พบ "สัปเหร่อหญิง" คนเดียวของไทย (บันทึกไว้เมื่อปี 2538)


วัดหลักสี่ / เปิดตัวสัปเหร่อหญิงคนเดียวของประเทศได้วิชามาจากพ่อ แต่ทำอาชีพนี้เพราะเลิกรากับสามี เธอไม่ยอมเปิดเผยตัวเอง แม้รายการโทรทัศน์ตามตัวหลายปี ด้วยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนประหลาดไปจนต้องตามไปดู

นางจำปี แสวงหาโชคลาภ อายุ 45 ปี หน้าตายังอ่อนวัยกว่าอายุ ผมนาวถึงตะโพก เป็นสัปเหร่อมานานหลายปี ได้ร่ำเรียนวิชามาจากพ่อซึ่งเป็นสัปเหร่อเก่า เห็นพ่อทำงานเกี่ยวกับศพมาโดยตลอด เมื่อพ่อตายก็ไปอยู่ที่ตลาดตำบลโกสุม นครสวรรค์ ไปทำการค้าขาย

ไม่เคยได้เข้าชั้นเรียนแม้ภาคบังคับ เรียนแต่วิชาที่เกี่ยวกับศพจากพ่อ มีผู้หญิงหลายคนที่ทำงานเกี่ยวกับศพ แต่ไม่ได้ทำการมัดตราสัง เพราะไม่สามารถทำได้ทุกคน คนที่ทำได้ต้องมีคาถาสะกดเอาไว้ ต้องเป็นคนใจแข็งมาก จิตใจต้องเข้มแข็ง ใจถึง เป็นงานที่ต้องมีครู วันหนึ่งจะมีประมาณ 4 ศพ มีลูกน้องร่วมกันทำงาน 6 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครรับช่วงการมัดตราสังได้

นางจำปีกล่าวต่อไปว่า งานที่เกี่ยวกับศพถือว่าเป็นงานกุศลด้วย ค่าทำศพ 100 บาทขึ้นไป แต่ละวันวุ่นมาก ตั้งแต่แต่งตัวศพ จัดการรดน้ำ ฉีดยา การฉีดยาศพต้องฉีดเข้าเส้นเลือด ต้องหาเส้นเลือดใหญ่ให้พบ อยู่บริเวณเท้าและแขน บางครั้งต้องเย็บผีหัวขาด ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ขาดก็ต้องเย็บเอง คอยดูจนใส่โลง

ที่เข้ามาทำงานนี้ทั้งที่ตอนแรกที่พ่อตายก็ไม่ทำ เพราะว่าเลิกกับสามีซึ่งเป็นคนตีระนาด เล่นดนตรีไทย มีลูกชาย 1 คน เพื่อนแนะนำให้ทำ ว่าเราทำได้เป็นลูกของพ่อ

เคยมีรายการตามไปดูมาขอถ่ายทำสัมภาษณ์ แต่ไม่ยอมเพราะรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นคนประหลาด ต้องตามไปดู ทุกวันนี้มีความสุขดีกับการทำงานเกี่ยวกับศพ ได้ช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง ช่วยเด็กเร่ร่อนให้มีที่อยู่ ให้ข้าวกิน.

บทสัมภาษณ์ ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ชีวิตรายวัน, ปีที่ 1 ฉบับที่ 71, วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2538.

สวัสดี.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่