...เกริ่นก่อนว่าที่ได้รับการผ่าตัดเพราะเราไปรักษาการมีบุตรยาก เพราะตั้งใจจะมีน้อง พอปล่อยมา1ปีกว่า ซื้อทั้งที่ตรวจไข่ตกแล้วก็ทำการบ้านแต่ก็ไม่มาเลยจึงเข้าไปหาหมอ เรารักษาที่ศรีนครินทร์ขอนแก่น เริ่มต้นกว่าที่จะได้มาตรวจเจอติ่งนี้ เราอัลตร้าซาวมดลูกก็ไม่มีอะไร หมอเลยให้ไปฉีดสีท่อนำไข่เราได้ไปฉีดโรงพยบาลเอกชนเพราะที่นี่เครื่องฉีดสีไม่มี พอฉีดเสร็จเอาผลมาให้คุณหมอ สรุปท่อฝั่งซ้ายมีปัญหาจ้า คุณหมอบอกมีเนื้องอกประมาณ1 เซ็นที่ท่อนำไข่ซ้าย ถ้าเราทำiui ก็ต้องเสี่ยงดวงให้ไข่ตกฝั่งขวา เราก็เลยตัดสินใจทำ icsi พอเก็บไข่ ได้ตัวอ่อนจะเตรียมโพรงมดลูก เพื่อเตรียมใส่ตัวอ่อน สวรรค์ก็ไม่เข้าข้างคุณหมออัลตร้าซาว ว่าโพรงมดลูกหนาผิดปกติ เลยวินิฉัยว่าจะมีติ่งรึป่าว คุณหมอเลยให้รอฉีดน้ำเกลือเข้าโพรงมดลูกเพื่อตรวจดูว่าเป็นติ่งจิงมั้ย สรุปคือมีติ่งจริงๆค่า หมอบอกประมาณ9 มิล แต่ที่งงคือ เราไม่มีอาการอะไรเลย ทั้งประจำเดือนก็มาปกติทุกเดือน ไม่เคยปวดท้อง ประจำเดือนมาตรงรอบเดือนตลอด ไม่มีประจำเดือนกระปิปกระปอย แต่ยังงงว่า มันเกิดขึ้นตอนไหน หรือว่าจริงๆเราจะมีอยู่แล้วแต่แค่มันไม่โตพอที่จะอัลตร้าซาวเห็น
"มาเล่าเรื่องวันที่เข้ารับการผ่าตัด"
ก่อนวันผ่าตัด เราต้องได้เข้ามาตรวจเลือด เอ็กซเรย์ปอด ตรวจคลื่นหัวใจ เพื่อเตรียมสำหรับวันผ่าตัด
เราเข้ารับการผ่าตัด 26ต.ค.66 แต่เราต้องเข้ามาโรงบาลเพื่อเตรียมตัวตั้งแต่วันที่ 25 ตค. ตั้งแต่บ่าย คุณหมอให้งดน้ำ งดอาหารหลังเที่ยงคืน แต่จริงๆเราได้ทานข้าวพร้อมผู้ป่วยคนอื่นตั้งแต่4 โมงเย็น ตอน2 ทุ่มพยาบาลก็นัดสวนท้องและสวนอีกรอบตอน6 โมงเช้าอีกวัน จะบอกว่าหลังจากสวนท้อง
วิ่งเข้าห้องน้ำเลยจ้า แล้วหลังจากนั้นประมาณ3 ทุ่มพยาบาลเอายามาให้ทาน ยานั้นเราไม่รู้คือยาอะไร แต่เราต้องอมไว้ใต้ลิ้น 2 เม็ด พยาบาลแจ้งว่าทานยาตัวนี้แล้วอาจจะทำให้มีอาการหนาวสั่น หรือเลือดออกทางช่องคลอดได้ ซึ่งพอเราทานได้ไม่ถึง10 นาที เราเข้าห้องน้ำไปฉี่ อยู่ก็หนาวสั่นขึ้นมา มือชา จึงเรียกพยาบาลมา คุณพยาบาลก็เอาผ้าห่มมาห่มให้อีกผืน แล้วประมานตี2 เราก็มีเลือดออกทางช่องคลอด คือเป็นทุกอาการที่พยาบาลแจ้งเลย