JJNY : สหรัฐฯ สกัดขีปนาวุธจากเยเมน│“ไบเดน”แถลงจ่อเพิ่มงบ│ต่างชาติวิเคราะห์ภาษากาย│ศิริกัญญาเผยต้นกำเนิดดิจิทัลวอลเล็ต

สหรัฐฯ สกัดขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลจากเยเมน ส่วนฐานทัพในอิรัก-ซีเรียถูกโจมตี
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208468
 
 
ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา สหรัฐฯ เจอความวุ่นวาย หลังมีขีปนาวุธจากเยเมนมุ่งหน้าไปอิสราเอล ส่วนฐานทัพของตนในอิรักและซีเรียก็ถูกโดรนโจมตี
ทางการสหรัฐฯ รายงานว่า เมื่อวันพุธ (18 ต.ค.) ที่ผ่านมา เรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในทะเลแดง ภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้ยิงสกัดกั้นขีปนาวุธหลายลูกและโดรนหลายลำ ที่ถูกยิงมาจากบริเวณใกล้ชายฝั่งเยเมน
 
พล.จ. แพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ขีปนาวุธและโดรนดังกล่าวถูกยิงโดยกลุ่มติดอาวุธ “ฮูตี” (Houthi) ในเยเมน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน โดยยืนยันว่า เรือยูเอสเอส คาร์นีย์ (USS Carney) สามารถยิงขีปนาวุธตกได้ 3 ลูก รวมถึงโดรนอีกหลายลำ คาดว่าประมาณ 8 ลำ

นี่เป็นการสาธิตการป้องกันทางอากาศและขีปนาวุธแบบบูรณาการที่เราสร้างขึ้นในตะวันออกกลาง และเราพร้อมที่จะใช้เมื่อใดก็ตามที่จำเป็นเพื่อปกป้องพันธมิตรของเราและผลประโยชน์ของเราในภูมิภาคที่สำคัญนี้ ... ไม่มีรายงานการบาดเจ็บล้มตายของกองกำลังสหรัฐฯ และพลเรือนในพื้นที่” ไรเดอร์กล่าว
 
เขาบอกว่า เพนตากอนไม่สามารถพูดได้แน่ชัด ณ จุดนี้ว่า ขีปนาวุธและโดรนดังกล่าวกำลังกำหนดเป้าหมายไปที่อะไร แต่กล่าวว่า พวกมันถูกปล่อยจากเยเมน และกำลังมุ่งหน้าไปทางเหนือเลียบทะเลแดง “มุ่งสู่เป้าหมายในอิสราเอล
 
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในเหตุต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่ามกลางสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสยังคงดำเนินต่อไป โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุในเยเมนเพียงเล็กน้อย ฐานทัพสหรัฐฯ ในซีเรียและอิรักตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของโดรน
 
ไรเดอร์รายงานว่า ช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา โดรน 2 ลำมุ่งเป้าไปที่กองทหารรักษาการณ์อัล-ตันฟ์ในซีเรีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังพันธมิตรสหรัฐฯ โดยโดรนลำหนึ่งถูกโจมตีและถูกทำลาย แต่โดรนอีกลำพุ่งชนฐานสำเร็จ ส่งผลให้กองกำลังพันธมิตรได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
 
เช้าวันเดียวกันนั้นเอง ที่อิรัก ระบบเตือนภัยล่วงหน้าบ่งชี้ถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นที่เข้าใกล้ฐานทัพอากาศอัล-อาซาด ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ประจำการอยู่ ไม่มีการโจมตีเกิดขึ้น แต่ผู้รับเหมาพลเรือนชาวอเมริกันรายหนึ่งประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน
 
ย้อนไปก่อนหน้านั้นอีกเล็กน้อย ไรเดอร์บอกว่า เมื่อวันอังคาร (17 ต.ค.) กองกำลังสหรัฐฯ ได้ป้องกันการโจมตีของโดรน 3 ลำใกล้กองกำลังสหรัฐฯ และกองกำลังพันธมิตรในอิรัก โดยโดรน 2 ลำมุ่งเป้าไปที่ฐานทัพอากาศอัล-อาซาด ซึ่งส่งผลให้กองกำลังพันธมิตรได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และทางตอนเหนือของอิรักใกล้กับฐานทัพอากาศบาชูร์ กองกำลังสหรัฐฯ ได้โจมตีและทำลายโดรนลำหนึ่ง ส่งผลให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหาย
 
เราจะดำเนินการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องกองกำลังสหรัฐฯ และพันธมิตรจากภัยคุกคามใด ๆ” ไรเดอร์กล่าว
 
