หลังจากนั้น ราชาป่านูเปียได้จัดให้ผมไปประชุม
กับผู้มีอภิญญาของป่านูเปียจำนวน 25 คน
คุณสมบัติแรกของทั้ง 25 คนนี้ที่จะต้องมีก็คือ
พวกเขาต้องเห็นกายทิพย์ของผม
คุณสมบัติต่อมาคือต้องมีความสามารถในการสื่อสารทางจิต
เพราะการประชุมนี้จะเงียบมากเพราะ
พวกเราจะใช้การสื่อสารทางจิต
ราชาป่านูเปียให้ความเห็นว่าน่าจะสะดวกที่สุด
ตอนนั้น ผมสามารถสื่อทางจิตกับศรีจิตราใน 972 ได้
เธอเองก็เพิ่งรับรู้ ในฐานะที่เธอเป็นเจ้าของศูนย์ข้อมูลข้ามจักรวาล
เธอจึงอยากจะเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้
เธอจึงอยู่ในฐานะผู้เข้าร่วมประชุมด้วย
และเธอคิดว่าเธอจะต้องจดทุกอย่างที่สำคัญ
ตอนนั้น เราประชุมกันหลากหลายประเด็นมาก
แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากคือเรื่องบททดสอบของแต่ละจักรวาล
สิ่งที่น่าสงสัยมาก ๆ เลยก็คือทำไมแต่ละจักรวาลต้องมีบททดสอบ
คำตอบจากที่ประชุมก็คือปัจจุบัน ประชาชนในแต่ละจักรวาล
มีทางเลือกที่หลากหลายมาก บททดสอบจึงมุ่งตรวจสอบ
ทางเลือกที่แต่ละคนเลือกว่ามันโอเคกับเขาจริง ๆ ไหม
ในแต่ละจักรวาลจะมีบททดสอบที่แตกต่างกัน
เฉพาะจักรวาลที่ 452 นั้น บททดสอบคือการเกิดโรคระบาดไปทั่วโลก
แต่สำหรับสังคมไทยมันคือ introduction ของการทดสอบชุดใหญ่
ซึ่งจะมีมาอีก 24 สัญญาณในรอบ 12 ปีคือปี 2566-2577
สัญญาณแรกจะเกิดขึ้ยในช่วง 13-24 พย 66 เป็นสองสัปดาห์ก่อนวันลอยกระทง
ผมไม่แน่ใจว่าทำไมสัญญาณแรกถึงเป็นช่วงนั้น
และสิ่งที่ต้องลุ้นก็คือสังคมเราจะสอบผ่านหรือไม่
หลังจากประชุมเสร็จ ราชาป่านูเปียได้พาผมไปยังโถงกลางของพระราชวังเนรมิต
ซึ่งมีร้านขายดอกไม้อยู่ ผมเจอบุษบาบัณที่นั่น
เธอเป็นผู้หญิงที่ดูน่านับถือมาก อายุอานามน่าจะมากแล้ว
แต่เธอก็ยังดูไม่แก่ ผมกอดเธอแน่น
ผมเคยคิดว่าถ้าผมเจอใครก็ตามที่เทียบเท่าพระเจ้า
ผมคงมีคำถามมากมายที่จะถามเขา
แต่พอเจอเข้าจริง ๆ ผมไม่ได้ถามคำถามเลยแม้แต่ข้อเดียว
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่ทราบ
ที่ตื่นเต้นสุด ๆ คือการที่ผมเจอพ่อ แต่เป็นศักดา 971
ไม่ใช่ศักดา 452 แต่ตามที่ผมเข้าใจ เขาก็คือพ่อของผม
อายุอานามของศักดา 971 ดูพอ ๆ กับผม
บุษบาบัณเปิดโอกาสให้เรานั่งคุยกันท่ามกลางสวนดอกไม้
"พ่อสบายดีไหมครับ"
"สบายดีครับพระองค์"
"ทำไมพ่อถึงใช้คำพูดแบบนั้นกับผม"
"ณ สภาวะนี้ ท่านคือเทพฮอรัสครับท่าน"
"ตามใจพ่อล่ะกัน ผมเรียกพ่อว่าพ่อได้ใช่ไหมครับ"
"ได้ครับพระองค์ ตามสะดวกเลยครับ"
"พ่อชอบจักรวาลของพ่อไหมครับ"
"จริง ๆ แล้วทุกที่ไม่ต่างกันนะครับ เลยไม่รู้ว่าจะเทียบยังไง"
"ถ้าพ่อศักดา 452 ตายแล้ว เขาจะมาสถิตที่ป่านูเปียรึเปล่าครับ"
"ต้องแล้วแต่เขาครับท่าน ถ้าเขาอยากมาอยู่ที่นี่ และอยากอยู่ที่อื่นด้วย
