว้คืออยากจะลองยื่นกู้บ้านปีหน้า หลังจากอายุงานที่ใหม่ครบ 6 เดือน(ปี 2569) ที่ดูๆแบบที่อยากได้ ส่วนใหญ่ราคาอยู่ประมาณ 3.5 - 4 ล้านบาท
คำถามคือ
1.ถ้ายังคงผ่อนรถต่อไป จะมีสิทธิ์ยื่นกู้ผ่านไหมคะ
2.หรือถ้าแบบในกรณีข้อ 1. ไม่ผ่าน ถ้าเรายังผ่อนรถต่อด้วย ที่ทำงานใหม่ควรมีรายรับเท่าไหร่ถึงจะผ่านเหรอคะ
3.อีกทางคือ ถ้าต้องเคลียร์ภาระรถจริงๆ ทำยังไงถึงจะตัดรถออกไปได้แบบที่ไม่ต้องยืนไฟแนนซ์เหรอคะ (ไม่อยากให้มีประวัติคืนรถ กลัวกระทบกู้บ้าน)

ขอรบกวนช่วยชี้แนะให้หน่อยนะคะ