กระทู้แรกที่เขียนยาว อาจจะมีอ่านยากบ้าง แท๊กผิดบ้าง ขอโทษด้วยนะครับ
เรื่องเกิดขึ้นที่ แม่ฮ่องสอน อ.แห่งหนึ่ง บริเวณทางไปทุ่งบัวตอง ได้เจอเรื่องเล่าระหว่างกำลังพักผ่อนที่บ้านสวนหลังใหม่
*(ไม่สามารถลงรายละเอียดที่พักได้ครับ เพราะแฟนที่เป็นเจ้าของที่กำลังสร้างเป็นที่พัก กางเต้นท์ในอนาคต จะลงรูปบรรยากาศให้พอ พอดีถ่ายวิวไว้ครับ)
คือ แฟนผมเป็นคนจิตอ่อน ขี้กลัว ปกติทุกๆ หนึ่งหรือสองปี แฟนจะกลับบ้านแม่เพื่อทำพิธีเรียกขวัญตามแบบชาวเหนือ แต่พอแฟนผมเรียนจบก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย เป็นเวลาประมาณ 3-4 ปีได้ แล้วช่วงนี้ แฟนฝันร้ายบ่อยๆ นอนละเมอบ่อยขึ้น (ท่าทางเวลาแฟนยกตัวอย่างเช่น ลุกขึ้นมาเดินรอบห้อง ยืนจ้องผมตอนดึกๆ ลุกขึ้นมานั่งมองกำแพง หรือเวลาฝันร้ายหนักๆ ก็จะละเมอพูดออกมา) และขี้ตกใจมากกว่าเดิม แฟนจึงโทรปรึกษากับแม่ แม่จึงแนะนำให้กลับมาบ้านที่แม่ฮ่องสอน เพื่อมาหาพ่อหมอ เป็นหมอพม่าให้ช่วยทำพิธีเรียกขวัญให้
ไม่กี่เดือนต่อมา ประมาณช่วงตุลาคม ผมกับแฟนจองตั๋วรถกลับบ้าน รถประมาณ 5 โมงเย็นถึงช่วงเช้าประมาณ 7 โมงกว่าๆ อากาศเย็นสบาย พ่อเลี้ยงกับแม่แฟนขับรถมารับ ที่ท่ารถ
ตอนนั้นก็ได้ขึ้นรถ และทักทายตามปกติ คุยกันจนถึงทางเข้าบ้าน เป็นบ้านสวนติดถนน ขนาด 1-2ไร่ ติดทางโค้งหักศอก บ้านเป็นทางลาด มีวิวน้ำ ลักษณะ เป็นลำธาร วันนี้น้ำไหลแรงมาก น่าจะเพราะฝนตกเมื่อคืน ในบ้านสวนมีบ้านอยู่ 5หลัง
ออกแนวกระต๊อป บ้านไม้ สร้างเอง หลังแรก เป็นบ้านไม้สองชั้น มีชั้นล่างที่ไว้เก็บของใช้ ไม้ฟืน ของเก่า ชั้นบนเป็นที่นอน ลักษณะห้อง สี่เหลี่ยมผืนผ้า มีคานไม้ วางของได้ และฟูกนอนขนาด 5ฟุต มีมุ้งสีขาว
หลังที่ 2-4 ยังสร้างไม่เสร็จ หลังที่ 5 ติดริมน้ำ พอนอนได้ ที่บ้านพักยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ใช้โซล่าเซล เพื่อชาร์จมือถือและให้แสงสว่าง และส่วนห้องน้ำจะอยู่ติดทางเข้าตรงทางลาดที่เดินลงมา น้ำที่ใช้ต่อมาจากลำธารภูเขา จึงมีขุ่นๆบ้าง (อาบแล้วคันตัวมาก)