จิตวิญญาณเขาจะแยกออกเป็นสองได้ครับ แล้วค่อยมารวมกัน
ในอนาคตในภายหลัง"
"เป็นอย่างนั้นเหรอครับพ่อ"
"อาจเป็นอย่างนั้นได้ครับท่าน"
"จักรวาลเกิดขึ้นได้อย่างไรครับพ่อ"
"จะมีสองส่วนครับท่านความอยากกับอุบัติเหตุ"
"พ่อจะขยายความให้หน่อยได้ไหมครับ"
"ยังไม่ได้ครับท่าน แต่ในอนาคต ท่านจะทราบได้เอง"
"แล้วจุดสิ้นสุดของทุกจักรวาลล่ะครับ"
"ถ้าท่านถามอย่างนี้ ต้องตอบว่าไม่มีครับท่าน"
ผมคุยกับพ่ออีกหลายเรื่องก่อนจากกัน
หลังจากนั้น ผมได้พบคนสำคัญอีกสองคนคือ
สมเด็จพระราชินีศรีจิตราและเจ้าชายจักรภพ
ทั้งสองพระองค์เรียกผมว่าเทพฮอรัส
ผมได้คุยหลายเรื่องกับท่านทั้งสอง
คุยถึงเรื่องที่ท่านทั้งสองได้ครองคู่กันในทุกจักรวาล
ทั้งสองท่านให้ความเห็นว่าการเจอกันในแต่ละจักรวาล
มันมีบริบทที่แตกต่างกันและมีเหตุผลสำคัญหลายประเด็น
ว่าทำไมยังต้องมาเจอกัน บางครั้งมันก็เป็นความอยาก
แต่บางครั้งมันก็คืออุบัติเหตุ
และบางครั้งมันก็เป็นเหตุผลของจักรวาลเอง
ซึ่งก็ถือว่ายังเข้าใจยากอยู่
คนกลุ่มสุดท้ายที่ผมได้เจอก่อนกลับบ้านคือ
เจ้าชายฟิสิกส์ เจ้าหญิงแห่งกาลเวลา เจ้าชายชีวะ
เจ้าหญิงเคมี เจ้าหญิงจริยศาสตร์ และเจ้าหญิงสันติภาพ
พอผมได้คุยกับทุกท่านในกลุ่มนี้
ความจริงบางอย่างก้ได้เผยออกมา ...
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 200 ยี่สิบสี่สัญญาณความล่มสลายของสังคมไทย สัญญาณแรก อยู่ในช่วง 13-24 พย 66
กับผู้มีอภิญญาของป่านูเปียจำนวน 25 คน
คุณสมบัติแรกของทั้ง 25 คนนี้ที่จะต้องมีก็คือ
พวกเขาต้องเห็นกายทิพย์ของผม
คุณสมบัติต่อมาคือต้องมีความสามารถในการสื่อสารทางจิต
เพราะการประชุมนี้จะเงียบมากเพราะ
พวกเราจะใช้การสื่อสารทางจิต
ราชาป่านูเปียให้ความเห็นว่าน่าจะสะดวกที่สุด
ตอนนั้น ผมสามารถสื่อทางจิตกับศรีจิตราใน 972 ได้
เธอเองก็เพิ่งรับรู้ ในฐานะที่เธอเป็นเจ้าของศูนย์ข้อมูลข้ามจักรวาล
เธอจึงอยากจะเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้
เธอจึงอยู่ในฐานะผู้เข้าร่วมประชุมด้วย
และเธอคิดว่าเธอจะต้องจดทุกอย่างที่สำคัญ
ตอนนั้น เราประชุมกันหลากหลายประเด็นมาก
แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากคือเรื่องบททดสอบของแต่ละจักรวาล
สิ่งที่น่าสงสัยมาก ๆ เลยก็คือทำไมแต่ละจักรวาลต้องมีบททดสอบ
คำตอบจากที่ประชุมก็คือปัจจุบัน ประชาชนในแต่ละจักรวาล
มีทางเลือกที่หลากหลายมาก บททดสอบจึงมุ่งตรวจสอบ
ทางเลือกที่แต่ละคนเลือกว่ามันโอเคกับเขาจริง ๆ ไหม
ในแต่ละจักรวาลจะมีบททดสอบที่แตกต่างกัน
เฉพาะจักรวาลที่ 452 นั้น บททดสอบคือการเกิดโรคระบาดไปทั่วโลก
แต่สำหรับสังคมไทยมันคือ introduction ของการทดสอบชุดใหญ่
