สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน
เราเป็นคนนึงที่ชอบฟัง ชอบอ่านเรื่องผีและชอบดูหนังผีมาก (แต่กลัวผีนะ 555)
หลังจากเป็นผู้ฟัง ผู้อ่าน ผู้ดูแล้ว ก็อยากเป็นผู้เล่าบ้าง
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อราวๆ พ.ศ. 2557 เมื่อประมาณ 11 ปีก่อน แต่ชื่อสถานที่และชื่อของเพื่อนกับคนที่เกี่ยวข้องเราขอใช้นามสมมติแทนนะคะ
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ หลังจากเล่าแล้วเราไม่อยากมีปัญหาในภายหลัง เป็นการถนอมน้ำใจคนรอบครัวญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
เอาล่ะค่ะมาเริ่มกันเลย
เรื่องเกิดขึ้นประมาณปี 2557 ตอนนั้นเรากำลังเรียนชั้นปีที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคอีสาน(ขอสงวนชื่อนะคะ) ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้เป็น มอ ประจำจังหวัดแต่แปลกที่ถูกสร้างเอาไว้นอกตัวอำเภอเมือง การเดินทางถ้าเดินทางตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ถ้าตอนกลางคืนจะหลอนๆ หน่อย เพราะบางจุดไม่มีไฟถนน และถนนเส้นนั้นคนมักจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกันบ่อยมากจนถูกขนานนามว่าถนนผีดุ เพราะมักจะมีคนเห็นผีในยามค่ำคืน
เรามีเพื่อนสนิทคนนึงชื่อหมิว(นามสมมติ) รู้จักกันตอนเรียนปี 1 เพราะอยู่คณะและสาขาเดียวกัน ช่วงแรกๆ เพื่อนจะพักอยู่หอในมหาวิทยาลัยเพราะมาจากจังหวัดอื่น แต่ไม่นานก็ออกไปอยู่หอนอกเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะหอในต้องอยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ที่ไม่รู้จักหลายคน เนื่องจากมหาวิทยาลัยเป็นคนสุ่มให้
หมิวชอบความเป็นส่วนตัวแต่ก็เฟรนลี่กับเพื่อนๆ จะชอบชวนเพื่อนไปนอนด้วยกันบ่อยๆ พอสนิทกันมากขึ้นเราก็เลยชวนเพื่อนไปเล่นที่บ้านบ้าง ซึ่งบ้านของเราจะอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเกือบ 10 กิโลเมตร (เวลาไปเรียนขับรถไปกลับเพราะต้องอยู่เป็นเพื่อนแม่) เอาจริงๆ บ้านเราก็นับว่าอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยพอสมควร แต่แปลกที่เพื่อนๆ ชอบมาเล่นที่บ้านบ่อยๆ บางคนมาค้าง บางคนมาอยู่ด้วยเป็นเดือน บางคนอยู่ด้วยเป็นปีโดยให้เหตุผลว่าบ้านเราสงบดี ซึ่งหมิวก็เป็นหนึ่งนั้นด้วย
เราเป็นคนกลัวผีแต่ชอบดูหนังผีมาก จะชอบชวนเพื่อนๆดูหนังผีและเล่าเรื่องผีตลอด วันนึงขณะที่กำลังเล่าเรื่องผีกันอยู่ จู่ๆหมิวก็พูดขึ้นมาว่าเขาเห็นผี เพราะตอนเด็กเคยประสบอุบัติเหตุเกือบตาย พอรอดมาได้ก็เห็นมาตลอด (นางไม่กลัวผีนะ) หมิวไม่เคยบอกใครนอกจากคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทรวมถึงตัวเราด้วย ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อหมิวเลย เพราะคิดว่าหมิวพูดเล่น แต่หมิวก็ยืนยันว่าเห็นจริงๆ และที่สำคัญหมิวเห็นผีอยู่ในมหาวิทยาลัยและที่บ้านของเราด้วย!
