วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 210 ตกงานในจักรวาลนั้น ก็ไปทำงานในจักรวาลอื่นก่อนก็ได้


ชีวิตมนุษย์นี่ มันมีขึ้นมีลงจริง ๆ นะครับ
ผมหมายถึงว่าพรุ่งนี้สุข วันนี้ทุกข์
ชีวิตมันไม่แน่นอนจริง ๆ

ผมทราบมาว่าคุณวารุณีได้เข้าพบท่านอธิการบดี
ต้องเท้าความก่อนว่าคุณวารุณีกับคุณสันต์เป็นสามีภรรยากัน
ถึงจะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว
แต่เป้าหมายชีวิตนี่คนละเรื่อง

คุณสันต์เอาที่ดินมาสร้างมหาวิทยาลัย
แต่คุณวารุณีนั้น เธอต้องการที่ดินเอาไปทำห้างสรรพสินค้า
เธอจึงชอบให้มีข่าวเรื่องผีในมหาวิทยาลัย
นักศึกษาจะได้สนใจที่นี่น้อยลง ที่นี่จะได้ปิดตัวซะที
แต่พอผมแก้ปัญหาบางอย่างได้
ผมจึงกลายเป็นก้อนอึสำหรับเธอทันที
เวลาเธอพูดถึงผมกับท่านอธิการบดี
มันก็คือ "ไล่มันออก"
ตอนพูดถึงผมกับมาเฟียวันชัย
เธอก็จะกล่าวประมาณว่า "ฆ่ามันซะ"

วารุณีคิดว่าตัวเองคือศูนย์กลางจักรวาล
อาจเพราะเธอสวยและรวยมาก
เลี้ยงมาเฟียไว้หลายคน
มีศัตรูเป็นจำนวนมาก และตอนนี้เธอคิดว่า
ผมคือศัตรูอันดับหนึ่งของเธอ

เมื่อผมถูกไล่ออกแล้ว สิ่งที่ผมรู้มาก็คือ
มหาวิทยาลัยเอกชนหลายที่ก็ปฏิเสธผมด้วย
เพราะวารุณีมีอิทธิพลมากในเครือข่ายนี้
ผมเลยต้องกลายมาเป็นคนตกงานโดยปริยาย

เมื่อราชาป่านูเปียทรงรู้ พระองค์ทรงกล่าวว่า
(สื่อสารทางจิต) ตกงานในจักรวาลนั้น
ก็ไปทำงานในจักรวาลอื่นก่อนก็ได้
พระองค์บอกว่าอยากให้องค์ 4 อัศดา
มาช่วยงานในจักรวาลที่ 971 1888 และ 1940
พระองค์ทรงบอกว่าที่อาณาจักรหนานหล้าป่านูเปีย
มีองค์ 4 ดรุณี ส่วนที่ 452 มีองค์ 4 อัศดา
ทรงบอกว่าองค์ 4 อัศดาค่อนข้างลงตัวเพราะ
มีองค์ประกอบครบคือ
1. ผมเอง (ดร.ศักดิ์สิทธิ์) สถานะเป็นมนุษย์
ถูกขนานนามโดยชาวป่านูเปียว่า "องค์อินทรไอยคุปต์"
2. โจ้ สถานะเป็นเปรตที่มีรูปร่างหน้าตาดีขึ้น
เพราะผู้มีอภิญญาจากป่านูเปียส่งผลบุญให้ตลอด
ถูกขนานนามโดยชาวป่านูเปียว่า "องค์อินทรวายุภักษ์"
3. เบิ้ม สถานะเป็นวิญญาณ
ถูกขนานนามโดยชาวป่านูเปียว่า "องค์อินทรภูตวัฒนา"
4. แมน สถานะเป็นเทพ (ยังเป็นเทพองค์เดียวของจักรวาลที่ 452
ที่เผยแสดงกับผม) ถูกขนานนามโดยชาวป่านูเปียว่า
"องค์อธิวัฒน์อัศดา"
ชาวป่านูเปียเรียกพวกผม 4 คนว่าองค์ 4 อัศดา
ภารกิจแรกที่ส่งพวกผมไปทำคือจักรวาลที่ 1888

