"Quest 3 is the most powerfull headset that we have ever ship and it allow you to blend physical world and digital world together"

"Quest 3 คือเฮดเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดที่เราเคยวางจำหน่าย   Quest 3 จะทำให้คุณผสมผสานโลกจริง ๆ และโลกดิจิตอลเข้าด้วยกัน"

หนึ่งในประโยคที่ Mark Zuckerburg พูดตอนเปิดตัว Meta Quest 3 ในงาน Meta Connect 2023 เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา   

หลังจากที่ได้ที่ได้ใช้งาน Meta Quest 3 มาซักพัก จึงมาเขียนรีวิวที่เป็นความเห็นส่วนตัวดังนี้


1. น้ำหนักและความรู้สึกในการสวมใส่  
    - การใส่ใช้งานหรือเล่นเกมรู้สึกสบายกว่า Quest 2 แต่ไม่สบายเท่ากับ Pico 4
    - สายคาดหัว (Head strap) ที่มาด้วย ใช้งานไม่ดี ควรสั่งแบบเสริมมาแทนด้วยเลยตอนซื้อ Headset
    - มีการปรับระดับระยะเลื่อนไป หน้า หลังได้ 4 ระดับ สำหรับคนที่ใส่แว่น ให้เลื่อนออกไปก็จะใส่แว่นระหว่างใช้งาน Headset ได้  
    - การปรับระยะห่างระหว่างสายตา เป็นแบบใช้นิ้วหมุน ติดตั้งด้านล่าง เวลาวางต้องระวังมากขึ้น ของ Pico 4 ที่สั่งจากในเมนูถือว่าทำได้ดีกว่า

2. ภาพ
    - ภาพที่ได้มีสีสันที่สดใส สีดำมีความดำมากขึ้น ทำให้ภาพในเกมทั้งเก่าและใหม่ การดูวีดีโอ การใช้งานจอต่าง ๆ สมจริงมากขึ้น คมชัดขึ้น
    - นอกจากจะปรับความสว่างของแสงได้หลายระดับแล้ว การเลือกสีถนอมสายตาก็ปรับได้หลายระดับ   

3. Colour Passthrough
    - ในการใช้งาน จะมีความชัดของ Passthrough มากกว่า Pico 4 เพียง 10 – 20% แต่ก็พอจะสามารถอ่านอักษรจากหน้าจอมือถือ หน้าจอคอมได้โดยไม่ต้องถอด Headset       
    - นอกจากการเคาะที่ด้านข้าง Headset เพื่อเปิด-ปิด Passthrough ยังมีปุ่ม Short Cut ที่แถบเมนู ซึ่งใช้งานสะดวกมาก การสลับระหว่างโลกเสมือนกับโลกจริง รวดเร็ว รู้สึกถึงความว้าว

4. ระบบเสียง
   - ยังเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้ตามปรกติ และก็ยังมี Port 3.5 ด้วย สำหรับผู้ต้องการใช้หูฟังแบบมีสาย
   - ระบบเสียงดีมาก ทั้งเรื่องของระบบรอบทิศทาง และการแยกชิ้นอุปกรณ์ และความถี่ของเสียงต่าง ๆ ที่ออกมา ยกเว้นเสียงเบสที่น้อยไปหน่อย
   - ตำแหน่งของลำโพง อยู่บริเวณหู ทำให้เสียงดังดี ไม่เบาเกินไป


5. การตั้งค่า Gardian 
       - ยังมีการตั้งค่าทั้งแบบ Room Scale และ Stationary เหมือนเดิม แต่มีเพิ่มเติมแบบการ Scan เข้ามาด้วย ซึ่งการ Scan แบบนี้ จะทำให้ได้ข้อมูลผนัง พื้น เพดาน รวมถึงการเพิ่มของอื่น ๆ ในห้อง เช่นโต๊ะ โซฟาเข้าไป เพื่อที่เกม หรือ App ในอนาคตจะเอาไปประยุกต์ใช้งาน เหมือนที่เกม First Encouters แสดงให้ดู