ซึ่งบ้านนี้ ไม่ใช่บ้านของแฟน แต่เป็นบ้านของพ่อเลี้ยงที่สร้างขึ้นมาใหม่ เมื่อก่อนที่ตรงนี้เคยเป็นแบบที่รกร้าง มีแต่ต้นไม้ ต้นหญ้ารกๆ
ในวันแรกที่มาถึง ช่วงเช้าพักผ่อนกัน และในตอน
ประมาณเที่ยงๆ แม่พาไปเรียกขวัญที่บ้านพ่อหมอ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพักประมาณ 20 นาที เข้าไปในบ้านพ่อหมอ จะเห็นของวางไว้ด้านหลัง สีเสียงดังเป็นจังหวะ แสงไฟสีเขียวแดง มีพระพุทธรูปของไทยและน่าจะของที่อื่นวางปนๆกันอยู่
จากนั้นพ่อหมอจะขอชื่อจริงนามสกุล ของคนที่ทำพิธีเรียกขวัญของชาวเหนือ ซึ่งผมกับแฟนก็ให้ไป การจะทำพิธี พ่อหมอจุดธูป 5 อัน และกราบ 3 ที และกราบ 5 ทีหลัง ท่องบทสวดเสร็จ เสียงท่องคล้ายๆ กระเหรี่ยงและพม่า ท่องเร็ว และค่อยๆดังขึ้น จากนั้น ก็จะเรียกผมที่อายุเยอะมาก่อน
ในพิธี จะใช้ ไข่ไก่ ใบตอง ข้าวสาร และเงินใส่ซอง เท่าที่จำได้ จะใช้อุปกรณ์ของพ่อหมอในการทำไข่ให้ตั้งในบาตร แล้วนำมาไว้บนมือ ถ้าทำแล้ว ทั้ง 3ครั้ง ล้มไม่สามารถตั้งได้ ไข่จะเน่า
ซึ่งตัวผม ล้มไป 1 ครั้ง และแฟนไม่ล้มเลย จากนั้น จะผูกสายสินทั้งสองข้าง แล้วให้กำไข่ พ่อหมอบอกว่า ห้ามทำไข่แตก แล้วนำไปต้มแยกกัน แล้วกินให้หมด จะทำให้ขวัญกลับเข้าตัว ก่อนจะกลับพ่อหมอบอกว่า ค่าทำพิธีคิดแค่ของผม เพราะของแฟนมีขวัญอยู่กับตัวอยู่แล้ว ไม่ได้หายไปไหน แฟนก็งงๆ นิดหน่อยเพราะถ้าขวัญแฟนผมยังอยู่กับตัว แล้วทำไมแฟนผมถึงมีอาการแบบนี้ แต่ก็ไม่ถามอะไรต่อ
จากนั้น วันนั้นกลับมา เราก็กินข้าวเย็นกัน ผมกับแฟนจะนอนห้องเดียวกันที่บ้านหลังแรก และแม่กับพ่อเลี้ยงนอนหน้าห้องของบ้าน คอยเฝ้าให้เผื่อมีขโมย
ในช่วง 4ทุ่มครึ่งหลังดู พรหมลิขิต ตอนแรกจบ
ผมกับแฟนก็นอนกัน แต่นอนหัวกลับด้าน ไปคนละทิศกับด้านแรกที่วางไว้ เหตุผลเพราะเย็นสบายกว่าด้านแรก ที่นอนแล้วอึดอัด ร้อน (ไม่มีพัดลม แอร์ธรรมชาติ)
หลังจากนอนไปสักพัก ผมเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ เหมือนมีเสียงคนคุยกันเป็น ภาษากระเหรี่ยง เสียงที่ได้ยินเป็นผู้หญิงและชาย กำลังคุยอะไรกัน จึงคิดว่าพ่อเลี้ยงกับแม่คุยกัน