ซึ่งจะมีมาอีก 24 สัญญาณในรอบ 12 ปีคือปี 2566-2577
สัญญาณแรกจะเกิดขึ้ยในช่วง 13-24 พย 66 เป็นสองสัปดาห์ก่อนวันลอยกระทง
ผมไม่แน่ใจว่าทำไมสัญญาณแรกถึงเป็นช่วงนั้น
และสิ่งที่ต้องลุ้นก็คือสังคมเราจะสอบผ่านหรือไม่
หลังจากประชุมเสร็จ ราชาป่านูเปียได้พาผมไปยังโถงกลางของพระราชวังเนรมิต
ซึ่งมีร้านขายดอกไม้อยู่ ผมเจอบุษบาบัณที่นั่น
เธอเป็นผู้หญิงที่ดูน่านับถือมาก อายุอานามน่าจะมากแล้ว
แต่เธอก็ยังดูไม่แก่ ผมกอดเธอแน่น
ผมเคยคิดว่าถ้าผมเจอใครก็ตามที่เทียบเท่าพระเจ้า
ผมคงมีคำถามมากมายที่จะถามเขา
แต่พอเจอเข้าจริง ๆ ผมไม่ได้ถามคำถามเลยแม้แต่ข้อเดียว
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่ทราบ
ที่ตื่นเต้นสุด ๆ คือการที่ผมเจอพ่อ แต่เป็นศักดา 971
ไม่ใช่ศักดา 452 แต่ตามที่ผมเข้าใจ เขาก็คือพ่อของผม
อายุอานามของศักดา 971 ดูพอ ๆ กับผม
บุษบาบัณเปิดโอกาสให้เรานั่งคุยกันท่ามกลางสวนดอกไม้
"พ่อสบายดีไหมครับ"
"สบายดีครับพระองค์"
"ทำไมพ่อถึงใช้คำพูดแบบนั้นกับผม"
"ณ สภาวะนี้ ท่านคือเทพฮอรัสครับท่าน"
"ตามใจพ่อล่ะกัน ผมเรียกพ่อว่าพ่อได้ใช่ไหมครับ"
"ได้ครับพระองค์ ตามสะดวกเลยครับ"
"พ่อชอบจักรวาลของพ่อไหมครับ"
"จริง ๆ แล้วทุกที่ไม่ต่างกันนะครับ เลยไม่รู้ว่าจะเทียบยังไง"
"ถ้าพ่อศักดา 452 ตายแล้ว เขาจะมาสถิตที่ป่านูเปียรึเปล่าครับ"
"ต้องแล้วแต่เขาครับท่าน ถ้าเขาอยากมาอยู่ที่นี่ และอยากอยู่ที่อื่นด้วย
จิตวิญญาณเขาจะแยกออกเป็นสองได้ครับ แล้วค่อยมารวมกัน
ในอนาคตในภายหลัง"
"เป็นอย่างนั้นเหรอครับพ่อ"
"อาจเป็นอย่างนั้นได้ครับท่าน"
"จักรวาลเกิดขึ้นได้อย่างไรครับพ่อ"
"จะมีสองส่วนครับท่านความอยากกับอุบัติเหตุ"
"พ่อจะขยายความให้หน่อยได้ไหมครับ"
"ยังไม่ได้ครับท่าน แต่ในอนาคต ท่านจะทราบได้เอง"
"แล้วจุดสิ้นสุดของทุกจักรวาลล่ะครับ"
"ถ้าท่านถามอย่างนี้ ต้องตอบว่าไม่มีครับท่าน"
ผมคุยกับพ่ออีกหลายเรื่องก่อนจากกัน
หลังจากนั้น ผมได้พบคนสำคัญอีกสองคนคือ
สมเด็จพระราชินีศรีจิตราและเจ้าชายจักรภพ
ทั้งสองพระองค์เรียกผมว่าเทพฮอรัส
ผมได้คุยหลายเรื่องกับท่านทั้งสอง
คุยถึงเรื่องที่ท่านทั้งสองได้ครองคู่กันในทุกจักรวาล
ทั้งสองท่านให้ความเห็นว่าการเจอกันในแต่ละจักรวาล
มันมีบริบทที่แตกต่างกันและมีเหตุผลสำคัญหลายประเด็น
ว่าทำไมยังต้องมาเจอกัน บางครั้งมันก็เป็นความอยาก
แต่บางครั้งมันก็คืออุบัติเหตุ
และบางครั้งมันก็เป็นเหตุผลของจักรวาลเอง
ซึ่งก็ถือว่ายังเข้าใจยากอยู่
คนกลุ่มสุดท้ายที่ผมได้เจอก่อนกลับบ้านคือ
เจ้าชายฟิสิกส์ เจ้าหญิงแห่งกาลเวลา เจ้าชายชีวะ
เจ้าหญิงเคมี เจ้าหญิงจริยศาสตร์ และเจ้าหญิงสันติภาพ
พอผมได้คุยกับทุกท่านในกลุ่มนี้
ความจริงบางอย่างก้ได้เผยออกมา ...