บันทึกการเดินทางครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ตอนครับ
EP.1 Alishan-Chiayi-SunMoonLake-Taichung
https://ppantip.com/topic/42292077
EP.2 Taipei
https://ppantip.com/topic/42294576
วันที่ 4 (ต่อ)
ถึง Taipei ตรงตามเวลา 14:00 เราจองที่พักใกล้ๆ Taipei Main และ Ximending เพื่อความสะดวกในการเดินทางและเดินเที่ยวใน Ximending
ระหว่างทางเดินจาก Taipei Main ไป ที่พัก ท้องฟ้าคลึ้มๆ มีฝนตกโปรยปราย เดินผ่าน Taipei North Gate (Cheng’en Gate) เป็นอาคารโบราณสีแดง
ประตูทิศเหนือ-ประตูเฉิงเอิน
ประตูทิศเหนือหรือที่เรียกว่าประตูเฉิงเอิน ที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ มีความหมายว่า "สืบทอดพระคุณแห่งสวรรค์" เป็นประตูเมืองโบราณด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ฝูเจี้ยนในสมัยราชวงศ์ชิงเพียงแห่งเดียวที่เหลืออยู่ในไทเป และหนึ่งในโบราณสถานแห่งชาติอันล้ำค่าของไทเป
ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของประตูทิศเหนือมีความสำคัญมาก เป็นถนนสายหลักตรงไปยังต้าเต้าเฉิงในสมัยราชวงศ์ชิง ปัจจุบันเป็นแลนด์มาร์กหลักของ "เขตตะวันตก" ในเมืองไทเปเก่า
ข้อมูลจาก :
https://www.travel.taipei/th/attraction/details/2560
Taipei North Gate หรือประตูทิศเหนือของไทเป เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมือง ตั้งอยู่ใกล้ๆกับไทเปเมนสเตชั่น เพียงเดินแค่ประมาณ 200 เมตร ประตูสีแดงโดดเด่นแห่งนี้ถูกสร้างเมื่อปี 1884 โดยราชวงศ์ Qing หรือเรียกอีกชื่อว่า Cheng’en Gate เป็นประตูขนาดใหญ่ มี 2 ชั้น ถูกสร้างแบบทึบ และมีหลังคาสไตล์จีนโบราณ เป็นประตูเมืองที่ถูกรักษาคงสภาพเดิมไว้อย่างดีที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน
(ข้อมูลจาก Trip.com)
โรงแรมที่จองไว้ 3วัน ในไทเป เป็นโรงแรมเก่าอยู่บนชั้น 3 ของอาคารรวม ด้านล่างมี 7-11 อยู่ตรงข้ามกับ Papa Whale แต่ รร.นี้ไม่อยากจะแนะนำ แม้ว่าเจ้าของจะบริการดี ตอบทุกคำถามทาง message ของ Agoda และต้อนรับพูดคุยอย่างเป็นกันเองดีเมื่อไปถึง คือตอนเช็คอิน เขาใจดีให้ห้องเราแบบ 2 เตียงใหญ่โดยไม่คิดเงินเพิ่ม โดยเราแจ้งไว้ล่วงหน้าว่าจะเข้าพัก 3 คน และบอกว่าจะไปจ่ายเพิ่มเมื่อเข้าพัก
แต่ห้องมีกลิ่นบุหรี่แรงมาก จึงขอย้ายห้อง ตอนแรกเขาบอกว่าห้องเต็มหมด เดี๋ยวจะทำความสะอาดให้ใหม่ เอาเครื่อง โอโซนเข้าไปทำในห้องอยู่พักหนึ่ง กลิ่นดีขึ้นเล็กน้อย เราออกไปเดินเล่นกลับมากลิ่นก็ยังไม่หาย เขาให้เราไปดูห้องใหม่ เป็นเตียงใหญ่เตียงเดียว กลิ่นบุหรี่มีน้อยกว่าห้องเดิมเยอะ เขาบอกว่าคนจองห้องนี้ยังไม่มาซักที ให้เราย้ายห้องได้ถ้าเราอยู่ห้องเล็กได้ เราก็ตกลงทันที เพราะห้องเล็กกว่าแต่กลิ่นดีกว่ากันเยอะ คือกำลังตัดสินใจทิ้งห้องนี้ที่จองไว้ 3 คืน ประมาณ 6300บาท ไปหาที่ใหม่เลยถ้าไม่ได้เปลี่ยนห้อง เพราะทนกลิ่นบุหรี่ไม่ไหว แต่ก็โชคดีที่เขาให้ย้ายห้องได้ ไม่ต้องเสียเงินฟรี
