เมื่อ 4 ปีที่แล้ว พี่ศุภชัย คำดี (พี่พจน์) และภริยา อยู่บ้านสำโรง ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้มีโอกาสไปอบรมการทำเกษตรไร้สารพิษที ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง เลขที่ 114/1 ม.1 ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี กับอาจารย์ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร (อ.ยักษ์) ประมาณ 1 อาทิตย์ ด้วยหลักสูตรอันเข้มข้น
หลังจากที่ได้องค์ความรู้ ภูมิปัญญา หลักการและแนวทางที่ชัดเจน รวมถึงความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะทำเกษตรเพื่อเตรียมตัวเกษียณอีก 4 ปีข้างหน้า พี่พจน์และครอบครัวจึงตัดสินใจนำเงินเก็บจำนวน 170, 000 บาท มาปรับพื้นที่ขุดโคกหนองนาที่บ้านเกิดจำนวน 12 ไร่ ด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ๆเป็นพิงพักยามหลังเกษียณกับครอบครัวซึ่งแวดล้อมไปด้วยทรัพยากรแหล่งอาหารที่สมบูรณ์
ในช่วงปีที่ 1-2 เมื่อถึงวันหยุดยาว พี่พจน์จะใช้เวลาในช่วงนั้นขับรถจากที่ทำงานที่จังหวัดชลบุรีมาทำสวนที่สุรินทร์ เมื่อหมดวันหยุดก็จะขับรถกลับไปทำงานตามปรกติ ระยะเส้นทางไปกลับราวๆ 900 กว่ากิโลเมตร ตลอดระยะเวลา 1-2 ปี พี่พจน์และครอบครัวยังคงเดินทางไปกลับเพื่อมาปลูกต้นไม้และพืชอื่นๆเพื่อเตรียมการเอาไว้อย่างที่ได้ตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่
ในช่วงปีที่ 1-2 ต้องใช้ความอดทนและความอุตส่าหะอย่างแรงกล้า แต่ถึงแม้ว่าจะมีความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ท้อแท้ไปบ้าง แต่ก็ยังมีกำลังใจต่อสู้มุมานะด้วยความไม่ยอมแพ้ ด้วยความขยันหมั่นเพียรในช่วงนี้เองพืชต่างๆก็เริ่มเจริญเติบโต ทำให้เริ่มมีกำลังใจในการสานงานต่อของตัวเองมากยิ่งขึ้น
ในปีที่ 3 สถานการณ์โควิด พี่พจน์และครอบครัวได้เดินทางมาอยู่ที่สวนนานมากขึ้น ทำให้มีเวลาที่จะสานงานต่อและทำสวนอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ในช่วงนี้ต้นไม้และพืชต่างๆพากันเจริญเติบโต สวยงาม พืช พันธ์ุธัญญาหารก็อุดมสมบูรณ์มากมาย
ปัจจุบันนี้ (ปี 2566) พี่พจน์และครอบครัวได้กลับมาอยู่ที่บ้านท่ามกลางสิ่งที่มุ่งหวังและตั้งใจที่จะมีสถานที่ๆเป็นพิงพักยามหลังเกษียณกับครอบครัวซึ่งแวดล้อมไปด้วยทรัพยากรแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ตามมุ่งหวัง
การเตรียมตัวเกษียณเป็นเรื่องราวที่เราๆทุกคนคงต้องพบ คงต้องเจอ แต่อย่างไรก็ตามเกษียณวันไหนไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "เราจะเตรียมความพร้อมในการเกษียณอย่างไรให้มีความสุข" สิ่งนี้สำคัญที่สุด
สามารถติดตามคลิปและภาพสวนข้างล่างนี้ได้ครับ
เอ็นดูฟาร์มรัก
28-10-2566
เกษตรก่อนเกษียณ: ขับรถไปกลับชลบุรี-สุรินทร์และ สุรินทร์-ชลบุรี 900 กว่ากิโลเมตร
หลังจากที่ได้องค์ความรู้ ภูมิปัญญา หลักการและแนวทางที่ชัดเจน รวมถึงความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะทำเกษตรเพื่อเตรียมตัวเกษียณอีก 4 ปีข้างหน้า พี่พจน์และครอบครัวจึงตัดสินใจนำเงินเก็บจำนวน 170, 000 บาท มาปรับพื้นที่ขุดโคกหนองนาที่บ้านเกิดจำนวน 12 ไร่ ด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ๆเป็นพิงพักยามหลังเกษียณกับครอบครัวซึ่งแวดล้อมไปด้วยทรัพยากรแหล่งอาหารที่สมบูรณ์
ในช่วงปีที่ 1-2 เมื่อถึงวันหยุดยาว พี่พจน์จะใช้เวลาในช่วงนั้นขับรถจากที่ทำงานที่จังหวัดชลบุรีมาทำสวนที่สุรินทร์ เมื่อหมดวันหยุดก็จะขับรถกลับไปทำงานตามปรกติ ระยะเส้นทางไปกลับราวๆ 900 กว่ากิโลเมตร ตลอดระยะเวลา 1-2 ปี พี่พจน์และครอบครัวยังคงเดินทางไปกลับเพื่อมาปลูกต้นไม้และพืชอื่นๆเพื่อเตรียมการเอาไว้อย่างที่ได้ตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่
ในช่วงปีที่ 1-2 ต้องใช้ความอดทนและความอุตส่าหะอย่างแรงกล้า แต่ถึงแม้ว่าจะมีความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ท้อแท้ไปบ้าง แต่ก็ยังมีกำลังใจต่อสู้มุมานะด้วยความไม่ยอมแพ้ ด้วยความขยันหมั่นเพียรในช่วงนี้เองพืชต่างๆก็เริ่มเจริญเติบโต ทำให้เริ่มมีกำลังใจในการสานงานต่อของตัวเองมากยิ่งขึ้น
ในปีที่ 3 สถานการณ์โควิด พี่พจน์และครอบครัวได้เดินทางมาอยู่ที่สวนนานมากขึ้น ทำให้มีเวลาที่จะสานงานต่อและทำสวนอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ในช่วงนี้ต้นไม้และพืชต่างๆพากันเจริญเติบโต สวยงาม พืช พันธ์ุธัญญาหารก็อุดมสมบูรณ์มากมาย
ปัจจุบันนี้ (ปี 2566) พี่พจน์และครอบครัวได้กลับมาอยู่ที่บ้านท่ามกลางสิ่งที่มุ่งหวังและตั้งใจที่จะมีสถานที่ๆเป็นพิงพักยามหลังเกษียณกับครอบครัวซึ่งแวดล้อมไปด้วยทรัพยากรแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ตามมุ่งหวัง
การเตรียมตัวเกษียณเป็นเรื่องราวที่เราๆทุกคนคงต้องพบ คงต้องเจอ แต่อย่างไรก็ตามเกษียณวันไหนไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ "เราจะเตรียมความพร้อมในการเกษียณอย่างไรให้มีความสุข" สิ่งนี้สำคัญที่สุด
สามารถติดตามคลิปและภาพสวนข้างล่างนี้ได้ครับ
เอ็นดูฟาร์มรัก
28-10-2566