เห็นหัวไม่เห็นหาง ทางวงกตอุโมงค์ใต้ฉนวนกาซา ไพ่ตายของกลุ่มฮามาส
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208988
เจาะลึก “เครือข่ายอุโมงค์” ใต้ฉนวนกาซา แนวป้องกันอันลึกลับของกลุ่มฮามาสที่อิสราเอลต้องหาทางจัดการให้ได้ หากต้องการกวาดล้างกลุ่มฮามาส
เมื่อพูดถึงกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ฮามาส ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำว่า “มังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง” ซึ่งใช้บรรยายถึงคนที่มีความลึกลับ ไม่เปิดเผยตัวตนหรือความสามารถของตัวเอง และยังยากต่อการทำความเข้าใจและกำจัด
สิ่งที่ทำให้รู้สึกเช่นนั้น เกิดจากหนึ่งในสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นเหมือน “
ไพ่ตาย” ของฮามาส นั่นคือ “
เครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน” อันลึกลับซับซ้อนที่ซ่อนตัวอย่างมิดชิกอยู่ใต้ฉนวนกาซา
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงจากตะวันตกและตะวันออกกลางระบุว่า เครือข่ายอุโมงค์ดังกล่าวมีความยาวหลายร้อยกิโลเมตรและลึกถึง 80 เมตร โดยกระจายแตกสายเป็นวงกว้างไม่ต่างจากใยแมงมุม
กลุ่มฮามาสใช้เครือข่ายอุโมงค์นี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ทั้งเพื่อการบุกโจมตี ลักลอบขนสินค้ารวมถึงอาวุธ เพราะอิสราเอลควบคุมพรมแดน อากาศ และทะเลของฉนวนกาซาไว้อย่างหมดจด อุโมงค์จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่วิธีที่กลุ่มฮามาสสามารถลักลอบทำสิ่งต่าง ๆ ได้
หนึ่งในจุดประสงค์ที่สำคัญที่สุดของอุโมงค์คือ เพื่อการป้องกัน เพราะมันเป็นเหมือนด่านกั้นที่สำคัญซึ่งทำให้กองทัพอิสราเอลไม่สามารถบุกเข้ามาทำลายล้างกลุ่มฮามาสได้โดยตรง
แต่หากอิสราเอลต้องการ “
กวาดล้าง” กลุ่มฮามาสให้หายไปจากฉนวนกาซาจริงตามที่เคยประกาศกร้าวออกมา ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญหน้ากับเครือข่ายอุโมงค์สุดลึกลับนี้
สหรัฐฯ เชื่อว่า กองกำลังพิเศษของอิสราเอลจะเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธฮามาส ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการสังหารตัวประกันที่ถูกคุมขังอยู่ใต้ดิน
ด้วยความเหนือกว่าทางทหารทางอากาศและยานเกราะของอิสราเอล อุโมงค์จึงเป็นหนทางที่จะตัดข้อได้เปรียบเหล่านั้น โดยบังคับให้ทหารอิสราเอลต้องเดินลงใต้ดินในพื้นที่คับแคบที่นักรบฮามาสคุ้นเคยและรู้จักดีมากกว่า การบุกเข้าไปในอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสจึงไม่ต่างอะไรจากการถูกดึงเข้าไปเล่นในเกมที่อีกฝ่ายถนัด
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากอิสราเอลบุกเข้าไปในอุโมงค์ อาจต้องเจอกับกับดักจำนวนมาก
เขาบอกว่า การต่อสู้นาน 9 เดือนของอิรักเพื่อยึดเมืองโมซุลคืนจากกลุ่มรัฐอิสลามเมื่อปี 2017 อาจเป็นเรื่องง่ายกว่าสิ่งที่กำลังรอคอยอิสราเอลอยู่ที่ใต้ดินนั้นด้วยซ้ำ
“
ภายในอุโมงค์น่าจะมี IED (อุปกรณ์ระเบิดชั่วคราว) จำนวนมาก มีกับดักมากมาย และเป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามมากจริง ๆ”
ออสตินกล่าว
แม้ว่าอิสราเอลจะลงทุนมหาศาลในการพยายามตรวจจับอุโมงค์ ซึ่งรวมถึง “กำแพงเหล็ก” หรือแผงกั้นใต้ดินที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว แต่ก็เชื่อว่า กลุ่มฮามาสยังคงมีอุโมงค์สำหรับออกสู่โลกภายนอกที่ใช้งานได้อีกเป็นจำนวนมาก
หลังจากการสู้รบครั้งก่อนหน้านี้ในปี 2021