แต่มีพี่ที่เตียงข้างๆได้ผ่าวันเดียวกัน แกไม่เป็นอะไรเลย ถามเค้าก็บอกว่ามีอาการหนาวเหมือนกัน แต่ก็ไม่เยอะเท่าเรา ช่วงดึกพยาบาลจะมีตรวจวัดความดัน ตรวจวัดไข้สรุปไข้ขขึ้นจ้า และแล้วพอเช้าเราก็ได้สวนท้องอีกรอบ รอบนี้คือหมดไส้หมดพุงเลย แล้วก็ได้อมไอ้ยาตัวเดิมนี้แหละ เอาจิงๆจากอาการเมื่อคืนที่เป็นแทบไม่อยากอมเลย แล้วเราก็นอนรอขึ้นเขียง พี่เตียงข้างๆแกได้เข้าไปก่อน เราเป็นเคสสุดท้าย ต้องเข้าใจระบบโรงพยาบาลรัฐไม่ได้มีแค่เราคนเดียว พอถึงคิวเราพยาบาลก็พาเปลี่ยนชุดเขียวสำหรับเข้าห้องผ่าตัด นอนขึ้นเตียงมีคนเข็นไปห้องผ่าตัด ภายในห้องดูวุ่นวายมาก เพราะมีหลายเคส แอบเห็นใจคุณหมอ สงสัยจะเหนื่อยมา เราเข้าไปบ่ายโมงครึ่ง กว่าจะเช็คอะไรเสร็จ เข้าไปในห้อง น่าจะมีไม่ต่ำกว่าสิบคน วิสัญญีแจ้งว่ากำลังฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือเท่านั้นแหละไม่ถึงนาที สลึมสะลือสลบเลยคร้า รู้ตัวอีกทีออกมาข้างนอกประมาน บ่ายสองครึ่ง นอนรอเจ้าหน้าที่เข็นไปที่ห้องพัก ได้มาที่ห้องพักก็บ่ายสามครึ่งเกือบสี่โมง ดีที่มีน้ำเกลือพยาบาลให้ไว้ตั้งแต่เช้า ไม่งั้นหิวจนเป็นลมแน่ๆ พอมาพยาบาลก็ทำการเปลี่ยนชุดให้หมดเลยเรานอนอย่างเดียว หลังจากทำอะไรเสร็จก็มีข้าวต้มมาตั้งรอให้ทานเลยคร่า ถ้าถามว่าเจ็บแผลมั้ย ไม่รู้สึกถึงความเจ็บ ถ้าเจ็บอาจจะเป็นอารมณ์เจ็บท้องประจำเดือน แต่ไม่ใช่เจ็บหน่วง ถ้าให้คะเเนนเต็ม10ความเจ็บประมาน1 แต่เราก็พยายามทำอะไรระวัง เดินช้าๆลง คือไม่ทำให้ไปกระเเทกแผลภายใน หลังจากทานข้าวทานยา รู้สึกปวดฉี่ เราก็นั่งฉี่ทีกระโถนก่อน แต่อยากบอกว่าฉี่ไม่ออก เพราะตอนมันกำลังจะออกรู้สึกแสบมาก ต้องค่อยให้มันออกมาที่ละน้อย ฉี่ครั้งแรกมีเลือดออกมาก่อน เลือดสีแดงสดเลย แต่พอฉี่ครั้งแรกได้เเล้ว ครั้งต่อมาก็ปกติ ฉี่ไม่มีปัญญา จะมีอาการเลือดซึมออกมาด้วยแต่ไม่เยอะ แล้วก็หาย เช้าวันต่อมาหมอก็แจ้งว่าออกจากโรงพยาบาลได้ ไม่น่าเป็นห่วง หมอบอกว่า ของเราที่ตัดติ่งออก มีติ่งอันเล็กๆในโพรงมดลูกประมาน5-6ติ่งและอันใหญ่เกือบ2 ซม. ซึ่งเราก็เอ๊ะ ตอนตรวจทำไมมีแค่หนึ่ง แต่พอส่องกล้องเท่านั้นแหละ มีเยอะมาก ซึ่งเราคิดว่าถ้าพวกเล็กอัลตร้าซาวไม่สามารถเห็นได้เหมือนส่องกล้อง