6. เกมที่เคยซื้อไว้ ใน Meta Store
   - เกมที่เคยซื้อไว้ก่อนหน้า สามารถมาเล่นใหม่ใน Quest 3 ได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้ออีกครั้ง
   - นอกจาก Red Matter 2, ESPIRE2 และ The Walking Dead: Saints & Sinners ที่มีการ  Opimize เพื่อให้ทำงานได้ดีที่สุดกับ Quest 3 แล้ว ก็ยังมีเกมตามด้านล่างด้วยที่จะมีการ Optimize


7. เกม Mixed Reality
    - เกมใน Meta Store หลาย ๆ เกม เพิ่มฟังก์ชั่น Mixed Reality เข้ามา ตอนนี้น่าจะมีเกือบ 20 เกม รวมถึงเกมในอนาคตก็จะมีออกมาอีก


8. ระยะเวลาการใช้งาน
     - ใช้งาน 120 Hz จะใช้ได้ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที, ปิดการใช้งาน 120 Hz จะใช้ได้ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที การที่แสดงผลได้ขนาดนั้น แต่ยังสามารถใช้งานได้ระยะเวลาดังกล่าว ถือว่าทำได้ดี หากต้องการใช้งานนานขึ้น การเอา Power Bank 10,000 mAh ไปต่อระหว่างใช้งาน ก็สามารถขยายเวลาการใช้งานแบบเปิด 120 Hz ได้ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
     - การชาร์จกับปลั๊กที่ให้มา ใช้เวลาประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมงแบตจึงจะเต็ม


9. Hand Tracking และจอยคอนโทรเลอร์
    - Hand Tracking มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องมาเป็นปี ๆ  ใน Quest 2 ใน Quest 3 จึงมีการตอบสนองที่ดี สลับการใช้งานระหว่าง Joy กับ Controller ก็ง่าย แต่ก็จะมีแจ้งเตือนเรื่องว่ามืดเกินไปเป็นระยะ ๆ ซึ่งบางครั้งก็เหมือนจะเป็น Fault หวังว่าจะมีการปรับปรุง   
    - การที่สามารถเอาจอยหรือนิ้วให้ไปใช้งานกลางแจ้งได้ ไม่ต้องใช้งานแต่ใน Indoor เหมือนก่อน เพิ่มอิสระ และ Use Case ในการใช้งานได้อีกเยอะเลย 
    - จอยไม่มีวงแหวนอีกต่อไป จากที่เคยใช้แบบมีวงแหวนทั้ง Quest 2 และ Pico 4 ก็รู้สึกแปลก ๆ หน่อย ควรสวมสายรัดข้อมือทุกครั้ง (ไม่แน่ใจว่าเพราะช่วงหลังใช้ Pico4 มานานหรือเปล่า จึงรู้สึกว่าใช้จอย Pico 4 กำลังพอดีมือกว่า เล่น Beat Saber สนุกกว่า ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์)   

10. UX/UI 
       - การมีจอพื้นฐาน 2 ขนาดคือเล็กกับใหญ่ถือว่าลงตัว บางครั้งต้องการใช้งานแบบ Touch เพื่อเลื่อนดูเหมือนใน Tablet พอเจอ Content ที่ต้องการก็เปลี่ยนเป็นขยายใหญ่ดูแบบเต็มตา
       - การมีจอ 3 จอ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ช่วยเพิ่มการใช้งานให้หลากหลาย


11. การดู Youtube
    - Size ของจอในการดู YouTube แบบเต็มจอ ให้ความรู้สึกอลังการดี ถ้ามีการปรับให้เลื่อนเข้า เลื่อนออกได้อีกซักหน่อย จะดีมาก (หรือมีแต่แค่ยังเลื่อนไม่เป็นเอง)
    - สามารถดู Youtube 8K ได้  


12.  การใช้งานผ่าน Virtual Desktop
     -  หากเคยมี Quest 2 อยู่แล้ว โปรแกรมจะเชื่อมต่อให้เลย    
     -  มี Codec แบบ AV1 ให้เลือกสำหรับเชื่อมต่อ Quest 3
      - เกม, ภาพ หนังและอื่น ๆ ที่ใช้งานผ่าน Virtual Desktop ให้ภาพและสีสันที่สวยงามขึ้น