เยห์ยา อัล-ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซากล่าวว่า “
อิสราเอลบอกว่า พวกเขาทำลายอุโมงค์ฮามาสได้เป็นระยะทาง 100 กม. ผมขอบอกคุณเลยว่า อุโมงค์ที่เรามีในฉนวนกาซายาวเกิน 500 กม. และหากว่าเรื่องที่พวกเขาบอกเป็นจริง พวกเขาก็ทำลายอุโมงค์ได้เพียง 20% เท่านั้น”
โลกภายนอกไม่อาจทราบได้เลยว่า คำกล่าวอ้างของซินวาร์เป็นจริงมากน้อยเพียงใด แต่นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ แม้ฉนวนกาซาจะมีความยาวเพียง 41 กิโลเมตร กว้าง 10 กิโลเมตร รวมพื้นที่ราว 365 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น
แม้ที่ผ่านมา อิสราเอลจะเคยบุกโจมตีอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสได้สำเร็จหลายจุด แต่ก็ไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์หรือชัดเจนเลย ทำให้เครือข่ายอุโมงค์นี้ยังคงเต็มไปด้วยความลึกลับเสมอมา
ล่าสุด
โยเชเวด ลิฟชิตซ์ ตัวประกันหญิงชาวอิสราเอลวัย 85 ปี ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกมา กล่าวถึงเครือข่ายอุโมงค์ที่เธอถูกจับเข้าไปว่า “
มันดูเหมือนใยแมงมุม มีอุโมงค์มากมาย เราเดินอยู่ใต้ดินเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร”
แหล่งข่าวความมั่นคงของอิสราเอลกล่าวว่า การโจมตีทางอากาศอย่างหนักของอิสราเอลสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างของเครือข่ายอุโมงค์ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ที่น่าสนใจคือ อุโมงค์ของกลุ่มฮามาสไม่ได้มีเพียงแค่ทางเดินเท่านั้น แต่ยังมี “เมือง” อยู่ด้วย
อามีร์ อาวีวี อดีตนายพลตำแหน่งอาวุโสในกองทัพอิสราเอลและผู้บัญชาการฝ่ายฉนวนกาซา ซึ่งเคยได้รับมอบหมายให้จัดการกับอุโมงค์ บอกว่า “
มันมีเมืองอยู่ทั่วด้านล่างของฉนวนกาซาที่ความลึก 40-50 เมตร มีบังเกอร์ สำนักงานใหญ่ และคลังเก็บของ และแน่นอนว่าเมืองเหล่านี้เชื่อมต่อกับจุดปล่อยจรวดมากกว่าพันจุด” ขณะที่แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ประเมินความลึกของเมืองใต้ดินไว้สูงสุดถึง 80 เมตร
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของชาติตะวันตกรายหนึ่งกล่าวว่า "
พวกมันวิ่งเป็นระยะทางหลายไมล์ พวกมันทำจากคอนกรีตและทำมาอย่างดี ลองนึกถึงเวียดกงคูณ 10 พวกมันมีเวลาหลายปีและมีเงินมากมายในการทำงานด้วย"
เครือข่ายอุโมงค์เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาแข็งแกร่งกว่ากลุ่มติดอาวุธในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครอง
แม้ว่าอุโมงค์ของกาซาจะยังคงเป้นเรื่องลึกลับสำหรับโลกภายนอก แต่ในอดีต ผู้ลักลอบขนสินค้าและอาวุธเข้าฉนวนกาซาได้เคยอวดอุโมงค์จุดหนึ่งบริเวณใต้ชายแดนราฟาห์ซึ่งติดกับอียิปต์
อาบู กูเซย์ ผู้ดูแลอุโมงค์ราฟาห์รายหนึ่งกล่าวว่า อุโมงค์ยาวไม่ถึง 1 กม. ใช้เวลาขุดนาน 3-6 เดือน และสามารถสร้างกำไรได้มากถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3.6 ล้านบาท) ต่อวัน
เขาบอกว่า สิ่งที่ทำกำไรได้มากที่สุดคือ “กระสุน” ซึ่งซื้อมาจากอียิปต์ในราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐ (36 บาท) ต่อชิ้นในอียิปต์ และขายต่อให้กาซาได้มากกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 215 บาท) หรือปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟ (AK-47) ซึ่งมีราคาอยู่ 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 28,900 บาท) ในอียิปต์ แต่ขายให้กาซาได้แพงกว่านั้น 2 เท่า
ศ.
