ขอบันทึกราคา Meta เมื่อคืนเอาไว้หน่อย อีก 3 เดือนข้างหน้า ตอน Earning Report จะได้มาดูเปรียบเทียบได้ ว่าขึ้น ลง ไปเท่าไหร่


Meta Quest 3 ที่ Meta ให้สโลแกนว่า "The first mainstream mixed reality headset" ซึ่งเป็น Product ที่อยู่ในกลุ่มของ Reality Lab ที่ฉุดรั้งการเติบโตภาพรวมของ Meta ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานั้น ในฐานะคนเล่นเกม คนใช้อุปกรณ์นี้ ผมเห็นอะไรใน Quest 3 ที่จะช่วย Reality Lab ที่เป็นตัวฉุดแต่กำลังจะเปลี่ยนไปเป็นตัวผลัก ตัวดันให้ Meta ทะยานไปสู่จุดสูงสุดใหม่ต่อไปบ้าง 

1. Meta Quest 3 is gone wild   
    จากการวางจำหน่ายเมื่อต้นเดือน ถึงตอนนี้มีคลิปต่าง ๆ ออกมามากมาย ทั้งการรีวิว การแชร์ภาพระหว่างเล่น และที่ค่อนข้างจะฮือฮาคือการโชว์ความสามารถของ Mixed Reality ที่ทำให้เกมหรือ APP ที่ใช้งานนั้น มีการแสดงผล มีการโต้ตอบร่วมกันระหว่างโลกกับสิ่งของในโลกเสมือนได้อย่างกลมกลืน
    สำหรับคนกลุ่มที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน มีเงินระดับ 2 ถึง 3 หมื่นบาทก็หา Quest 3 มาใช้งานกันตั้งแต่วันวางจำหน่ายแล้ว แต่ก็จะมีอีกหลาย ๆ คนที่รอจะเป็นเจ้าของในช่วงปลายปี ซึ่งสองเทศกาลใหญ่ ๆ ที่จะทำให้ Quest 3 ขายดีเป็นพลุแตกคือ Black Friday และเทศกาลคริสมาสต์  


2. ราคาค่าตัวของ Quest 3
    Oculus Quest 2 คืออุปกรณ์ VR Headset ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดตั้งแต่มี VR มาเมื่อประมาณ 10 ปี โดยรายได้ที่ Quest 2 ทำให้กับ Meta ที่ผ่านมา ประเมินคร่าว ๆ ที่ 20 ล้านชุด x กับค่าตัวของ Quest 2 ที่ 299 เหรียญ 
    แต่สำหรับ Quest 3 รุ่นถูกสุด คือ 499 เหรียญ และประเมินคร่าว ๆ ว่าจะจำหน่ายได้ไม่น้อยกว่า 20 ล้านชุด คำนวณง่าย ๆ แค่นี้ ก็เห็นแล้วว่า Quest 3 จะทำรายได้เข้า Meta มากกว่าตอน Quest 2 พอตัวเลยทีเดียว


3. คู่แข่งตัวฉกาจที่ยังเข้ามาแข่งไม่ได้ 
    วันนี้ คู่แข่งที่พอจะสู้กับ Meta Quest 3 จาก Meta ได้ไหว มีเพียง Pico 4 จาก Bytedance  เท่านั้น เพราะการเข้ามาแข่งขันในธุรกิจนี้ Meta ได้วาง Meta Quest 3 ให้เป็นอุปกรณ์ที่ทำได้หลากหลาย เช่นเล่นเกม ดูหนัง ออกกำลัง หรือแม้กระทั่งใช้ทำงานนั้น ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนที่สูงมาก

    และอีกเรื่องคือกลยุทธ์เรื่องการวางจำหน่ายเกมที่แตกต่างจากตลาดเกมคอนโซล ซึ่งในคอนโซลอย่าง Playstation, Xbox, Nintendo เมื่อซื้อเกมไปแล้วใน Generation นึงหากมีการเปลี่ยน Gen ใหม่เช่น จาก Playstation 3 ไปเป็น Playstation 4 จะต้องมีการซื้อเกมนั้นใหม่อีกครั้ง หรืออาจจะไม่มีเกมที่เคยอยากเล่นในวางขายใน Play 4 เลย แต่ต้องเล่นใน Play 3 ต่อไป
     แต่การขายเกมใน Meta Store นั้น เมื่อซื้อไปแล้ว ก็สามารถใช้งานได้เรื่อย ๆ เช่นซื้อตั้งแต่ Oculus Rift ก็ยังเอามาเล่นเมื่อมี Quest 2 แล้วก็ยังเอาไปเล่นได้อีกใน Quest 3 โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ดังนั้นคนที่เคยมีเกมอยู่แล้วใน Quest 2 ก็ยากที่จะเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น เพราะเกมที่เคยซื้อไว้ก็จะเล่นไม่ได้ ต้องเสียเงินซื้อใหม่ เป็นการกันคู่แข่งได้ดี โดยเฉพาะคู่แข่งที่มาเริ่มทีหลัง ก็ไม่รู้ว่ากลยุทธ์อันแยบคายนี้ ถูกคิดไว้ดีตั้งแต่แรกหรือเป็นความบังเอิญ 
 