แต่หมอก็นัดอีกเดือนหน้า เพื่อฟังผลชิ้นเนื้อ ก็ภาวนาให้ไม่เป็นเนื้อร้าย กับไม่มีปัญหาตามมาอีก อยากจะบอกคุณผู้หญิงทุกคน ถ้าได้เข้ามาอ่าน เราอยากให้ทุกคนเข้าพบหมอเพื่อตรวจพวกมะเร็งปากมดลูก และถ้ามีอาการประจำเดือนผิดปกติ ก็ให้เข้าไปพบหมอดีกว่า เพราะเราไม่รู้เลยว่าภายในของเราเป็นยังไงบ้าง บางทีอาการเล็กๆน้อยๆที่เราคิดว่าคงไม่เป็นรัยหรอก ซื้อยามาทานเเดี๋ยวก็ดีขึ้น อาจจะเป็นการทำให้อาการเราเป็นหนักกว่าเดิมก็ได้ เป็นห่วงคุณผู้หญิงทุกคนนะคะ
แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดติ่งเนื้อในโพรงมดลูก
"มาเล่าเรื่องวันที่เข้ารับการผ่าตัด"
ก่อนวันผ่าตัด เราต้องได้เข้ามาตรวจเลือด เอ็กซเรย์ปอด ตรวจคลื่นหัวใจ เพื่อเตรียมสำหรับวันผ่าตัด
เราเข้ารับการผ่าตัด 26ต.ค.66 แต่เราต้องเข้ามาโรงบาลเพื่อเตรียมตัวตั้งแต่วันที่ 25 ตค. ตั้งแต่บ่าย คุณหมอให้งดน้ำ งดอาหารหลังเที่ยงคืน แต่จริงๆเราได้ทานข้าวพร้อมผู้ป่วยคนอื่นตั้งแต่4 โมงเย็น ตอน2 ทุ่มพยาบาลก็นัดสวนท้องและสวนอีกรอบตอน6 โมงเช้าอีกวัน จะบอกว่าหลังจากสวนท้อง
วิ่งเข้าห้องน้ำเลยจ้า แล้วหลังจากนั้นประมาณ3 ทุ่มพยาบาลเอายามาให้ทาน ยานั้นเราไม่รู้คือยาอะไร แต่เราต้องอมไว้ใต้ลิ้น 2 เม็ด พยาบาลแจ้งว่าทานยาตัวนี้แล้วอาจจะทำให้มีอาการหนาวสั่น หรือเลือดออกทางช่องคลอดได้ ซึ่งพอเราทานได้ไม่ถึง10 นาที เราเข้าห้องน้ำไปฉี่ อยู่ก็หนาวสั่นขึ้นมา มือชา จึงเรียกพยาบาลมา คุณพยาบาลก็เอาผ้าห่มมาห่มให้อีกผืน แล้วประมานตี2 เราก็มีเลือดออกทางช่องคลอด คือเป็นทุกอาการที่พยาบาลแจ้งเลย แต่มีพี่ที่เตียงข้างๆได้ผ่าวันเดียวกัน แกไม่เป็นอะไรเลย ถามเค้าก็บอกว่ามีอาการหนาวเหมือนกัน แต่ก็ไม่เยอะเท่าเรา ช่วงดึกพยาบาลจะมีตรวจวัดความดัน ตรวจวัดไข้สรุปไข้ขขึ้นจ้า และแล้วพอเช้าเราก็ได้สวนท้องอีกรอบ รอบนี้คือหมดไส้หมดพุงเลย แล้วก็ได้อมไอ้ยาตัวเดิมนี้แหละ เอาจิงๆจากอาการเมื่อคืนที่เป็นแทบไม่อยากอมเลย แล้วเราก็นอนรอขึ้นเขียง พี่เตียงข้างๆแกได้เข้าไปก่อน เราเป็นเคสสุดท้าย ต้องเข้าใจระบบโรงพยาบาลรัฐไม่ได้มีแค่เราคนเดียว พอถึงคิวเราพยาบาลก็พาเปลี่ยนชุดเขียวสำหรับเข้าห้องผ่าตัด