โจเอล รอสกิน นักธรณีสัณฐานวิทยาและนักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยบาร์-อิลาน ในอิสราเอล กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะทำแผนที่เครือข่ายอุโมงค์ฮามาสอย่างแม่นยำจากพื้นผิวหรืออวกาศ
ในบรรดาหน่วยหัวกะทิที่ได้รับมอบหมายให้จัดการกับเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินของฮามาส คือ “
ยาฮาลอม” (Yahalom) หน่วยคอมมานโดจากทีมวิศวกรรมการต่อสู้ของอิสราเอล มีชื่อเล่นว่า “
วีเซิล” เชี่ยวชาญในการค้นหา เคลียร์ และทำลายอุโมงค์
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล
เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ไปเยี่ยมทหารยาฮาลอม และบอกพวกเขาว่า “
ผมต้องพึ่งพาคุณนะ ประชาชนอิสราเอลต้องพึ่งพาคุณ”
เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปว่า ในปฏิบัติการจู่โจมภาคพื้นดินของอิสราเอลที่ใกล้จะเกิดขึ้นนี้ ฝ่ายอิสราเอลจะสามารถจับมังกรเห็นหัวไม่เห็นหางตัวนี้ไว้ได้อยู่มือหรือไม่
เรียบเรียงจาก
Reuters
สหรัฐมอบเรือตรวจการณ์ให้ตำรวจน้ำไทย12ลำ
https://www.innnews.co.th/news/local/news_633025/
สหรัฐมอบเรือตรวจการณ์ให้ตำรวจน้ำไทย 12 ลำ รวมมูลค่ากว่า 75 ล้านบาทประจำการตามลำน้ำโขง
นาย
โรเบิร์ต เอฟ โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าวว่า โครงการความร่วมมือดังกล่าว เกิดขึ้นจากฝ่ายความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและยาเสพติด (International Narcotics and Law Enforcement – INL) สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย จนนำมาสู่การมอบเรือตรวจการณ์ขนาด 22.3 ฟุต หรือ 6.7 เมตร จำนวน 12 ลำ มูลค่ารวม 75,465,513.25 บาท หรือ 2.15 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเรือตรวจการณ์นี้ถูกออกแบบมาให้มีความหนากว่าปกติ เดินน้ำตื้นได้เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานตรวจการณ์ตามแนวแม่น้ำที่มีเกาะแก่ง และตื้นเขินในบางฤดู เช่นแม่น้ำโขงซึ่งมีความสำคัญเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทย อีกทั้งเป็นจุดสำคัญในการลำเลียงขนถ่ายยาเสพติดข้ามพรมแดน และอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้ เรือทั้ง 12 ลำ ทาง บก.รน.จะจัดสรรให้แก่ตำรวจน้ำกองกำกับการ 10, 11 และ 12 ซึ่งมีสถานีรับผิดชอบรวม 12 สถานี โดยจะมอบให้สถานีละ 1 ลำ พร้อมเทรลเลอร์ลากจูง
“
นอกจากนี้ ผู้แทนจากกำลังพลหน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Coast Guard) และฝ่ายความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและยาเสพติดยังได้ทำการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจำนวน 24 นายซึ่งปฎิบัติงานตามลำน้ำโขง ตั้งแต่วันที่ 16-26 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการฝึกอบรมเป็นหลักสูตรปฏิบัติการเรือขนาดเล็ก การใช้เรือเล็กลาดตระเวน และการเข้าเทียบเรือเพื่อจับกุมผู้กระทำผิดและผู้ต้องสงสัย เรือตรวจการณ์จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยให้มีการบังคับใช้กฎหมายและปฏิบัติการด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนและทางน้ำที่อาจเสี่ยงต่อการกระผิดกฎหมายในประเทศไทย”
ขณะที่ นาย
