จากที่เคยรีวิวเอาไว้ ตอนได้ Pico4 มาแค่ 3 วัน ถึงตอนนี้ ก็ใช้งานมาเดือนกว่า ๆ แล้ว ได้ใช้งานมากขึ้น ได้เห็นอะไรต่าง ๆ มากขึ้น จึงมารีวิวเพิ่มเติม เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจครับ


ส่วนของ Hardware
1. น้ำหนักของ Headset
    สรุปว่า หลังจากใช้ Pico4 ไปซักระยะ เวลาจะกลับมาใช้ Quest 2 เล่นทีไร จะไม่ค่อยอยากกลับมาใช้แล้ว เพราะใส่ Pico4 เล่นแล้วรู้สึกเบา สบาย พอกลับมาใส่ Quest มันจะรู้สึกกดจมูก กดแก้ม แต่ตอนที่ยังไม่มี Pico4  ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่  พอมีโอกาสได้ใช้ของที่เบาลง คราวนี้ละ พอกลับมาใช้ Quest 2 รู้สึกหนักไปเลย 

2. ระยะเวลา Battery
    ระยะเวลาชาร์จใกล้เคียงกับกับชาร์จของ Quest 2 คือประมาณ 2 ชั่วโมง จึงจะเต็ม หลังจากเต็ม จะเล่นได้ประมาณ 1 ชม. ครึ่ง จะถึงระยะเวลาเตือนว่า Battery เหลือ 20%  ดั้งนั้นถึงจะชาร์จมาเต็ม ๆ ก็จะเล่นได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง หลาย ๆ ครั้งยังติดพันอยู่เลย กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้เวลาอยู่ใน VR แล้วเหมือนเวลาผ่านไปเร็วมาก พอหมดก็จะไม่ฝืนเอาสายมาต่อ ถือเป็นการพักสายตาไปในตัว  ไม่เคยจับเวลาเทียบกันอย่างจริงจัง แต่ถ้าเทียบด้วยความรู้สึก เหมือน Quest2 แบตเตอร์รี่จะอยู่ได้นานกว่านิดนึง

3. ถ่านในจอย Controller 
   ถ่านในจอยใช้ AA ด้านละ 2 ก้อน ช่วงเดือนที่ผ่านมา ใช้งาน Pico4 ค่อนข้างเยอะ มีแจ้งเตือนว่าถ่านอ่อน ตอนใช้งานไป 2500 นาที ก็ประมาณเกือบ ช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์พอดี ดังนั้น เฉลี่ย ๆ ก็น่าจะต้องเตรียมเงินเปลี่ยนถ่านสำหรับจอย Pico4 เดือนละ 4 ก้อน ข้อนี้ของ Quest2 ประหยัดกว่าค่อนข้างชัด เพราะถ้าหมด ก็เปลี่ยนแค่ข้างละ 1 ก้อน

4. ระบบเสียง
   ใน Pico4 จะไม่มีช่องสำหรับเสียบหูฟัง 3.5 แล้ว หากต้องการใช้หูฟัง ต้องหาหูฟัง Bluetooth มาเชื่อมต่อ แต่ด้วยระบบเสียงที่ดี เสียงมีมิติ หูฟังก็ไม่ได้จำเป็นอีกต่อไป แต่ก็มีข้อเสีย ตรงที่เสียงเหมือนไม่เข้าหูโดยตรง เวลาเอามือป้องบริเวณหู เสียงจะดังขึ้นอีกเยอะเลย ตอนเล่นเกม เอามือป้องไม่ได้เพราะต้องใช้มือทำนู่นนี่ แต่เวลาดูหนัง ดู Youtube มีการเอามือมาป้อง เพื่อเพิ่มความดังของเสียงเป็นระยะ ถ้ามีการปรับปรุงให้ระบบเสียงจาก Headset เข้าหูได้มากกว่านี้ ก็จะดีมากเลย

ส่วนของ Software
1. การ Update Version ของ Pico4
    ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามีการ Update ไป 1 ครั้ง การ Update ก็ง่าย เมื่อเตือนก็กดให้ Update แล้วก็รอให้อุปกรณ์ทำการ Update Fireware ซักแพร็บก็ใช้งานต่อได้ปรกติ 

2. การ Update Pico Assistant 
    ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มี Update ไป 1 ครั้งเช่นกัน ซึ่งไม่มีผล เพราะว่าปัจจุบันใช้การเชื่อมต่อ PC กับ Headset ด้วยโปรแกรม Virtual Desktop ซึ่งให้คุณภาพที่ดีกว่าเลยไม่ได้ใช้โปรแกรมนี้    

