สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่เกี่ยวกับบ้าน แต่เป็นคอนโดแล้วกัน เพราะมันกู้เพื่อที่อยู่อาศัยเหมือนกัน
อย่าคิดซื้อบ้านหรือคอนโด ทั้งที่มีเงินแค่ ผ่อนลมครับ คือ ยังไงคุณสามารถ ผ่อนต่อเดือนได้แค่นั้น เร่งสปีดโปะไม่ได้เลย นี่คือความผิดพลาดร้ายแรงที่คนไม่คิด
เพราะว่าดอกเบี้ยขาขึ้น mrr แบบฟิกไม่มีอีกแล้ว คุณจะเข้าใจครับว่า การที่คุณต่อให้บอกว่าผ่อนต่อเดือนเช่น เงินเดือน 25000 ผ่อน 12000 เป็น 50% ของเงินเดือนใช่ไหม
แต่ด้วยสภาพดอกเบี้ยแบบนี้ เงินเดือนคุณขึ้นไม่เยอะ แต่ดอกเบี้ยปรับตลอด 3 เดือนครั้ง จากเดิมเคยผ่อน 7000 : 5000
มาตอนนี้หลายคนโดนกันหมดครับ เหลือต้น 5000 : 7000 แล้วพอไม่มีเงินไปโปะ เข้าใจเนอะ
ต้นมันลดช้า แล้วสุดท้ายดอกเบี้ยลอยตัว เงินสดไม่มี รีเทรนชั่นไม่ได้เยอะ คุณก็จ่าย 5000 : 7000 ไปตลอดชีวิต
นอกนั้นการซื้อบ้านและคอนโด ถ้าซื้อในราคาพอเหมาะกับฐานะ มันคุ้มค่าครับ คุ้มค่ากับเวลาที่เราเสียไปเพราะยุคสมัยนี้ อะไรก็แพงยิ่งถ้าใกล้ความสะดวกสบาย จับจองเอาไว้ก่อนเลยดีกว่าอยู่แล้วครับ
มันเป็นการติดหนี้ระยะ 10-30 ปี ต้องคิดดีๆ ครับถ้า คิดไม่ดี ติดหนี้ทั้งชีวิต คิดดี จะติดหนี้แค่ไม่นาน
คำนึงถึงรายจ่ายอนาคตและเงินฉุกเฉินให้ดีอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะตกงานแล้ววิ่งไล่ตบซอมบี้ก็ได้ครับ ตอนโควิดผมนึกว่าซอบบี้ระบาด เงียบไปสะทุกอย่าง ทุกคนหวาดกลัวตกงานอยู่แต่ในห้อง ซอบบี้ก็คือคนติดเชื้อที่ทำงานอยู่ข้างนอก wfh ไม่ได้นั่นแหละ เหมือนกันเป๊ะเลย แค่มันไม่ได้วิ่งมากัด
ถ้าเงินไม่มีผ่อนจ่ายต่อเดือน ทำยังไง นี่แหละครับ กับดักที่อันตรายที่พรากชีวิตทั้งชีวิตไปได้เลย
อย่าคิดซื้อบ้านหรือคอนโด ทั้งที่มีเงินแค่ ผ่อนลมครับ คือ ยังไงคุณสามารถ ผ่อนต่อเดือนได้แค่นั้น เร่งสปีดโปะไม่ได้เลย นี่คือความผิดพลาดร้ายแรงที่คนไม่คิด
เพราะว่าดอกเบี้ยขาขึ้น mrr แบบฟิกไม่มีอีกแล้ว คุณจะเข้าใจครับว่า การที่คุณต่อให้บอกว่าผ่อนต่อเดือนเช่น เงินเดือน 25000 ผ่อน 12000 เป็น 50% ของเงินเดือนใช่ไหม
แต่ด้วยสภาพดอกเบี้ยแบบนี้ เงินเดือนคุณขึ้นไม่เยอะ แต่ดอกเบี้ยปรับตลอด 3 เดือนครั้ง จากเดิมเคยผ่อน 7000 : 5000
มาตอนนี้หลายคนโดนกันหมดครับ เหลือต้น 5000 : 7000 แล้วพอไม่มีเงินไปโปะ เข้าใจเนอะ