เมื่อถูกถามว่าการโจมตีทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างอิสราเอลและฮามาส และความโกรธแค้นในภูมิภาคตะวันออกกลางเกี่ยวกับการสนับสนุนอิสราเอลของสหรัฐฯ หรือไม่ ไรเดอร์กล่าวว่า ยังคงอยู่ระหว่างการประเมิน
 
ความมุ่งมั่นของเราจะดำเนินต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะขัดขวางความขัดแย้งในภูมิภาคในวงกว้างที่อาจเกิดขึ้นได้” เขากล่าว
 
เรียบเรียงจาก CNN



“ไบเดน” แถลงจ่อเพิ่มงบช่วยเหลืออิสราเอล-ยูเครน ยืนยันไม่ทอดทิ้ง
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208463

ปธน.สหรัฐแถลงจากห้องทำงานรูปไข่ ประกาศเตรียมของบประมาณเพื่อสนับสนุนอิสราเอลและยูเครนเพิ่มเติม ยันสหรัฐฯ เป็นแสงสว่างของโลก
 
เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย มีการถ่ายทอดสดการกล่าวสุนทรพจน์จากห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ฮามาสที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้
 
ไบเดนกล่าวว่า “เรากำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ สิ่งที่เราทำในวันนี้จะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ในทศวรรษต่อ ๆ ไป” พร้อมกันนี้ยังบอกว่า กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อนำตัวประกันกลับบ้าน โดยชี้ว่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว

ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า ยังคงเคารพในสิทธิของชาวปาเลสไตน์ทุกคน “สหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นต่อสิทธิที่จะมีศักดิ์ศรีและการตัดสินใจของชาวปาเลสไตน์ การกระทำของฮามาสไม่ได้ทำให้สิ่งนั้นหายไป
 
ไบเดนกล่าวว่า “ฮามาสและประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เป็นตัวแทนของภัยคุกคามที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกัน นั่นคือพวกเขาทั้งสองต้องการทำลายล้างระบอบประชาธิปไตยของประเทศข้างเคียง” และบอกว่า ขณะนี้กลุ่มฮามาสกำลังใช้พลเรือนเป็นเหมือนโล่มนุษย์
 
ในการกล่าวสุนทรพจน์นี้ ไบเดนกล่าวถึงทั้งอิสราเอลและยูเครน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเงินทุนและการสนับสนุนที่ต้องมีให้ทั้งสองประเทศ “การทำให้แน่ใจว่าอิสราเอลและยูเครนประสบความสำเร็จนั้น มีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติของสหรัฐฯ
 
ด้วยเหตุนี้ ไบเดนจะยื่นเรื่องขอเงินทุนสนับสนุนอิสราเอลและยูเครนเพิ่มเติมต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ในวันนี้ (20 ต.ค.) เพราะมองว่า การถอนตัวออกจากยูเครนหรือหันหลังให้อิสราเอล จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความสับสนวุ่นวายทั่วโลก
 
ความเป็นผู้นำแบบอเมริกันคือสิ่งที่ยึดโยงโลกไว้ด้วยกัน พันธมิตรอเมริกันคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่ในอเมริกาปลอดภัย ค่านิยมแบบอเมริกันคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นประเทศพันธมิตรที่หลายคนต้องการร่วมงานด้วย หากเราเดินออกจากยูเครน หากเราหันหลังให้กับอิสราเอล มันไม่คุ้มค่าเลย” ไบเดนกล่าว
 
ผู้นำสหรัฐฯ บอกว่า ต้องการใช้เงินทุนนี้เพื่อ “ทำให้ตะวันออกกลางมีเสถียรภาพมากขึ้น เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยตลาดที่คาดการณ์ได้มากขึ้น มีการจ้างงานมากขึ้น ความคับข้องใจน้อยลง สงครามน้อยลง
 
นั่นเป็นสาเหตุที่ผมจะส่งคำของบประมาณเร่งด่วนไปยังสภาคองเกรสเพื่อสนับสนุนความต้องการด้านความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา เพื่อสนับสนุนพันธมิตรที่สำคัญของเรา รวมถึงอิสราเอลและยูเครน เป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดที่จะผลลัพธ์คือความมั่นคงของอเมริกามาหลายชั่วอายุคน
 
“ช่วยเราปกป้องกองทหารอเมริกันให้พ้นจากอันตราย ช่วยเราสร้างโลกที่ปลอดภัย สงบสุขยิ่งขึ้น และเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นสำหรับลูกหลานของเรา ในอิสราเอล เราต้องแน่ใจว่าพวกเขามีสิ่งที่จำเป็นในการปกป้องผู้คนทั้งในปัจจุบันและตลอดไป
 
