ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารต่างๆจะไม่มีมาตรการอะไรออกมาปกป้องเงินในบัญชีธนาคารของ ปชช จากมิจฉาชีพเลยงั้นหรอ?

เราขอเสนอวิธีป้องกันเงินในแอปบัญชีธนาคารของ ปชช ให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพและแอปดูดเงินดังนี้

ปชช จะเปิดบัญชีออมทรัพย์กี่บัญชีกี่ธนาคารก็ได้ แต่บัญชีทั้งหมดจะไม่สามารถโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ไปให้บุคคลอื่นได้ นอกจากบัญชีชื่อตัวเองเท่านั้น หาก ปชช ต้องการโอนเงินให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง จะต้องโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์บัตร ปชช ของตัวเองก่อนเท่านั้น จึงจะโอนเงินออกไปจากบัญชีตัวเองได้ ซึ่งหากเป็นระบบเช่นนี้ มิจฉาชีพ ก็จะไม่สามารถดูดเงินออกจากบัญชีธนาคารทุกบัญชีของ ปชช ได้เลยอีกต่อไป ถ้าเจ้าของบัญชีต้องการความปลอดภัยขั้นสูงสุด เจ้าของบัญชีก็ไม่ต้องเปิดบัญชีพร้อมเพย์บัตร ปชช ในระบบแอปธนาคารเลย แต่เจ้าของบัญชีสามารถเปิดวงเงินบัญชีพร้อมเพย์ในแอปธนาคารเพื่อใข้จ่ายส่วนตัวได้ อาทิ 1,000 10,000 100,000 1,000,000 แต่เจ้าของบัญชีจะต้องไปตั้งวงเงินที่ธนาคารด้วยตัวเองผ่านการสแกนใบหน้าทุกครั้ง ซึ่งวงเงินนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในแอปธนาคารได้อีกต่อไป และเจ้าของบัญชีพร้อมเพย์ในแอปธนาคารจะต้องเป็นผู้รับความเสี่ยงจากมิจฉาชีพเองกรณีถูกดูดเงินหรือหลอกให้โอนผ่านแอปธนาคาร โดยทางธนาคารและตำรวจจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายอีกต่อไป 

วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของเงินในแอปธนาคารของ ปชช ให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพได้ 100% และลดภาระของธนาคารและตำรวจอีกด้วยนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 41
วิธีง่ายกว่านั้นคือแค่แบงก์ชาติให้ธนาคารเปิดโอกาสให้ ปชช สามารถเลือกทำอย่างที่เรานำเสนอในกระทู้นี้จะดีกว่าไหม? เพราะ ปชช สามารถเลือกจำกัดวงเงินที่โอนออกในบัญชีพร้อมเพย์บัญชีเดียวได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนวงเงินพร้อมเพย์ในแอปเองได้ ต้องไปเปลี่ยนที่ธนาคารโดยการสแกนหน้าเองเท่านั้น แต่ถ้า ปชช ท่านใดไม่กลัวโจรหรือไม่สะดวกที่จะทำแบบนี้ก็ไม่ต้องทำก็ได้ แต่แบงก์ชาติควรเปิดโอกาสให้ ปชช ที่กลัวแอปดูดเงินสามารถฝากเงินในแอปธนาคารได้จำนวนมากๆอย่างมั่นใจ เพื่อรับดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าได้ด้วยความสบายใจว่าเงินในบัญชีทั้งหมดจะไม่ถูกแอปดูดเงินของมิจฉาชีพมาหลอกดูดเงินออกไปได้อีก เพราะถึงสแกนหน้ายังไง มิจฉาชีพก็โอนออกจากชื่อเจ้าของบัญชีเองไม่ได้ อย่างมากก็ดูดออกไปได้เท่ากับที่เจ้าของบัญชีตั้งเอาไว้เองในบัญชีพร้อมเพย์ แต่ตอนนี้ ปชช ไม่กล้าวางเงินไว้ในแอปธนาคารเลยเพราะกลัวแอปดูดเงิน ทำให้ธนาคารและ ปชช ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้ว ปทท จะก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลได้ยังไงกัน ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาแอปดูดเงินจากมิจฉาชีพได้?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
มาตรการเขาออกมาไม่รู้กี่รอบแล้วครับ ไม่ว่าการนำเสนอข่าวในทุกช่องทาง การอัพเดทแอพฯ การบังคับสแกนใบหน้าฯลฯแต่มันก็ป้อง 100% ไม่ได้ถ้าผู้ใช้งานยังหลงเชื่อ เชื่อคนที่ไม่รู้จักที่โทรมาหรือส่ง SMS มามากกว่า
ความคิดเห็นที่ 25
มาตรการ​เขาออกมาไม่รู้กี่อย่าง จนคนใช้งานทั่วไป​ก็ยังรำคาญ​กับระบบป้องกันสารพัดที่มีจนใช้งานไม่สะดวก

เงินที่โดนมิจฉาชีพ​เอาไป มีแต่เจ้าของเองที่โอนไป หรือ ติดตั้งแอปตามที่มิจฉาชีพ​บอกเอง ไม่ได้เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย​ของแบงก์​เลย

แล้วทุกแบงก์​ก่อนโอนเงินก็มีคำเตือนขึ้นแล้วว่าให้ระวังมิจฉาชีพ​แต่คิดจะอ่านกันไหม

ความรู้ความเข้าใจเขาก็ประกาศ​แนะนำมาไม่รู้กี่รอบเคยคิดจะอ่านกันไหม

ยูสเซอร์​เออเร่อ แต่โทษเป็นความผิดแบงก์​ไม่เคยคิดดูตัวเองกันทั้งนั้น

แป๊กแป๊ก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่