    ซึ่งจุดแข็งของ Meta เหล่านี้ มีเพียง Bytedance ที่คนไทยคุ้นเคยกันในฐานะเจ้าของ Tiktok ที่ยังพอจะมีเงินถุงเงินถังมาทุ่มสู้ได้ มีการดึงให้นักพัฒนาเอาเกมมาลงขายใน Store ของตัวเองเช่นกัน ในขณะที่ค่ายอื่น ซึ่งเงินไม่หนาเท่า ได้แต่มองตาปริบปริบ


    แต่ถึงแม้ Bytedance จะพยายามทำให้จุดแข็งเรื่องนี้ของ Meta ลดลง เพราะถ้ายิ่งปล่อยไปนาน ๆ ให้ Meta ประสบความสำเร็จอีกแค่ 2-3 ปี โอกาสที่จะสู้ไหวแทบจะเหลือ 0.01%
    แต่ แต่ แต่!!! สำหรับยุโรป เอเชียและจีนแล้ว สถาณการณ์ของการจำหน่าย Pico 4 ค่อนข้างดี โดยเฉพาะ Pico 4 VR ตัวล่าสุด ซึ่งมีการทำตลาดอย่างจริงจังในประเทศไทยด้วย แต่ที่อเมริกานั้น Pico ยังมีปัญหาใหญ่คือยังไม่สามารถวางขาย Pico 4 ได้ เคยเหมือนจะเปิดตัว โปรโมทว่าให้จับตาให้ดี กำลังจะมีข่าวใหญ่ แต่ก็ชะงักไปในแทบจะวันสุดท้าย ดังนั้นคนในอเมริกาถ้าอยากได้ Pico 4 ก็ต้องหาวิธีการสั่งพิเศษ
    ดังนั้น Meta Quest 3 จึงเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของคนในอเมริกา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ Meta Quest 3 จะทำเงินให้ Meta ในปลายปีนี้ จาก 2 เทศกาลจับจ่ายที่กำลังจะมาถึง ดังภาษิตไทยที่ว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

4. ราคาเกมที่ยกระดับขึ้น
     ในอุปกรณ์รุ่นก่อนหน้า Quest 3 นั้น อุปกรณ์ยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนัก หน่วยความจำก็ไม่เยอะพอที่ผู้พัฒนาจะทำอะไรได้มาก แต่การมาของ Quest 3  มันมาถึงจุดที่เริ่มใกล้เคียงเครื่องเกมคอนโซลหลาย ๆ รุ่น แรงพอ ๆ กับเครื่องคอมหรือ Notebook Gaming หลาย ๆ รุ่น ดังนั้นเกมใหม่ ๆ ที่ออกมาหลังจากนี้โดยเฉพาะจากสตูดิโอใหญ่ ๆ จะเล่นได้นานขึ้น จากเกมที่เคยเล่นได้แค่ 2-4 ชั่วโมง จะสามารถเล่นโหมดเนื้อเรื่องได้เป็นระดับ 10 ชั่วโมงขึ้น ดังนั้นราคาเกมที่เคยมีขายอยู่แค่ 19 เหรียญ 29 เหรียญ หรือนาน ๆ จะมีเกมที่ขายที่ 39 เหรียญออกมาขายใน Meta Store ต่อไปราคาขายเกมที่ดี คุณภาพสูง เกมระดับใกล้เคียงกับเกม AAA ของเครื่องคอนโซล จะวางขายที่ 59 เหรียญเยอะขึ้น หรือเกมราคา 39 เหรียญจากที่เมื่อก่อนนาน ๆ โผล่มาที ก็จะมีมาวางขายบ่อยขึ้น

เกม Asgard's Wrath 2 เกมระดับ AAA ที่ช่วงนี้แจกฟรีสำหรับผู้ซื้อ Quest 3 แต่หลังจากหมดโปรโมชั่น จะขายที่ 59 เหรียญ

5. ส่วนแบ่งยอดขายที่ทำให้ Meta รวยไปด้วยกันกับนักพัฒนา
    การให้เช่าที่เพื่อขายของ ปรกติจะตกลงกันเป็นระยะเวลาเช่า เช่นวันละ 150 บาท หรือเดือนละ 10,000 หรือเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ตามทำเล ตามปัจจัยต่าง ๆ ขายดีหรือไม่ดีผู้ให้เช่าก็ไม่มีผลอะไร รอเก็บค่าเช่าตามที่ตกลงไว้อย่างเดียว
    แต่กับการขายเกมใน Meta Store นั้น แตกต่างออกไป มีการหักเงินเข้า Meta ในทุก ๆ ครั้งที่ขายได้ ยิ่งเกมขายดี Meta ก็ยิ่งได้เงินเยอะขึ้น
    ดังนั้น ต่อจากข้อ 4 ที่ราคาเกมกำลังจะขายสูงขึ้น หมายความว่า รายได้ของ Meta ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

