หลาย ๆ คนคงจะรู้แล้วว่าเมื่อเราซื้อหุ้นเราจะได้เงินปันผลจากการซื้อหุ้นด้วย โดยการซื้อหุ้นเป็นการเข้าไปซื้อกิจการในบริษัทนั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบริษัทจะจ่ายเงินปันผล ปีล่ะ 2 ครั้ง โดย % เงินปันผลมาจากสมการ  เปอร์เซ็นต์เงินปันผล = (เงินปันผลที่จ่ายต่อหุ้น / ราคาหุ้น) × 100 % เช่น หุ้น A จ่ายปันผล 1 บาท / หุ้น ราคาหุ้น 10 บาท

เมื่อใส่ตัวเลขตามสูตรเงินเปอร์เซ็นต์เงินปันผล จะได้เปอร์เซ็นต์เงินปันผล = ( 1 / 10) x 100 % = 10 % เป็นต้น
เราสามารถดู % Yield หรือ เปอร์เซ็นต์เงินปันผลได้ที่หน้าจอแอพ Streaming ซึ่งแอพ Streaming เป็นแอพในการซื้อขายหุ้นที่พัฒนาขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยการพิมพ์ชื่อหุ้นไปที่หน้าจอ Quote หรือดูได้ที่ www.set.or.th พิมพ์ชื่อหุ้นแล้วเลือกไปที่งบการเงิน ก็จะมีบอกว่าหุ้นตัวนั้นมีเปอรเซ็นต์เงินปันผลกี่เปอร์เซ็นต์ สำหรับใครที่อยากรู้ว่าบริษัทจ่ายเงินปันผลหุ้นล่ะกี่บาท สามารถเข้าไปดูได้ที่เมนูสิทธิประโยชน์ แต่บางครั้งการที่ซื้อหุ้นที่มีเปอร์เซ็นต์เงินปันผลเยอะอย่างเดียวก็ไม่ได้ดีเสมอไป 

เราควรวิเคราะห์หุ้นด้วยว่าบริษัทมีรายได้ กำไรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไหม ธุรกิจที่ทำจะต้องไม่ถูกทดแทนในอนาคต รวมถึงมีฐานลูกค้าที่เยอะพอสมควร ในกรณีที่เราซื้อหุ้นก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD เราจะมีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลจากการซื้อหุ้น แต่เราต้องถือหุ้นก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD เราจะได้รับเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคารที่เราเปิดพอร์ตไว้กับโบรกเกอร์และเงินปันผลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10 % ถ้าใครรายได้ต่อปีไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีสามารถไปขอรับเครดิตเงินปันผลกับสรรพากรได้ครับ

แต่ก่อนที่เราจะลงทุนในหุ้นหรือซื้อหุ้นเราควรที่จะมีเงินสำรองเอาไว้ใช้จ่ายอย่างน้อย 6 – 12 เดือน เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นราคาหุ้นจะมีความผันผวนเป็นธรรมดา ในวันที่มีการเปิดตลาดซื้อขายหุ้นในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ในช่วงเช้าเวลา 10.00 - 12.30  ช่วงบ่ายเวลา 14.30 – 16.30 การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นต้องใช้ระยะเวลานานกว่าที่จะเห็นเงินของเรางอกเงยเพิ่มขึ้นและเหมาะกับการลงทุนในระยะยาวนั้นก็คือ 10 ปีขึ้น ตลาดหุ้นไม่เหมาะกับการลงทุนระยะสั้นหรือการเก็งกำไรซึ่งในช่วงที่ได้เงินอาจจะได้มากแต่ถ้าถึงเวลาขาดทุนก็อาจจะหมดตัวได้เลยนะครับ