จากตอนที่ 4 ที่จนแล้วจนรอดเวลาผ่านไป 5 ปีกว่าแล้ว เด็กดีๆๆมีบุญวาสนาก็ยังไม่มาเกิดซักที ไปทำ GIFT หลายรอบก็แล้ว จนสุดท้ายไม่มีลูกก็ได้ ทำใจล่ะเลยเลี้ยงลูกหมาน้อยแทนเลี้ยงยังไม่ทันถึงปี ท้องแล้วจ้าาาา แต่ละหว่างก่อนท้องแม่เราบอกว่าฝันว่ามีคนเอาสร้อยมาให้ สร้อยมากกกก แล้วจะโทรมาถามว่าท้องยัง เราก็บอกยังงงงง ส่วนอีแฟนเราก็ได้แต่กลิ่นเด็ก บอกมาใกล้ๆเราก็จะได้กลิ่นเด็ก พออีกเดือนก็ฝันว่าได้พระ ก็โทรมาถามอีกท้องยังงงงงงง เราก็บอกยังงงง เป็นแบบนี้อยู่ 2-3 เดือน จนกระทั่งเรารู้สึกแปลกๆๆเลยลองตรวจอีกที ก็ขึ้น 2 ขีดจางๆๆ จางมากๆๆไปหาหมอ หมอบอกพึ่งจะท้องได้ 2 อาทิตย์ เลยเฮกันทั้งบ้าน ไม่น่าเชื่อว่าการเอาหมามาเลี้ยงเป็นลูก ลูกอิจฉาต้องตามมา55555
ช่วงระหว่างท้อง แฟนเราก็กลับบ้านดึกมากๆเพราะทำงานบริษัทเกาหลี หลังเลิกงานก็ต้องไปดื่มกับเจ้านาย กว่าจะไสหัวกลับก็เที่ยงคืน ตีหนึ่งโน่น ส่วนแม่แฟนก็กลับหลัง 3 ทุ่มไปแล้ว จะมีเราที่อยู่กับคุณยายของแฟนที่อยู่ 80 กว่า ท่านก็จะนอนเร็ว ทำให้เรามีนิสัยประหลาดมากๆอยู่อย่างหนึ่งคือ นั่งนับยุงที่เข้าเครื่องดักยุง เป็นเครื่องดักยุงแบบ black hole คือมันจะกักยุงไว้ ยุงที่เข้าไปแล้วจะออกไม่ได้ ไม่ใช่แบบไฟช็อตยุง เพราะที่บ้านยุงเยอะมากกกก แม่บ้านเล่นเปิดหน้าตาทิ้งไว้แล้วชอบลืมปิด ทุกเย็นเราจะถึงบ้านตอนไม่เกิน 6 โมง จะกินข้าวคนเดียวเสร็จ พอคุณยายเข้าห้อง เราจะปิดไฟทั้งบ้านเปิดเครื่องดักยุงในห้องรับแขก จุดนี้จะมียุงเยอะที่สุด เครื่องนี้จะมีไฟสีเขียวๆไว้ล่อยุง เราจะนั่งนับยุงที่เข้าไปทีละตัว บางวันนับได้ถึงเกือบ 400 ตัว
ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับแฟน เราก็ยังไม่ได้เจอผีใดๆอีกเลย ช่วงแรกก่อนเข้าบ้านทุกครั้ง เราจะยกมือไหว้เจ้าที่บอกว่าไม่ให้ผี หรือวิญญาณใดๆที่ติดตัวเราเข้ามาในบ้านถ้าไม่อนุญาต จนลูกคลอดแล้วอายุได้ 2-3 ขวบ พ่อเราก็เสียแบบกะทันหัน แม่เรียกตัวกลับบ้านที่ต่างจังหวัดด่วน แม่บอกว่าคืนที่พ่อเสีย พรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของพ่อที่จะอายุครบ 70 ปี พ่อรู้สึกแน่นหน้าอกมาก แล้วก็ท้องเสียอย่างหนัก แม่บอกว่าอึของพ่อเหม็นมากกกกกกกก มากๆๆๆ แล้วพ่อก็บอกกับแม่ว่าอยากไปโรงพยาบาล ปกติพ่อเป็นคนอดทนมาก เกลียดที่สุดคือการไปโรงพยาบาล ส่วนพี่ชายก็ดันไปเที่ยวญี่ปุ่นอีก แม่เลยต้องโทรเรียกอาให้มารับไปโรงพยาบาล ระหว่างรออามารับ พ่อก็บอกแม่ว่าอยากนั่งสมาธิ แม่เลยไปให้พ่อนั่งสมาธิไป ส่วนแม่ลงไปเปิดประตูบ้านรออามารับ ระหว่างที่แม่กำลังลงบันได แม่บอกว่ามีลมพัดมาวูบใหญ่สวนตัวแม่ขึ้นไป พออามาถึงก็รีบขึ้นไปข้างบน พ่อสลบไปแล้ว และหายใจแพ่วมากๆๆ พอไปถึงโรงพยาลบาลหัวใจพ่อก็หยุดเต้น หมอก็ช่วยปั๊ม แต่พ่อไม่อยู่แล้ว แม่บอกว่าพ่อจะบอกกับเเม่เสมอว่า พ่อรักแม่มากไม่อยากให้แม่ต้องมาคอยดูแลเช็ดอึเช็ดฉี่ให้พ่อเด็ดขาด พ่อจะตายไปเลย