แต่สักพักเริ่มได้ยินเสียง ฮัมเพลง ค่อยๆดังขึ้น ได้ยินเสียงคนเดิน ด้วยความที่ว่า มันหลับๆตื่นๆ หันไปเห็นแฟนนอนตัวเกร็ง เหงื่อตกเลยคิดว่าเค้านอนต่างที่คงจะไม่หลับเลยบอกให้มานอนเกาะแขน สักพักก็หลับไป จนสะดุ้งตื่นมาราวๆ ตี 2 ผมเห็นมีหน้าคนคล้ายๆยักษ์จ้องมอง และยิ้มให้อยู่บนคานไม้ และหน้าค่อยๆเลือนหายไป หลังจากผมยิ้มส่งคืนให้ ตอนแรกผมคิดว่าเป็นนกฮูกหรืออะไรสักอย่าง ผมสายตาสั้นและตอนนั้นไม่ใส่แว่น
จนเช้ามา ประมาณ ตี 5 ได้ยินเสียงแฟนคุยกับแม่ว่า เมื่อคืนได้คุยกันไหม ได้ยินเสียงคนคุยกันทั้งคืนเลย ปรากฎว่า พ่อเลี้ยงกับแม่หลับไปแล้ว ผมจึงบอกไปว่า ได้ยินเหมือนกัน จากนั้นแม่เลยไปคุยกับพ่อเลี้ยง
ปรากฎว่า แม่ก็เคยเจอเหมือนกัน ตอนมาอยู่ใหม่ๆ เล่าว่าได้ยินเสียงเหมือนกัน
จากนั้นครอบครัวเราเลยไปเที่ยว ระหว่างทางก็คุยกันเรื่องนี้ แต่พ่อเลี้ยงบอกปัดๆไปว่า มีเป็นปกติ ก่อนที่ตรงนี่จะเป็นสวน เคยมีคนเสียชีวิตมาเหมือนกัน เช่น คนหาปลาตกพลัดตกน้ำ เด็กขับมอไซค์แหกโค้งเสียชีวิต ตอนพ่อเลี้ยงมาอยู่บ้านสวนใหม่ๆ ก็เห็น ผู้หญิงแก่ๆหน้าเหี่ยว มายืนยิ้มให้ พ่อเลี้ยงแก ก็ตะคอกไล่ไป
หลังกลับจากเที่ยว บ้านรักไทย ปานอุ๋ง วัดพระธาตุกองมู ได้ไหว้พระทำบุญไปให้ แฟนผมตั้งใจมาก เคาะระฆัง เข้าไปกราบพระพุทธรูป สวดมนต์ และอธิฐานว่า เดี๋ยวจะทำบุญหยอดเหรียญบริจาคไปให้นะ และแฟนผมก็ไล่หยอดตู้บริจาคทุกตู้เลย ปิดทองหลังพระ รวมทำบุญทอดผ้าป่า ไหว้พระประจำวันเกิด เติมน้ำมันตะเกียง
และจากนันก็ทางกลับ มีแวะทานข้าวข้างทางกัน กว่าจะกลับมาถึงก็มืด แฟนเปลี่ยนชุดเป็นนอนเลย บอกมืดแล้ว ไม่อาบน้ำแล้วนะ
แล้วก่อนที่พ่อเลี้ยงกับแม่จะนอน พ่อเลี้ยงเอาก็เหรียญพระมาให้ แล้วบอกให้นอนหันหัวให้ถูกด้วยละ อย่าลืมไหว้พระก่อนนอน และห้องเรามีพระด้วยนะ ด้วยความที่เราเพิ่งเห็นว่ามีพระในห้องก็ตกใจ เป็นพระพุทธรูป สูงประมาณแก้วน้ำเยติ ไม่คิดเลยว่าคืนแรกจะมองไม่เห็น
