เพื่อนผมทำธุรกิจความงามครับ เค้าสวนผมไปลงทุนด้วย ตอนแรกผมไม่ได้จะไปเพราะผมตั้งใจจะเปิดร้านอยู่แถวบ้านครับ มีธุรกิจส่วนตัวอยู่วางแผนไว้หมดแล้วรอแค่โควิดซา แต่เพื่อคนที่ผมคบด้วยตอนนั้นเค้าอยากให้ผมมีงานที่ดี มีเงินมีธุระ เค้าคิดว่ามันจะดีสำหรับผม ผมตัดสินใจไปทำงาน ไปเป็นพนักงานแต่เค้าบอกว่าเป็นพนักงานได้แค่เงินเดือนค่าคอม ให้ผมเป็นหุ้นส่วน มันจะดีว่ามันดผุมีหน้ามีตามีเงินมากกว่า ตอนนั้นผมเองหมดตัวเพิ่งล้มมาจากธุกิจนึงช่วงโควิค เค้าให้ผมลง 25% เป็นเงิน 6 แสน ตอนนั้นผมเหลือเงินก้อนสุดท้าย ที่ฝากไว้กับพี่สาว 4 แสน เงินไม่พอเลยต้องยืมพ่อ กับน้อง เพื่อไปลงทุน ตอนนั้นก็ทะเลาะกับที่บ้าน ผมบอกไปว่าของเป็นครั้งสุดท้าย แล้วผมจะไม่ทำไม่ลงทุนอะไรอีกแล้วถ้าเกิดล้ม จะช่วยงานที่บ้าน ทางบ้านก็ตกลง พอไปทำงาน ไม่เป็นแบบที่คิดเลย เหนื่อยครับ ทั้งเป็นหุ้นส่วน ทั้งเป็นพนักงาน ต้องติดต่อประสานงาน ทำสัญญาต่างๆ ซื้อของเข้าคลินิก สั่งของ สั่งยา สั่งตัวเครื่อง ซึ่งผมต้องทำเองหมด จะเอาอะไรสั่งอะไร เท่าไหร่แล้วก็ส่งให้หุ้นส่วนดู ถ้าผ่านก็สั่ง คอยประสานงานกับหมด สิ่งที่ผมไม่อยากทำคือประชุมทีมเซล ซึ่งผมไม่มีประสบการณ์ ต้องคุยยังไงพูดยังไง ส่วนใหญ่เค้าจะบอกให้ผมพูดตามที่เค้าบอก บางทีพูดไม่ตงเค้าก็จะด่า คือมันไม่ใช่ตัวผมเลย ผมอาจจะไม่มีความเป็นผู้นำก็ได้ ให้ผมขายคอรส ซึงก่อนจะทำคลินิกจะมีการออกบูธพรีเซล คือขายก่อน ลูกค้าซื้อก่อนแล้วไปใช้บริการทีหลัง ผมก็ขายแรกๆ ผมก็ดูคนอื่นเค้า เริ่มจากการเรียกลูกค้า แนะนำ พอเริ่มเป็นงานขายได้ ก็น่าจะเดือนที่ 2 ผมเคิ่มทำยอดให้ได้เยอะเพราะจับลูกค้ารายใหญ่ได้ ขายได้สูงสุด อยู่หลายเดือน ทำงานผมตั้งใจทำงานเต็มที่ น้องเซลก็จะรู้กัน ทำแทบไม่พัก ของจากขายแล้ว ยังทำหน้าที่ จ่ายเงินเดือน จ่ายค่าคอม ให้พนักงาน ดุเด็ก กระตุ้นเด็ก ด่าเด็ก ก็ให้ผมทำบอกผมว่าต้องมีคนดุ อีกคนใจดี จะบีบคนไหน จะไล่ออกคนไหนก็บอกให้ผมพูดแบบนี้แบบนั้น เหนื่อยครับทำงานแบบนี้ กดดัน เครียดมากครับ แต่ที่งานมาทั้งผมแทยไม่ได้เงินเดือนเลย เพราะไม่ใช่พนักงาน กำไรที่ได้ก็ไว้ทำคลินิกไว้าั่งของจ่ายค่ายา จ่ายเงินเดือน ส่วนทุนที่ผมลงไปก็ค้างอยู่ เพราะออกบูธแบบนี้แทบจะไม่ใข้ทุนเลย ใช้เงินไม่เยอะอุปกรณ์กัยค่าสนานที่ จะเยอะก็ตอนจ่ายเงินเดือนกับค่าคอม ก็ใช้เงินที่ได้จากการขาย