สวัสดีค่าทุกคน วันนี้อยากมาเล่าประสบการณ์ตั้งแต่ขอวีซ่าเยี่ยมเยียน แต่งงาน ขอ resident permit จากประเทศออสเตรเลีย ว่าเราเจออุปสรรคอะไรบ้าง กว่าจะได้มาอยู่ฮังการี อยากมาแชร์เพราะว่าเคสเราไม่ขอวีซ่าจากไทย เราขอวีซ่าจากประเทศที่อาศัยโดยที่เราก็ไม่ได้เป็น Permanent resident (PR) หรือพลเมืองที่ออสเตรเลีย (Citizenship) จุดเริ่มต้นมหากาพย์ก็จะเป็นช่วงมิถุนายน 2022
อุปสรรคแรก การขอวีซ่าเยี่ยมเยียน (Schengen Visa C)
หลังจากหมดโควิท แฟนเราที่ไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่มีนา 2020 เลยวางแผนกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ตอนช่วง กค - กย. 2022 หาข้อมูลว่าจากออสเตรเลียต้องการขอวีซ่าเยี่ยมเยียน (visitor visa) หรือ Schengen Visa C ไปฮังการีเนี่ยต้องไปสมัครวีซ่าที่กงสุลสวิส ที่ซิดนีย์โดยตรง ฮังการีมีสถานทูตและกงสุลตั้งอยู่จริง แต่ไม่มีความรับผิดชอบในการทำวีซ่าใดๆ อ่านเงื่อนไขการสมัครจากกงสุลก็ดูไม่ยาก ถ้าสมัครครั้งแรกต้องไปเก็บลายนิ้วมือที่ซิดนีย์ เราก็สมัครออนไลน์ไปก่อน แล้วถึงได้วันนัดส่งเอกสาร เก็บลายนิ้วมือ เตรียมเอกสารไปให้เจ้าหน้าที่ เราไม่ได้เครียดอะไรเลย คิดว่าผ่านแน่ๆ เพราะแฟนเป็นคนฮังการี
เราอ่านข้อมูลการขอวีซ่าฮังการีจาก https://visareservation.com/apply-hungary-schengen-visa-australia-guide/
ข้อมูลเอกสารที่ต้องใช้จากกงสุลสวิสที่ซิดนีย์ https://www.eda.admin.ch/countries/australia/en/home/visa/entry-ch/up-90-days/documents-schengen.html
พอไปถึงวันจริง หาตึกไม่เจอ ต้องไปถามคนแถวนั้น ถึงเจอทางเข้าตึก แต่ยังไม่สาย พอไปถึงชั้นที่ตั้งกงสุล ต้องรอด้านนอกเพราะเค้ากำจัดคนเข้าเนื่องจากมาตรการโควิท เข้าช้ากว่าเวลานัดเพราะเจ้าหน้าที่ยุ่งกับเคสก่อนหน้า พอถึงคิวเอาเอกสารยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูปุ๊บ เค้าบอก ชั้นให้วีซ่าเธอไม่ได้หรอกนะ เรากับแฟนตกใจมาก เลยถามว่าทำไมอะชั้นก็ว่าทำตามนั้นทุกอย่างแล้วนะ
ข้อแรกที่ติด – Proof of Residence in Australia เนื่องจากตอนนั้นเราพึ่งสมัครวีซ่าพาร์ทเนอร์ ยังถือวีซ่า Bridging A อยู่ เราโทรถามทนายก่อนมา ทนายบอกว่าเราต้องขอวีซ่าเชงเก้นให้ได้ก่อนแล้วค่อยจองตั๋วเครื่องบิน ยื่นกับทาง Department of Home Affairs ขอเปลี่ยนเป็น Bridging B เพื่อออกนอกประเทศ เราก็มั่นใจว่าเราเนี่ยน่าจะขอ บี หลังจากได้วีซ่าเชงเก้น แถมเราเป็น spouse ของคนฮังการีที่อยู่ใน EU คงไม่เป็นไร
(อธิบายระบบการขอวีซ่าในประเทศออสเตรเลีย (Onshore application) : เวลาสมัครวีซ่าภายในประเทศออสฯ เค้าจะให้วีซ่า Bridging A มาให้เราถือไว้ก่อน โดยวีซ่าตัวนี้ไม่มีวันหมดอายุ จนกว่าเค้าจะพิจารณาวีซ่าเราจนเสร็จ ไม่สามารถออกนอกประเทศได้ ถ้าอยากเดินทางต้องสมัครวีซ่า Bridging B เพื่อให้เดินทางเข้าออกได้ ขณะที่เค้ากำลังพิจารณาวีซ่าตัวที่สมัคร)