ด้วยความที่กลัวๆจากเมื่อคืนก่อน เลยพยายามข่มตาหลับและเพลียมากด้วย เลยวูบหลับไป แฟนผมกลัวมาก นอนไม่หลับ พยายามเกาะแขนผมและนับเลขในใจ ไม่รู้นับไปนานเท่าไหร่แล้วหลับไป ต่อมา ตัวผมสะดุ้งตื่นเริ่มได้ยินเสียงอีกครั้ง
เป็นเสียงเดิมเลย ที่หนักกว่านั้นคือ มันมาข้างๆหู ได้ยินเสียงคนเดินรอบเตียง ทั้งๆที่ เตียงติดกำแพง ผมเลยเขย่าแฟนให้ตื่น แฟนผมพยายามลืมตาตื่น เพื่อที่จะอยู่เป็นเพื่อน แต่แค่แปบเดียวก็หลับต่อ แล้วผมก็หลับตามไป ตื่นมาก็ไม่เจออะไรแล้ว
**เอาตรงๆ น่ากลัวนะ เพราะมาแต่ละที ทำไมไม่พูดภาษาไทย ฟังไม่ออก
แต่แฟนแปลออกบางคำ เหมือน จะพูดราวๆว่า
ผมจะใส่นามสมมุติ เข้าไปนะครับ เช่น (เอ)
น้อง...(เอ).. ทำอะไรกับน้อง... (เอ)..ดี เอายังไงกับน้อง... (เอ)..ดี อะไรแบบนี้ ครับ
แหละนี่คือสาเหตุที่แฟนไปถามแม่ในเช้าวันที่สองว่าแม่กับพ่อเลี้ยงคุยอะไรกันในคืนแรกหรือเปล่า เพราะปกติ แม่กับพ่อเลี้ยงจะติดเรียกแฟนว่า น้อง...(ชื่อแฟน)
ในวันสุดท้าย ผมแทบไม่ได้นอนเลย พ่อเลี้ยงแม่ติดธุระต้องไปทำงานเลยปล่อยให้เราอยู่กันสองคน ช่วงแรกที่ตื่นมาตอนเช้าไม่มีปัญหาอะไร นอนชมวิว กินข้าวปกติ
วันนั้นกลางวัน เปิดประตูเข้าไป จู่ก็ได้ยินเสียง กระดิ่งกะทบกันทั้งๆที่ตรงนั้นไม่มีอะไร ด้วยความที่โมโหมาก
ผมเลยตะโกนบอกว่า จะออกมา ก็มาสิ***
น่ารำคาญ ก่อกวนจัง*** ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ขอให้ไม่ได้ผุดได้เกิด ถ้ามาอีกก็มาดิ*** จะเอาบุญที่ทำไปให้คืนให้หมดเลย จะสาปเองยันถึง กรุงเทพเลย
(*** คำหยาบ)
จากนั้นเสียงก็เงียบไป มีแต่เสียงลม
วันนั้นตอนเย็นผมก็ได้กลับบ้าน ปรากฏว่าตั๋วหมด มีแต่ตั๋วเข้าเชียงใหม่ ผมจึงต้องลำบากนั่ง 2 ต่อ ใช้เวลา
6 ชม.จากแม่ฮ่องสอนถึงเชียงใหม่
ระหว่างหาตั๋วไปกทม. ผมนั่งคุยกับแฟน ผมเลยพูดติดตลกว่า ไว้เจอกันที่เดอะโกสนะครับ 55555 เหมือนจะดังไปหน่อย ปรากฏว่ามีแฟนคลับเดอะโกส นั่งรอรถอยู่ด้านหน้าผมหันมาให้ ผมเล่าให้ฟัง ครับ จนกระทั่งเราแยกย้ายกัน ผมก็ได้รถกลับ กทม.