3. การซื้อเกม การ Refund เกม
    ถ้าอยู่ในประเทศที่เป็น Official อย่างเช่น ในยุโรป หรือในเอเซีย ก็สิงคโปร์ มาเลเซีย จะสามารถติดตั้ง Pico Mobile App เพื่อซื้อเกม เพื่อ Refund เกมได้ แต่ในประเทศไทย ยังไม่ได้จำหน่ายอย่างเป็น Official ดังนั้น จะไม่สามารถติดตั้ง Pico Mobile App ได้ ดังนั้น ถ้าซื้อเกมมา แล้วจะ Refund ก็จะยุ่งยางนิดนึง ต้องติดต่อไปทางช่องทาง Support ไม่สามารถทำ Auto จากใน App ได้ 


4. จำนวนเกมใน Store
    หนึ่งในจุดแข็งของ Meta ในธุรกิจนี้คือมีการซื้อบริษัทพัฒนาเกม เข้ามาอยู่กับตัวเองเยอะ และขายเกมต่าง ๆ ในราคาสูงกว่าใน Steam ดังนั้นใน Meta Store จะมีเกมอยู่เยอะและมีเกมที่เป็น Exlusive เยอะมาก หลาย ๆ เกมผู้พัฒนาก็จะเอามาขายในนี้ก่อน แล้วซักพักค่อยไปขายใน Steam
    ต้องยอมรับว่า Pico คงจะเห็นปัญหาตรงนี้ จึงมีการติดต่อเอาเกมต่าง ๆ มาลงใน Store ตัวเองเยอะมาก ตรงนี้ถือว่าทำได้ดี ต่อไปก็ต้องดูว่าเกม Exlusive สำหรับ Pico จะออกมาเยอะไหม ดีไหม ถ้าเยอะ ถ้าดี น่าจะแย่งส่วนแบ่งของตลาด VR Headset ได้เยอะทีเดียว 
    ที่ผ่านมา เหมือนจะมีคูปองส่วนลดเพื่อเอาไปลดราคาในการซื้อเกมด้วย แต่พอเช็คไป เช็คมา จะแจกเฉพาะประเทศที่ Official ประเทศไทยเลยยังไม่ได้ส่วนลดตรงนี้ แต่ตัวเกมก็มีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน มาลดราคาเหมือนจะประมาณ 1-2 อาทิตย์ครั้ง ต้องหมั่นเช็ค Store เป็นระยะ ๆ 

5. ปัญหาในการเล่นเกมบางเกม
    เกมใน PCVR ที่ซื้อมา จากที่ได้ลองเกือบ 100 เกม เจออยู่ 2 เกมที่ Load ไม่ขึ้น และมี 2 เกม ที่ไม่มีเสียง หาวิธีแก้ไม่ได้ นอกนั้นก็เล่นได้ปรกติทั้งหมด
    สำหรับเกมยิงปืน เนื่องจากจอยของ Pico ผอมกว่าของ Quest 2 บางเกม จะมีปัญหาเวลายิง จากเล็งแบบเดิม เล่นใน Quest ยิงโดน พอมาเล่นใน Pico ยิงไม่โดน เหมือนองศามันเปลี่ยนไป ต้องใช้เวลาปรับตัวพักนึง   

ส่วนอื่น ๆ 
1. คุณภาพของภาพเวลาเล่นเกม เวลาใช้งาน
    ถึงแม้สเปกจอ Pico4 จะมี Resolution สูงกว่า Quest 2 แต่ต้องยอมรับในความสามารถของทีมพัฒนาของ Meta ที่มีการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของ Quest 2 อยู่ตลอด ๆ จนตอนนี้ ภาพที่ได้ใน Quest 2 ดีมาก ชัดมาก ดีกว่าตอนที่ออกมาเมื่อ 2 ปีก่อนมาก ถือว่า Quest ทำได้ดีกว่า     

2. การบันทึกภาพ บันทึก Video 
    การบันทึกภาพ บันทึก Video ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย คุณภาพที่ได้ก็ถือว่าดี การบันทึกการเล่น VR ในวิดีโอ ที่ปรกติจะมีปัญหาภาพส่ายไป ส่ายมา ถือว่าทำได้ดี นิ่งขึ้นเยอะ บันทึกเสร็จก็มีโปรแกรมที่เปิดดูต่อใน VR ได้อย่างง่ายดาย เดี๋ยวนี้เลยชิน เล่นตรงไหน สวย ๆ เจ๋ง ๆ จะกดบันทึก และพอเลิกเล่นก็มาเปิดดูบ่อย ๆ

    สำหรับการบันทึก Video การบันทึกแบบ Mix Reality ก็ถือว่าทำได้ง่าย ถ้า App รองรับ Passthrough หรือเอาตัวอยู่นอก Guardian ก็จะบันทึกสิ่งแวดล้อมผสมให้เลย แต่ในมุม Privacy ถือว่าน่าสนใจ ทาง Meta โดนเรื่อง Privacy มาตลอด ๆ ดังนั้น ค่อนข้างระมัดระวัง ดังนั้นใน Quest2 การจะบันทึกแบบเห็นทั้งภาพในเกมและสภาพแวดล้อมพร้อม ๆ กัน ต้องเข้าไปทำหลายขั้นตอนอยู่ ประมาณ่วา ต้องการบันทึกแบบ Mix Reality จริง ๆ ไม่ได้บันทึกได้โดยบังเอิญ
     

