สวัสดีครับ ผมได้มีโอกาสเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ลับแห่งหนึ่งย่านธนบุรี ที่น้อยคนนักจะรู้
นั่นคือ พิพิธภัณฑ์อู่เรือหลวงเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ของ กรมอู่ทหารเรือ
ตั้งอยู่บริเวณข้างๆโรงเรียนสตรีวัดระฆังติดกับราชนาวิกสภา
เริ่มจากสถานที่แรกก็คือโบสถ์วัดวงศมูลวิหาร (โบราณสถาน) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3
โดยเป็น Unseen Thailand เลยก็ว่าได้ เพราะพระประทานหันไปทางทิศเหนือ
มีนามพระประทานว่า พระพุทธวงศมูลมิ่งมงคล ปัจจุบันไม่มีพระจำพรรษา
จากนั้นก็ได้เดินตามภัณฑารักษ์มาที่อาคารขยายแบบ ซึ่งอาคารนี้มีอายุมากกว่า 133 ปี ซึ่งกำลังขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
ซึ่งเป็นอาคารที่ดูเรียบง่ายและดูสวยงาม
พอเสร็จจากตัวอาคารขยายแบบก็ได้เดินมาถึงตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบบ้านขนมปังขิง
เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ถือว่าเป็นอาคารที่มีความสวยงามอย่างมาก
พอเดินขึ้นมาในตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ภัณฑารักษณ์ก็ให้มาชมแผนผังเดิมของกรมอู่ทหารเรือในสมัย ร.5
ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระนิเวศน์เดิมของรัชกาลที่ 1 และพระประยูรญาติ สมัยเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
ภัณฑารักษ์ (คุณแต้ว) ได้เล่าถึงความเป็นมาของพื้นที่ของกรมอู่จากราชนิเวศน์สู่อู่เรือหลวง จนมาเป็นกรมอู่ทหารเรือ
ไปจนถึงโซน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กับ พระอัจริยภาพด้านนาวาสถาปัตย์
โซนนี้จะเล่าถึงความเป็นมาของพรอัจริยภาพด้านการแล่นเรือใบ จนถึง ทรงพระราชทานคำแนะนำในการจัดสร้างเรือ ต.91
และจัดแสดงขวานที่สมเด็จพระบรมราชนนีพันปีหลวงทรงใช้ตัดในพิธีปล่อยเรือลงน้ำ
ละก็เดินมาถึงเรื่องภารกิจอีกภารกิจของกรมอู่ทหารเรือคือการจัดสร้างเรือพระที่นั้งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ 9
จัดแสดงสิ่งของที่ ร.9 ทรงใช้วางกระดูกงูเรือ ตลอดจนไม้พายของเรือพระที่นั่ง
จบการรับชมแต่เพียงเท่านี้ เนื่องจากภัณฑารักษ์ติดภารกิจอื่น แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีในการรับชม
เพราะเป็น Living Museum อย่างแท้จริง เพราะคุณแต้วเล่าว่าที่มาแต่ละครั้งไม่เคยเหมือนกันสักวัน
หากใครสนใจเข้าชม ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน ที่เบอร์ 02 - 475 - 5368
เปิดทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 14.00 น.
เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มี walk in
[CR] พิพิธภัณฑ์อู่เรือหลวง ประวัติศาสตร์ของการซ่อมเรือรบไทย
นั่นคือ พิพิธภัณฑ์อู่เรือหลวงเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ของ กรมอู่ทหารเรือ
ตั้งอยู่บริเวณข้างๆโรงเรียนสตรีวัดระฆังติดกับราชนาวิกสภา
เริ่มจากสถานที่แรกก็คือโบสถ์วัดวงศมูลวิหาร (โบราณสถาน) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3
โดยเป็น Unseen Thailand เลยก็ว่าได้ เพราะพระประทานหันไปทางทิศเหนือ
มีนามพระประทานว่า พระพุทธวงศมูลมิ่งมงคล ปัจจุบันไม่มีพระจำพรรษา
จากนั้นก็ได้เดินตามภัณฑารักษ์มาที่อาคารขยายแบบ ซึ่งอาคารนี้มีอายุมากกว่า 133 ปี ซึ่งกำลังขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
ซึ่งเป็นอาคารที่ดูเรียบง่ายและดูสวยงาม
พอเสร็จจากตัวอาคารขยายแบบก็ได้เดินมาถึงตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบบ้านขนมปังขิง
เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ถือว่าเป็นอาคารที่มีความสวยงามอย่างมาก
พอเดินขึ้นมาในตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ภัณฑารักษณ์ก็ให้มาชมแผนผังเดิมของกรมอู่ทหารเรือในสมัย ร.5
ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระนิเวศน์เดิมของรัชกาลที่ 1 และพระประยูรญาติ สมัยเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
ภัณฑารักษ์ (คุณแต้ว) ได้เล่าถึงความเป็นมาของพื้นที่ของกรมอู่จากราชนิเวศน์สู่อู่เรือหลวง จนมาเป็นกรมอู่ทหารเรือ
ไปจนถึงโซน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กับ พระอัจริยภาพด้านนาวาสถาปัตย์
โซนนี้จะเล่าถึงความเป็นมาของพรอัจริยภาพด้านการแล่นเรือใบ จนถึง ทรงพระราชทานคำแนะนำในการจัดสร้างเรือ ต.91
และจัดแสดงขวานที่สมเด็จพระบรมราชนนีพันปีหลวงทรงใช้ตัดในพิธีปล่อยเรือลงน้ำ
ละก็เดินมาถึงเรื่องภารกิจอีกภารกิจของกรมอู่ทหารเรือคือการจัดสร้างเรือพระที่นั้งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ 9
จัดแสดงสิ่งของที่ ร.9 ทรงใช้วางกระดูกงูเรือ ตลอดจนไม้พายของเรือพระที่นั่ง
จบการรับชมแต่เพียงเท่านี้ เนื่องจากภัณฑารักษ์ติดภารกิจอื่น แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีในการรับชม
เพราะเป็น Living Museum อย่างแท้จริง เพราะคุณแต้วเล่าว่าที่มาแต่ละครั้งไม่เคยเหมือนกันสักวัน
หากใครสนใจเข้าชม ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน ที่เบอร์ 02 - 475 - 5368
เปิดทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 14.00 น.
เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มี walk in
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น