อย่าพึ่งเข้าใจผิดหัวข้อกระทู้กันนะคะ เพราะไม่รู้จะตั้งยังไงดีเหมือนกัน
คือเรากับแฟนตกลงจะแต่งงานกันอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เคยเจอครอบครัวแฟนและเคยไปพักบ้านเขาแล้ว เขาเป็นคนต่างชาติ บ้านมีราคาสูง
บ้านเลยมีลักษณะเป็นคอนโด ในบ้านจะมีห้องนั่งเล่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว พ่อเขาจะไม่นอนกับแม่ จะแยกออกมานอนที่โซฟาตรงห้องรับแขก
ส่วนพี่สาวทั้งสองคนก็ได้ย้ายออกจากบ้านไปตั้ง 10 กว่าปีแล้ว พี่สาวคนโตอายุเกือบ 50 ยังไม่แต่งงาน แต่มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว (ซึ่งก็เป็นบ้านที่แม่แฟนยกให้) ส่วนพี่สาวคนรองแต่งงานย้ายออกไปอยู่กับสามีแล้ว เราก็เคยไปนอนห้องแฟน รู้สึกว่าแคบไม่น่าจะพอสำหรับ 2 คนพักอาศัย แค่ของๆแฟนคนเดียว
ห้องก็เต็มแล้ว ส่วนห้องพี่สาวของแฟนก็มีไว้เก็บของไม่ได้เอาไว้ใช้ทำอะไรหรือให้ใครนอน ด้วยความที่พ่อแม่แฟนเราจะ 80 ด้วยกันทั้งคู่แล้ว
จึงทำให้แฟนเราย้ายออกไปอยู่เองไม่ได้เนื่องจากต้องดูแลพ่อกับแม่ เรารู้ว่าแฟนย้ายออกไม่ได้ ห้องก็แคบไม่พออยู่ 2 คน เลยให้แฟนไปถามแม่เขาว่า
ห้องของพี่สาวเขาเราสามารถใช้ได้ไหม ไม่ได้ใช้ในเชิงแบบไปนอนเลย แต่แค่อารมณ์แบบ ถ้าของเราเยอะเราสามารถเอาของส่วนนึ่งไปไว้ห้องพี่สาวเขาได้ไหม เช่นพวก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่แม่เขาตอบกลับมาทันทีเลยว่าไม่ได้ บอกว่านี่เป็นห้องของพี่สาวเขา จะเก็บเอาไว้ให้พี่สาวเขาเท่านั้น เราฟังแล้วก็รู้สึกแป้วๆ ยังไงไม่รู้ ที่งี้เลยคุยกับแฟนว่าแล้วถ้ามีลูกล่ะ จะให้ลูกนอนตรงไหน อยู่ตรงไหน ห้องของเธอ แค่เธอคนเดียวของก็เต็มแล้ว ทีงี้แฟนเลยไปถามแม่เขาอีกครั้งนึง แม่เขาตอบว่า ถ้ามีลูกแล้วลูกแบบ 5-7 ปี ขึ้นไป สามารถให้ไปนอนห้องพี่สาวแฟนได้ เราฟังแล้วก็ไม่สบายใจอยู่ดี เพราะถ้ามีเด็กอ่อน ลูกเราจะนอนตรงไหน เตียงแฟนเราพอให้สำหรับ 2 คน นอนเท่านั้น แม่แฟนยังพูดอีกว่า ถ้าเขาตายไปแล้วถึงบ้านหลังนี้จะยกให้แฟน แต่ถ้าในอนาคตพี่สาวแฟนอยากกลับมาอยู่ แฟนก็ต้องให้มาอยู่ ถ้าจะขายต้องให้พี่สาวอนุญาตก่อนถึงจะขายได้ แต่บ้านอีกสองหลังที่ยกให้พี่สาวเขาคนละหลัง แม่แฟนไม่ได้พูดอะไรนะคะ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงคิดว่าเรากับแฟนไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง อันนี้พอเข้าใจได้ค่ะ แต่การที่แม่แฟนพูดแบบนี้ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ เพราะรู้สึกเหมือนเขาพูดเหมือนเราเป็นนอก ทั้งๆที่จะแต่งงานกันแล้ว หรือเราคิดมากไปก็ไม่รู้