หมิวบอกว่าผีที่เห็นในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา บ้างก็เป็นผีคนแก่ มีเด็กบ้างปะปนกัน โดยเฉพาะในหอในมีเยอะมาก บางครั้งก็เห็นผีแม่บ้านมาทำความสะอาด (คนลือกันว่าก่อนจะสร้างมหาวิทยาลัยเคยเป็นป่าช้ามาก่อน) หมิวจะชอบถามว่าใส่พระหรือเปล่าตลอด แล้วก็บอกว่าห้ามถอดพระออกเด็ดขาดเพราะผีคอยตามเราอยู่(
ละ) ส่วนผีที่อยู่ในบ้านเจ้าของเรื่อง หมิวบอกว่าส่วนใหญ่เวลาตื่นมากลางดึก จะเห็นผีมายืนล้อมเตียงบางตัวก็นั่งอยู่ปลายเตียง หนักหน่อยก็ปีนเตียงไต่ขึ้นมาหาหมิวกับเราที่กำลังนอนอยู่ แต่แป๊บเดียวก็หายไป เพราะเราใส่พระตอนนั้นเราก็ยังไม่เชื่อนะ คิดว่าเพื่อนหยอก เพราะคิดว่าเรากลัวผี
เวลาผ่านไปจนขึ้นปี 3 หมิวยังคงไปมาหาสู่บ้านเราตลอด แต่ไม่ได้มานอนด้วยกันบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน จะมาเฉพาะเวลาทำรายงานหรือโปรเจคส่งอาจารย์ วันนั้นเป็นเวลาประมาณ 17:30 น. เจ้าของเรื่องเล่นเฟสบุ๊คอยู่ หมิวก็ทักมาบอกว่าจะมาทำรายงานด้วย กำลังจะขับรถออกมาเราก็ตอบตกลงแล้วเล่นเฟสบุ๊คต่อ
ไม่นานมากหมิวก็มาถึง แล้วก็มาเล่าให้ฟังว่าระหว่างทางบังเอิญเจออุบัติเหตุ จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับซอยข้างๆ โรงงานทำอิฐบล็อคตรงข้ามกับร้านขายไม้ประดับข้างทาง ซึ่งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุผลและมีคนตายเยอะ ด้วยความอยากรู้หมิวเลยลงจากรถแล้วข้ามถนนไปดู เห็นมีรถแท๊กซี่จอดอยู่คันนึงในสภาพหน้ารถยุบ ล้อหลุดจากการชนกับรถจักรยานยนต์หลายคันสอบถามได้ความว่ารถแท็กซี่ขับมาเร็วมากทำให้เสียหลักข้าเลน มาชนรถจักรยานยนต์ที่ขับตามกันมาหลายคัน ทำให้มีคนตาย 2 คน เป็นชายวัยรุ่นคนนึง ชายชราคนนึง ส่วนผู้หญิงวัยกลางคนบาดเจ็บ หมิวเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ก็ถูกกู้ภัยกั้นไว้ จังหวะนั้นหมิวเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนึงผมยาวๆใส่เสื้อโปโลสีฟ้า กางเกงวอร์มสีดำ นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ชายป่าข้างทาง ก็นึกแปลกในว่าทำไมกู้ภัยไม่เข้าไปช่วย แต่พอสังเกตดูดีๆ แล้วเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีเท้าทั้ง 2 ข้างเลยถึงบางอ้อว่าเป็นผี เลยรีบขับรถมาที่บ้านเจ้าของเรื่องทันที