อ่ะ มาต่อ ทีนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าเธอถือบริดจิ้งเอ มา มันไม่ผ่านอ่ะ ยู เธอต้องเอาบริดจิ้ง บี มา เพราะมันจะมีวันหมดอายุ ต่อให้นี่เป็นพาร์ทเนอร์วีซ่าก็เถอะ เราก็บอกว่า ก็ในลิสท์เอกสารไม่ได้บอกว่าบริดจิ้งอะไร แถมบริดจิ้งเอมันไม่มีวันหมดอายุ คิดว่าน่าจะใช้ได้นี่นา สรุปแฟนเราต้องขอร้องเจ้าหน้าที่เพราะเราบินมาจากบริสเบน ไม่ได้อยู่ที่นี่ ที่จะนัดมาใหม่ได้ง่าย ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบิน จนเค้าใจอ่อน บอกว่าเอางี้ เธอไปสมัครบริดจิ้งบี แล้วค่อยส่งอีเมล์เพิ่มเติมมาให้ฉัน
แต่ยังไม่หมดนะ ข้อที่สองที่ติด เอกสารจากโฮสท์ที่เราใช้เป็น จม. จากแฟนเรา อธิบายว่าทำไมเราต้องไปเยี่ยมครอบครัวที่นั่น เค้าก็บอกมันไม่ได้อ่ะ ถึงแฟนเป็นเจ้าของบ้าน แต่ตอนนี้แฟนอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย ไม่สามารถออก จม. เชิญได้ ให้ญาติที่ฮังการีเขียนเชิญให้แทนเด้อสาว อ้อ แล้วข้อที่สาม เธอยังต้องจ่ายเงินค่าสมัครวีซ่านะ เพราะว่าเธอไม่ถือเป็น spouse ถึงจะมี Registered Relationship ของออสก็ตาม (อันนี้เราเข้าใจผิดเอง เพราะที่ออส Partner ที่ทำการจดทะเบียนความสัมพันธ์มันคือ spouse แล้ว แต่ของฮังการี คือการจดทะเบียนสมรสเท่านั้น) เอาวะ จ่ายก็จ่าย แค่นี้ก็ปวดหัวมากแล้ว ได้เก็บไบโอเมตริก ได้อีเมล์มาส่งเอกสารเพิ่มเติม ออกจากกงสุล เข้าไป Office work ส่งเอกสารด่วนให้ทนายสมัครบริดจิ้งบี วันนี้เลย เพราะอยากให้รีบพิจารณาให้เร็วที่สุด วันนั้นคือเหนื่อยมาก เครียดมาก เพราะบินเช้า เย็นกลับ
วันรุ่งขึ้น เราต้องร่าง จม. ใหม่เพื่อให้พี่สาวแฟนเซ็น แล้วส่งเอกสาร ID กลับมาเพื่อส่งต่อไปทางกงสุลสวิส โชคดีตอนเราขอบริดจิ้งบี ขอวันเดียววีซ่าก็ออก ทำให้เราส่งเอกสารสองอย่างกลับไปให้ทางสวิส ภายใน 3 วัน แต่เวลาที่เค้าพิจารณามัน 5-10 วันไม่นับวันเหยุดเสาร์-อาทิตย์อ่ะ มันก็ไม่รู้จะทันวันบินมั้ย เลยส่งอีเมล์ไปถามว่าชั้นต้องเปลี่ยนวันบินมั้ย ชั้นกลัวมันกระชั้นจนไม่ทันบิน ทางเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาบอกว่า ถ้าเธอยืนยันวันเดิมชั้นก๋ไม่มีปัญหา ที่จะออกวีซ่าให้ทันแน่นอน ถ้ากลัวไม่ทัน เธอจะต้องส่งตั๋วเครื่องบินมาใหม่ งานมันจะงอกไปอีก เราเลยคอนเฟิร์มกลับเลยว่าไปวันเดิมนี่แหละ แล้วเค้าก็ส่งกลับมาทันเวลาจริงๆ ได้มาก่อนบินอาทิตย์นึงมั้ง ขอไป 63 วัน ก็ได้เท่านั้นเด๊ะ ขอมัลติเพิล ก็ได้มาเหมือนกัน
เราเลยได้มาบ้านของแฟนที่ฮังการี และพบเจอเรื่องราวต่างๆ มากมาย ในระยะเวลาสองเดือนที่อยู่ จนต้องตัดสินใจย้ายประเทศจากออสเตรเลียมาอยู่ที่ฮังการี ติดตามการย้ายประเทศของเราได้เลยตอนหน้า