3. โปรแกรมแจกฟรี 
    นอกจากเกมที่แถมตอนซื้อ Headset แล้ว ใน Store ก็จะมีพวกเกมสั้น ๆ หนังสั้น ๆ ตามตัวอย่างรูปด้านล่างที่แจกฟรีเช่นกัน ถ้าไม่มี Pico ถ้าอยากเล่นหรืออยากดู ก็จะต้องจ่ายเงินซื้อ แต่ละอัน ไม่แพงมาก แต่รวม ๆ แล้วก็หลายบาทอยู่ 


4. Pico Video 
  อีก Content ที่สำคัญในยุคนี้ ก็คือพวกไฟล์ Video ต่าง ๆ ซึ่งใน Pico ก็มีการทะยอยเพิ่ม Video มาเป็นระยะ ๆ ทั้งการแนะนำสถานที่ต่าง ๆ เช่น Las Vegas, Dubai หรือสารคดี หลาย ๆ เรื่องก็ทำได้ดี ทำแบบเข้าใจว่า Video สำหรับแสดงใน VR ควรจะเป็นอย่างไร (ไม่ควรเคลื่อนที่ไปมา เพราะจะ Motion Sickness) หรืออย่างล่าสุดที่ได้ดู คือสารคดีด้วงกว่าง ที่ซูมมาชัด ๆ ดูแล้วตัวด้วงใหญ่เท่าตัวคน เห็นขน เห็นทุกอย่างละเอียดหมด ขนลุกเลย

แต่หลาย ๆ Video อาจจะเอามาจากแหล่งอื่น ก็ไม่สามารถดูได้เพราะเวียนหัว ต้องเลือก ๆ ดูเอา 

5. VR นั้นเริ่มจากเป็นอุปกรณ์ ใช้เพื่อการเล่นเกมเป็นหลัก แต่เวลาเล่นจะต้องเคลื่อนไหวเยอะ ไม่ได้แค่นั่ง นอนกดปุ่มในจอยเหมือนเล่นเกมแบบปรกติ ดังนั้น ทั้ง Meta และ Pico ก็เอาเรื่องการออกกำลัง การ Workout ใน VR มาเป็นจุดขายทั้งคู่แล้วเหมือนกัน มีการสรุปเป็นแคลอรี่ ต่อวัน ต่อเดือน ต่อปีออกมา และตอนนี้ของ Pico มี Leaderboard จัดอันดับแคลอรี่ที่เผาผลาญด้วย 


6. Colour Passtrough
เอาไปใช้งานจริง ๆ จัง ๆ ไม่ได้นัก เพราะว่าเวลาใช้งานจริงภาพตอนใช้ Passtrough มันไม่ได้ชัด แต่ก็ดีกว่าไม่มี บางทีระหว่างเล่นจะหยิบของ หยิบน้ำมาดื่ม ถ้าเป็นเมื่อก่อน ต้องถอด VR อย่างเดียว แต่ตอนนี้ แค่เคาะป็อก ๆ 2 ที ก็เห็นสภาพแวดล้อมปรกติแล้ว พอทำอะไรเสร็จ ก็เคาะ ป็อก ๆ กลับเข้า VR ไปใหม่ ก็ดีไปอีกแบบ
  

สรุป 
สำหรับผมที่ใช้งาน Quest2 มา 2 ปี ซื้อมาด้วยความไม่แน่ใจว่าจะชอบหรือไม่ชอบ VR เลยซื้อ RAM มาแค่ 64GB ตอนนี้เลยเป็นปัญหามาก จะเล่นเกมทีก็ต้อง Uninstall กันที พอมาได้ Pico4 RAM 128 GB นี่จบปัญหานั้นไปเลย Record Video ไว้เยอะแยะ ก็ยังไม่เต็ม

ด้วยราคาหมื่นต้น ๆ ประกอบกับน้ำหนักที่เบาลงกว่า Quest 2 ทำให้อยากเข้าไปขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวใน VR บ่อย ๆ ถือว่าคุ้มเลยสำหรับผม หักครึ่งคะแนน ตรงที่ไม่ยอมมี Official ในประเทศไทยนี่แหละ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าจะมีซักบริษัท ที่จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญของธุรกิจ VR/AR/MR ของ Meta ในอนาคต ก็คงจะเป็น Pico จาก Bytedance นี่แหละ นอกจากจะไม่ใช่หน้าใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ ก็ทำ Pico มาจนถึงรุ่น 3 ก่อนที่จะมาพลิกโฉม ทั้งเบา ทั้งถูกแล้ว  ด้วยความเป็นจีนยุคนี้ ที่พร้อมจะทำงานไม่หยุด เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอีกหลาย ๆ เรื่อง ปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้เลยทีเดียว