ตอนที่ได้ฟังเจ้าของเรื่องรู้สึกสงสารคนตาย แต่ก็ยังไม่เชื่อนะว่าหมิวมันเห็นผี จนประมาณเกือบ 1 ทุ่ม เพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยมชื่อซัน (นามสมมติ) ทักเฟสบุ๊คมาบอกว่าเพื่อนเก่าที่ชื่อปู (นามสมมุติ)ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก็ตกใจมาก รู้สึกสงสารเพื่อนเพราะปูเป็นคนดีมากๆ เราเลยถามไปว่าปูเสียตรงไหน ซันบอกว่าปูโดนรถแท็กซี่ข้ามเลนมาชนปูกับแฟนอย่างจัง ทำให้แฟนปูเสียชีวิตคาที่ ส่วนปูตอนแรกหาศพไม่เจอ และกู้ภัยไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะตอนมาถึงที่เกิดเหตุกู้ภัยมาเจอแต่ศพแฟนปู ศพคนแก่ คนเจ็บที่เป็นผู้หญิงวัยกลางคน และแท็กซี่กำลังยืนให้ปากคำตำรวจอยู่เท่านั้น แต่สาเหตุที่ทำให้รู้ว่าปูตายออกจะดูหลอนๆ หน่อย
เพราะหลังจากที่เก็บศพในผ้าดิบเสร็จแล้วจะยกศพขึ้นรถ เพื่อส่งชันสูตร ศพคนแก่ยกขึ้นได้สบายๆ แต่ศพแฟนปูยกไม่ขึ้น ยกกันหลายคนก็ยกไม่ขึ้นเพราะหนักเหมือนหิน จุดธูปก็แล้ว ขออนุญาตก็แล้ว ยังไงก็ยกไม่ขึ้น จนกู้ภัยคนนึงเดินไปดูดบุหรี่ที่ชายป่า แล้วเจอกับรองเท้าผ้าใบผู้หญิง ตอนแรกคิดว่าเป็นของคนเจ็บ แต่คนเจ็บใส่รองเท้าแตะ เลยเอะใจไปบอกทีม กู้ภัยเลยส่องไฟฉายเข้าไปตรวจชายป่าข้างทาง แล้วตัดสินใจพากันเข้าไปหาข้างในป่า ไม่นานก็เจอศพปูในสภาพคอหักนอนอยู่ที่พื้น กู้ภัยมารู้ที่หลังจากญาติปูว่า ปูเป็นแฟนกับผู้ชายที่ตาย เลยทำให้เข้าใจว่า สาเหตุที่ยกศพแฟนปูไม่ขึ้น เป็นเพราะแฟนปูอยากให้รู้ว่ามีศพของปูอีกคนที่กระเด็นเข้าไปตกอยู่ในป่าข้างทาง และเชื่อไหมว่าหลังจากเจอศพปูแล้ว กู้ภัยก็สามารถนกศพแฟนปูขึ้นรถได้แบบสบายๆ
หลังจากศพปูถูกนำไปที่โรงพยาบาล เพื่อนที่ตามไปดูศพ ก็ได้ถ่ายรูปปูมาให้ดู ปูอยู่ในสภาพแขนหัก คอหัก และตรงเปลือกตาขวาหลุดออก ปล่อยผมยาว ใส่เสื้อโปสีฟ้า กางเกงวอร์มสีดำ และที่สำคัญจุดที่ปูตายเป็นจุดเดียวกับที่หมิวเล่าให้ฟังแบบเป๊ะๆ รูปพรรณสันฐาน ยันเสื้อผ้าก็ตรงกับผีผู้หญิงที่หมิวเห็นว่ากำลังนั่งร้องไห้ไม่มีขาอยู่ข้างทาง เลยทำให้เราเชื่อว่าหมิวมันเห็นผีจริงๆ
หลังจากนั้นเราก็เลยมาประติดประต่อเรื่องราวต่างๆที่หมิวเคยเล่าให้ฟัง ทั้งเจอผีในหอพัก ผีในมหาวิทยาลัย รวมถึงผีที่บ้านเรา ในเมื่อหมิวไม่ได้โกหก หมิวเห็นผีจริงๆ งั้นก็แสดงว่าทุกที่ที่หมิวเห็นผีก็ต้องมีผีจริงๆ รวมถึงที่บ้านของเจ้าของเรื่องด้วย!