เรื่องราวประมาณนี้ครับ ทริปนี้ตั้งใจจะมาพักผ่อนไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้เลย ปกติก็มาตลอด แต่จะนอนที่บ้านแฟน แต่บ้านแฟนปัจจุบันกลายเป็นสวนสัตว์ย่อมๆ ไปแล้ว มี ไก่ เป็ด หมา แพะ นกเขา แม่แฟนเลยพามานอนที่บ้านสวนซะเลย
ปล.แม่เคยพาเพื่อนหรือคนที่รู้จักมาพักอยู่นะครับ แต่ไม่ได้เจออะไรกัน สงสัยคงอยากจะออกมาทักทายแค่ผมกับแฟน เพราะเป็นลูกเจ้าของบ้าน
ส่งวิว บรรยากาศ ให้ ที่คือตอนกลางวัน ไม่ได้ลงรูปตัวบ้าน เดี๋ยวคนแถวนั้นรู้จักจะไม่กล้าเข้าพักครับ
คืนหลอนๆ ที่แม่ฮ่องสอน ณ บ้านสวน
เรื่องเกิดขึ้นที่ แม่ฮ่องสอน อ.แห่งหนึ่ง บริเวณทางไปทุ่งบัวตอง ได้เจอเรื่องเล่าระหว่างกำลังพักผ่อนที่บ้านสวนหลังใหม่
*(ไม่สามารถลงรายละเอียดที่พักได้ครับ เพราะแฟนที่เป็นเจ้าของที่กำลังสร้างเป็นที่พัก กางเต้นท์ในอนาคต จะลงรูปบรรยากาศให้พอ พอดีถ่ายวิวไว้ครับ)
คือ แฟนผมเป็นคนจิตอ่อน ขี้กลัว ปกติทุกๆ หนึ่งหรือสองปี แฟนจะกลับบ้านแม่เพื่อทำพิธีเรียกขวัญตามแบบชาวเหนือ แต่พอแฟนผมเรียนจบก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย เป็นเวลาประมาณ 3-4 ปีได้ แล้วช่วงนี้ แฟนฝันร้ายบ่อยๆ นอนละเมอบ่อยขึ้น (ท่าทางเวลาแฟนยกตัวอย่างเช่น ลุกขึ้นมาเดินรอบห้อง ยืนจ้องผมตอนดึกๆ ลุกขึ้นมานั่งมองกำแพง หรือเวลาฝันร้ายหนักๆ ก็จะละเมอพูดออกมา) และขี้ตกใจมากกว่าเดิม แฟนจึงโทรปรึกษากับแม่ แม่จึงแนะนำให้กลับมาบ้านที่แม่ฮ่องสอน เพื่อมาหาพ่อหมอ เป็นหมอพม่าให้ช่วยทำพิธีเรียกขวัญให้
ไม่กี่เดือนต่อมา ประมาณช่วงตุลาคม ผมกับแฟนจองตั๋วรถกลับบ้าน รถประมาณ 5 โมงเย็นถึงช่วงเช้าประมาณ 7 โมงกว่าๆ อากาศเย็นสบาย พ่อเลี้ยงกับแม่แฟนขับรถมารับ ที่ท่ารถ
ตอนนั้นก็ได้ขึ้นรถ และทักทายตามปกติ คุยกันจนถึงทางเข้าบ้าน เป็นบ้านสวนติดถนน ขนาด 1-2ไร่ ติดทางโค้งหักศอก บ้านเป็นทางลาด มีวิวน้ำ ลักษณะ เป็นลำธาร วันนี้น้ำไหลแรงมาก น่าจะเพราะฝนตกเมื่อคืน ในบ้านสวนมีบ้านอยู่ 5หลัง
ออกแนวกระต๊อป บ้านไม้ สร้างเอง หลังแรก เป็นบ้านไม้สองชั้น มีชั้นล่างที่ไว้เก็บของใช้ ไม้ฟืน ของเก่า ชั้นบนเป็นที่นอน ลักษณะห้อง สี่เหลี่ยมผืนผ้า มีคานไม้ วางของได้ และฟูกนอนขนาด 5ฟุต มีมุ้งสีขาว