ราชันย์ ซุนฮั้ว ผวจ.หนองคาย กล่าวว่า หนองคายเป็นจังหวัดชายแดนติดกับ สปป.ลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ ความยาวตลอดแนวเขตจังหวัดหนองคาย 210 กม. ด้วยที่ตั้งอันเป็นชัยภูมิสำคัญนี้ ส่งผลให้จังหวัดหนองคาย ได้รับการประกาศให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และเป็นหนึ่งในจังหวัดระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อพัฒนาให้เป็นฐานอุตสาหกรรมชีวภาพแห่งใหม่ของประเทศ
ร่วมกับ จ.ขอนแก่น,นครราชสีมา และ จ.อุดรธานี และยังเป็นปลายทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มีกลุ่มประชากรเข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มนักลงทุน กลุ่มแรงงาน และกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
“
จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย ทราบว่าปัจจุบันมีพลเมืองชาวอเมริกันเข้ามาพำนักในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จำนวน 117คน โดยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตพักผ่อนหลังเกษียณจากการทำงาน อยู่กับครอบครัวหรือภรรยาคนไทย เป็นนักท่องเที่ยว เป็นครูสอนภาษา และประกอบธุรกิจ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มพลเมืองชาวอเมริกันเหล่านี้ สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนไทยได้อย่างมีความสุข และหลายๆ ครั้งที่เห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวหนองคายด้วยความผสมกลมกลืนเป็นอย่างดี และการเป็นเมืองชายแดนริม แม่น้ำโขง ย่อมจะมีปัญหาอาชญากรรมทางน้ำ เหตุสาธารณภัย อุบัติภัย และปัญหาความมั่นคงชายแดนอื่นๆ ตามมาด้วย โดยเฉพาะการลักลอบขนยาเสพติดในลำน้ำโขง ซึ่งสถิติสำคัญตลอดปีงบประมาณ 2566 หน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และศุลกากร สามารถจับกุมการกระทำผิดคดียาเสติดไดถึง 2,800 คดี ของกลางส่วนใหญ่ที่สามารถยึดได้ คือ ยาบ้า ประมาณ 12 ล้านเม็ด ยาอี 20,000 กว่าเม็ด และไอซ์กว่า 300 กก.”
JJNY : ไพ่ตายของกลุ่มฮามาส│สหรัฐมอบเรือตรวจการณ์ให้ตำรวจน้ำไทย│'ศิริกัญญา' ซัดแจกเงินดิจิทัล│น้ำตาลทรายเกลี้ยงเชลฟ์
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208988
เจาะลึก “เครือข่ายอุโมงค์” ใต้ฉนวนกาซา แนวป้องกันอันลึกลับของกลุ่มฮามาสที่อิสราเอลต้องหาทางจัดการให้ได้ หากต้องการกวาดล้างกลุ่มฮามาส
เมื่อพูดถึงกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ฮามาส ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำว่า “มังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง” ซึ่งใช้บรรยายถึงคนที่มีความลึกลับ ไม่เปิดเผยตัวตนหรือความสามารถของตัวเอง และยังยากต่อการทำความเข้าใจและกำจัด
สิ่งที่ทำให้รู้สึกเช่นนั้น เกิดจากหนึ่งในสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นเหมือน “ไพ่ตาย” ของฮามาส นั่นคือ “เครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน” อันลึกลับซับซ้อนที่ซ่อนตัวอย่างมิดชิกอยู่ใต้ฉนวนกาซา
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงจากตะวันตกและตะวันออกกลางระบุว่า เครือข่ายอุโมงค์ดังกล่าวมีความยาวหลายร้อยกิโลเมตรและลึกถึง 80 เมตร โดยกระจายแตกสายเป็นวงกว้างไม่ต่างจากใยแมงมุม
กลุ่มฮามาสใช้เครือข่ายอุโมงค์นี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ทั้งเพื่อการบุกโจมตี ลักลอบขนสินค้ารวมถึงอาวุธ เพราะอิสราเอลควบคุมพรมแดน อากาศ และทะเลของฉนวนกาซาไว้อย่างหมดจด อุโมงค์จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่วิธีที่กลุ่มฮามาสสามารถลักลอบทำสิ่งต่าง ๆ ได้