เพื่อนเห็นผี(ประสบการณ์จริง)
เราเป็นคนนึงที่ชอบฟัง ชอบอ่านเรื่องผีและชอบดูหนังผีมาก (แต่กลัวผีนะ 555)
หลังจากเป็นผู้ฟัง ผู้อ่าน ผู้ดูแล้ว ก็อยากเป็นผู้เล่าบ้าง
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อราวๆ พ.ศ. 2557 เมื่อประมาณ 11 ปีก่อน แต่ชื่อสถานที่และชื่อของเพื่อนกับคนที่เกี่ยวข้องเราขอใช้นามสมมติแทนนะคะ
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ หลังจากเล่าแล้วเราไม่อยากมีปัญหาในภายหลัง เป็นการถนอมน้ำใจคนรอบครัวญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
เอาล่ะค่ะมาเริ่มกันเลย
เรื่องเกิดขึ้นประมาณปี 2557 ตอนนั้นเรากำลังเรียนชั้นปีที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคอีสาน(ขอสงวนชื่อนะคะ) ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้เป็น มอ ประจำจังหวัดแต่แปลกที่ถูกสร้างเอาไว้นอกตัวอำเภอเมือง การเดินทางถ้าเดินทางตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ถ้าตอนกลางคืนจะหลอนๆ หน่อย เพราะบางจุดไม่มีไฟถนน และถนนเส้นนั้นคนมักจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกันบ่อยมากจนถูกขนานนามว่าถนนผีดุ เพราะมักจะมีคนเห็นผีในยามค่ำคืน
เรามีเพื่อนสนิทคนนึงชื่อหมิว(นามสมมติ) รู้จักกันตอนเรียนปี 1 เพราะอยู่คณะและสาขาเดียวกัน ช่วงแรกๆ เพื่อนจะพักอยู่หอในมหาวิทยาลัยเพราะมาจากจังหวัดอื่น แต่ไม่นานก็ออกไปอยู่หอนอกเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะหอในต้องอยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ที่ไม่รู้จักหลายคน เนื่องจากมหาวิทยาลัยเป็นคนสุ่มให้
หมิวชอบความเป็นส่วนตัวแต่ก็เฟรนลี่กับเพื่อนๆ จะชอบชวนเพื่อนไปนอนด้วยกันบ่อยๆ พอสนิทกันมากขึ้นเราก็เลยชวนเพื่อนไปเล่นที่บ้านบ้าง ซึ่งบ้านของเราจะอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเกือบ 10 กิโลเมตร (เวลาไปเรียนขับรถไปกลับเพราะต้องอยู่เป็นเพื่อนแม่) เอาจริงๆ บ้านเราก็นับว่าอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยพอสมควร แต่แปลกที่เพื่อนๆ ชอบมาเล่นที่บ้านบ่อยๆ บางคนมาค้าง บางคนมาอยู่ด้วยเป็นเดือน บางคนอยู่ด้วยเป็นปีโดยให้เหตุผลว่าบ้านเราสงบดี ซึ่งหมิวก็เป็นหนึ่งนั้นด้วย
เราเป็นคนกลัวผีแต่ชอบดูหนังผีมาก จะชอบชวนเพื่อนๆดูหนังผีและเล่าเรื่องผีตลอด วันนึงขณะที่กำลังเล่าเรื่องผีกันอยู่ จู่ๆหมิวก็พูดขึ้นมาว่าเขาเห็นผี เพราะตอนเด็กเคยประสบอุบัติเหตุเกือบตาย พอรอดมาได้ก็เห็นมาตลอด (นางไม่กลัวผีนะ) หมิวไม่เคยบอกใครนอกจากคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทรวมถึงตัวเราด้วย ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อหมิวเลย เพราะคิดว่าหมิวพูดเล่น แต่หมิวก็ยืนยันว่าเห็นจริงๆ และที่สำคัญหมิวเห็นผีอยู่ในมหาวิทยาลัยและที่บ้านของเราด้วย!
