ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรามีอาการเจ็บคอบ่อยมากๆ
ตอนเด็กๆแม่จะพาไปกวาดยากับหมอยาแก่ๆตลอด
พอโตมายิ่งมีสถานการณ์โควิดระบาด ด้วยความที่เราทำงานใน รพ.ทำให้เจอคนไข้
และได้รับเชื้อบ่อยๆ ทำให้เจ็บคอบ่อยมากกกกก แต่ตรวจก็ไม่เจอเชื้ออะไร
นอกจากเป็นร้อนในที่ทอนซิลบ้าง อักเสบบ้าง และเป็นบ่อยมากๆ จนมีพี่ที่ทำงานแนะนำให้ไปปรึกษา รพ.ตามสิทธิ์
เพื่อขอผ่าออก เนื่องจากเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
หลังจากนั้นเราหาข้อมูลมานาน ลังเลระหว่างจ่ายเองกับ รพ.โรงเรียนแพทย์
หรือไปรอคิวผ่าตามสิทธิประกันสังคม
จนเราตัดสินใจไปหาหมอ รพ.รัฐบาลตามสิทธิประกันสังคม เราอยากใช้สิทธิที่เราจ่ายเงินทุกเดือนให้คุ้มค่าด้วย
ขั้นแรกจะได้เจอเป็นหมอ GP ทั่วไปก่อน แล้วหมอจะส่งตัวเราไปพบแพทย์เฉพาะทาง ENT (หูคอจมูก) โดยเฉพาะ
ซึ่งเราได้นัดเป็นอีก 1 สัปดาห์ที่จะได้พบ ENT
ขณะรอพบแพทย์ท้อใจมากด้วยขั้นตอนและคนไข้จำนวนมาก
เราแจ้งหมอเลยว่ามาขอผ่าทอนซิล หมอมีอาการตกใจนิดหน่อย แล้วก็เริ่มซักประวัติเรา
เพื่อดูว่าสมควรผ่าไหม เราเล่าอาการให้หมอฟัง ร่วมกับเรามีนิ่วทอนซิลด้วย
ทำให้มีกลิ่นปาก มันทำให้เสียความมั่นใจ หมอก็เลยดู ตารางผ่าให้ จะได้อีก 2 เดือนข้างหน้า
เราก็โอเคร หมอทำบัตรนัดให้มา Pre OR ก่อน ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนผ่า และนัดวันมานอน รพ.ด้วย
มีเจาะเลือด ตรวจคลื่อนไฟฟ้า เอกเรย์ปอดหลังทำเสร็จ ก็รอฟังผลกับแพทย์
หมอแจ้งผลเลือดเราปกติสามารถผ่าได้
วันนั้นเราจะได้บัตรนัดมานอน รพ. 1 วันก่อนผผ่าให้เราเอาบัตรนัดไปทำเรื่องจองห้องพิเศษ
แต่ค่าห้องไม่สามารถเบิก ปกส. ได้ เราเสียส่วนต่างค่าห้อง 1,200/วัน
ย้ำว่าต้องมีญาติเฝ้าหากต้องการห้องเดียว
พอถึงวันนัดมานอน รพ.เราทำเรื่องนอน รพ. ได้ห้องเดี่ยวตามที่ขอไว้
พอเที่ยงคืนหมอให้งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน เราได้ผ่าคิวแรกช่วง 09:00 น้ำ.
การผ่าจะเป็นการดมยาสลบพร้อมใส่ท่อช่วยหายใจ ตื่นเต้นมากๆเพราะปกติเห็นแต่คนไข้ใส่
ก่อนผ่าพยาบาลจะให้เราดมออกซิเจนแล้วแจ้งว่าจะฉีดยาจะแสบเส้นนิดหน่อย
หลังจากนั้นเราก็หลับไปเลย ตื่นมาอีกทีคือได้ยินเสียงเรียกชื่อข้างหู คือเรามานอนในห้องพักแแล้ว
ข้อดีของการดมยาคือเราจะไม่สามารถจำความทรมานของการผ่าตัดได้เลย
จำได้ว่าเจ็บคอมากกกกกกก มึนหัว นอนซมทั้งวันเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่ 09:00-12:00 นอน.