หลังจากเช็คอินเสร็จ เวลาประมาณ 15.30 ก็มีฝนตกลงมา เดิมวางแผนไว้ว่าจะไปเขา Xiangshan เปลี่ยนเป็นไป Chiang Kai-Shek Memorial Hall แทน เพราะฝนเริ่มตกมากขึ้น คิดว่าถ้าไปเดินขึ้นเขา Xiangshan น่าจะลำบากเกินไป
ระหว่างทางเดินไป สถานี MRT Ximending Exit6 ย่านนี้ผู้คนคึกคัก นักท่องเที่ยวก็มาก
ไก่ทอด Hot Star ใน Ximending คิวยาวเลยต้องลอง ไก่ชิ้นใหญ่มาก ทอดได้กรอบ และไม่อมน้ำมัน อร่อยดีมาก (ขออภัยกัดชิมไป 1 คำ ลืมถ่ายรูปก่อน)
เดินผ่านย่าน Ximending เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานี MRT Ximending Exit6
ถึง Chiang Kai-Shek Memorial Hall ฝนตกโปรยปรายตลอด
มาทันการเปลี่ยนเวรยามผลัดสุดท้าย 18.00 พอดี ทหารก็พากันเดินพาเหรดออกไปหมด ไม่มีใครเฝ้าท่านเจียงซะแล้ว
Chiang Kai-Shek Memorial Hall
อนุสรณ์สถานอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเช็ก เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องมาเยือนเมื่อเดินทางมาเที่ยวไทเป ด้านล่างของอนุสรณ์สถานเป็นสถานที่จัดนิทรรศการและขายของที่ระลึก
สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงนายพลเจียงไคเช็ค ประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวัน ที่ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ.2518 ในปีต่อมาสภาบริหารไต้หวันจึงได้เริ่มสร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ขึ้น สถาปัตนิกผู้ออกแบบคือคุณหยาง จั๋ว-เฉิง ซึ่งเป็นผู้ออกแบบโรงแรม เดอะ แกรนด์ โฮเต็ล ไทเป
ที่ตั้งของอนุสรณ์สถานเดิมเป็นกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งเป็นเขตทหารที่ใหญ่ที่สุดในเขตเมืองไทเปในสมัยนั้น ตัวอาคารใช้สีฟ้าและสีขาวซึ่งเป็นสีของธงชาติไต้หวันเป็นหลัก หลังคาถูกออกแบบในความหมายของท้องฟ้าสีครามและดวงอาทิตย์ที่มีแสงสว่าง 12 ลำแสง รูปปั้นสัมฤทธิ์ของท่านอดีตประธานาธิบดีหันหน้าไปทำเนียบประธานาธิบดีและจีนแผ่นดินใหญ่ในทางทิศตะวันตก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีนัยพิเศษ ด้วยแนวคิดด้านประชาธิปไตยที่เปิดกว้างมากขึ้น ทำให้ลานด้านหน้าของอนุสรณ์สถานกลายเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มเพื่อประชาธิปไตย
ข้อมูลจาก
https://www.travel.taipei/th/attraction/details/1916
ออกจาก Chiang Kai-Shek Memorial Hall ไปต่อ Longshan Temple วัดนี้ปิด 21.45
Longshan Temple
วัดหลงซานซื่อตั้งหันหน้าไปทางทิศใต้ มีลักษณะโครงสร้างวัดเป็นแบบสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมตำหนักรูปสี่เหลี่ยมที่แบ่งเป็นสามส่วนแบบโบราณของจีน โดยแบ่งเป็นตำหนักด้านหน้า ตำหนักใหญ่ และตำหนักด้านหลัง และมีมังกรอารักขาทั้งซ้ายขวา ลักษณะที่โดดเด่นคือเป็นวัดเพียงแห่งเดียวของไต้หวันที่สามารถพบเห็นเสามังกรสัมฤทธิ์หนึ่งคู่