หลังที่ 2-4 ยังสร้างไม่เสร็จ หลังที่ 5 ติดริมน้ำ พอนอนได้ ที่บ้านพักยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ใช้โซล่าเซล เพื่อชาร์จมือถือและให้แสงสว่าง และส่วนห้องน้ำจะอยู่ติดทางเข้าตรงทางลาดที่เดินลงมา น้ำที่ใช้ต่อมาจากลำธารภูเขา จึงมีขุ่นๆบ้าง (อาบแล้วคันตัวมาก)
ซึ่งบ้านนี้ ไม่ใช่บ้านของแฟน แต่เป็นบ้านของพ่อเลี้ยงที่สร้างขึ้นมาใหม่ เมื่อก่อนที่ตรงนี้เคยเป็นแบบที่รกร้าง มีแต่ต้นไม้ ต้นหญ้ารกๆ
ในวันแรกที่มาถึง ช่วงเช้าพักผ่อนกัน และในตอน
ประมาณเที่ยงๆ แม่พาไปเรียกขวัญที่บ้านพ่อหมอ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพักประมาณ 20 นาที เข้าไปในบ้านพ่อหมอ จะเห็นของวางไว้ด้านหลัง สีเสียงดังเป็นจังหวะ แสงไฟสีเขียวแดง มีพระพุทธรูปของไทยและน่าจะของที่อื่นวางปนๆกันอยู่
จากนั้นพ่อหมอจะขอชื่อจริงนามสกุล ของคนที่ทำพิธีเรียกขวัญของชาวเหนือ ซึ่งผมกับแฟนก็ให้ไป การจะทำพิธี พ่อหมอจุดธูป 5 อัน และกราบ 3 ที และกราบ 5 ทีหลัง ท่องบทสวดเสร็จ เสียงท่องคล้ายๆ กระเหรี่ยงและพม่า ท่องเร็ว และค่อยๆดังขึ้น จากนั้น ก็จะเรียกผมที่อายุเยอะมาก่อน
ในพิธี จะใช้ ไข่ไก่ ใบตอง ข้าวสาร และเงินใส่ซอง เท่าที่จำได้ จะใช้อุปกรณ์ของพ่อหมอในการทำไข่ให้ตั้งในบาตร แล้วนำมาไว้บนมือ ถ้าทำแล้ว ทั้ง 3ครั้ง ล้มไม่สามารถตั้งได้ ไข่จะเน่า
ซึ่งตัวผม ล้มไป 1 ครั้ง และแฟนไม่ล้มเลย จากนั้น จะผูกสายสินทั้งสองข้าง แล้วให้กำไข่ พ่อหมอบอกว่า ห้ามทำไข่แตก แล้วนำไปต้มแยกกัน แล้วกินให้หมด จะทำให้ขวัญกลับเข้าตัว ก่อนจะกลับพ่อหมอบอกว่า ค่าทำพิธีคิดแค่ของผม เพราะของแฟนมีขวัญอยู่กับตัวอยู่แล้ว ไม่ได้หายไปไหน แฟนก็งงๆ นิดหน่อยเพราะถ้าขวัญแฟนผมยังอยู่กับตัว แล้วทำไมแฟนผมถึงมีอาการแบบนี้ แต่ก็ไม่ถามอะไรต่อ
จากนั้น วันนั้นกลับมา เราก็กินข้าวเย็นกัน ผมกับแฟนจะนอนห้องเดียวกันที่บ้านหลังแรก และแม่กับพ่อเลี้ยงนอนหน้าห้องของบ้าน คอยเฝ้าให้เผื่อมีขโมย
ในช่วง 4ทุ่มครึ่งหลังดู พรหมลิขิต ตอนแรกจบ
ผมกับแฟนก็นอนกัน แต่นอนหัวกลับด้าน ไปคนละทิศกับด้านแรกที่วางไว้ เหตุผลเพราะเย็นสบายกว่าด้านแรก ที่นอนแล้วอึดอัด ร้อน (ไม่มีพัดลม แอร์ธรรมชาติ)
หลังจากนอนไปสักพัก ผมเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ เหมือนมีเสียงคนคุยกันเป็น ภาษากระเหรี่ยง เสียงที่ได้ยินเป็นผู้หญิงและชาย กำลังคุยอะไรกัน จึงคิดว่าพ่อเลี้ยงกับแม่คุยกัน
