การลดหย่อนภาษีเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่กฎหมายอนุญาติให้นำมาหักลบกับรายได้ต่อปีเพื่อให้เราจ่ายภาษีน้อยลงนั่นเอง โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนง่าย ๆ ตามนี้เลย
- ค่าลดหย่อนกลุ่มภาระชีวิต ผู้ที่มีค่าใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว โดยปกติแล้วจะได้ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนกลุ่มการออมและการลงทุน สามารถเลือกลงทุนในกองทุนต่างๆ เพื่อลดหย่อนภาษีได้ เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
- ค่าลดหย่อนกลุ่มอื่นๆ เช่น ค่าลดหย่อนค่าลิขสิทธิ์ ค่าลดหย่อนค่าซื้อหนังสือ ค่าลดหย่อนค่ารักษาพยาบาล ค่าลดหย่อนค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าลดหย่อนค่าบริจาค เป็นต้น
สำหรับปี 2566 รายการลดหย่อนภาษีมีดังนี้
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว จำนวน 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส จำนวน 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนบุตร จำนวน 30,000 บาท/คน
- ค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา จำนวน 30,000 บาท/คน สูงสุดไม่เกิน 4 คน
- ค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ หรือคนทุพพลภาพ จำนวน 60,000 บาท/คน
- ค่าลดหย่อนค่ารักษาพยาบาล จำนวน 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าเบี้ยประกันชีวิต จำนวน 100,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าซื้อหนังสือ จำนวน 20,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าลิขสิทธิ์ จำนวน 20,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าบริจาค จำนวน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
- ค่าลดหย่อนค่าเบี้ยประกันสุขภาพ ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุ ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จำนวน 25,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าประกันสังคม จำนวน 7,200 บาท
- ค่าลดหย่อนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จำนวน 600,000 บาท
- ค่าลดหย่อนกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) จำนวน 300,000 บาท
- ค่าลดหย่อนกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จำนวน 500 บาท
หากใกล้สิ้นปีแล้วอยากลดหย่อนภาษีสามารถทำได้ดังนี้
ศึกษารายการลดหย่อนภาษีให้เข้าใจ เพื่อเลือกรายการที่เหมาะสมกับตัวเอง
เตรียมเอกสารหลักฐานการลดหย่อนภาษีให้ครบถ้วน
ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567
ตัวอย่าง เทคนิคการลดหย่อนภาษี
*หากมีบุตรหรือคู่สมรส สามารถนำค่าลดหย่อนบุตรหรือคู่สมรสมาลดหย่อนภาษีได้
*หากมีภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาหรือการรักษาพยาบาล สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
*หากมีประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
*หากมีการออมในกองทุนต่างๆ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
การวางแผนการลดหย่อนภาษีอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้มากขึ้น และมีเงินเหลือใช้มากขึ้น
จะสิ้นปีแล้วอยากลดหย่อนภาษีสามารถทำยังไงได้บ้าง?
- ค่าลดหย่อนกลุ่มภาระชีวิต ผู้ที่มีค่าใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว โดยปกติแล้วจะได้ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนกลุ่มการออมและการลงทุน สามารถเลือกลงทุนในกองทุนต่างๆ เพื่อลดหย่อนภาษีได้ เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน
- ค่าลดหย่อนกลุ่มอื่นๆ เช่น ค่าลดหย่อนค่าลิขสิทธิ์ ค่าลดหย่อนค่าซื้อหนังสือ ค่าลดหย่อนค่ารักษาพยาบาล ค่าลดหย่อนค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าลดหย่อนค่าบริจาค เป็นต้น
สำหรับปี 2566 รายการลดหย่อนภาษีมีดังนี้
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว จำนวน 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนคู่สมรส จำนวน 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนบุตร จำนวน 30,000 บาท/คน
- ค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา จำนวน 30,000 บาท/คน สูงสุดไม่เกิน 4 คน
- ค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูคนพิการ หรือคนทุพพลภาพ จำนวน 60,000 บาท/คน
- ค่าลดหย่อนค่ารักษาพยาบาล จำนวน 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าเบี้ยประกันชีวิต จำนวน 100,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าซื้อหนังสือ จำนวน 20,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าลิขสิทธิ์ จำนวน 20,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าบริจาค จำนวน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
- ค่าลดหย่อนค่าเบี้ยประกันสุขภาพ ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุ ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จำนวน 25,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าประกันสังคม จำนวน 7,200 บาท
- ค่าลดหย่อนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จำนวน 600,000 บาท
- ค่าลดหย่อนกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) จำนวน 300,000 บาท
- ค่าลดหย่อนกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จำนวน 500 บาท
หากใกล้สิ้นปีแล้วอยากลดหย่อนภาษีสามารถทำได้ดังนี้
ศึกษารายการลดหย่อนภาษีให้เข้าใจ เพื่อเลือกรายการที่เหมาะสมกับตัวเอง
เตรียมเอกสารหลักฐานการลดหย่อนภาษีให้ครบถ้วน
ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567
ตัวอย่าง เทคนิคการลดหย่อนภาษี
*หากมีบุตรหรือคู่สมรส สามารถนำค่าลดหย่อนบุตรหรือคู่สมรสมาลดหย่อนภาษีได้
*หากมีภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาหรือการรักษาพยาบาล สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
*หากมีประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
*หากมีการออมในกองทุนต่างๆ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
การวางแผนการลดหย่อนภาษีอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้มากขึ้น และมีเงินเหลือใช้มากขึ้น