วัดหลงซานซื่อ หมงเจี่ยเป็นโบราณสถานแห่งชาติระดับ 2 ของไต้หวัน วัดแห่งนี้ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกู้กง และอนุสรณ์สถานอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเช็ก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญสามแห่งที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศต้องมาเยือน วัดหลงซานซื่อจะจัดพิธีกรรมทางศาสนาตามเทศกาลและกิจกรรมตามประเพณีพื้นบ้านขึ้นเป็นประจำทุกปี เช่นเทศกาลโคมไฟในเดือน 1 วันประสูติของพระพุทธเจ้าในเดือน 4 งานพิธีกระเช้ากล้วยเทศกาลสารทจีนในเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติ ที่นอกจากจะได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมของวัดไต้หวันแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านแบบดั้งเดิม
ข้อมูลจาก
https://www.travel.taipei/th/attraction/details/1957
วัดหลงซาน Lungshan Temple
วัดหลงซาน(Lungshan Temple, 艋舺龍山寺)เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทเป ตั้งอยู่ในแถบย่านเมืองเก่า มีอายุเกือบ 300 ร้อยปีแล้ว สร้างขึ้นโดยคนจีนชาวฝูเจี๊ยนช่วงปีค.ศ. 1738 เพื่อเป็สถานที่สักการะบูชาสิ่งศักสิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน มีรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรมคล้ายกับวัดพุทธของจีนแต่มีลูกผสมของความเป็นไต้หวันเข้าไปด้วย จนบางคนเรียกกันว่าเป็นวัดสไตล์ไต้หวัน ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวไม่ควรพลาดของเมืองไทเป
วัดหลงซานหรือ เหมงเจีย หลงซาน(Mengjia Longshan) แต่เดิมสร้างขึ้นเพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิมเป็นหลัก แต่ก็จะมีเทพเจ้าองค์อื่นๆตามความเชื่อของชาวจีนอีกมากกว่า 100 องค์ที่ด้านในโดยมาจากทั้งศาสนาพุทธ เต๋า และขงจื๋อ เช่น เจ้าแม่ทับทิม ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง, เทพเจ้ากวนอู เรื่องความซื้อสัตย์และหน้าที่การงาน และเทพเย่ว์เหล่า หรือ ผู้เฒ่าจันทรา ที่เชื่อกันว่าเป็นเทพผู้ผูกด้ายแดงให้สมหวังด้านความรัก
วัดเก่าแก่ส่วนใหญ่ในไต้หวัน มักจะถูกทำลายลงหลายครั้ง จากทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ และแผ่นดินไหว และฝีมือมนุษย์ในช่วงสงคราม ไม่เว้นแม้แต่วัดหลงซาน ซึ่งเคยถูกทำลายลงมากมายหลายครั้ง แต่ชาวไทเปยังคงศรัทธาและสร้างขึ้นใหม่ทุกครั้งไป จนครั้งล่าสุดได้ถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันแทบจะไม่เหลือสิ่งก่อสร้างเดิมอยู่แล้ว แต่ว่ากันว่าทุกครั้งที่สร้างขึ้นมักจะยิ่งใหญ่และสวยงามกว่าเดิมเสมอ
ภายในวัดมีนี้มีจุดเด่นและรายละเอียดที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่จะมีอยู่สิ่งหนึ่งที่เด่นจนใครๆต้องแวะถ่ายภาพเอาไว้ นั่นก็คือกระถางธูปที่ลานวัดใบหนึ่งจะมีการแกะสลักรูปปั้นคนสไตล์ยุโรป 2 คนสีทองเงางามอยู่บนกระถางซึ่งขัดกับงานสถาปัตยกรรมทุกอย่างภายในวัดนี้ ทำให้ทุกคนที่มามักจะถ่ายรูปจนกลายเป็นกิมมิคเล็กๆของวัดนี้ไปในที่สุด
ทุกๆวันเวลา 6 โมงเช้า, 8 โมงเช้า และ 5 โมงเย็น ที่วัดแห่งนี้จะมีผู้ศรัทธามาสวนมนต์อธิฐานกัน และเป็นสถานที่จัดงานสำคัญในช่วงวันตรุษจีนด้วย