แต่สักพักเริ่มได้ยินเสียง ฮัมเพลง ค่อยๆดังขึ้น ได้ยินเสียงคนเดิน ด้วยความที่ว่า มันหลับๆตื่นๆ หันไปเห็นแฟนนอนตัวเกร็ง เหงื่อตกเลยคิดว่าเค้านอนต่างที่คงจะไม่หลับเลยบอกให้มานอนเกาะแขน สักพักก็หลับไป จนสะดุ้งตื่นมาราวๆ ตี 2 ผมเห็นมีหน้าคนคล้ายๆยักษ์จ้องมอง และยิ้มให้อยู่บนคานไม้ และหน้าค่อยๆเลือนหายไป หลังจากผมยิ้มส่งคืนให้ ตอนแรกผมคิดว่าเป็นนกฮูกหรืออะไรสักอย่าง ผมสายตาสั้นและตอนนั้นไม่ใส่แว่น
จนเช้ามา ประมาณ ตี 5 ได้ยินเสียงแฟนคุยกับแม่ว่า เมื่อคืนได้คุยกันไหม ได้ยินเสียงคนคุยกันทั้งคืนเลย ปรากฎว่า พ่อเลี้ยงกับแม่หลับไปแล้ว ผมจึงบอกไปว่า ได้ยินเหมือนกัน จากนั้นแม่เลยไปคุยกับพ่อเลี้ยง
ปรากฎว่า แม่ก็เคยเจอเหมือนกัน ตอนมาอยู่ใหม่ๆ เล่าว่าได้ยินเสียงเหมือนกัน
จากนั้นครอบครัวเราเลยไปเที่ยว ระหว่างทางก็คุยกันเรื่องนี้ แต่พ่อเลี้ยงบอกปัดๆไปว่า มีเป็นปกติ ก่อนที่ตรงนี่จะเป็นสวน เคยมีคนเสียชีวิตมาเหมือนกัน เช่น คนหาปลาตกพลัดตกน้ำ เด็กขับมอไซค์แหกโค้งเสียชีวิต ตอนพ่อเลี้ยงมาอยู่บ้านสวนใหม่ๆ ก็เห็น ผู้หญิงแก่ๆหน้าเหี่ยว มายืนยิ้มให้ พ่อเลี้ยงแก ก็ตะคอกไล่ไป
หลังกลับจากเที่ยว บ้านรักไทย ปานอุ๋ง วัดพระธาตุกองมู ได้ไหว้พระทำบุญไปให้ แฟนผมตั้งใจมาก เคาะระฆัง เข้าไปกราบพระพุทธรูป สวดมนต์ และอธิฐานว่า เดี๋ยวจะทำบุญหยอดเหรียญบริจาคไปให้นะ และแฟนผมก็ไล่หยอดตู้บริจาคทุกตู้เลย ปิดทองหลังพระ รวมทำบุญทอดผ้าป่า ไหว้พระประจำวันเกิด เติมน้ำมันตะเกียง
และจากนันก็ทางกลับ มีแวะทานข้าวข้างทางกัน กว่าจะกลับมาถึงก็มืด แฟนเปลี่ยนชุดเป็นนอนเลย บอกมืดแล้ว ไม่อาบน้ำแล้วนะ
แล้วก่อนที่พ่อเลี้ยงกับแม่จะนอน พ่อเลี้ยงเอาก็เหรียญพระมาให้ แล้วบอกให้นอนหันหัวให้ถูกด้วยละ อย่าลืมไหว้พระก่อนนอน และห้องเรามีพระด้วยนะ ด้วยความที่เราเพิ่งเห็นว่ามีพระในห้องก็ตกใจ เป็นพระพุทธรูป สูงประมาณแก้วน้ำเยติ ไม่คิดเลยว่าคืนแรกจะมองไม่เห็น
ด้วยความที่กลัวๆจากเมื่อคืนก่อน เลยพยายามข่มตาหลับและเพลียมากด้วย เลยวูบหลับไป แฟนผมกลัวมาก นอนไม่หลับ พยายามเกาะแขนผมและนับเลขในใจ ไม่รู้นับไปนานเท่าไหร่แล้วหลับไป ต่อมา ตัวผมสะดุ้งตื่นเริ่มได้ยินเสียงอีกครั้ง