แล้วพ่อก็ทำอย่างที่พูดไว้จริงๆ
เมื่อพ่อเสียครบ 7 วัน ช่วงเช้ามืดวันที่ 7 เวลาประมาณตี 4-5 ซึ่งเรายังนอนอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด เราได้ยินเสียงพ่อเรียกชื่อเรา แล้วมีน้ำหยดลงมาที่หน้าของเรา พ่อจะรักเรามากเพราะเราเป็นลูกคนเดียวที่อยู่กับพ่อน้อยที่สุด ไปเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่อนุบาล จากนั้นพ่อมาหาเราอีกครั้งตอนครบ 100 วันพ่อมาบอกว่าต้องไปแล้วนะ จากนั้นเราก็ไม่ได้เจอพ่ออีกเลย พ่อคงไปแล้วจริงๆ
ตอนปี 2014 เราไปเที่ยวที่ Hongkong ก็ยังอุตส่าห์เจอผีอีก เราไปเที่ยวทั้งครอบครัว มีเรา แฟน ลูก และแม่แฟน เรานอนกับลูก ส่วนแฟนไปนอนเป็นเพื่อนแม่ แฟนก็นอนนั่งเล่นที่ห้องก่อนไปนอน เราเป็นคนหลับง่ายสุดๆๆ พร้อมนอนตลอดเวลา แฟนก็นั่งเล่นกับลูก ส่วนเราก็เผลอหลับไป ซักพักมีเงาดำๆมานอนอยู่บนตัว เราขยับไม่ได้ ได้แต่ดิ้นกระดุกกระดิ๊ก จนลูกร้องว่าคุณแม่เป็นไร แล้วมาเขย่าตัว คืนนั้นเรานอนเปิดไฟทั้งคืน ผีต่างประเทศเนอะไม่รู้ว่าจะใช้วิธีตักบาตรแล้วอุทิศส่วนกุศล เกรงว่าจะไม่เข้าใจเนอะ เปิดไฟ safe...safe ไว้ก่อนล่ะกัน5555
ปี 2018 ได้ไปเที่ยวเวียดนามกับเพื่อนๆที่เรียนโทด้วยกัน 5 คน เรามั่นใจมากว่าจะต้องไปเจอผีที่ Ba Na Hills เพราะที่นั่นเคยเป็นที่พักตากอากาศของชาวฝรั่งเศสตอนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปถึงที่นั่นช่วงเที่ยงๆคนเยอะมากกกกกถึงมากที่สุด ส่วนใหญ่จะขึ้นมาเที่ยวกัน พอช่วง 4-5 โมงคนจะกลับลงไป ยิ่งดึกบรรยากาศก็เงียบสงบ ห้องพักก็น่ากลัวสุดๆๆ แต่...แต่ไม่เจอผีจ้าาา5555 พวกเราไปเที่ยวกัน 4 วัน 3 คืน กินหรูอยู่สบาย พอคืนสุดท้ายเพื่อนบอกเอาที่พักแบบถูกๆไปมาสะดวกล่ะกัน นอนแค่แป๊ปเดียว เพราะต้องไปขึ้นเครื่องแต่เช้า พอไปถึงที่พัก มันไม่ใช่โรงแรมแต่เป็นเหมือนอพาร์ทเม้นต์ ตึกก็ดูแปลกๆ แถมห้องพักก็อยู่กันคนละชั้น ระหว่างทางที่เดินไปที่ห้อง ผ่านห้องที่ประตูเหมือนโดนพังแล้วมีการคาดเส้นเหลืองๆ อารมณ์ประมาณตรงนี้เคยเกิดเหตุฆาตกรรม ความรู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูกจริงๆ รีบเอาของเก็บแล้วออกไปกินข้าวแล้วเดินเที่ยวกัน กว่าจะกลับเข้าที่พักก็ดึกพอสมควรเกือบ 4 ทุ่ม ตอนขึ้นลิฟต์มาด้วยกันยังไม่น่ากลัว แต่ตอนแยกย้ายกันเข้าไปเข้าห้องสิ แต่ละชั้นมันมืดๆเปิดไฟกันแบบสลัวมาก เราต้องเดินผ่านห้องนั้นอีกค<a href="https: ppantip.com="" forum="" new_topic"=""><li class="pt-xl_nav"><i class="pantip-icons pt-ic-add_post icon-va-8 m-r-8 icolor-primary">ตั้งกระทู้</i class="pantip-icons pt-ic-add_post icon-va-8 m-r-8 icolor-primary"></li class="pt-xl_nav"></a href="https:>รั้ง คราวนี้อย่างหลอนนนน เพราะในห้องนั้นมืดมากๆเหมือนมีเงาดำๆ ขยับไปมา คืนนั้นเรานอนกับเพื่อน ตอนเราเข้าไปอาบน้ำมันเหมือนมีคนจ้องตลอดเวลา หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เตรียมตัวนอน ปกติเรากระโดดขึ้นเตียงปุ๊ป มีความสามารถพิเศษที่จะหลับได้ภายใน 3 วิ ปรากฎนอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ ผ่านไปจนเที่ยงคืน เราหันไปมองเพื่อนที่นอนด้วยกัน หลับสนิทจ้า่าาา ตอนนั้นกลัวมากๆเพราะผีต่างชาติเนอะ จะฟังภาษาอังกฤษได้ไหม ภาษาเวียดนามก็ว่าวบ่เป็นเน้ออออ ก็ได้แต่หลับตา แต่ความรู้สึกว่า มันใกล้เข้ามาทุกทีแล้วจะทำไงดีๆๆๆๆ และแล้วเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนก็ดังขึ้นมา ผีหายแว๊บบบบบบบบ ไปเลย แม่ของเพื่อนโทรมาตามว่า ไหนกลับวันนี้แล้วทำไมยังไม่ถึงบ้านอีก สรุปแม่เพื่อนจำผิดวัน เราเลยรอดพ้นไปอีกครั้ง เฮ้อออออ คนดีผีชอบหลอกจริงๆเล้ยยยยย บ้าบอ
จนปัจจุบันไม่ได้เจอผีแบบจะๆอีกแล้ว อย่างมากก็จะได้กลิ่น หรือมีอะไรแปลกนิดหน่อย และก็ไม่อยากเจออีกแล้วเพราะอะไรที่รู้สึกแปลกๆ เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยงไป จบบริบูรณ์ ขอบคุณค่าาาา
ปล. ได้แต่หวังว่าคงจะไม่มีตอนต่อไปอีกแล้วววววว พอออออแล้วววววววว
เรื่องเล่าของคนเคยเจอผี ตอนที่ 5 (ตอนอวสาน)
ช่วงระหว่างท้อง แฟนเราก็กลับบ้านดึกมากๆเพราะทำงานบริษัทเกาหลี หลังเลิกงานก็ต้องไปดื่มกับเจ้านาย กว่าจะไสหัวกลับก็เที่ยงคืน ตีหนึ่งโน่น ส่วนแม่แฟนก็กลับหลัง 3 ทุ่มไปแล้ว จะมีเราที่อยู่กับคุณยายของแฟนที่อยู่ 80 กว่า ท่านก็จะนอนเร็ว ทำให้เรามีนิสัยประหลาดมากๆอยู่อย่างหนึ่งคือ นั่งนับยุงที่เข้าเครื่องดักยุง เป็นเครื่องดักยุงแบบ black hole คือมันจะกักยุงไว้ ยุงที่เข้าไปแล้วจะออกไม่ได้ ไม่ใช่แบบไฟช็อตยุง เพราะที่บ้านยุงเยอะมากกกก แม่บ้านเล่นเปิดหน้าตาทิ้งไว้แล้วชอบลืมปิด ทุกเย็นเราจะถึงบ้านตอนไม่เกิน 6 โมง จะกินข้าวคนเดียวเสร็จ พอคุณยายเข้าห้อง เราจะปิดไฟทั้งบ้านเปิดเครื่องดักยุงในห้องรับแขก จุดนี้จะมียุงเยอะที่สุด เครื่องนี้จะมีไฟสีเขียวๆไว้ล่อยุง เราจะนั่งนับยุงที่เข้าไปทีละตัว บางวันนับได้ถึงเกือบ 400 ตัว
ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับแฟน เราก็ยังไม่ได้เจอผีใดๆอีกเลย ช่วงแรกก่อนเข้าบ้านทุกครั้ง เราจะยกมือไหว้เจ้าที่บอกว่าไม่ให้ผี หรือวิญญาณใดๆที่ติดตัวเราเข้ามาในบ้านถ้าไม่อนุญาต จนลูกคลอดแล้วอายุได้ 2-3 ขวบ พ่อเราก็เสียแบบกะทันหัน แม่เรียกตัวกลับบ้านที่ต่างจังหวัดด่วน แม่บอกว่าคืนที่พ่อเสีย พรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของพ่อที่จะอายุครบ 70 ปี พ่อรู้สึกแน่นหน้าอกมาก แล้วก็ท้องเสียอย่างหนัก แม่บอกว่าอึของพ่อเหม็นมากกกกกกกก มากๆๆๆ แล้วพ่อก็บอกกับแม่ว่าอยากไปโรงพยาบาล ปกติพ่อเป็นคนอดทนมาก เกลียดที่สุดคือการไปโรงพยาบาล ส่วนพี่ชายก็ดันไปเที่ยวญี่ปุ่นอีก แม่เลยต้องโทรเรียกอาให้มารับไปโรงพยาบาล ระหว่างรออามารับ พ่อก็บอกแม่ว่าอยากนั่งสมาธิ แม่เลยไปให้พ่อนั่งสมาธิไป ส่วนแม่ลงไปเปิดประตูบ้านรออามารับ ระหว่างที่แม่กำลังลงบันได แม่บอกว่ามีลมพัดมาวูบใหญ่สวนตัวแม่ขึ้นไป พออามาถึงก็รีบขึ้นไปข้างบน พ่อสลบไปแล้ว และหายใจแพ่วมากๆๆ พอไปถึงโรงพยาลบาลหัวใจพ่อก็หยุดเต้น หมอก็ช่วยปั๊ม แต่พ่อไม่อยู่แล้ว แม่บอกว่าพ่อจะบอกกับเเม่เสมอว่า พ่อรักแม่มากไม่อยากให้แม่ต้องมาคอยดูแลเช็ดอึเช็ดฉี่ให้พ่อเด็ดขาด พ่อจะตายไปเลย
แล้วพ่อก็ทำอย่างที่พูดไว้จริงๆ
เมื่อพ่อเสียครบ 7 วัน ช่วงเช้ามืดวันที่ 7 เวลาประมาณตี 4-5 ซึ่งเรายังนอนอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด เราได้ยินเสียงพ่อเรียกชื่อเรา แล้วมีน้ำหยดลงมาที่หน้าของเรา พ่อจะรักเรามากเพราะเราเป็นลูกคนเดียวที่อยู่กับพ่อน้อยที่สุด ไปเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่อนุบาล จากนั้นพ่อมาหาเราอีกครั้งตอนครบ 100 วันพ่อมาบอกว่าต้องไปแล้วนะ จากนั้นเราก็ไม่ได้เจอพ่ออีกเลย พ่อคงไปแล้วจริงๆ
ตอนปี 2014 เราไปเที่ยวที่ Hongkong ก็ยังอุตส่าห์เจอผีอีก เราไปเที่ยวทั้งครอบครัว มีเรา แฟน ลูก และแม่แฟน เรานอนกับลูก ส่วนแฟนไปนอนเป็นเพื่อนแม่ แฟนก็นอนนั่งเล่นที่ห้องก่อนไปนอน เราเป็นคนหลับง่ายสุดๆๆ พร้อมนอนตลอดเวลา แฟนก็นั่งเล่นกับลูก ส่วนเราก็เผลอหลับไป ซักพักมีเงาดำๆมานอนอยู่บนตัว เราขยับไม่ได้ ได้แต่ดิ้นกระดุกกระดิ๊ก จนลูกร้องว่าคุณแม่เป็นไร แล้วมาเขย่าตัว คืนนั้นเรานอนเปิดไฟทั้งคืน ผีต่างประเทศเนอะไม่รู้ว่าจะใช้วิธีตักบาตรแล้วอุทิศส่วนกุศล เกรงว่าจะไม่เข้าใจเนอะ เปิดไฟ safe...safe ไว้ก่อนล่ะกัน5555