“งบประมาณเร่งด่วนเพื่อรักษาความปลอดภัยที่ผมส่งให้สภาคองเกรส เป็นงบเสิรมที่ไม่เคยมีมาก่อนในการรักษาความปลอดภัยของเรา ซึ่งจะทำให้อิสราเอลมีความได้เปรียบทางการทหารเชิงคุณภาพที่ยอดเยี่ยม เพิ่มความได้เปรียบทางการทหาร
 
โดยไบเดนบอกว่า จะทำให้แน่ใจว่า ระบบป้องกันไอรอนโดม (Iron Dome) ของอิสราเอลยังคงทำงานต่อไป และจะเป็นการส่งข้อความถึงผู้ที่ไม่เป็นมิตรรายอื่น ๆ ในภูมิภาค
 
แม้จะยากลำบากเพียงใด เราไม่สามารถละทิ้งสันติภาพได้ เราไม่สามารถละทิ้งวิธีแก้ปัญหาแบบสองรัฐได้ อิสราเอลและชาวปาเลสไตน์สมควรที่จะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย มีศักดิ์ศรี และสันติสุขเท่าเทียมกัน ... ในเวลาเช่นนี้ เราต้องทำงานหนักกว่าที่เคยเพื่อยึดมั่นในคุณค่าที่ทำให้เราเป็นเรา” ไบเดนกล่าว
 
เขายังเล่าเรื่องราวการเยือนยูเครนอย่างลับ ๆ เมื่อต้นปีนี้ บนรถไฟจากโปแลนด์โดยมี “ขณะที่ผมเดินไปในกรุงเคียฟพร้อมกับประธานาธิบดีเซเลนสกี มีเสียงไซเรนโจมตีทางอากาศดังมาแต่ไกล ผมรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง ซึ่งเคยรู้สึกมาก่อน ซึ่งก็คือ สหรัฐฯ ยังคงเป็นแสงสว่างแก่โลก เรายังคงเป็นอย่างนั้นอยู่
 
เรียบเรียงจาก Al Jazeera / CNN /  The Guardian



ต่างชาติวิเคราะห์ภาษากาย "เศรษฐา" พบ "ปูติน" หวาดกลัว - ตึงเครียด
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/208470

ผู้เชี่ยวชาญภาษาท่าทาง วิเคราะห์ภาษากาย“เศรษฐา ทวีสิน” ขณะเข้าพบ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ผู้นำรัสเซีย ชี้แสดงท่าทางหวาดกลัว-ตึงเครียด
 
กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อชาวต่างชาติออกมาวิเคราะห์ภาษากายของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ขณะเข้าพบ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
โดย จาเลก วาโชวิค ชาวโปแลนด์ ที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ และเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาท่าทาง โพสต์ข้อความในเอ็กซ์ของเขาความยาวหลายโพสต์ วิเคราะห์ท่าทางของเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ของไทย ระหว่างการเข้าพบ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ว่ามีแต่ความตึงเครียด และหวาดกลัว โดยเศรษฐา นั้นหันทั้งร่างกาย ลำตัว หัวเข่า ศีรษะ และเท้าเข้าหาปูติน เพื่อเตรียมพร้อมจะพูดกับเขา

อีกทั้ง นายกฯ ไทยยังหดตัว และพยายามรักษาพื้นที่ให้แคบที่สุด แสดงท่าทีสยบยอมเมื่อยู่ต่อหน้าผู้มีอำนาจและมีประสบการณ์มากกว่า และชี้ให้เห็นว่า ประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจไม่ช่วยให้คนมีความมั่นใจในด้านนโยบายต่างประเทศ
 
นอกจากนี้ จาเลก ยังบอกอีกว่า ความเครียดของเศรษฐา แสดงออกให้เห็นจากการยิ้มแห้งใส่ปูติน พร้อมก้มศีรษะและหดไหล่
 
และยังมีเอ็กซ์ของ pipop (พิภพ) โพสต์ว่า อย่าคิดว่านักการเมืองทุกคนจะกลัวปูติน เพราะมีปี 2007 อังเกลา แมร์เคิล นายกฯ ของเยอรมนี ได้รับเชิญไปพบปูติน ซึ่งแกล้งปล่อยสุนัขสีดำตัวใหญ่ออกมาเดินผ่านที่นั่งคุยกัน ทั้งที่รู้ว่าแมร์เคิลกลัวสุนัข เพราะเคยถูกกัด แต่ดูจากท่าทางของแมร์เคิลไม่ได้แสดงความกลัวออกมาเลย
 
ซึ่งหลังโพสต์นี้แชร์ออกไป ก็มีคนแชร์ไปแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก บางคนย้อนไปตอนที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หารือกับนางเทรีซา เมย์ เมื่อช่วงปี 2018 ด้วย


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่