จะแต่งงานกับแฟน แต่แม่แฟนไม่ให้ใช้ห้องของพี่สาวแฟน ทั้งๆที่ พี่สาวของแฟนย้ายออกไปนานแล้ว ควรจะทำยังไงดี
คือเรากับแฟนตกลงจะแต่งงานกันอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เคยเจอครอบครัวแฟนและเคยไปพักบ้านเขาแล้ว เขาเป็นคนต่างชาติ บ้านมีราคาสูง
บ้านเลยมีลักษณะเป็นคอนโด ในบ้านจะมีห้องนั่งเล่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว พ่อเขาจะไม่นอนกับแม่ จะแยกออกมานอนที่โซฟาตรงห้องรับแขก
ส่วนพี่สาวทั้งสองคนก็ได้ย้ายออกจากบ้านไปตั้ง 10 กว่าปีแล้ว พี่สาวคนโตอายุเกือบ 50 ยังไม่แต่งงาน แต่มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว (ซึ่งก็เป็นบ้านที่แม่แฟนยกให้) ส่วนพี่สาวคนรองแต่งงานย้ายออกไปอยู่กับสามีแล้ว เราก็เคยไปนอนห้องแฟน รู้สึกว่าแคบไม่น่าจะพอสำหรับ 2 คนพักอาศัย แค่ของๆแฟนคนเดียว
ห้องก็เต็มแล้ว ส่วนห้องพี่สาวของแฟนก็มีไว้เก็บของไม่ได้เอาไว้ใช้ทำอะไรหรือให้ใครนอน ด้วยความที่พ่อแม่แฟนเราจะ 80 ด้วยกันทั้งคู่แล้ว
จึงทำให้แฟนเราย้ายออกไปอยู่เองไม่ได้เนื่องจากต้องดูแลพ่อกับแม่ เรารู้ว่าแฟนย้ายออกไม่ได้ ห้องก็แคบไม่พออยู่ 2 คน เลยให้แฟนไปถามแม่เขาว่า
ห้องของพี่สาวเขาเราสามารถใช้ได้ไหม ไม่ได้ใช้ในเชิงแบบไปนอนเลย แต่แค่อารมณ์แบบ ถ้าของเราเยอะเราสามารถเอาของส่วนนึ่งไปไว้ห้องพี่สาวเขาได้ไหม เช่นพวก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่แม่เขาตอบกลับมาทันทีเลยว่าไม่ได้ บอกว่านี่เป็นห้องของพี่สาวเขา จะเก็บเอาไว้ให้พี่สาวเขาเท่านั้น เราฟังแล้วก็รู้สึกแป้วๆ ยังไงไม่รู้ ที่งี้เลยคุยกับแฟนว่าแล้วถ้ามีลูกล่ะ จะให้ลูกนอนตรงไหน อยู่ตรงไหน ห้องของเธอ แค่เธอคนเดียวของก็เต็มแล้ว ทีงี้แฟนเลยไปถามแม่เขาอีกครั้งนึง แม่เขาตอบว่า ถ้ามีลูกแล้วลูกแบบ 5-7 ปี ขึ้นไป สามารถให้ไปนอนห้องพี่สาวแฟนได้ เราฟังแล้วก็ไม่สบายใจอยู่ดี เพราะถ้ามีเด็กอ่อน ลูกเราจะนอนตรงไหน เตียงแฟนเราพอให้สำหรับ 2 คน นอนเท่านั้น แม่แฟนยังพูดอีกว่า ถ้าเขาตายไปแล้วถึงบ้านหลังนี้จะยกให้แฟน แต่ถ้าในอนาคตพี่สาวแฟนอยากกลับมาอยู่ แฟนก็ต้องให้มาอยู่ ถ้าจะขายต้องให้พี่สาวอนุญาตก่อนถึงจะขายได้ แต่บ้านอีกสองหลังที่ยกให้พี่สาวเขาคนละหลัง แม่แฟนไม่ได้พูดอะไรนะคะ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงคิดว่าเรากับแฟนไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง อันนี้พอเข้าใจได้ค่ะ แต่การที่แม่แฟนพูดแบบนี้ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ เพราะรู้สึกเหมือนเขาพูดเหมือนเราเป็นนอก ทั้งๆที่จะแต่งงานกันแล้ว หรือเราคิดมากไปก็ไม่รู้