สวัสดีค่าทุกคนนน เมื่อปลายเดือนเมษาจทกทได้ไปเที่ยวเมกามาและพึ่งจะว่าง ๆ เลยได้โอกาสมาเขียนรีแคปและแนะนำroad tripอเมริกาฝั่ง west coastกันค่า โดยทริปคร่าว ๆ จะเริ่มจาก Seattle,WA> Morton,WA> Portland, OR> Crescent city,CA> San francisco,CA> Orlando,FL(เมืองคร่าว ๆ ตามโรมแรมที่พัก) ระยะเวลาของทริปสิริรวมเป็น 10 วัน
ขาไปจากสุวรรณภูมิไปseattle เราไปกับสายการบินANA โดยไปเปลี่ยนเครื่องที่โตเกียวเป็นเวลาเกือบ ๆ วัน ใครที่เปลี่ยนเครื่องนานแบบจขกทแล้วยังไม่มีไอเดียว่าจะทำอะไรดีก็ไปดูที่
https://ppantip.com/topic/42205920 ได้เลยค่าเป็นเที่ยวชิว ๆ ในญี่ปุ่นไม่ถึงวัน และหลังจากทรานซิสเรียบร้อย ก็นั่งตรงยาว ๆ 9ชม ไปถึงซีแอทเทิลตอนเช้าพอดี พอไปถึงก็เช็คอินเข้าโรงแรมก่อนเลย จขกทพักที่โรงแรม Crowne plaza seattle downtown อยู่ในเมือง สามารถเดินไปเที่ยวที่เที่ยวในเมืองพวก pike market centerได้เลย หลักจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็พร้อมเที่ยวแล้ว!
บรรยากาศหน้าโรมแรม
1st day ของทริปอย่างเป็นทางการ ด้วยเหลือเวลาเที่ยวประมาณครึ่งวัน เลยเดินจากโรงแรมไป public market center และร้านstarbucksที่แรกของโลกที่เล็กกว่าที่คิดมาก เป็นร้านยืนดื่มไม่มีที่นั่งด้วย บวกกับคนต่อแถวรอเข้าเยอะม้าก จขกทเลยแค่แชะรูปไว้ว่ามาเหยียบสตาบัคส์สาขาแรกแล้วพอ
เดินไปต่อใกล้ๆกัน ก็จะมี the gum wall เป็นโซนที่ตรงกำแพงจะมีหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้วมาแปะเต็มกำแพง
วิวระหว่างทางไปpike market center
ถึงตลาดแล้ว!
เจ้าสตาบัคส์สาขาแรก
คนต่อคิวเยอะไม่ไหว ขอยอมค่า
ในตลาดก็จะขายของหลายอย่างทั้งอาหารสด ดอกไม้ ผลิตภัณฑ์local เดินเพลินๆไปเลยย
2nd day วันนี้เราแพลนไปเดินแถว University of Washington นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานีชื่อเดียวกันมหาลัย ออกมาจะเจอ husky statium( ซึ่งเจ้าตัวhuskyก็เป็นมาสคอสของยูวอชันตันนั่นเอง) แล้วเดินข้ามสะพานลอยก็จะถึงตัวมหาลัย เดินเข้าไปเรื่อยๆ จะเจอบ่อน้ำพุตรงกลางมหาลัยที่ตระการตามาก แบบมองเข้าไปจะเป็นต้นซากุระรายเรียงตามทางเดินเต็มไปหมด และมองหันออกไปจะเป็นMt. Rainierหนึ่งในnational parkของรัฐWashington วิวสวยแบบ360องศาสุดๆ แล้วก็แวะไปดูหอสมุดที่ว่าเป็นต้นแบบของหนังเรื่องharry potter ก็จะมีนักศึกษาของที่นั่นมานั่งอ่านหนังสือกัน และไม่ไกลตัวมหาลัยมากมีuniversity villageที่เป็นเหมือนmall เล็กๆ มีร้านอาหาร ร้านไอติม ร้านเสื้อผ้า ต่างๆนานา จขกทชอบที่นี่มาก บรรยากาศผ่อนคลายสุดๆ หลังจากนั้นเราก็เรียกแกรปให้ไปส่งที่chihuly garden glass เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานแก้วเป่าสีของคุณ Chihuly โดยจัดมีการจัดนิทรรศการเป็นโซนๆ ค่าเข้าคนละ$35 ค่อนข้างแพงแต่ส่วนตัวจขกทรู้สึกว่าคุ้ม รวมถึงที่พิพิธภัณฑ์มีบริการถ่ายรูปและแนะนำมุมให้ฟรีด้วย ใครแวะไปอย่าพลาด
ซากุระบานตลอดทาง หยิบทรศมาถ่ายรูปรัวๆ