หนึ่งในจุดประสงค์ที่สำคัญที่สุดของอุโมงค์คือ เพื่อการป้องกัน เพราะมันเป็นเหมือนด่านกั้นที่สำคัญซึ่งทำให้กองทัพอิสราเอลไม่สามารถบุกเข้ามาทำลายล้างกลุ่มฮามาสได้โดยตรง
แต่หากอิสราเอลต้องการ “กวาดล้าง” กลุ่มฮามาสให้หายไปจากฉนวนกาซาจริงตามที่เคยประกาศกร้าวออกมา ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญหน้ากับเครือข่ายอุโมงค์สุดลึกลับนี้
สหรัฐฯ เชื่อว่า กองกำลังพิเศษของอิสราเอลจะเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธฮามาส ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการสังหารตัวประกันที่ถูกคุมขังอยู่ใต้ดิน
ด้วยความเหนือกว่าทางทหารทางอากาศและยานเกราะของอิสราเอล อุโมงค์จึงเป็นหนทางที่จะตัดข้อได้เปรียบเหล่านั้น โดยบังคับให้ทหารอิสราเอลต้องเดินลงใต้ดินในพื้นที่คับแคบที่นักรบฮามาสคุ้นเคยและรู้จักดีมากกว่า การบุกเข้าไปในอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสจึงไม่ต่างอะไรจากการถูกดึงเข้าไปเล่นในเกมที่อีกฝ่ายถนัด
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากอิสราเอลบุกเข้าไปในอุโมงค์ อาจต้องเจอกับกับดักจำนวนมาก
เขาบอกว่า การต่อสู้นาน 9 เดือนของอิรักเพื่อยึดเมืองโมซุลคืนจากกลุ่มรัฐอิสลามเมื่อปี 2017 อาจเป็นเรื่องง่ายกว่าสิ่งที่กำลังรอคอยอิสราเอลอยู่ที่ใต้ดินนั้นด้วยซ้ำ
“ภายในอุโมงค์น่าจะมี IED (อุปกรณ์ระเบิดชั่วคราว) จำนวนมาก มีกับดักมากมาย และเป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามมากจริง ๆ” ออสตินกล่าว
แม้ว่าอิสราเอลจะลงทุนมหาศาลในการพยายามตรวจจับอุโมงค์ ซึ่งรวมถึง “กำแพงเหล็ก” หรือแผงกั้นใต้ดินที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว แต่ก็เชื่อว่า กลุ่มฮามาสยังคงมีอุโมงค์สำหรับออกสู่โลกภายนอกที่ใช้งานได้อีกเป็นจำนวนมาก
หลังจากการสู้รบครั้งก่อนหน้านี้ในปี 2021 เยห์ยา อัล-ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซากล่าวว่า “อิสราเอลบอกว่า พวกเขาทำลายอุโมงค์ฮามาสได้เป็นระยะทาง 100 กม. ผมขอบอกคุณเลยว่า อุโมงค์ที่เรามีในฉนวนกาซายาวเกิน 500 กม. และหากว่าเรื่องที่พวกเขาบอกเป็นจริง พวกเขาก็ทำลายอุโมงค์ได้เพียง 20% เท่านั้น”
โลกภายนอกไม่อาจทราบได้เลยว่า คำกล่าวอ้างของซินวาร์เป็นจริงมากน้อยเพียงใด แต่นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ แม้ฉนวนกาซาจะมีความยาวเพียง 41 กิโลเมตร กว้าง 10 กิโลเมตร รวมพื้นที่ราว 365 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น
แม้ที่ผ่านมา อิสราเอลจะเคยบุกโจมตีอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสได้สำเร็จหลายจุด แต่ก็ไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์หรือชัดเจนเลย ทำให้เครือข่ายอุโมงค์นี้ยังคงเต็มไปด้วยความลึกลับเสมอมา
ล่าสุด โยเชเวด ลิฟชิตซ์ ตัวประกันหญิงชาวอิสราเอลวัย 85 ปี ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกมา กล่าวถึงเครือข่ายอุโมงค์ที่เธอถูกจับเข้าไปว่า “มันดูเหมือนใยแมงมุม มีอุโมงค์มากมาย เราเดินอยู่ใต้ดินเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร”
แหล่งข่าวความมั่นคงของอิสราเอลกล่าวว่า การโจมตีทางอากาศอย่างหนักของอิสราเอลสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างของเครือข่ายอุโมงค์ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ที่น่าสนใจคือ อุโมงค์ของกลุ่มฮามาสไม่ได้มีเพียงแค่ทางเดินเท่านั้น แต่ยังมี “เมือง” อยู่ด้วย