**สำหรับคนไทยที่อยู่ออสเตรเลียแล้วต้องการขอวีซ่าเชงเก้นไปเที่ยวยุโรป อาจจะต้องมาสรุปแผนการเดินทาง ว่าไปประเทศไหนมากที่สุด แล้วค่อยติดต่อสถานทูต/กงสุลประเทศนั้นในออสเตรเลีย ว่าจะต้องไปขอวีซ่าที่ VFS หรือว่าขอโดยตรงที่สถานทูตประเทศนั้นๆ เอกสารที่ต้องใช้ก็จะแตกต่างกันออกไปในรายละเอียด**
จากออสเตรเลีย...กว่าจะได้ย้ายมาฮังการี EP.1 วีซ่าเยี่ยมเยียน
อุปสรรคแรก การขอวีซ่าเยี่ยมเยียน (Schengen Visa C)
หลังจากหมดโควิท แฟนเราที่ไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่มีนา 2020 เลยวางแผนกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ตอนช่วง กค - กย. 2022 หาข้อมูลว่าจากออสเตรเลียต้องการขอวีซ่าเยี่ยมเยียน (visitor visa) หรือ Schengen Visa C ไปฮังการีเนี่ยต้องไปสมัครวีซ่าที่กงสุลสวิส ที่ซิดนีย์โดยตรง ฮังการีมีสถานทูตและกงสุลตั้งอยู่จริง แต่ไม่มีความรับผิดชอบในการทำวีซ่าใดๆ อ่านเงื่อนไขการสมัครจากกงสุลก็ดูไม่ยาก ถ้าสมัครครั้งแรกต้องไปเก็บลายนิ้วมือที่ซิดนีย์ เราก็สมัครออนไลน์ไปก่อน แล้วถึงได้วันนัดส่งเอกสาร เก็บลายนิ้วมือ เตรียมเอกสารไปให้เจ้าหน้าที่ เราไม่ได้เครียดอะไรเลย คิดว่าผ่านแน่ๆ เพราะแฟนเป็นคนฮังการี
เราอ่านข้อมูลการขอวีซ่าฮังการีจาก https://visareservation.com/apply-hungary-schengen-visa-australia-guide/
ข้อมูลเอกสารที่ต้องใช้จากกงสุลสวิสที่ซิดนีย์ https://www.eda.admin.ch/countries/australia/en/home/visa/entry-ch/up-90-days/documents-schengen.html
พอไปถึงวันจริง หาตึกไม่เจอ ต้องไปถามคนแถวนั้น ถึงเจอทางเข้าตึก แต่ยังไม่สาย พอไปถึงชั้นที่ตั้งกงสุล ต้องรอด้านนอกเพราะเค้ากำจัดคนเข้าเนื่องจากมาตรการโควิท เข้าช้ากว่าเวลานัดเพราะเจ้าหน้าที่ยุ่งกับเคสก่อนหน้า พอถึงคิวเอาเอกสารยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูปุ๊บ เค้าบอก ชั้นให้วีซ่าเธอไม่ได้หรอกนะ เรากับแฟนตกใจมาก เลยถามว่าทำไมอะชั้นก็ว่าทำตามนั้นทุกอย่างแล้วนะ
ข้อแรกที่ติด – Proof of Residence in Australia เนื่องจากตอนนั้นเราพึ่งสมัครวีซ่าพาร์ทเนอร์ ยังถือวีซ่า Bridging A อยู่ เราโทรถามทนายก่อนมา ทนายบอกว่าเราต้องขอวีซ่าเชงเก้นให้ได้ก่อนแล้วค่อยจองตั๋วเครื่องบิน ยื่นกับทาง Department of Home Affairs ขอเปลี่ยนเป็น Bridging B เพื่อออกนอกประเทศ เราก็มั่นใจว่าเราเนี่ยน่าจะขอ บี หลังจากได้วีซ่าเชงเก้น แถมเราเป็น spouse ของคนฮังการีที่อยู่ใน EU คงไม่เป็นไร
(อธิบายระบบการขอวีซ่าในประเทศออสเตรเลีย (Onshore application) : เวลาสมัครวีซ่าภายในประเทศออสฯ เค้าจะให้วีซ่า Bridging A มาให้เราถือไว้ก่อน โดยวีซ่าตัวนี้ไม่มีวันหมดอายุ จนกว่าเค้าจะพิจารณาวีซ่าเราจนเสร็จ ไม่สามารถออกนอกประเทศได้ ถ้าอยากเดินทางต้องสมัครวีซ่า Bridging B เพื่อให้เดินทางเข้าออกได้ ขณะที่เค้ากำลังพิจารณาวีซ่าตัวที่สมัคร)