เป็นเสียงเดิมเลย ที่หนักกว่านั้นคือ มันมาข้างๆหู ได้ยินเสียงคนเดินรอบเตียง ทั้งๆที่ เตียงติดกำแพง ผมเลยเขย่าแฟนให้ตื่น แฟนผมพยายามลืมตาตื่น เพื่อที่จะอยู่เป็นเพื่อน แต่แค่แปบเดียวก็หลับต่อ แล้วผมก็หลับตามไป ตื่นมาก็ไม่เจออะไรแล้ว
**เอาตรงๆ น่ากลัวนะ เพราะมาแต่ละที ทำไมไม่พูดภาษาไทย ฟังไม่ออก
แต่แฟนแปลออกบางคำ เหมือน จะพูดราวๆว่า
ผมจะใส่นามสมมุติ เข้าไปนะครับ เช่น (เอ)
น้อง...(เอ).. ทำอะไรกับน้อง... (เอ)..ดี เอายังไงกับน้อง... (เอ)..ดี อะไรแบบนี้ ครับ
แหละนี่คือสาเหตุที่แฟนไปถามแม่ในเช้าวันที่สองว่าแม่กับพ่อเลี้ยงคุยอะไรกันในคืนแรกหรือเปล่า เพราะปกติ แม่กับพ่อเลี้ยงจะติดเรียกแฟนว่า น้อง...(ชื่อแฟน)
ในวันสุดท้าย ผมแทบไม่ได้นอนเลย พ่อเลี้ยงแม่ติดธุระต้องไปทำงานเลยปล่อยให้เราอยู่กันสองคน ช่วงแรกที่ตื่นมาตอนเช้าไม่มีปัญหาอะไร นอนชมวิว กินข้าวปกติ
วันนั้นกลางวัน เปิดประตูเข้าไป จู่ก็ได้ยินเสียง กระดิ่งกะทบกันทั้งๆที่ตรงนั้นไม่มีอะไร ด้วยความที่โมโหมาก
ผมเลยตะโกนบอกว่า จะออกมา ก็มาสิ***
น่ารำคาญ ก่อกวนจัง*** ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ขอให้ไม่ได้ผุดได้เกิด ถ้ามาอีกก็มาดิ*** จะเอาบุญที่ทำไปให้คืนให้หมดเลย จะสาปเองยันถึง กรุงเทพเลย
(*** คำหยาบ)
จากนั้นเสียงก็เงียบไป มีแต่เสียงลม
วันนั้นตอนเย็นผมก็ได้กลับบ้าน ปรากฏว่าตั๋วหมด มีแต่ตั๋วเข้าเชียงใหม่ ผมจึงต้องลำบากนั่ง 2 ต่อ ใช้เวลา
6 ชม.จากแม่ฮ่องสอนถึงเชียงใหม่
ระหว่างหาตั๋วไปกทม. ผมนั่งคุยกับแฟน ผมเลยพูดติดตลกว่า ไว้เจอกันที่เดอะโกสนะครับ 55555 เหมือนจะดังไปหน่อย ปรากฏว่ามีแฟนคลับเดอะโกส นั่งรอรถอยู่ด้านหน้าผมหันมาให้ ผมเล่าให้ฟัง ครับ จนกระทั่งเราแยกย้ายกัน ผมก็ได้รถกลับ กทม.
เรื่องราวประมาณนี้ครับ ทริปนี้ตั้งใจจะมาพักผ่อนไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้เลย ปกติก็มาตลอด แต่จะนอนที่บ้านแฟน แต่บ้านแฟนปัจจุบันกลายเป็นสวนสัตว์ย่อมๆ ไปแล้ว มี ไก่ เป็ด หมา แพะ นกเขา แม่แฟนเลยพามานอนที่บ้านสวนซะเลย
ปล.แม่เคยพาเพื่อนหรือคนที่รู้จักมาพักอยู่นะครับ แต่ไม่ได้เจออะไรกัน สงสัยคงอยากจะออกมาทักทายแค่ผมกับแฟน เพราะเป็นลูกเจ้าของบ้าน
ส่งวิว บรรยากาศ ให้ ที่คือตอนกลางวัน ไม่ได้ลงรูปตัวบ้าน เดี๋ยวคนแถวนั้นรู้จักจะไม่กล้าเข้าพักครับ