* เกล็ดเล็กๆน้อยๆเอามาฝากผู้ที่มีจิตศรัทธา เป็นขั้นตอนการสักการะบูชาขอพรที่วัดหลงซาน
1. หลังจากเดินผ่านซุ้มประตูขนาดใหญ่ตรงกลางเข้ามาในเขตรั้ววัดแล้ว ทางวัดจะกั้นทางเข้าลานในวัดตรงกลางเอาไว้เหลือ ประตูด้านข้าง 2 ข้าง ให้เดินเข้าทางประตูมังกรที่เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาวัด ประตูนี้จะอยู่ทางขวามือ
2. เมื่อผ่านประตูเข้ามาก็สามารถหยิบธูปมาได้ฟรี
3. ให้จุดธูปไหว้ตามกระถางธูปซึ่งภายในวัดจะมีอยู่ทั้งหมด 7 กระถางด้วยกัน เรียงตามนี้คือ ตรงกลางลานสำหรับเจ้าแม่กวนอิม ตรงกลางถัดเข้าไปอีกหน่อยสำหรับเทพเทียนกง จากนั้นให้เดินเข้าไปด้านในจะมีกระถางธูปอีก 5 กระถางอยู่เรียงกัน ให้เริ่มวนจากขวาก่อนไปจนซ้ายสุด
4. เวลาสักการะขอพร เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ออกทางประตูทางซ้าย ซึ่งเป็นประตูเสือ
หรือจำง่ายๆว่าให้ วนจากขวาไปซ้ายตลอดแค่นั้นเอง เข้าขวา ออกซ้าย
ข้อมูลจาก
https://www.talontiew.com/taipei-lungshan-temple/
จากนั้นก็ไป Meng Xia Night Market เดินออกจากวัดแล้วเลี้ยวขวาเดินข้ามถนนไปก็ถึง มีของกินขายเยอะทีเดียว
ในย่านนี้มี 3 ตลาดที่อยู่ใกล้กัน คือ
1. Meng Xia Night Market
2. Guangzhou Street Night Market
3. Huaxi Street Night Market
ถ้ามีแรงเหลือพอก็เดินเที่ยวได้ทั้ง 3 ตลาด แต่เราไปเฉพาะ Meng Xia Night Market ซึ่งเป็นตลาดของกิน Street Food
โมจิคลุกถั่วงา อร่อยดี คล้ายๆ กาโรจี้ที่เคยกินเมื่อเด็กๆ
[CR] 7days in Taiwan with Storm and Rain (October 2023) EP.2
EP.1 Alishan-Chiayi-SunMoonLake-Taichung
https://ppantip.com/topic/42292077
EP.2 Taipei
https://ppantip.com/topic/42294576
วันที่ 4 (ต่อ)
ถึง Taipei ตรงตามเวลา 14:00 เราจองที่พักใกล้ๆ Taipei Main และ Ximending เพื่อความสะดวกในการเดินทางและเดินเที่ยวใน Ximending
ระหว่างทางเดินจาก Taipei Main ไป ที่พัก ท้องฟ้าคลึ้มๆ มีฝนตกโปรยปราย เดินผ่าน Taipei North Gate (Cheng’en Gate) เป็นอาคารโบราณสีแดง
ประตูทิศเหนือ-ประตูเฉิงเอิน
ประตูทิศเหนือหรือที่เรียกว่าประตูเฉิงเอิน ที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ มีความหมายว่า "สืบทอดพระคุณแห่งสวรรค์" เป็นประตูเมืองโบราณด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ฝูเจี้ยนในสมัยราชวงศ์ชิงเพียงแห่งเดียวที่เหลืออยู่ในไทเป และหนึ่งในโบราณสถานแห่งชาติอันล้ำค่าของไทเป
ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของประตูทิศเหนือมีความสำคัญมาก เป็นถนนสายหลักตรงไปยังต้าเต้าเฉิงในสมัยราชวงศ์ชิง ปัจจุบันเป็นแลนด์มาร์กหลักของ "เขตตะวันตก" ในเมืองไทเปเก่า
ข้อมูลจาก : https://www.travel.taipei/th/attraction/details/2560