อ่ะ มาต่อ ทีนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าเธอถือบริดจิ้งเอ มา มันไม่ผ่านอ่ะ ยู เธอต้องเอาบริดจิ้ง บี มา เพราะมันจะมีวันหมดอายุ ต่อให้นี่เป็นพาร์ทเนอร์วีซ่าก็เถอะ เราก็บอกว่า ก็ในลิสท์เอกสารไม่ได้บอกว่าบริดจิ้งอะไร แถมบริดจิ้งเอมันไม่มีวันหมดอายุ คิดว่าน่าจะใช้ได้นี่นา สรุปแฟนเราต้องขอร้องเจ้าหน้าที่เพราะเราบินมาจากบริสเบน ไม่ได้อยู่ที่นี่ ที่จะนัดมาใหม่ได้ง่าย ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบิน จนเค้าใจอ่อน บอกว่าเอางี้ เธอไปสมัครบริดจิ้งบี แล้วค่อยส่งอีเมล์เพิ่มเติมมาให้ฉัน
แต่ยังไม่หมดนะ ข้อที่สองที่ติด เอกสารจากโฮสท์ที่เราใช้เป็น จม. จากแฟนเรา อธิบายว่าทำไมเราต้องไปเยี่ยมครอบครัวที่นั่น เค้าก็บอกมันไม่ได้อ่ะ ถึงแฟนเป็นเจ้าของบ้าน แต่ตอนนี้แฟนอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย ไม่สามารถออก จม. เชิญได้ ให้ญาติที่ฮังการีเขียนเชิญให้แทนเด้อสาว อ้อ แล้วข้อที่สาม เธอยังต้องจ่ายเงินค่าสมัครวีซ่านะ เพราะว่าเธอไม่ถือเป็น spouse ถึงจะมี Registered Relationship ของออสก็ตาม (อันนี้เราเข้าใจผิดเอง เพราะที่ออส Partner ที่ทำการจดทะเบียนความสัมพันธ์มันคือ spouse แล้ว แต่ของฮังการี คือการจดทะเบียนสมรสเท่านั้น) เอาวะ จ่ายก็จ่าย แค่นี้ก็ปวดหัวมากแล้ว ได้เก็บไบโอเมตริก ได้อีเมล์มาส่งเอกสารเพิ่มเติม ออกจากกงสุล เข้าไป Office work ส่งเอกสารด่วนให้ทนายสมัครบริดจิ้งบี วันนี้เลย เพราะอยากให้รีบพิจารณาให้เร็วที่สุด วันนั้นคือเหนื่อยมาก เครียดมาก เพราะบินเช้า เย็นกลับ
วันรุ่งขึ้น เราต้องร่าง จม. ใหม่เพื่อให้พี่สาวแฟนเซ็น แล้วส่งเอกสาร ID กลับมาเพื่อส่งต่อไปทางกงสุลสวิส โชคดีตอนเราขอบริดจิ้งบี ขอวันเดียววีซ่าก็ออก ทำให้เราส่งเอกสารสองอย่างกลับไปให้ทางสวิส ภายใน 3 วัน แต่เวลาที่เค้าพิจารณามัน 5-10 วันไม่นับวันเหยุดเสาร์-อาทิตย์อ่ะ มันก็ไม่รู้จะทันวันบินมั้ย เลยส่งอีเมล์ไปถามว่าชั้นต้องเปลี่ยนวันบินมั้ย ชั้นกลัวมันกระชั้นจนไม่ทันบิน ทางเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาบอกว่า ถ้าเธอยืนยันวันเดิมชั้นก๋ไม่มีปัญหา ที่จะออกวีซ่าให้ทันแน่นอน ถ้ากลัวไม่ทัน เธอจะต้องส่งตั๋วเครื่องบินมาใหม่ งานมันจะงอกไปอีก เราเลยคอนเฟิร์มกลับเลยว่าไปวันเดิมนี่แหละ แล้วเค้าก็ส่งกลับมาทันเวลาจริงๆ ได้มาก่อนบินอาทิตย์นึงมั้ง ขอไป 63 วัน ก็ได้เท่านั้นเด๊ะ ขอมัลติเพิล ก็ได้มาเหมือนกัน
เราเลยได้มาบ้านของแฟนที่ฮังการี และพบเจอเรื่องราวต่างๆ มากมาย ในระยะเวลาสองเดือนที่อยู่ จนต้องตัดสินใจย้ายประเทศจากออสเตรเลียมาอยู่ที่ฮังการี ติดตามการย้ายประเทศของเราได้เลยตอนหน้า
**สำหรับคนไทยที่อยู่ออสเตรเลียแล้วต้องการขอวีซ่าเชงเก้นไปเที่ยวยุโรป อาจจะต้องมาสรุปแผนการเดินทาง ว่าไปประเทศไหนมากที่สุด แล้วค่อยติดต่อสถานทูต/กงสุลประเทศนั้นในออสเตรเลีย ว่าจะต้องไปขอวีซ่าที่ VFS หรือว่าขอโดยตรงที่สถานทูตประเทศนั้นๆ เอกสารที่ต้องใช้ก็จะแตกต่างกันออกไปในรายละเอียด**