ปี 2018 ได้ไปเที่ยวเวียดนามกับเพื่อนๆที่เรียนโทด้วยกัน 5 คน เรามั่นใจมากว่าจะต้องไปเจอผีที่ Ba Na Hills เพราะที่นั่นเคยเป็นที่พักตากอากาศของชาวฝรั่งเศสตอนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปถึงที่นั่นช่วงเที่ยงๆคนเยอะมากกกกกถึงมากที่สุด ส่วนใหญ่จะขึ้นมาเที่ยวกัน พอช่วง 4-5 โมงคนจะกลับลงไป ยิ่งดึกบรรยากาศก็เงียบสงบ ห้องพักก็น่ากลัวสุดๆๆ แต่...แต่ไม่เจอผีจ้าาา5555 พวกเราไปเที่ยวกัน 4 วัน 3 คืน กินหรูอยู่สบาย พอคืนสุดท้ายเพื่อนบอกเอาที่พักแบบถูกๆไปมาสะดวกล่ะกัน นอนแค่แป๊ปเดียว เพราะต้องไปขึ้นเครื่องแต่เช้า พอไปถึงที่พัก มันไม่ใช่โรงแรมแต่เป็นเหมือนอพาร์ทเม้นต์ ตึกก็ดูแปลกๆ แถมห้องพักก็อยู่กันคนละชั้น ระหว่างทางที่เดินไปที่ห้อง ผ่านห้องที่ประตูเหมือนโดนพังแล้วมีการคาดเส้นเหลืองๆ อารมณ์ประมาณตรงนี้เคยเกิดเหตุฆาตกรรม ความรู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูกจริงๆ รีบเอาของเก็บแล้วออกไปกินข้าวแล้วเดินเที่ยวกัน กว่าจะกลับเข้าที่พักก็ดึกพอสมควรเกือบ 4 ทุ่ม ตอนขึ้นลิฟต์มาด้วยกันยังไม่น่ากลัว แต่ตอนแยกย้ายกันเข้าไปเข้าห้องสิ แต่ละชั้นมันมืดๆเปิดไฟกันแบบสลัวมาก เราต้องเดินผ่านห้องนั้นอีกค<a href="https: ppantip.com="" forum="" new_topic"=""><li class="pt-xl_nav"><i class="pantip-icons pt-ic-add_post icon-va-8 m-r-8 icolor-primary">ตั้งกระทู้</i class="pantip-icons pt-ic-add_post icon-va-8 m-r-8 icolor-primary"></li class="pt-xl_nav"></a href="https:>รั้ง คราวนี้อย่างหลอนนนน เพราะในห้องนั้นมืดมากๆเหมือนมีเงาดำๆ ขยับไปมา คืนนั้นเรานอนกับเพื่อน ตอนเราเข้าไปอาบน้ำมันเหมือนมีคนจ้องตลอดเวลา หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เตรียมตัวนอน ปกติเรากระโดดขึ้นเตียงปุ๊ป มีความสามารถพิเศษที่จะหลับได้ภายใน 3 วิ ปรากฎนอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ ผ่านไปจนเที่ยงคืน เราหันไปมองเพื่อนที่นอนด้วยกัน หลับสนิทจ้า่าาา ตอนนั้นกลัวมากๆเพราะผีต่างชาติเนอะ จะฟังภาษาอังกฤษได้ไหม ภาษาเวียดนามก็ว่าวบ่เป็นเน้ออออ ก็ได้แต่หลับตา แต่ความรู้สึกว่า มันใกล้เข้ามาทุกทีแล้วจะทำไงดีๆๆๆๆ และแล้วเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนก็ดังขึ้นมา ผีหายแว๊บบบบบบบบ ไปเลย แม่ของเพื่อนโทรมาตามว่า ไหนกลับวันนี้แล้วทำไมยังไม่ถึงบ้านอีก สรุปแม่เพื่อนจำผิดวัน เราเลยรอดพ้นไปอีกครั้ง เฮ้อออออ คนดีผีชอบหลอกจริงๆเล้ยยยยย บ้าบอ
จนปัจจุบันไม่ได้เจอผีแบบจะๆอีกแล้ว อย่างมากก็จะได้กลิ่น หรือมีอะไรแปลกนิดหน่อย และก็ไม่อยากเจออีกแล้วเพราะอะไรที่รู้สึกแปลกๆ เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยงไป จบบริบูรณ์ ขอบคุณค่าาาา
ปล. ได้แต่หวังว่าคงจะไม่มีตอนต่อไปอีกแล้วววววว พอออออแล้วววววววว