Taipei North Gate หรือประตูทิศเหนือของไทเป เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมือง ตั้งอยู่ใกล้ๆกับไทเปเมนสเตชั่น เพียงเดินแค่ประมาณ 200 เมตร ประตูสีแดงโดดเด่นแห่งนี้ถูกสร้างเมื่อปี 1884 โดยราชวงศ์ Qing หรือเรียกอีกชื่อว่า Cheng’en Gate เป็นประตูขนาดใหญ่ มี 2 ชั้น ถูกสร้างแบบทึบ และมีหลังคาสไตล์จีนโบราณ เป็นประตูเมืองที่ถูกรักษาคงสภาพเดิมไว้อย่างดีที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน
(ข้อมูลจาก Trip.com)
โรงแรมที่จองไว้ 3วัน ในไทเป เป็นโรงแรมเก่าอยู่บนชั้น 3 ของอาคารรวม ด้านล่างมี 7-11 อยู่ตรงข้ามกับ Papa Whale แต่ รร.นี้ไม่อยากจะแนะนำ แม้ว่าเจ้าของจะบริการดี ตอบทุกคำถามทาง message ของ Agoda และต้อนรับพูดคุยอย่างเป็นกันเองดีเมื่อไปถึง คือตอนเช็คอิน เขาใจดีให้ห้องเราแบบ 2 เตียงใหญ่โดยไม่คิดเงินเพิ่ม โดยเราแจ้งไว้ล่วงหน้าว่าจะเข้าพัก 3 คน และบอกว่าจะไปจ่ายเพิ่มเมื่อเข้าพัก
แต่ห้องมีกลิ่นบุหรี่แรงมาก จึงขอย้ายห้อง ตอนแรกเขาบอกว่าห้องเต็มหมด เดี๋ยวจะทำความสะอาดให้ใหม่ เอาเครื่อง โอโซนเข้าไปทำในห้องอยู่พักหนึ่ง กลิ่นดีขึ้นเล็กน้อย เราออกไปเดินเล่นกลับมากลิ่นก็ยังไม่หาย เขาให้เราไปดูห้องใหม่ เป็นเตียงใหญ่เตียงเดียว กลิ่นบุหรี่มีน้อยกว่าห้องเดิมเยอะ เขาบอกว่าคนจองห้องนี้ยังไม่มาซักที ให้เราย้ายห้องได้ถ้าเราอยู่ห้องเล็กได้ เราก็ตกลงทันที เพราะห้องเล็กกว่าแต่กลิ่นดีกว่ากันเยอะ คือกำลังตัดสินใจทิ้งห้องนี้ที่จองไว้ 3 คืน ประมาณ 6300บาท ไปหาที่ใหม่เลยถ้าไม่ได้เปลี่ยนห้อง เพราะทนกลิ่นบุหรี่ไม่ไหว แต่ก็โชคดีที่เขาให้ย้ายห้องได้ ไม่ต้องเสียเงินฟรี
หลังจากเช็คอินเสร็จ เวลาประมาณ 15.30 ก็มีฝนตกลงมา เดิมวางแผนไว้ว่าจะไปเขา Xiangshan เปลี่ยนเป็นไป Chiang Kai-Shek Memorial Hall แทน เพราะฝนเริ่มตกมากขึ้น คิดว่าถ้าไปเดินขึ้นเขา Xiangshan น่าจะลำบากเกินไป
ระหว่างทางเดินไป สถานี MRT Ximending Exit6 ย่านนี้ผู้คนคึกคัก นักท่องเที่ยวก็มาก
ไก่ทอด Hot Star ใน Ximending คิวยาวเลยต้องลอง ไก่ชิ้นใหญ่มาก ทอดได้กรอบ และไม่อมน้ำมัน อร่อยดีมาก (ขออภัยกัดชิมไป 1 คำ ลืมถ่ายรูปก่อน)
เดินผ่านย่าน Ximending เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานี MRT Ximending Exit6
ถึง Chiang Kai-Shek Memorial Hall ฝนตกโปรยปรายตลอด
มาทันการเปลี่ยนเวรยามผลัดสุดท้าย 18.00 พอดี ทหารก็พากันเดินพาเหรดออกไปหมด ไม่มีใครเฝ้าท่านเจียงซะแล้ว
Chiang Kai-Shek Memorial Hall
อนุสรณ์สถานอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเช็ก เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องมาเยือนเมื่อเดินทางมาเที่ยวไทเป ด้านล่างของอนุสรณ์สถานเป็นสถานที่จัดนิทรรศการและขายของที่ระลึก
สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงนายพลเจียงไคเช็ค ประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวัน ที่ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ.2518 ในปีต่อมาสภาบริหารไต้หวันจึงได้เริ่มสร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ขึ้น สถาปัตนิกผู้ออกแบบคือคุณหยาง จั๋ว-เฉิง ซึ่งเป็นผู้ออกแบบโรงแรม เดอะ แกรนด์ โฮเต็ล ไทเป