13. การใช้งาน หลายหน้าจอใน Program Immersed
     - สถาพแวดล้อม จอแสดงผลใน VR และตัวอักษรในจอชัดขึ้น ใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกตาล้า 
     - Passthrough บริเวณ Keyboard เห็นแป้นพิมพ์ชัดเจนเลย


14. การใช้งาน Meta Horizon Workrooms
       เป็นครั้งแรกเลย ที่ลองเข้ามาใช้งาน APP นี้
       - ฉากยังรู้สึกถึงความเป็นการ์ตูนสูง ไม่ใช้ Photorealistic มีฉากให้เลือกน้อย (4 ฉาก) แต่ก็ทำให้เห็นภาพว่าการทำงานในอนาคตจะเป็นอย่างไร 
       - การเขียนใน Whiteboard และ Post-It โดยใช้ปลายของจอยมาเป็นปากกา ก็ไม่ถึงกับถนัดนัก เพราะพอจับจอยมาเพื่อเป็นปากกาก็จะรู้สึกว่าใหญ่ไปหน่อย แต่ถ้าฝึกใช้ซักระยะน่าจะใช้งานได้อยุ่   


ข้อเสียที่พบในตอนนี้ 
นอกจากเรื่องน้ำหนักและสายคาดหัวที่เขียนไปตั้งแต่ต้น ๆ แล้ว ยังมีส่วนอื่นอีก เช่น
       - เมื่อใส่ Headset แล้ว จะมองเห็นแสงลอดมาจากบริเวณมุมด้านล่างเยอะมาก พยายามปรับการใส่ก็ยังไม่เจอจุดที่เหมาะสม คาดว่าเกิดจากการที่ Headset มีการออกแบบร่องจมูกที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งไม่เคยพบปัญหาแบบนี้ตอนที่ใช้ Quest 2 หรือ Pico4     

        - เห็นเส้น ๆ สีดำระหว่างตาสองข้าง ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างเลนส์ซ้ายกับเลนส์ขวา คาดว่าเกิดจากการ Overlap เลนส์ซ้าย ขวาที่ไม่พอดี พยายามปรับ IPD ไปค่าต่าง ๆ ก็ยังไม่หาย 

สรุป ตามความเห็นส่วนตัว
Meta Quest 3 ถ้าเทียบกับ Meta Quest 2 ซึ่งอายุห่างกัน 3 ปี Meta Quest 3 ในวันที่วางจำหน่ายดีขึ้นแทบจะทุกด้าน โดยเฉพาะภาพ, เสียงและ ประสิทธิภาพในการใช้งาน สำหรับคนที่ใช้รุ่นก่อน Quest 2 เช่น Oculus Rift นั้น Meta Quest 3 จะทำให้ Mind Blown ได้อีกครั้ง นอกจากเกมใหม่ ๆ ที่กำลังจะเป็นเกมจริง ๆ เยอะขึ้นไม่ใช่เกมแบบเทคเดโมแค่ 2-3 ชั่วโมงจบ เหมือนที่ผ่าน ๆ มา การมาของ Mixed Reality และ Depth Sensor ที่เพิ่มเข้ามา ผู้พัฒนาน่าจะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้อีกเยอะ ในช่วง 2-3 ปีนี้ 

แต่ก็น่าเสียดาย ที่ประสิทธิภาพและฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของ Meta Quest 3 ที่ใส่มาแบบเกือบจัดเต็ม ยังไม่สามารถไปด้วยกันกับเรื่องน้ำหนักได้ ถึงแม้คนที่ชื่นชอบการใช้งาน Headset จะรู้สึกดีกว่าเก่า สามารถใส่ใช้งานได้นานขึ้น แต่สำหรับคนทั่ว ๆ ไปแล้ว น้ำหนักและความรู้สึกในการส่วมใส่แบบนี้นั้นยังไม่ใช่ ก็คงต้องฝากความหวังไว้กับ Headset รุ่นต่อ ๆ ไป ที่จะเบาและใส่สบายกว่านี้จึงจะช่วยดึงคนส่วนใหญ่เข้าสู่โลกเสมือนนี้ด้วยกัน