จักรวาลที่ 1888 คือสุดยอดของการเผยแสดง
เวลาเรา 4 คนเดินอยู่กลางแจ้ง
ก็สามารถพบเทพ มาร ภูตผีปีศาจและมนุษย์
แต่มนุษย์ดูท่าจะเป็นชนกลุ่มน้อยที่ไม่มีโอกาสสร้างอารยธรรม
เพราะมัวแต่กลัวเทพ มารและพวกภูตผีปีศาจ
แต่ทั้งเทพ มาร ภูตผีปีศาจและมนุษย์
ต่างอ้างสิทธิในแผ่นดินนี้

พอพวกผมเจอเทพจักรภพกับเจ้าหญิงศรีจิตราแห่งอนาวัน
พวกผมจึงรู้ว่าทั้งสองพระองค์ทรงมีพลังปกป้องบางอย่าง
ทำให้พวกเทพ มารและภูตผีปีศาจทำอะไรกับทั้งสองพระองค์ไม่ได้
วันนี้ทุกฝ่ายมาเจอกันที่โถงมโหระทึก ถ้ำอนาวัน
ทุกฝ่ายยกให้ผมเป็นประธานในที่ประชุมครั้งนี้

สิ่งแรกที่ผมชวนคุยคือปัญหาอยู่ตรงไหน
พบว่าปัญหาใหญ่คือพวกมารชอบมายุ่งกับมนุษย์
(ดูดพลัง) ทำให้เทพต้องมาทำสงครามกับมารเพื่อปกป้องมนุษย์
ส่วนภูตผีปีศาจก็หลอกมนุษย์ไปวัน ๆ

จริง ๆ แล้ว คำว่าเทพกับมาร พวกมนุษย์เป็นคนเรียก
พวกเทพเรียกตัวเองว่ารชตะ ส่วนพวกมารเรียกตัวเองว่า
อัครวะ แต่ช่วงหลัง ทั้งสองกลุ่มก็ยอมรับในการถูก
เรียกว่าเทพกับมารไปแล้ว
ผมเสนอว่าการดำรงอยู่ของมารในจักรวาลที่ 1888 นี้
ควรดำรงอยู่ได้ด้วยตัวเอง ตอนแรกต้องหาที่อยู่ให้กับ
เหล่ามารก่อน ซึ่งราชาป่านูเปียจะสร้างวังมารให้
แล้วเดี๋ยวจะส่งผู้มีอภิญญาของป่านูเปียมาเป็นวิทยากรคอยบอกว่า
การดำรงอยู่ของเหล่ามารควรดำรงอยู่อย่างไร
ส่วนเหล่าเทพก็จะแก้ปัญหาคล้าย ๆ กัน
ที่อยู่ของเทพจะให้อยู่วังเนรมิตที่เรียกว่าเทพธิติ

ส่วนเหล่าวิญญาณ ก็จะให้อยู่กับเองที่วังวิญญาณ
การจัดการวังวิญญาณก็จะให้คล้ายจักรวาลที่ 452 
หลังจากนั้นมนุษย์ก็จะสามารถอยู่ด้วยความสบายใจ
เหล่าเทพ มาร และภูตผีปีศาจไม่ควรเผยแสดง
มนุษย์จะได้สร้างอารยธรรมของตัวเองได้

หลังจากแก้ปัญหาทุกอย่างเสร็จสิ้น
ผมก็เข้าพบราชาแห่งอนาวัน
พระองค์ทรงเรียกผมว่า "องค์โชตะวริโรเซีย"
ภาษาของอนาวันแปลว่า "องค์พระผู้ไกล่เกลี่ย"

พอกลับมาที่ 452 ผมออกไปเดินเล่นที่ถนนใกล้ ๆ บ้าน
สมุนของมาเฟียวันชัยกระหน่ำยิงผมไม่ยั้ง
และยังมีอีกทีมประมาณ 10 คนไปกระหน่ำยิงที่บ้านผมด้วย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่