หมิวบอกว่าผีที่เห็นในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา บ้างก็เป็นผีคนแก่ มีเด็กบ้างปะปนกัน โดยเฉพาะในหอในมีเยอะมาก บางครั้งก็เห็นผีแม่บ้านมาทำความสะอาด (คนลือกันว่าก่อนจะสร้างมหาวิทยาลัยเคยเป็นป่าช้ามาก่อน) หมิวจะชอบถามว่าใส่พระหรือเปล่าตลอด แล้วก็บอกว่าห้ามถอดพระออกเด็ดขาดเพราะผีคอยตามเราอยู่(ละ) ส่วนผีที่อยู่ในบ้านเจ้าของเรื่อง หมิวบอกว่าส่วนใหญ่เวลาตื่นมากลางดึก จะเห็นผีมายืนล้อมเตียงบางตัวก็นั่งอยู่ปลายเตียง หนักหน่อยก็ปีนเตียงไต่ขึ้นมาหาหมิวกับเราที่กำลังนอนอยู่ แต่แป๊บเดียวก็หายไป เพราะเราใส่พระตอนนั้นเราก็ยังไม่เชื่อนะ คิดว่าเพื่อนหยอก เพราะคิดว่าเรากลัวผี
เวลาผ่านไปจนขึ้นปี 3 หมิวยังคงไปมาหาสู่บ้านเราตลอด แต่ไม่ได้มานอนด้วยกันบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน จะมาเฉพาะเวลาทำรายงานหรือโปรเจคส่งอาจารย์ วันนั้นเป็นเวลาประมาณ 17:30 น. เจ้าของเรื่องเล่นเฟสบุ๊คอยู่ หมิวก็ทักมาบอกว่าจะมาทำรายงานด้วย กำลังจะขับรถออกมาเราก็ตอบตกลงแล้วเล่นเฟสบุ๊คต่อ
ไม่นานมากหมิวก็มาถึง แล้วก็มาเล่าให้ฟังว่าระหว่างทางบังเอิญเจออุบัติเหตุ จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับซอยข้างๆ โรงงานทำอิฐบล็อคตรงข้ามกับร้านขายไม้ประดับข้างทาง ซึ่งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุผลและมีคนตายเยอะ ด้วยความอยากรู้หมิวเลยลงจากรถแล้วข้ามถนนไปดู เห็นมีรถแท๊กซี่จอดอยู่คันนึงในสภาพหน้ารถยุบ ล้อหลุดจากการชนกับรถจักรยานยนต์หลายคันสอบถามได้ความว่ารถแท็กซี่ขับมาเร็วมากทำให้เสียหลักข้าเลน มาชนรถจักรยานยนต์ที่ขับตามกันมาหลายคัน ทำให้มีคนตาย 2 คน เป็นชายวัยรุ่นคนนึง ชายชราคนนึง ส่วนผู้หญิงวัยกลางคนบาดเจ็บ หมิวเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ก็ถูกกู้ภัยกั้นไว้ จังหวะนั้นหมิวเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนึงผมยาวๆใส่เสื้อโปโลสีฟ้า กางเกงวอร์มสีดำ นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ชายป่าข้างทาง ก็นึกแปลกในว่าทำไมกู้ภัยไม่เข้าไปช่วย แต่พอสังเกตดูดีๆ แล้วเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีเท้าทั้ง 2 ข้างเลยถึงบางอ้อว่าเป็นผี เลยรีบขับรถมาที่บ้านเจ้าของเรื่องทันที