ที่ตั้งของอนุสรณ์สถานเดิมเป็นกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งเป็นเขตทหารที่ใหญ่ที่สุดในเขตเมืองไทเปในสมัยนั้น ตัวอาคารใช้สีฟ้าและสีขาวซึ่งเป็นสีของธงชาติไต้หวันเป็นหลัก หลังคาถูกออกแบบในความหมายของท้องฟ้าสีครามและดวงอาทิตย์ที่มีแสงสว่าง 12 ลำแสง รูปปั้นสัมฤทธิ์ของท่านอดีตประธานาธิบดีหันหน้าไปทำเนียบประธานาธิบดีและจีนแผ่นดินใหญ่ในทางทิศตะวันตก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีนัยพิเศษ ด้วยแนวคิดด้านประชาธิปไตยที่เปิดกว้างมากขึ้น ทำให้ลานด้านหน้าของอนุสรณ์สถานกลายเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มเพื่อประชาธิปไตย
ข้อมูลจาก https://www.travel.taipei/th/attraction/details/1916
ออกจาก Chiang Kai-Shek Memorial Hall ไปต่อ Longshan Temple วัดนี้ปิด 21.45
Longshan Temple
วัดหลงซานซื่อตั้งหันหน้าไปทางทิศใต้ มีลักษณะโครงสร้างวัดเป็นแบบสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมตำหนักรูปสี่เหลี่ยมที่แบ่งเป็นสามส่วนแบบโบราณของจีน โดยแบ่งเป็นตำหนักด้านหน้า ตำหนักใหญ่ และตำหนักด้านหลัง และมีมังกรอารักขาทั้งซ้ายขวา ลักษณะที่โดดเด่นคือเป็นวัดเพียงแห่งเดียวของไต้หวันที่สามารถพบเห็นเสามังกรสัมฤทธิ์หนึ่งคู่
วัดหลงซานซื่อ หมงเจี่ยเป็นโบราณสถานแห่งชาติระดับ 2 ของไต้หวัน วัดแห่งนี้ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกู้กง และอนุสรณ์สถานอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเช็ก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญสามแห่งที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศต้องมาเยือน วัดหลงซานซื่อจะจัดพิธีกรรมทางศาสนาตามเทศกาลและกิจกรรมตามประเพณีพื้นบ้านขึ้นเป็นประจำทุกปี เช่นเทศกาลโคมไฟในเดือน 1 วันประสูติของพระพุทธเจ้าในเดือน 4 งานพิธีกระเช้ากล้วยเทศกาลสารทจีนในเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติ ที่นอกจากจะได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมของวัดไต้หวันแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านแบบดั้งเดิม
ข้อมูลจาก https://www.travel.taipei/th/attraction/details/1957
วัดหลงซาน Lungshan Temple
วัดหลงซาน(Lungshan Temple, 艋舺龍山寺)เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทเป ตั้งอยู่ในแถบย่านเมืองเก่า มีอายุเกือบ 300 ร้อยปีแล้ว สร้างขึ้นโดยคนจีนชาวฝูเจี๊ยนช่วงปีค.ศ. 1738 เพื่อเป็สถานที่สักการะบูชาสิ่งศักสิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน มีรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรมคล้ายกับวัดพุทธของจีนแต่มีลูกผสมของความเป็นไต้หวันเข้าไปด้วย จนบางคนเรียกกันว่าเป็นวัดสไตล์ไต้หวัน ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวไม่ควรพลาดของเมืองไทเป