6. จากคู่แข่งสู่ Partner
    Microsoft มี Product ทางด้านนี้อยู่เหมือนกัน คือ HaloLens ซึ่งตอนแรกจะมองว่าเป็นคู่แข่งกันกับ Meta ก็ได้ โดยเฉพาะ Meta Quest Pro แต่หลังจากออก HoloLens 2 มา ก็เหมือนจะเงียบไปเยอะเลย ไม่รู้สุดท้ายแล้วจะถอดใจออกจากธุรกิจกลุ่มนี้ เหมือนที่ Google ถอดใจกับ Google Smart Glass หรือเปล่า
   โดยตอนนี้ ไม่ใช่เฉพาะ App สำหรับคนทำงานต่าง ๆ เช่น MS Team, MS Office ที่ Meta และ Microsoft กำลังร่วมมือกันทำให้ใช้งานใน Quest 3 ได้ เกมหลาย ๆ เกมที่เคยขายในเครื่อง Xbox ก็กำลังจะสามารถ Stream มาเล่นใน Quest 3 ด้วยจอขนาดยักษ์ที่จำลองการแสดงผลอยู่ใน Headset  คนที่มี Quest 3 อยู่แล้วจ่ายค่าบริการ Xbox Cloud Gaming หาจอย XBOX มาเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับ Quest 3 ก็เล่นได้ทันที

7 . ของที่ใคร ๆ ก็กำลังจะอยากมี 
    การมาของ Mixed Reality ทำให้มีเกม/APP ประเภทใหม่ ๆ ที่จะช่วยดึงคนทั่ว ๆ ไป เข้ามามากขึ้น เช่นเกมฝึกเปียโนอย่าง Piano Vision เกมวาดรูปสีน้ำมันอย่าง Vermillion
    การมาของ Depth Sensor ที่นักพัฒนากำลังพยายามปลดล็อกศักยภาพ นำเสนอรูปแบบเกม/App รูปแบบใหม่ ๆ 
    การทำงานใน VR ที่อาจจะดูฝืนเกินไปในอดีต แต่ด้วยความคมชัด ความสะบายตา และถ้าหาอุปกรณ์เสริมที่ทำให้ Quest 3 ใส่แล้วรู้สึกสบายขึ้นกว่าตอนที่ออกมาจากกล่อง การทำงานใน VR ก็ไม่ได้เป็นเรื่องโจ๊ก ขำขันอีกต่อไป

รูปกระทู้นี้ที่เขียนตั้งแต่ต้นจนจบใน Quest 3 โดยเปิดอีกจอด้านบนสำหรับฟังเพลงใน Youtube ไปด้วยพลาง ๆ 

8. การขายเกม 2D ใน Meta Store
    ข้อนี้ ต้องขอบอกแต่เนิ่น ๆ ว่ามโนขึ้นเองล้วน ๆ ยังไม่มี Concept หรือไอเดียใด ๆ ที่ออกมาพูดจากฝั่ง Meta แต่ด้วยความที่ Quest 3 นั้นเป็น Headset แบบ Standalone ที่สามารถประมวลผลคุณภาพสูงและแสดงผลคุณภาพสูงได้ในตัวแบบเบ็ดเสร็จ ดังนั้น การจะนำเกมเก่า ๆ แบบ 2D ในเครื่องคอนโซลต่าง ๆ หรือที่ขายใน Steam ใน Epic Store ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป โดยเฉพาะเกมอินดี้ ที่ไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ที่ต้องจำหน่ายให้กับเฉพาะบางเครื่องเท่านั้น น่าจะมาเป็นกลุ่มแรก ๆ เลย มาวางขายแบบถูกต้อง ไม่ใช่การแอบลักลอบทำ Emulator แล้วเอา Rom เกมมาเปิดแอบเล่นฟรี

รูป Conceptual มโน การเล่นเกม 2D ในจอเสมือนของ Quest 3 ที่จะเพิ่มรายได้กลุ่มใหม่ให้กับ Meta  

จากตัวอย่างที่ยกมา ยอดขาย 20 ล้านสำหรับ Quest 3 อาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ

ก็เป็นตัวอย่างข้อมูลและมุมมองจากคนที่เล่นเกมคอนโซลมาอย่างยาวนาน ผันตัวมาสู่วงการ VR ใช้ Quest 2, Pico4 Quest 3 ที่ตอนนี้ลงทุนในหุ้น Meta อยู่ เป็นหุ้นต่างประเทศตัวแรกที่ซื้อ และตอนนี้ก็ยังมีแค่ตัวเดียวที่อยากจะมาแชร์กันครับ