ตอนที่ได้ฟังเจ้าของเรื่องรู้สึกสงสารคนตาย แต่ก็ยังไม่เชื่อนะว่าหมิวมันเห็นผี จนประมาณเกือบ 1 ทุ่ม เพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยมชื่อซัน (นามสมมติ) ทักเฟสบุ๊คมาบอกว่าเพื่อนเก่าที่ชื่อปู (นามสมมุติ)ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก็ตกใจมาก รู้สึกสงสารเพื่อนเพราะปูเป็นคนดีมากๆ เราเลยถามไปว่าปูเสียตรงไหน ซันบอกว่าปูโดนรถแท็กซี่ข้ามเลนมาชนปูกับแฟนอย่างจัง ทำให้แฟนปูเสียชีวิตคาที่ ส่วนปูตอนแรกหาศพไม่เจอ และกู้ภัยไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะตอนมาถึงที่เกิดเหตุกู้ภัยมาเจอแต่ศพแฟนปู ศพคนแก่ คนเจ็บที่เป็นผู้หญิงวัยกลางคน และแท็กซี่กำลังยืนให้ปากคำตำรวจอยู่เท่านั้น แต่สาเหตุที่ทำให้รู้ว่าปูตายออกจะดูหลอนๆ หน่อย
เพราะหลังจากที่เก็บศพในผ้าดิบเสร็จแล้วจะยกศพขึ้นรถ เพื่อส่งชันสูตร ศพคนแก่ยกขึ้นได้สบายๆ แต่ศพแฟนปูยกไม่ขึ้น ยกกันหลายคนก็ยกไม่ขึ้นเพราะหนักเหมือนหิน จุดธูปก็แล้ว ขออนุญาตก็แล้ว ยังไงก็ยกไม่ขึ้น จนกู้ภัยคนนึงเดินไปดูดบุหรี่ที่ชายป่า แล้วเจอกับรองเท้าผ้าใบผู้หญิง ตอนแรกคิดว่าเป็นของคนเจ็บ แต่คนเจ็บใส่รองเท้าแตะ เลยเอะใจไปบอกทีม กู้ภัยเลยส่องไฟฉายเข้าไปตรวจชายป่าข้างทาง แล้วตัดสินใจพากันเข้าไปหาข้างในป่า ไม่นานก็เจอศพปูในสภาพคอหักนอนอยู่ที่พื้น กู้ภัยมารู้ที่หลังจากญาติปูว่า ปูเป็นแฟนกับผู้ชายที่ตาย เลยทำให้เข้าใจว่า สาเหตุที่ยกศพแฟนปูไม่ขึ้น เป็นเพราะแฟนปูอยากให้รู้ว่ามีศพของปูอีกคนที่กระเด็นเข้าไปตกอยู่ในป่าข้างทาง และเชื่อไหมว่าหลังจากเจอศพปูแล้ว กู้ภัยก็สามารถนกศพแฟนปูขึ้นรถได้แบบสบายๆ
หลังจากศพปูถูกนำไปที่โรงพยาบาล เพื่อนที่ตามไปดูศพ ก็ได้ถ่ายรูปปูมาให้ดู ปูอยู่ในสภาพแขนหัก คอหัก และตรงเปลือกตาขวาหลุดออก ปล่อยผมยาว ใส่เสื้อโปสีฟ้า กางเกงวอร์มสีดำ และที่สำคัญจุดที่ปูตายเป็นจุดเดียวกับที่หมิวเล่าให้ฟังแบบเป๊ะๆ รูปพรรณสันฐาน ยันเสื้อผ้าก็ตรงกับผีผู้หญิงที่หมิวเห็นว่ากำลังนั่งร้องไห้ไม่มีขาอยู่ข้างทาง เลยทำให้เราเชื่อว่าหมิวมันเห็นผีจริงๆ
หลังจากนั้นเราก็เลยมาประติดประต่อเรื่องราวต่างๆที่หมิวเคยเล่าให้ฟัง ทั้งเจอผีในหอพัก ผีในมหาวิทยาลัย รวมถึงผีที่บ้านเรา ในเมื่อหมิวไม่ได้โกหก หมิวเห็นผีจริงๆ งั้นก็แสดงว่าทุกที่ที่หมิวเห็นผีก็ต้องมีผีจริงๆ รวมถึงที่บ้านของเจ้าของเรื่องด้วย!