ตามหัวข้อค่ะ พอดีน้องที่สนิทกันเขาปรึกษานานแล้วแต่ยังไม่ได้ให้คำตอบเขา คือน้องเป็น LGBTQ (สมมุตชื่อน้องต้น)รับเด็กมาเลี้ยง1คน เป็นลูกของน้องที่ทำงานคนนึงที่ทำงานแผนกเดียวกัน(สมมุติชื่อ น้องหญิง) หญิงครรภ์โดยไม่พร้อมและเลิกกับแฟนตอนอายุครรภ์2เดือน และจะไปทำแท้ง น้องต้นกับแฟนเลยอยากรับเด็กคนนี้มาเลี้ยง ได้ตกลงกันคือหลังจากคลอดแล้ววันออกจาก รพ.จะรับเด็กเบบี๋มาเลย โดยพ่อแม่น้องต้นจะเป็นคนเลี้ยงให้เพราะอยากมีหลานเหมือนกัน หลังคลอดทางบ้านน้องต้นก็รับเด็กไปเลี้ยงตามที่ตกลงกันไว้ หลังคลอดได้3-4เดือน หญิงได้เริ่มมาเยี่ยมลูก มาดู มาหา แต่ไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูใดใด เพราะยังทำงานอยู่ที่เดียวกับน้องต้น พอเบบี๋อายุ 6เดือน หญิงเริ่มมารับเบบี๋ไปนอนค้างที่บ้านในวันหยุด โดยพ่อแม่ของหญิงรับทราบเรื่องมาตลอดและช่วยดูแลทุกครั้งเวลาหญิงมารับเบบี๋ไป ซึ่งทางพ่อแม่น้องต้นก็ยินดีให้ไป ตอนนี้ เบบี๋อายุ7ย่าง8เดือนแล้ว ทางบ้านหญิงเริ่มมารับไปค้างด้วยถี่ขึ้น รับไปทีละหลายๆวัน โดยตลอดเวลาตั้งแต่คลอดเราพยายามบอกทางบ้านน้องต้น ซึ่งสนิทกันกันอยูแล้วว่า ระวังแม่เขามาเอาคืนไปนะ ถ้าไม่จดรับรองบุตรหรือทำเรื่องให้ถูกต้อง โดยทางบ้านน้องต้นได้คุยกับทางหญิงมาตลอด แต่ทางหญิงจะเฉย ไม่ให้คำตอบใดๆ เราคิดว่ามันเริ่มไม่หมือนที่คุยกันไว้แล้ว เหมือนพอเบบี๋เริ่มโต เริ่มเลี้ยงง่ายขึ้น ไม่ต้องมาดูแลมากเขาเริ่มเปลี่ยนไป เราเลยแอบคิดว่าพอเบบี๋โตจนเข้าโรงเรียน ทางหญิงจะมาเอาเบบี๋คืน ซึ่งดูท่าทีเหมือนจะใช่ เหมือนรอแค่เด็กโต ไม่ต้องเป็นภาระเลี้ยงดูกลางวัน เพราะทางโน้นเขาขายของในตลาด กลางวันจะไม่มีเวลา เราเลยอยากถามเพื่อนสมาชิกว่า ขั้นตอนการรับเด็กมาอุปถัมภ์เคสแบบนี้ควรทำยังไง ทางแฟนน้องต้นเริ่มโทรมาระบายกับเรา เขาไม่สบายใจ เขาเลี้ยงมาเขารักของเขา แล้วทางพ่อแม่น้องต้นเริ่มปล่อยเลยตามเลย เราเคยคุยกับพ่อแม่น้องต้น ท่านเคยพูดว่าถ้าเขาจะมาเอาก็ต้องให้เขาไปถือว่าหมดเวรหมดกรรมต่อกัน ซึ่งเราฟังแล้วไม่โอเค เหมือนโดนคนมาเอาเปรียบ และต่อไปเขาจะเสียใจด้วย กระทู้นี้ดูเหมือนเราจะขี้เผือกเรื่องครอบครัวเขาไปหน่อย แต่เราสนิทกับครอบครัวนี้จนเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน เลยคิดว่าอะไรช่วยได้อยากจะช่วย เพราะเราก็ช่วยเลี้ยง นม แพมเพิท เสื้อผ้า ของเล่น ไม่เคยให้ขาด รักเหมือนหลานคนนึงเหมือนกัน
รับเด็กมาเลี้ยงโดยตกลงกันเองต้องรับรองบุตรยังไง