อามีร์ อาวีวี อดีตนายพลตำแหน่งอาวุโสในกองทัพอิสราเอลและผู้บัญชาการฝ่ายฉนวนกาซา ซึ่งเคยได้รับมอบหมายให้จัดการกับอุโมงค์ บอกว่า “มันมีเมืองอยู่ทั่วด้านล่างของฉนวนกาซาที่ความลึก 40-50 เมตร มีบังเกอร์ สำนักงานใหญ่ และคลังเก็บของ และแน่นอนว่าเมืองเหล่านี้เชื่อมต่อกับจุดปล่อยจรวดมากกว่าพันจุด” ขณะที่แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ประเมินความลึกของเมืองใต้ดินไว้สูงสุดถึง 80 เมตร
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของชาติตะวันตกรายหนึ่งกล่าวว่า "พวกมันวิ่งเป็นระยะทางหลายไมล์ พวกมันทำจากคอนกรีตและทำมาอย่างดี ลองนึกถึงเวียดกงคูณ 10 พวกมันมีเวลาหลายปีและมีเงินมากมายในการทำงานด้วย"
เครือข่ายอุโมงค์เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาแข็งแกร่งกว่ากลุ่มติดอาวุธในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครอง
แม้ว่าอุโมงค์ของกาซาจะยังคงเป้นเรื่องลึกลับสำหรับโลกภายนอก แต่ในอดีต ผู้ลักลอบขนสินค้าและอาวุธเข้าฉนวนกาซาได้เคยอวดอุโมงค์จุดหนึ่งบริเวณใต้ชายแดนราฟาห์ซึ่งติดกับอียิปต์
อาบู กูเซย์ ผู้ดูแลอุโมงค์ราฟาห์รายหนึ่งกล่าวว่า อุโมงค์ยาวไม่ถึง 1 กม. ใช้เวลาขุดนาน 3-6 เดือน และสามารถสร้างกำไรได้มากถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3.6 ล้านบาท) ต่อวัน
เขาบอกว่า สิ่งที่ทำกำไรได้มากที่สุดคือ “กระสุน” ซึ่งซื้อมาจากอียิปต์ในราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐ (36 บาท) ต่อชิ้นในอียิปต์ และขายต่อให้กาซาได้มากกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 215 บาท) หรือปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟ (AK-47) ซึ่งมีราคาอยู่ 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 28,900 บาท) ในอียิปต์ แต่ขายให้กาซาได้แพงกว่านั้น 2 เท่า
ศ.โจเอล รอสกิน นักธรณีสัณฐานวิทยาและนักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยบาร์-อิลาน ในอิสราเอล กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะทำแผนที่เครือข่ายอุโมงค์ฮามาสอย่างแม่นยำจากพื้นผิวหรืออวกาศ
ในบรรดาหน่วยหัวกะทิที่ได้รับมอบหมายให้จัดการกับเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินของฮามาส คือ “ยาฮาลอม” (Yahalom) หน่วยคอมมานโดจากทีมวิศวกรรมการต่อสู้ของอิสราเอล มีชื่อเล่นว่า “วีเซิล” เชี่ยวชาญในการค้นหา เคลียร์ และทำลายอุโมงค์
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ไปเยี่ยมทหารยาฮาลอม และบอกพวกเขาว่า “ผมต้องพึ่งพาคุณนะ ประชาชนอิสราเอลต้องพึ่งพาคุณ”
เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปว่า ในปฏิบัติการจู่โจมภาคพื้นดินของอิสราเอลที่ใกล้จะเกิดขึ้นนี้ ฝ่ายอิสราเอลจะสามารถจับมังกรเห็นหัวไม่เห็นหางตัวนี้ไว้ได้อยู่มือหรือไม่
เรียบเรียงจาก Reuters
สหรัฐมอบเรือตรวจการณ์ให้ตำรวจน้ำไทย12ลำ
https://www.innnews.co.th/news/local/news_633025/
สหรัฐมอบเรือตรวจการณ์ให้ตำรวจน้ำไทย 12 ลำ รวมมูลค่ากว่า 75 ล้านบาทประจำการตามลำน้ำโขง
นายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าวว่า โครงการความร่วมมือดังกล่าว เกิดขึ้นจากฝ่ายความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและยาเสพติด (International Narcotics and Law Enforcement – INL) สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย จนนำมาสู่การมอบเรือตรวจการณ์ขนาด 22.3 ฟุต หรือ 6.7 เมตร จำนวน 12 ลำ มูลค่ารวม 75,465,513.25 บาท หรือ 2.15 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเรือตรวจการณ์นี้ถูกออกแบบมาให้มีความหนากว่าปกติ เดินน้ำตื้นได้เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานตรวจการณ์ตามแนวแม่น้ำที่มีเกาะแก่ง และตื้นเขินในบางฤดู เช่นแม่น้ำโขงซึ่งมีความสำคัญเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทย อีกทั้งเป็นจุดสำคัญในการลำเลียงขนถ่ายยาเสพติดข้ามพรมแดน และอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้ เรือทั้ง 12 ลำ ทาง บก.รน.จะจัดสรรให้แก่ตำรวจน้ำกองกำกับการ 10, 11 และ 12 ซึ่งมีสถานีรับผิดชอบรวม 12 สถานี โดยจะมอบให้สถานีละ 1 ลำ พร้อมเทรลเลอร์ลากจูง
“นอกจากนี้ ผู้แทนจากกำลังพลหน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Coast Guard) และฝ่ายความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและยาเสพติดยังได้ทำการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจำนวน 24 นายซึ่งปฎิบัติงานตามลำน้ำโขง ตั้งแต่วันที่ 16-26 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการฝึกอบรมเป็นหลักสูตรปฏิบัติการเรือขนาดเล็ก การใช้เรือเล็กลาดตระเวน และการเข้าเทียบเรือเพื่อจับกุมผู้กระทำผิดและผู้ต้องสงสัย เรือตรวจการณ์จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยให้มีการบังคับใช้กฎหมายและปฏิบัติการด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนและทางน้ำที่อาจเสี่ยงต่อการกระผิดกฎหมายในประเทศไทย”
ขณะที่ นายราชันย์ ซุนฮั้ว ผวจ.หนองคาย กล่าวว่า หนองคายเป็นจังหวัดชายแดนติดกับ สปป.ลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ ความยาวตลอดแนวเขตจังหวัดหนองคาย 210 กม. ด้วยที่ตั้งอันเป็นชัยภูมิสำคัญนี้ ส่งผลให้จังหวัดหนองคาย ได้รับการประกาศให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และเป็นหนึ่งในจังหวัดระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อพัฒนาให้เป็นฐานอุตสาหกรรมชีวภาพแห่งใหม่ของประเทศ
ร่วมกับ จ.ขอนแก่น,นครราชสีมา และ จ.อุดรธานี และยังเป็นปลายทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มีกลุ่มประชากรเข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มนักลงทุน กลุ่มแรงงาน และกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
“จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย ทราบว่าปัจจุบันมีพลเมืองชาวอเมริกันเข้ามาพำนักในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จำนวน 117คน โดยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตพักผ่อนหลังเกษียณจากการทำงาน อยู่กับครอบครัวหรือภรรยาคนไทย เป็นนักท่องเที่ยว เป็นครูสอนภาษา และประกอบธุรกิจ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มพลเมืองชาวอเมริกันเหล่านี้ สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนไทยได้อย่างมีความสุข และหลายๆ ครั้งที่เห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวหนองคายด้วยความผสมกลมกลืนเป็นอย่างดี และการเป็นเมืองชายแดนริม แม่น้ำโขง ย่อมจะมีปัญหาอาชญากรรมทางน้ำ เหตุสาธารณภัย อุบัติภัย และปัญหาความมั่นคงชายแดนอื่นๆ ตามมาด้วย โดยเฉพาะการลักลอบขนยาเสพติดในลำน้ำโขง ซึ่งสถิติสำคัญตลอดปีงบประมาณ 2566 หน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และศุลกากร สามารถจับกุมการกระทำผิดคดียาเสติดไดถึง 2,800 คดี ของกลางส่วนใหญ่ที่สามารถยึดได้ คือ ยาบ้า ประมาณ 12 ล้านเม็ด ยาอี 20,000 กว่าเม็ด และไอซ์กว่า 300 กก.”