วัดหลงซานหรือ เหมงเจีย หลงซาน(Mengjia Longshan) แต่เดิมสร้างขึ้นเพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิมเป็นหลัก แต่ก็จะมีเทพเจ้าองค์อื่นๆตามความเชื่อของชาวจีนอีกมากกว่า 100 องค์ที่ด้านในโดยมาจากทั้งศาสนาพุทธ เต๋า และขงจื๋อ เช่น เจ้าแม่ทับทิม ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง, เทพเจ้ากวนอู เรื่องความซื้อสัตย์และหน้าที่การงาน และเทพเย่ว์เหล่า หรือ ผู้เฒ่าจันทรา ที่เชื่อกันว่าเป็นเทพผู้ผูกด้ายแดงให้สมหวังด้านความรัก
วัดเก่าแก่ส่วนใหญ่ในไต้หวัน มักจะถูกทำลายลงหลายครั้ง จากทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ และแผ่นดินไหว และฝีมือมนุษย์ในช่วงสงคราม ไม่เว้นแม้แต่วัดหลงซาน ซึ่งเคยถูกทำลายลงมากมายหลายครั้ง แต่ชาวไทเปยังคงศรัทธาและสร้างขึ้นใหม่ทุกครั้งไป จนครั้งล่าสุดได้ถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันแทบจะไม่เหลือสิ่งก่อสร้างเดิมอยู่แล้ว แต่ว่ากันว่าทุกครั้งที่สร้างขึ้นมักจะยิ่งใหญ่และสวยงามกว่าเดิมเสมอ
ภายในวัดมีนี้มีจุดเด่นและรายละเอียดที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่จะมีอยู่สิ่งหนึ่งที่เด่นจนใครๆต้องแวะถ่ายภาพเอาไว้ นั่นก็คือกระถางธูปที่ลานวัดใบหนึ่งจะมีการแกะสลักรูปปั้นคนสไตล์ยุโรป 2 คนสีทองเงางามอยู่บนกระถางซึ่งขัดกับงานสถาปัตยกรรมทุกอย่างภายในวัดนี้ ทำให้ทุกคนที่มามักจะถ่ายรูปจนกลายเป็นกิมมิคเล็กๆของวัดนี้ไปในที่สุด
ทุกๆวันเวลา 6 โมงเช้า, 8 โมงเช้า และ 5 โมงเย็น ที่วัดแห่งนี้จะมีผู้ศรัทธามาสวนมนต์อธิฐานกัน และเป็นสถานที่จัดงานสำคัญในช่วงวันตรุษจีนด้วย
* เกล็ดเล็กๆน้อยๆเอามาฝากผู้ที่มีจิตศรัทธา เป็นขั้นตอนการสักการะบูชาขอพรที่วัดหลงซาน
1. หลังจากเดินผ่านซุ้มประตูขนาดใหญ่ตรงกลางเข้ามาในเขตรั้ววัดแล้ว ทางวัดจะกั้นทางเข้าลานในวัดตรงกลางเอาไว้เหลือ ประตูด้านข้าง 2 ข้าง ให้เดินเข้าทางประตูมังกรที่เมื่อยืนหันหน้าเข้าหาวัด ประตูนี้จะอยู่ทางขวามือ
2. เมื่อผ่านประตูเข้ามาก็สามารถหยิบธูปมาได้ฟรี
3. ให้จุดธูปไหว้ตามกระถางธูปซึ่งภายในวัดจะมีอยู่ทั้งหมด 7 กระถางด้วยกัน เรียงตามนี้คือ ตรงกลางลานสำหรับเจ้าแม่กวนอิม ตรงกลางถัดเข้าไปอีกหน่อยสำหรับเทพเทียนกง จากนั้นให้เดินเข้าไปด้านในจะมีกระถางธูปอีก 5 กระถางอยู่เรียงกัน ให้เริ่มวนจากขวาก่อนไปจนซ้ายสุด
4. เวลาสักการะขอพร เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ออกทางประตูทางซ้าย ซึ่งเป็นประตูเสือ
หรือจำง่ายๆว่าให้ วนจากขวาไปซ้ายตลอดแค่นั้นเอง เข้าขวา ออกซ้าย
ข้อมูลจาก https://www.talontiew.com/taipei-lungshan-temple/
จากนั้นก็ไป Meng Xia Night Market เดินออกจากวัดแล้วเลี้ยวขวาเดินข้ามถนนไปก็ถึง มีของกินขายเยอะทีเดียว
ในย่านนี้มี 3 ตลาดที่อยู่ใกล้กัน คือ
1. Meng Xia Night Market
2. Guangzhou Street Night Market
3. Huaxi Street Night Market
ถ้ามีแรงเหลือพอก็เดินเที่ยวได้ทั้ง 3 ตลาด แต่เราไปเฉพาะ Meng Xia Night Market ซึ่งเป็นตลาดของกิน Street Food
โมจิคลุกถั่วงา อร่อยดี คล้ายๆ กาโรจี้ที่เคยกินเมื่อเด็กๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้