ห้องสมุดในมอ ขลังจริง สวยมากก
villageข้างมอ ไวบ์ดีไวบ์ชิวมาก จะมาแวะทานข้าวกลางวันทานขนมที่นี่ก็เริศ
มาต่อที่พิพิธภัณฑ์ ใครสายงานอาร์ตงานศิลป์ต้องแวะ
3rd day เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแต่เช้า นั่งแกรปไปรับรถ พร้อมออกเดินทางไปยังนอกเมืองกัน ตอนเช้าเราแวะไปกินร้านอาหารใกล้ๆจุดที่รับรถ ชื่อร้าน pancake chef เข้าไปในร้านเหมือนหลุดเข้าไปในหนังเมกายุค90 ร้านมีความเป็นamerican styleสุดๆ ทั้งร้านมีแต่คนlocal ตัวเมนูอาหารก็แต่american style พวก pancake waffle toast หลังจากกินอิ่มก็พร้อมออกเดินทางขับรถลงไปทางใต้ของรัฐ เพื่อจะไปเดิน Mt. Rainier np ด้วยช่วงที่ไปบนเข้าหิมะยังไม่ละลายและไม่มีอุปกรณ์เดินบนหิมะ เลยไม่ได้เดินเท่าไหร่ แค่ได้แชะถ่ายรูปตรงตีนๆเขา แต่แค่นั้นก็สวยมากๆ อยากจะไปอีกรอบตอนlate springเข้าsummerเลย และเราก็ขับรถลงมาต่อที่เมือง morton เป็นเมืองเล็กๆในรัฐWA ซึ่งจะเป็นเมืองที่พักนอนคืนนี้ค่ะ
ฟิลเมกา90มาก
มาถึงก็อึ้งเลย นึกว่าปลายเมษาจะเริ่มมีดอกไม้บาน สรุปหิมะพรึ่บยังเต็มภูเขาอยู่เลย แต่ก็ได้ความสวยไปอีกแบบค่า;)
มาถึงเมืองmorton เมืองที่น่ารักมากก เกินคาดสุดๆ เหมือนเข้าไปอยู่ในสตูดิโอถ่ายหนัง ตึกทุกตึกไซส์น่ารักปุกปิก ห้องพักairbnbก็ตกแต่งน่ารักมาก ส่วนด้านล่างเป็นร้านคาเฟ่ และที่สำคัญที่สุดคืออ ร้านสเต็กอร่อยสุดๆ เนื้อนุ่มแทบจะละลายในปาก ราคาไม่แรงด้วย ยกให้เป็นมื้อที่ประทับใจที่สุดในทริปไปเลย ใครแวะมาพักเมืองนี้อย่าลืมแวะมากิน!
ก็จบกับเที่ยวในรัฐวอชิงตัน และพาร์ทวันต่อไปจะลงไปต่อกันที่portland รัฐOregonกันค่าา
Road tripอเมริกาฝั่งwest coast(Seattle-Morton-Portland-Crescent city-San Francisco) 10 วัน
ขาไปจากสุวรรณภูมิไปseattle เราไปกับสายการบินANA โดยไปเปลี่ยนเครื่องที่โตเกียวเป็นเวลาเกือบ ๆ วัน ใครที่เปลี่ยนเครื่องนานแบบจขกทแล้วยังไม่มีไอเดียว่าจะทำอะไรดีก็ไปดูที่ https://ppantip.com/topic/42205920 ได้เลยค่าเป็นเที่ยวชิว ๆ ในญี่ปุ่นไม่ถึงวัน และหลังจากทรานซิสเรียบร้อย ก็นั่งตรงยาว ๆ 9ชม ไปถึงซีแอทเทิลตอนเช้าพอดี พอไปถึงก็เช็คอินเข้าโรงแรมก่อนเลย จขกทพักที่โรงแรม Crowne plaza seattle downtown อยู่ในเมือง สามารถเดินไปเที่ยวที่เที่ยวในเมืองพวก pike market centerได้เลย หลักจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็พร้อมเที่ยวแล้ว!
บรรยากาศหน้าโรมแรม
1st day ของทริปอย่างเป็นทางการ ด้วยเหลือเวลาเที่ยวประมาณครึ่งวัน เลยเดินจากโรงแรมไป public market center และร้านstarbucksที่แรกของโลกที่เล็กกว่าที่คิดมาก เป็นร้านยืนดื่มไม่มีที่นั่งด้วย บวกกับคนต่อแถวรอเข้าเยอะม้าก จขกทเลยแค่แชะรูปไว้ว่ามาเหยียบสตาบัคส์สาขาแรกแล้วพอ
เดินไปต่อใกล้ๆกัน ก็จะมี the gum wall เป็นโซนที่ตรงกำแพงจะมีหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้วมาแปะเต็มกำแพง
วิวระหว่างทางไปpike market center
ถึงตลาดแล้ว!
