ก่อนหน้านี้ เหมือนคนไทย จะตระหนักรู้ และเข้าใจปัญหาผีน้อยมากขึ้น ว่าส่วนใหญ่ต้นตอปัญหามาจากเรื่องนี้ และดูมีสติกว่าตอนนี้
แต่ล่าสุด พอมี Influencer มาแชร์เรื่องราว ซึ่งก็มีบางท่านที่เคยมีประวัติไปใช้วีซ่าท่องเที่ยวไม่ตรงจุดประสงค์มาก่อน + บางท่านก็โป๊ะโพสลงเฟสเอง ว่าจะไปทำงาน จนถูกส่งกลับ
จากที่สังเกต จะเห็นว่าคนไทยบางส่วน คล้อยตามไปกับผู้มีชื่อเสียง หรือเหล่า influencer ได้ง่ายมาก
พอเป็นคนที่ตัวเองชื่นชอบ ก็จะเชื่อ 100% ว่าเขาถูก และพร้อมจะให้กำลังใจ และต่อว่าอีกฝั่งโดยไม่ได้ดูว่าอะไรถูกผิดจริงๆ
ช่วงนี้เลยได้เห็นยุคเสื่อมของโซเชียลกลับมาอีกครั้ง ที่คนกำลังจะโทษตัวเองน้อยลง และจะชี้หน้าโทษคนอื่น
“ฝั่งเกาหลี จ้างไปทำงานเอง เราก็ไปได้ ไปจัดการฝั่งคนจ้างสิ เราไม่ผิด”
“ไปฆ่าคน เพราะมีคนจ้างมา ทำเพราะความจน ผมไม่ผิด ต้องไปเอาโทษคนที่จ้าง”
“ไปกราดยิงคน เพราะปืนหาง่าย ผิดที่รัฐเอง ไม่จัดการ ฉันไม่ผิด”
“หนูโขมยของโทษนิดเดียว บางทีก็จับไม่ได้ ตอนนี้จน ก็ต้องทำ ความผิดกฎหมายเอง เบาไป ใครจะกลัว”
“ผู้หญิงคนนี้ ยอมรับนัดผมเอง ยอมไปเมากับผมเอง เท่ากับเธอพร้อมที่จะมีอะไรกับผมก็ได้”
จากการอ่านโซเชียลทุกวันนี้ สังคมไทยกำลังจะเป็นสังคมที่น่ากลัวแบบนี้จริงๆหรือ???
สังคมแห่งการโทษทุกอย่าง ยกเว้นตัวเอง
รู้ว่าผิดก็ยังจะไปโดด เพราะถ้าโดดผ่าน คือความรวยมาเยือน โดยไม่สนประเทศ สนใคร จะโดนผลกระทบอะไร ว่าคนที่เค้า
แต่พอโดนส่งกลับมา ก็ทำตัวเป็นเหยื่อ โพสลงโซเชี่ยล ระบายความแค้นหาพวก ให้เกลียดเกาหลีสวยๆ โดยไม่บอกข้อมูลจริงทังหมด เน้นโยนความผิดให้ฝ่ายตรงข้าม
แทนที่จะปราบผีน้อย แบนผีน้อย แต่คนไทยไปให้แบนเกาหลีแทน มันเกิดอะไรขึ้นกับความคิดแบบนี้ หรือโดน Influenced จนไม่รู้อะไรถูกผิดไปแล้ว
รู้ว่าบางคนก็มืดบอด ก็คงยังมืดบอด กับชุดความคิดเดิมๆ แต่อยากเตือนสติบางคน ที่พอมีความคิดอยู่บ้าง
*** ว่าให้ย้อนกลับไปดูว่าต้นเหตุทั้งปวงมันมาจากอะไร ***
ไม่ใช่มาโวยวายที่ปลายเหตุอย่างเดียว
#แบนเที่ยวเกาหลี กับสังคมไทยที่ถูก Influencer ชักจูงง่ายกว่าที่คิด
แต่ล่าสุด พอมี Influencer มาแชร์เรื่องราว ซึ่งก็มีบางท่านที่เคยมีประวัติไปใช้วีซ่าท่องเที่ยวไม่ตรงจุดประสงค์มาก่อน + บางท่านก็โป๊ะโพสลงเฟสเอง ว่าจะไปทำงาน จนถูกส่งกลับ
จากที่สังเกต จะเห็นว่าคนไทยบางส่วน คล้อยตามไปกับผู้มีชื่อเสียง หรือเหล่า influencer ได้ง่ายมาก
พอเป็นคนที่ตัวเองชื่นชอบ ก็จะเชื่อ 100% ว่าเขาถูก และพร้อมจะให้กำลังใจ และต่อว่าอีกฝั่งโดยไม่ได้ดูว่าอะไรถูกผิดจริงๆ
ช่วงนี้เลยได้เห็นยุคเสื่อมของโซเชียลกลับมาอีกครั้ง ที่คนกำลังจะโทษตัวเองน้อยลง และจะชี้หน้าโทษคนอื่น
“ฝั่งเกาหลี จ้างไปทำงานเอง เราก็ไปได้ ไปจัดการฝั่งคนจ้างสิ เราไม่ผิด”
“ไปฆ่าคน เพราะมีคนจ้างมา ทำเพราะความจน ผมไม่ผิด ต้องไปเอาโทษคนที่จ้าง”
“ไปกราดยิงคน เพราะปืนหาง่าย ผิดที่รัฐเอง ไม่จัดการ ฉันไม่ผิด”
“หนูโขมยของโทษนิดเดียว บางทีก็จับไม่ได้ ตอนนี้จน ก็ต้องทำ ความผิดกฎหมายเอง เบาไป ใครจะกลัว”
“ผู้หญิงคนนี้ ยอมรับนัดผมเอง ยอมไปเมากับผมเอง เท่ากับเธอพร้อมที่จะมีอะไรกับผมก็ได้”
จากการอ่านโซเชียลทุกวันนี้ สังคมไทยกำลังจะเป็นสังคมที่น่ากลัวแบบนี้จริงๆหรือ???
สังคมแห่งการโทษทุกอย่าง ยกเว้นตัวเอง
รู้ว่าผิดก็ยังจะไปโดด เพราะถ้าโดดผ่าน คือความรวยมาเยือน โดยไม่สนประเทศ สนใคร จะโดนผลกระทบอะไร ว่าคนที่เค้า
แต่พอโดนส่งกลับมา ก็ทำตัวเป็นเหยื่อ โพสลงโซเชี่ยล ระบายความแค้นหาพวก ให้เกลียดเกาหลีสวยๆ โดยไม่บอกข้อมูลจริงทังหมด เน้นโยนความผิดให้ฝ่ายตรงข้าม
แทนที่จะปราบผีน้อย แบนผีน้อย แต่คนไทยไปให้แบนเกาหลีแทน มันเกิดอะไรขึ้นกับความคิดแบบนี้ หรือโดน Influenced จนไม่รู้อะไรถูกผิดไปแล้ว
รู้ว่าบางคนก็มืดบอด ก็คงยังมืดบอด กับชุดความคิดเดิมๆ แต่อยากเตือนสติบางคน ที่พอมีความคิดอยู่บ้าง
*** ว่าให้ย้อนกลับไปดูว่าต้นเหตุทั้งปวงมันมาจากอะไร ***
ไม่ใช่มาโวยวายที่ปลายเหตุอย่างเดียว