นอนขึ้นเตียงมีคนเข็นไปห้องผ่าตัด ภายในห้องดูวุ่นวายมาก เพราะมีหลายเคส แอบเห็นใจคุณหมอ สงสัยจะเหนื่อยมา เราเข้าไปบ่ายโมงครึ่ง กว่าจะเช็คอะไรเสร็จ เข้าไปในห้อง น่าจะมีไม่ต่ำกว่าสิบคน วิสัญญีแจ้งว่ากำลังฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือเท่านั้นแหละไม่ถึงนาที สลึมสะลือสลบเลยคร้า รู้ตัวอีกทีออกมาข้างนอกประมาน บ่ายสองครึ่ง นอนรอเจ้าหน้าที่เข็นไปที่ห้องพัก ได้มาที่ห้องพักก็บ่ายสามครึ่งเกือบสี่โมง ดีที่มีน้ำเกลือพยาบาลให้ไว้ตั้งแต่เช้า ไม่งั้นหิวจนเป็นลมแน่ๆ พอมาพยาบาลก็ทำการเปลี่ยนชุดให้หมดเลยเรานอนอย่างเดียว หลังจากทำอะไรเสร็จก็มีข้าวต้มมาตั้งรอให้ทานเลยคร่า ถ้าถามว่าเจ็บแผลมั้ย ไม่รู้สึกถึงความเจ็บ ถ้าเจ็บอาจจะเป็นอารมณ์เจ็บท้องประจำเดือน แต่ไม่ใช่เจ็บหน่วง ถ้าให้คะเเนนเต็ม10ความเจ็บประมาน1 แต่เราก็พยายามทำอะไรระวัง เดินช้าๆลง คือไม่ทำให้ไปกระเเทกแผลภายใน หลังจากทานข้าวทานยา รู้สึกปวดฉี่ เราก็นั่งฉี่ทีกระโถนก่อน แต่อยากบอกว่าฉี่ไม่ออก เพราะตอนมันกำลังจะออกรู้สึกแสบมาก ต้องค่อยให้มันออกมาที่ละน้อย ฉี่ครั้งแรกมีเลือดออกมาก่อน เลือดสีแดงสดเลย แต่พอฉี่ครั้งแรกได้เเล้ว ครั้งต่อมาก็ปกติ ฉี่ไม่มีปัญญา จะมีอาการเลือดซึมออกมาด้วยแต่ไม่เยอะ แล้วก็หาย เช้าวันต่อมาหมอก็แจ้งว่าออกจากโรงพยาบาลได้ ไม่น่าเป็นห่วง หมอบอกว่า ของเราที่ตัดติ่งออก มีติ่งอันเล็กๆในโพรงมดลูกประมาน5-6ติ่งและอันใหญ่เกือบ2 ซม. ซึ่งเราก็เอ๊ะ ตอนตรวจทำไมมีแค่หนึ่ง แต่พอส่องกล้องเท่านั้นแหละ มีเยอะมาก ซึ่งเราคิดว่าถ้าพวกเล็กอัลตร้าซาวไม่สามารถเห็นได้เหมือนส่องกล้อง แต่หมอก็นัดอีกเดือนหน้า เพื่อฟังผลชิ้นเนื้อ ก็ภาวนาให้ไม่เป็นเนื้อร้าย กับไม่มีปัญหาตามมาอีก อยากจะบอกคุณผู้หญิงทุกคน ถ้าได้เข้ามาอ่าน เราอยากให้ทุกคนเข้าพบหมอเพื่อตรวจพวกมะเร็งปากมดลูก และถ้ามีอาการประจำเดือนผิดปกติ ก็ให้เข้าไปพบหมอดีกว่า เพราะเราไม่รู้เลยว่าภายในของเราเป็นยังไงบ้าง บางทีอาการเล็กๆน้อยๆที่เราคิดว่าคงไม่เป็นรัยหรอก ซื้อยามาทานเเดี๋ยวก็ดีขึ้น อาจจะเป็นการทำให้อาการเราเป็นหนักกว่าเดิมก็ได้ เป็นห่วงคุณผู้หญิงทุกคนนะคะ