แล้วนอนต่อยาวๆยันเย็น อาหารที่กินได้มีแต่น้ำหวานกับน้ำซุป น้ำข้าว
และยาลดไข้ ยาฆ่าเชื่อของเด็ก แต่ต้องกินปริมาณให้ได้เท่าผู้ใหญ่
เรานอน รพ.3 คืน พอเริ่มทานได้หมอก็ให้กลับบ้านได้ และนัดมาดูแผลอีก 1 อาทิตย์
เราขอวันลาป่วยหมอไป 7 วันเนื่องจากงานที่เราทำต้องใช้เสียงตลอด หมอก็ใจดีลาให้
แต่ให้กินอาหารเหลวเย็นต่อ 2 สัปดาห์ วันนี้เราผ่าได้ 5 วันแล้ว ยังมีอาการเจ็บอยู่ตลอด เราแอบกินยาเม็ด
(หมอห้ามเพราะกลัวไปสะกิดแผลแล้วเลือดออก ต้องเริ่มใหม่หมดหากเลือดออกแผล)
ส่วนเรื่องอาหารเราไม่สามารถกินวพกข้าวหรือโจ๊กได้แบบคนออื่นจริงๆมันกลืนแล้วเจ็บมากๆ
เลยกินได้แค่นม ไอติม เยลลี่ เดี๋ยวรอครบ 1 วีคจะมาอัพเดตให้นะคะ
ค่าใช้จ่ายในบิลประมาณหมื่นหก แต่ ปกส. จ่ายหมด เราจ่ายแค่ส่วนต่างค่าห้อง 3,600 บาท
พี่พยาบาลผู้ช่วย จนท ดูแลดีมากๆ อยากแนะนำหากให้มีปัญหาเรื่องทอนซิลบ่อยๆ
ให้กลั้นใจผ่า แต่จะทรมานเรื่องอาหารการกินหลังผ่า ถ้าผ่านไปได้ เราหวังว่าชีวิตจะดีขึ้นเยอะ
[CR] รีวิวผ่าตัดทอนซิลตามสิทธิประกันสังคม (ฟรี)
ตอนเด็กๆแม่จะพาไปกวาดยากับหมอยาแก่ๆตลอด
พอโตมายิ่งมีสถานการณ์โควิดระบาด ด้วยความที่เราทำงานใน รพ.ทำให้เจอคนไข้
และได้รับเชื้อบ่อยๆ ทำให้เจ็บคอบ่อยมากกกกก แต่ตรวจก็ไม่เจอเชื้ออะไร
นอกจากเป็นร้อนในที่ทอนซิลบ้าง อักเสบบ้าง และเป็นบ่อยมากๆ จนมีพี่ที่ทำงานแนะนำให้ไปปรึกษา รพ.ตามสิทธิ์
เพื่อขอผ่าออก เนื่องจากเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
หลังจากนั้นเราหาข้อมูลมานาน ลังเลระหว่างจ่ายเองกับ รพ.โรงเรียนแพทย์
หรือไปรอคิวผ่าตามสิทธิประกันสังคม
จนเราตัดสินใจไปหาหมอ รพ.รัฐบาลตามสิทธิประกันสังคม เราอยากใช้สิทธิที่เราจ่ายเงินทุกเดือนให้คุ้มค่าด้วย
ขั้นแรกจะได้เจอเป็นหมอ GP ทั่วไปก่อน แล้วหมอจะส่งตัวเราไปพบแพทย์เฉพาะทาง ENT (หูคอจมูก) โดยเฉพาะ
ซึ่งเราได้นัดเป็นอีก 1 สัปดาห์ที่จะได้พบ ENT
ขณะรอพบแพทย์ท้อใจมากด้วยขั้นตอนและคนไข้จำนวนมาก
เราแจ้งหมอเลยว่ามาขอผ่าทอนซิล หมอมีอาการตกใจนิดหน่อย แล้วก็เริ่มซักประวัติเรา
เพื่อดูว่าสมควรผ่าไหม เราเล่าอาการให้หมอฟัง ร่วมกับเรามีนิ่วทอนซิลด้วย
ทำให้มีกลิ่นปาก มันทำให้เสียความมั่นใจ หมอก็เลยดู ตารางผ่าให้ จะได้อีก 2 เดือนข้างหน้า