ผมทำงานมาเกือบ 3 ปี เงินไม่เคยถึงเลย ได้มาก็ต้องโอนให้หุ้นส่วน บอกเก็บไว้กองกลาง พอจะใช้เงินเงินไม่มี เอาไปใช้ไม่บอก เอาไปใช้หลายอย่าง บอกเอาไปใช้หนี้บ้าง ซื้อที่บ้าง ซื้อจอง เล่นพนัน เล่นหวย ลงทุน ก็มาบอกว่าไปโดนหลอก โดนโก เฮ้ย... มันคือเงินบริษัท ไม่ต่างจากการยังยอกทรัพย์เลย ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงทนมาได้ถึงขนาดนี้ บางทีเงินไม่พอ ผมก็ต้องกู้เงินไปจ่ายให้เด็กๆ ผมเป็นหนี้ กู้สูงสุด อยู่ 6 แสน มีเงินก็ไปโป๊ะ พอเงินไม่พอก็กูใหม่ ผมกู้ ทั้งธนาคาร ทั้งบัตรเครดิต คือมีเงินเข้าเยอะเลยได้วงเงินสูง หุ้นส่วนเค้าทำอะไรไม่ได้เค้าบอกเค้าติดบูโล ตอนนี้ก็ยังเป็นหนี้อยู่ ยังใข้ไม่หมดค่าดอกเดือนก็เป็นหมื่น พูดเรื่องเงินทีก็ทะเลาะกัน เงินเอาไป เอาของบริษัทไป มายืมส่วนตัวไปไม่เคยคืนเลย เคยแบ่งเงินกันครั้งนึงครั้งแรก และน่าจะครั้งเดียว เค้าได้ไปน่าจะเกือบล้าน เพราะผมได้ มาน่าจะ 3-4 แสน แต่มาอีกวันเค้าก็มายืมผมไป ตอนนั้นจำไม่ได้เค้าเอาไป ทำอะไร น่าจะเอาไปทำบ้าน เค้ากำลังทำบ้านใหม่ต้องใช้เงิน สุดท้ายไม่ได้คืน จนผมทนไม่ไหว กลับบ้านทำต่อไม่ไหวตอนนั้นป้าผมป่วย แล้วท่านก็เสีย ผมเลยกับมาอยู่บ้านไม่ทำแล้ว ผมอยู่บ้านก็ยั้งตั้งสั่งของ สั่งยาให้อีก ทั้งที่ผมส่งงานให้ผมแล้วว่าต้องทำยังไงสั่งสั่งไง กี่วันได้ บางวันก็มาบอกให้ผมแอกชั่นในกลุ่ม เด็กไม่ทำงาน มันก็ไม่ใช่หน้าที่ผมแล้ว จนสุดท้ายไปต่อไม่ไหว เค้าเซ้งคลินิก ผมมารู้อีกทีคือให้ผมทำเอกสารเปลี่ยนชื่อให้ เพราะที่ผ่านมาผมเดินเอกสารเองหมด ไม่เงินอะไรยังไงผมไม่ได้ถาม แต่โทรมาพูดกับผมเงินไม่เหลือ คืนเงินให้ลูกค้า ผมก็ไม่สนแล้วเพราะรู้แล้วยังไงผมก็ไม่ได้เงิน บางที มายิม 1000 2000 500 ยังมีผมไท่มีก็ยังจะมายืม ผมก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกัวน่า เพราะโทรมาทีไรยืมเงินทุกที เครียดครับ เบื่อด้วย แต่แล้วก็ดันไปเปิดคลินิกใหม่ แล้วก็จะมาให้ผมไปช่วย คือไม่ถามสักคำอยากทำไหม ไปได้ไหม เพราะผมต้องอยู่ที่บ้านตามที่รับปากครอบครัวไว้ ไปช่วย เป็นเดือน ผมไม่ได้เงิน แถมมายืมมาขอเงินผมอีก ผมพยายามไม่ติดต่อแล้ว ปต่ก็ต้องมีเรื่องให้ได้ติดต่อ ผมไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว...
เพื่อนแบบนี้ เป็นเพื่อนแบบไหน จะแก้ปัญหากับคนนี้ยังไง...