เรื่องของปืน และ กฎหมาย

หมายเหตุ กระทู้นี้เป็นเรื่องแต่ง ไม่เกี่ยวข้องกับคน และ สถานที่ใดๆ เหตุเกิดที่ประเทศสมมุติ ประเทศKแลนด์
            จากลุงวิศวะ ถึง ป้า ร. ก็เป็นคดีดังทั้งคู่นะ คดีนึงศาลสูงจบไปแล้ว อีกคดี เพิ่งกำลังใหม่ๆเลย เนื่องจากเป็น เป็นคดีเกี่ยวกับปืนทั้งคู่ คดีแรก ต้นเรื่อง เป็นการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต นี่คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด พอเกิดเหตุให้ชวนโมโห(เหตุไม่คาดคิด) ลุงวิศวะก็ขับรถตามกลุ่มคู่กรณีไป(เสมือนตามไปมีเรื่องหรือพาตัวเองไปจุดที่ล่อแหลมให้เกิดการวิวาท) ซึ่งถ้าไม่มีปืนในรถ ลุงวิศวะคงไม่ตามคู่กรณีแน่ๆ จขกท.เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลต้น และ ศาลกลาง แต่ไม่เห็นด้วยกับศาลสูงนะ ไม่ใช่วิจารณ์ หรือ ไม่ยอมรับ แต่ ไม่เห็นด้วย
            ส่วนป้า ร. ยิงลุงอัลไซเมอร์ เหตุเพราะมาป้วนเปี้ยนบริเวณรอบบ้านกลางดึก ไม่ได้เข้าตัวบ้าน ไม่ได้ปินรั้ว ไม่ได้งัดรั้ว แต่เข้ามาในที่รอบบ้านของป้าอันนี้ข่าวใหม่ เมื่อวานนี้เอง อันนี้ยังไงดี จากข่าวได้ข้อหา ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ได้ยิงผู้ตายที่สะโพกไป 1 นัด เป็นปืนลูกซอง ลูก 9 ทั้ง 9 ลูก เข้าเป้า ลุงเสียชีวิตคาที่ ในที่เกิดเหตุศพไม่ถูกเคลื่อนย้าย ในขณะที่ลูกของลุง คาใจ เรื่องการช่วยเหลือลุงในที่เกิดเหตุหรืออาจจะรวมถึงการแจ้งเหตุด้วย ที่ดูเหมือนว่าช้าเกินไป 
            ความเห็นของจขกท.นะ
1 ประชาชนทั่วไปขอมีอาวุธปิน ให้มีการสอบข้อเขียน กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน และ ฎีกาที่เกี่ยวข้อง ยกเเว้น ฎีกาลุง ว. นะ คือประมาณว่า ต้องอ่านหนังสือก่อนไปสอบนั่นละ เช่นจัดเหมือนสอบกพ. เช้า สอบข้อเขียน บ่าย สอบสัมภาษณ์ เรื่องกฎหมาย และ กฏของปืน ไหนท่องให้ฟังหน่อย นักจิตวิทยาร่วมประเมิน ถ้าสอบผ่าน ได้หนังสือรับรองว่าสอบผ่าน
        ปล.มีความรู้นี่ละที่จะป้องกันเหตุได้ จะได้ไม่ต้องอ้างเรื่องเปื่อยอย่างยิงขาไม่ใช่พยายามฆ่า
2 ยกเลิกการใช้หนังสือรับรองของข้าราชการต่างๆ รวมถึงยกเลิกการใช้ ดุลยพินิจของนายอำเภอ สิ่งเหล่านี้เป็นที่มาของการเรียกรับผลประโยชน์ บุญคุณ และ ระบบอุปถัมภ์ ที่ควรจะหมดไปได้แล้ว หากนายทะเบียนไม่อนุญาตต้องมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรที่เผยแพร่ได้โดยต้องเป็นเหตุผลโดยชอบ รวมถึงเรื่องใบรับรองแพทย์ก็ไม่ต้องมี ไร้สาระ ไม่เกี่ยวเลย