เราก็โอเคร หมอทำบัตรนัดให้มา Pre OR ก่อน ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนผ่า และนัดวันมานอน รพ.ด้วย
มีเจาะเลือด ตรวจคลื่อนไฟฟ้า เอกเรย์ปอดหลังทำเสร็จ ก็รอฟังผลกับแพทย์
หมอแจ้งผลเลือดเราปกติสามารถผ่าได้
วันนั้นเราจะได้บัตรนัดมานอน รพ. 1 วันก่อนผผ่าให้เราเอาบัตรนัดไปทำเรื่องจองห้องพิเศษ
แต่ค่าห้องไม่สามารถเบิก ปกส. ได้ เราเสียส่วนต่างค่าห้อง 1,200/วัน
ย้ำว่าต้องมีญาติเฝ้าหากต้องการห้องเดียว
พอถึงวันนัดมานอน รพ.เราทำเรื่องนอน รพ. ได้ห้องเดี่ยวตามที่ขอไว้
พอเที่ยงคืนหมอให้งดน้ำงดอาหารหลังเที่ยงคืน เราได้ผ่าคิวแรกช่วง 09:00 น้ำ.
การผ่าจะเป็นการดมยาสลบพร้อมใส่ท่อช่วยหายใจ ตื่นเต้นมากๆเพราะปกติเห็นแต่คนไข้ใส่
ก่อนผ่าพยาบาลจะให้เราดมออกซิเจนแล้วแจ้งว่าจะฉีดยาจะแสบเส้นนิดหน่อย
หลังจากนั้นเราก็หลับไปเลย ตื่นมาอีกทีคือได้ยินเสียงเรียกชื่อข้างหู คือเรามานอนในห้องพักแแล้ว
ข้อดีของการดมยาคือเราจะไม่สามารถจำความทรมานของการผ่าตัดได้เลย
จำได้ว่าเจ็บคอมากกกกกกก มึนหัว นอนซมทั้งวันเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่ 09:00-12:00 นอน.
แล้วนอนต่อยาวๆยันเย็น อาหารที่กินได้มีแต่น้ำหวานกับน้ำซุป น้ำข้าว
และยาลดไข้ ยาฆ่าเชื่อของเด็ก แต่ต้องกินปริมาณให้ได้เท่าผู้ใหญ่
เรานอน รพ.3 คืน พอเริ่มทานได้หมอก็ให้กลับบ้านได้ และนัดมาดูแผลอีก 1 อาทิตย์
เราขอวันลาป่วยหมอไป 7 วันเนื่องจากงานที่เราทำต้องใช้เสียงตลอด หมอก็ใจดีลาให้
แต่ให้กินอาหารเหลวเย็นต่อ 2 สัปดาห์ วันนี้เราผ่าได้ 5 วันแล้ว ยังมีอาการเจ็บอยู่ตลอด เราแอบกินยาเม็ด
(หมอห้ามเพราะกลัวไปสะกิดแผลแล้วเลือดออก ต้องเริ่มใหม่หมดหากเลือดออกแผล)
ส่วนเรื่องอาหารเราไม่สามารถกินวพกข้าวหรือโจ๊กได้แบบคนออื่นจริงๆมันกลืนแล้วเจ็บมากๆ
เลยกินได้แค่นม ไอติม เยลลี่ เดี๋ยวรอครบ 1 วีคจะมาอัพเดตให้นะคะ
ค่าใช้จ่ายในบิลประมาณหมื่นหก แต่ ปกส. จ่ายหมด เราจ่ายแค่ส่วนต่างค่าห้อง 3,600 บาท
พี่พยาบาลผู้ช่วย จนท ดูแลดีมากๆ อยากแนะนำหากให้มีปัญหาเรื่องทอนซิลบ่อยๆ
ให้กลั้นใจผ่า แต่จะทรมานเรื่องอาหารการกินหลังผ่า ถ้าผ่านไปได้ เราหวังว่าชีวิตจะดีขึ้นเยอะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้