เจ้าสตาบัคส์สาขาแรก
คนต่อคิวเยอะไม่ไหว ขอยอมค่า
ในตลาดก็จะขายของหลายอย่างทั้งอาหารสด ดอกไม้ ผลิตภัณฑ์local เดินเพลินๆไปเลยย
2nd day วันนี้เราแพลนไปเดินแถว University of Washington นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานีชื่อเดียวกันมหาลัย ออกมาจะเจอ husky statium( ซึ่งเจ้าตัวhuskyก็เป็นมาสคอสของยูวอชันตันนั่นเอง) แล้วเดินข้ามสะพานลอยก็จะถึงตัวมหาลัย เดินเข้าไปเรื่อยๆ จะเจอบ่อน้ำพุตรงกลางมหาลัยที่ตระการตามาก แบบมองเข้าไปจะเป็นต้นซากุระรายเรียงตามทางเดินเต็มไปหมด และมองหันออกไปจะเป็นMt. Rainierหนึ่งในnational parkของรัฐWashington วิวสวยแบบ360องศาสุดๆ แล้วก็แวะไปดูหอสมุดที่ว่าเป็นต้นแบบของหนังเรื่องharry potter ก็จะมีนักศึกษาของที่นั่นมานั่งอ่านหนังสือกัน และไม่ไกลตัวมหาลัยมากมีuniversity villageที่เป็นเหมือนmall เล็กๆ มีร้านอาหาร ร้านไอติม ร้านเสื้อผ้า ต่างๆนานา จขกทชอบที่นี่มาก บรรยากาศผ่อนคลายสุดๆ หลังจากนั้นเราก็เรียกแกรปให้ไปส่งที่chihuly garden glass เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานแก้วเป่าสีของคุณ Chihuly โดยจัดมีการจัดนิทรรศการเป็นโซนๆ ค่าเข้าคนละ$35 ค่อนข้างแพงแต่ส่วนตัวจขกทรู้สึกว่าคุ้ม รวมถึงที่พิพิธภัณฑ์มีบริการถ่ายรูปและแนะนำมุมให้ฟรีด้วย ใครแวะไปอย่าพลาด
ซากุระบานตลอดทาง หยิบทรศมาถ่ายรูปรัวๆ
ห้องสมุดในมอ ขลังจริง สวยมากก
villageข้างมอ ไวบ์ดีไวบ์ชิวมาก จะมาแวะทานข้าวกลางวันทานขนมที่นี่ก็เริศ
มาต่อที่พิพิธภัณฑ์ ใครสายงานอาร์ตงานศิลป์ต้องแวะ
3rd day เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแต่เช้า นั่งแกรปไปรับรถ พร้อมออกเดินทางไปยังนอกเมืองกัน ตอนเช้าเราแวะไปกินร้านอาหารใกล้ๆจุดที่รับรถ ชื่อร้าน pancake chef เข้าไปในร้านเหมือนหลุดเข้าไปในหนังเมกายุค90 ร้านมีความเป็นamerican styleสุดๆ ทั้งร้านมีแต่คนlocal ตัวเมนูอาหารก็แต่american style พวก pancake waffle toast หลังจากกินอิ่มก็พร้อมออกเดินทางขับรถลงไปทางใต้ของรัฐ เพื่อจะไปเดิน Mt. Rainier np ด้วยช่วงที่ไปบนเข้าหิมะยังไม่ละลายและไม่มีอุปกรณ์เดินบนหิมะ เลยไม่ได้เดินเท่าไหร่ แค่ได้แชะถ่ายรูปตรงตีนๆเขา แต่แค่นั้นก็สวยมากๆ อยากจะไปอีกรอบตอนlate springเข้าsummerเลย และเราก็ขับรถลงมาต่อที่เมือง morton เป็นเมืองเล็กๆในรัฐWA ซึ่งจะเป็นเมืองที่พักนอนคืนนี้ค่ะ
ฟิลเมกา90มาก
มาถึงก็อึ้งเลย นึกว่าปลายเมษาจะเริ่มมีดอกไม้บาน สรุปหิมะพรึ่บยังเต็มภูเขาอยู่เลย แต่ก็ได้ความสวยไปอีกแบบค่า;)
มาถึงเมืองmorton เมืองที่น่ารักมากก เกินคาดสุดๆ เหมือนเข้าไปอยู่ในสตูดิโอถ่ายหนัง ตึกทุกตึกไซส์น่ารักปุกปิก ห้องพักairbnbก็ตกแต่งน่ารักมาก ส่วนด้านล่างเป็นร้านคาเฟ่ และที่สำคัญที่สุดคืออ ร้านสเต็กอร่อยสุดๆ เนื้อนุ่มแทบจะละลายในปาก ราคาไม่แรงด้วย ยกให้เป็นมื้อที่ประทับใจที่สุดในทริปไปเลย ใครแวะมาพักเมืองนี้อย่าลืมแวะมากิน!
ก็จบกับเที่ยวในรัฐวอชิงตัน และพาร์ทวันต่อไปจะลงไปต่อกันที่portland รัฐOregonกันค่าา