3 ประชาชน 1 คน มีปืนครอบครองได้ ไม่เกิน 10 กระบอก นี่ให้เยอะสุดๆแล้วนะ ส่วนยูทูบเบอร์ชื่อดัง หรือ คนใหญ่คนโต ที่มีคลังอาวุธเก็บปินเป็นร้อยนี่ เปลี่ยนเป็นรีวิว สะสม สุรา ดีกว่านะ ดุลยพินิจของนายที่อนุญาตนี่ก็ดีงามจริงๆ คนดัง ผู้มีอิทธิพลมีปืนหลายร้อยได้ แต่ประชาชนทั่วไปที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะมีปืนกระบอกแรกท่านกลับใช้ดุลยพินิจยืดยาวแหมๆ
4 ปรับแก้กฏหมายการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะตอนกลางคืน ให้มากกว่าปรับแค่ 2000 อันนี้รับไม่ได้จริงๆ ส่วนตอนกลางวัน การนำไปที่สนามยิงปืน ก็ต้องแยกปืน แยกลูก เอาไปแต่ปืน หรือ จะอย่างไรที่ไม่ใช่ ปืนขึ้นลำพร้อมใช้ ใกล้มือทุกเวลา 
        ปล.คนดีต้องไม่พกปืนไว้ในรถ โดยไม่มีเหตุอันควร ห้ามเด็ดขาด 
5 โอนลอยนี่มีเยอะ ต้องลงโทษให้หนัก ทั้งเจ้าของปืน และ คนรับโอน เอาให้หนัก อยากซื้อขายปืน ทำให้ถูกต้อง ปืนไม่ใช่ของที่จะเอามาค้ำประกันเงินกู้เงินยืม ส่วนคนที่ต้องการมีปืนก็ทำให้ถูกต้อง
6 การเก็บรักษาปืน ต้องไม่มีเหตุการณ์ลูกเอาปืนพ่อแม่ไปยิงเพื่อนอีก ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าไม่จับพ่อ ผู้ว่าต้องรับผิดชอบแทน
7 ปราบปรามปืนเถื่อน และ ปืนดัดแปลงใช้กระสุนจริงให้หมดไป
8 ศาลสูงควรพิจารณาคดีโดยผู้พิพากษาอย่างน้อยสามคน ในคดีที่มีผู้เสียชีวิต หรือ คดีที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด คือพักหลังๆนี่ ดูจะสวนกับศาลต้นและศาลกลางบ่อยๆ ศาลต้น-กลาง มักจะตัดสินเหมือนกัน ศาลสูงแหวกแนวค่อนข้างเยอะ พนักงานสอบสวนคนทำสำนวนนี่อย่างมึน ทำให้ทุกคดีต้องไปศาลสูงหมดหรือไม่? แต่ถ้าเป็นคดีแพ่งศาลสูงจะพิจารณาคดีโดยผู้พิพากษาคนเดียวก็โอเคร ยกตัวอย่างจริงๆ ของประเทศจริงๆ คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมี ศาลสูงสหรัฐ U.S. supreme court สูงสุดละ เท่าที่อเมริกามี พิจารณาคดีโดยผู้พิพากษา 9 คน เรียกว่าสูงสุดในประเทศนี้ละ แล้วก็จะมีศาลสูงสุดในแต่ละรัฐ หรือ ศาลศูงสุดมลรัฐ highest state court ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศจริงๆอย่างไทย เรียกว่าศาลจังหวัดได้ไหม? ศาลศูงสุดมลรัฐ ใช้ผู้พิพากษา 3-9 คน คดีแบบไหนใช้ 3 คน แบบไหนใช้ 9 คน อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน 
         ส่วนศาลที่เล็กกว่าอย่าง ศาลอุทธรณ์มลรัฐ พิจารณาคดีโดยผู้พิพากษา 2-3 คน คือยังไงก็ต้องมากกว่า 1 คน อยู่ดี ส่วน ศาลชั้นต้นของมลรัฐจะพิจารณาคดีโดยมีผู้พิพากษาเพียง 1 คน ก็ตามที่เห็นในหนังฮอลลีวูดนั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่