ต้นมันลดช้า แล้วสุดท้ายดอกเบี้ยลอยตัว เงินสดไม่มี รีเทรนชั่นไม่ได้เยอะ คุณก็จ่าย 5000 : 7000 ไปตลอดชีวิต
นอกนั้นการซื้อบ้านและคอนโด ถ้าซื้อในราคาพอเหมาะกับฐานะ มันคุ้มค่าครับ คุ้มค่ากับเวลาที่เราเสียไปเพราะยุคสมัยนี้ อะไรก็แพงยิ่งถ้าใกล้ความสะดวกสบาย จับจองเอาไว้ก่อนเลยดีกว่าอยู่แล้วครับ
มันเป็นการติดหนี้ระยะ 10-30 ปี ต้องคิดดีๆ ครับถ้า คิดไม่ดี ติดหนี้ทั้งชีวิต คิดดี จะติดหนี้แค่ไม่นาน
คำนึงถึงรายจ่ายอนาคตและเงินฉุกเฉินให้ดีอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะตกงานแล้ววิ่งไล่ตบซอมบี้ก็ได้ครับ ตอนโควิดผมนึกว่าซอบบี้ระบาด เงียบไปสะทุกอย่าง ทุกคนหวาดกลัวตกงานอยู่แต่ในห้อง ซอบบี้ก็คือคนติดเชื้อที่ทำงานอยู่ข้างนอก wfh ไม่ได้นั่นแหละ เหมือนกันเป๊ะเลย แค่มันไม่ได้วิ่งมากัด
ถ้าเงินไม่มีผ่อนจ่ายต่อเดือน ทำยังไง นี่แหละครับ กับดักที่อันตรายที่พรากชีวิตทั้งชีวิตไปได้เลย
ความคิดเห็นที่ 10
การเลือกบ้าน ให้พบเจอปัญหาน้อยที่สุด (ยังไงก็คงต้องเจอ)
- ตรวจสอบสภาพ และโครงสร้าง ก่อนจะซื้อ เพื่อให้เหมาะสมกับราคา (โดยเฉพาะมือสอง)
- ถนนหน้าบ้าน ควรจะมีความกว้างอย่างน้อย จอดรถ 2 ฝั่ง ควรวิ่งตรงกลางได้ ถ้าหากจอดรถ 2 ฝั่งพร้อมกัน แล้ววิ่งตรงกลางไม่ได้ควรเลี่ยง เพราะปัญหาเรื่องการจอดรถ ยังไงก็ต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวโฮม ตึกแถว ถ้าเลือกได้ จอดรถ 2 ฝั่งพร้อมกัน แล้ววิ่งสวนกันได้อยู่ คือ ดีมาก
- การดูลักษณะนิสัยเพื่อนบ้านคร่าวๆ โดยไม่ได้มีการพูดคุย คือ ดูว่าชอบจอดรถหน้าบ้านไหม มีการวางสิ่งของกีดขวางบนถนนหรือไม่ การต่อเติมของเพื่อนบ้านเป็นยังไง การปลูกต้นไม้มีการดูแล ไม่ให้ล้ำเข้ามาหรือไม่ จะช่วยกรองเพื่อนบ้านได้ระดับนึง
- สภาพแวดล้อมโครงการโดยรวม เช่น รปภ. ดูแลดีไหม กล้องวงจรปิด ไฟทาง สภาพต้นไม้ ใบไม้บนถนน สิ่งของส่วนกลางอยู่ในสภาพดีไหม (ถ้าเป็นมือสองต้องพิจารณาร่วม ว่ายังอยู่ในสภาพดี)
- โครงการถ้าติดถนนใหญ่จะดีมาก ถ้าอยู่ในซอยควรอยู่ใกล้ถนนใหญ่มากที่สุด ถ้าอยู่ในซอยควรมีทางทะลุออกได้หลายทาง ลดปัญหาจราจรติดขัด ดูทางกลับรถ ควรอยู่ในระยะที่ไม่อ้อมกลับรถไกลเกินไป บางโครงการอยู่ติดทางด่วนก็ไม่ไหว
- รถสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถสองแถว ควรต้องมี อย่าเน้นแค่ มีแท็กซี่ หรือวินมอไซด์เท่านั้น เพราะบ่งบอกถึงความสะดวก และความเจริญระดับนึง ถ้าเลือกได้ ก็ไม่ควรอยู่ห่างรถไฟฟ้ามาก แนะนำให้เลี่ยงโครงการที่แม้แต่แท็กซี่ยังไม่ค่อยขับผ่าน
- ไม่ควรอยู่ติดกับ ห้าง ตลาด เพราะจะเจอปัญหาเรื่องการจราจร และความสกปรกแน่นอน ควรมีระยะห่างระดับนึง
- ควรตรวจสอบปัญหาเรื่องน้ำท่วม ก่อนจะซื้อร่วมด้วย
- ตรวจสอบสภาพ และโครงสร้าง ก่อนจะซื้อ เพื่อให้เหมาะสมกับราคา (โดยเฉพาะมือสอง)
- ถนนหน้าบ้าน ควรจะมีความกว้างอย่างน้อย จอดรถ 2 ฝั่ง ควรวิ่งตรงกลางได้ ถ้าหากจอดรถ 2 ฝั่งพร้อมกัน แล้ววิ่งตรงกลางไม่ได้ควรเลี่ยง เพราะปัญหาเรื่องการจอดรถ ยังไงก็ต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวโฮม ตึกแถว ถ้าเลือกได้ จอดรถ 2 ฝั่งพร้อมกัน แล้ววิ่งสวนกันได้อยู่ คือ ดีมาก
- การดูลักษณะนิสัยเพื่อนบ้านคร่าวๆ โดยไม่ได้มีการพูดคุย คือ ดูว่าชอบจอดรถหน้าบ้านไหม มีการวางสิ่งของกีดขวางบนถนนหรือไม่ การต่อเติมของเพื่อนบ้านเป็นยังไง การปลูกต้นไม้มีการดูแล ไม่ให้ล้ำเข้ามาหรือไม่ จะช่วยกรองเพื่อนบ้านได้ระดับนึง
- สภาพแวดล้อมโครงการโดยรวม เช่น รปภ. ดูแลดีไหม กล้องวงจรปิด ไฟทาง สภาพต้นไม้ ใบไม้บนถนน สิ่งของส่วนกลางอยู่ในสภาพดีไหม (ถ้าเป็นมือสองต้องพิจารณาร่วม ว่ายังอยู่ในสภาพดี)
- โครงการถ้าติดถนนใหญ่จะดีมาก ถ้าอยู่ในซอยควรอยู่ใกล้ถนนใหญ่มากที่สุด ถ้าอยู่ในซอยควรมีทางทะลุออกได้หลายทาง ลดปัญหาจราจรติดขัด ดูทางกลับรถ ควรอยู่ในระยะที่ไม่อ้อมกลับรถไกลเกินไป บางโครงการอยู่ติดทางด่วนก็ไม่ไหว
- รถสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถสองแถว ควรต้องมี อย่าเน้นแค่ มีแท็กซี่ หรือวินมอไซด์เท่านั้น เพราะบ่งบอกถึงความสะดวก และความเจริญระดับนึง ถ้าเลือกได้ ก็ไม่ควรอยู่ห่างรถไฟฟ้ามาก แนะนำให้เลี่ยงโครงการที่แม้แต่แท็กซี่ยังไม่ค่อยขับผ่าน
- ไม่ควรอยู่ติดกับ ห้าง ตลาด เพราะจะเจอปัญหาเรื่องการจราจร และความสกปรกแน่นอน ควรมีระยะห่างระดับนึง
- ควรตรวจสอบปัญหาเรื่องน้ำท่วม ก่อนจะซื้อร่วมด้วย
แสดงความคิดเห็น
ถามคนที่ซื้อบ้านแล้วเสียใจ มีอะไรจะเตือนคนที่ยังไม่ได้ซื้อมั้ยครับ
หรือคนอื่นจะร่วมแชร์ด้วยก็ได้นะครับ