ม็อบปาเลสไตน์ ปะทะกองกำลังปธน.อับบาส ในเขตเวสต์แบงก์
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208362
ส่วนความเคลื่อนไหวของบรรดากลุ่มผู้สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ที่ออกมาประท้วงครั้งใหญ่ในหลายประเทศทั่วตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะที่เขตเวสต์แบงก์ ได้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ และกองกำลังความมั่นคงของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสด้วย
เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นใน "
เมืองรามัลเลาะห์ ของเขตเวสต์แบงก์" เมื่อช่วงกลางดึกของเมื่อวานนี้ (17 ต.ค) จากภาพจะเห็นว่า กลุ่มผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ ได้ขวางปาก้อนหิน และตะโกนต่อต้านประธานาธิบดี "
มาห์มูด อับบาส" ก่อนจะพากันวิ่งหลบหนี หลังกองกำลังความมั่นคงปาเลสไตน์เปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาและขว้างระเบิดมือ (stun grenade) เพื่อสลายการชุมนุม
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ในเมืองต่างๆของเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงเมืองนาบลุส ทูบาส และเจนิน ซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือที่เป็นจุดปฏิบัติการทางทหารที่สำคัญของอิสราเอลในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็มีเหตุปะทะในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นด้วย แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
การประท้วงของชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงค์เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์โจมตีโรงพยาบาลในกาซาเมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนออกมาแสดงความไม่พอใจต่อบทบาทและท่าทีของประธานาธิบดีอับบาสที่ไม่แข็งกร้าวมากพอต่อเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในฉนวนกาซา
ประธานาธิบดี
อับบาสเป็นผู้นำพรรคฟาตาห์ พรรคการเมืองปาเลสไตน์ที่ปกครองเขต West Bank จุดยืนของกลุ่มฟาตาห์ในด้านต่างๆ นั้นแตกต่างจากกลุ่มฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซา
โดยฟาตาห์ยอมรับการมีอยู่ของอิสราเอลและต้องการสร้างรัฐปาเลสไตน์บนเส้นแบ่งเขตแดนปี 1967 ส่วนกลุ่มฮามาสไม่ยอมรับการมีอยู่ของอิสราเอล
ในปี 2006 ปาเลสไตน์จัดการเลือกตั้ง กลุ่มฮามาสได้รับชัยชนะเหนือกลุ่มฟาตาห์ แต่กลุ่มฟาตาห์ไม่ยอมรับและไม่สามารถแบ่งอำนาจบริหารสภาปาเลสไตน์ลงตัวได้ จนนำมาสู่การจับอาวุธสู้กันระหว่างทั้งคู่ จากนั้นในเดือนมิถุนายน ปี 2007 กลุ่มฮามาสเข้ายึดฉนวนกาซา ส่วนกลุ่มฟาตาห์ปกครองเขตเวสต์แบงก์ภายใต้รัฐปาเลสไตน์ หรือ Palestinian Authority; PA ซึ่งได้รับการยอมรับจากองค์การสหประชาชาติ
นอกเหนือจากการปะทะกันใน West Bank หลายประเทศในโลกอาหรับก็เกิดการประท้วงและปะทะกันเช่นกัน
ส่วนที่ประเทศเลบานอน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ กลุ่มก่อการร้ายในเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
มีรายงานว่า พบคนถือธงปาเลสไตน์จำนวนมาก รวมตัวกันประท้วงใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ ในเมืองเอาคาร์ (Awkar) ชานกรุงเบรุต โดยมีการขว้างก้อนหินและขว้างระเบิดขวดจนเกิดไฟไหม้ใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ รวมถึงตะโกนสาบแช่งสหรัฐฯ และอิสราเอล
ขณะที่กองกำลังความมั่นคงของเลบานอนได้สลายการชุมนุมโดยการยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่เริ่มเขย่ารั้วกั้น
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พบกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวที่สถานทูตฝรั่งเศสด้วย ที่กลุ่มผู้ประท้วงในเลบานอนรวมตัวชุมนุมที่สถานทูตสองชาตินี้ เนื่องจากเป็นชาติที่สนับสนุนอิสราเอล และที่เลบานอนไม่มีสถานทูตอิสราเอล
การประท้วงครั้งใหญ่ในเลบานอนเกิดขึ้น หลังจากที่กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ประณามการโจมตีโรงพยาบาลกาซาว่าเป็นการสังหารหมู่ และเป็นอาชญากรรมที่โหดร้าย พร้อมเรียกร้องให้ชาวมุสลิมและชาวอาหรับออกไปชุมนุม รับวันแห่งความโกรธแค้นต่อศัตรูวันนี้ ( 18 ต.ค.)
ขณะที่นายกรัฐมนตรีรักษาการ นาจิบ มิคาติ ของเลบานอน ได้ประกาศให้วันนี้เป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ เพื่อไว้อาลัยต่อเหยื่อที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล ส่วนกระทรวงศึกษาธิการของเลบานอนได้ประกาศปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน และมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนเพื่อตอบสนองคำสั่งวันหยุดดังกล่าว
ส่วนที่กรุงเตหะรานของอิหร่าน พบกลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาธงชาติอิสราเอล และตะโกนสาปแช่งอิสราเอลด้านนอกสถานทูตอังกฤษและฝรั่งเศสทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่า ฝูงชนจำนวนมากเดินขบวนประท้วงจากจัตุรัสปาเลสไตน์ไปยังสถานทูตฝรั่งเศสและอังกฤษ ก่อนที่การชุมนุมจะสิ้นสุดลงอย่างสงบในช่วงเวลา 03.00 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ( 18 ต.ค.)
ผู้ประท้วงที่สนับสนุนปาเลสไตน์หวังว่าอิหร่านจะให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ และยืนหยัดช่วยปาเลสไตน์ในการต่อสู้กับอิสราเอลด้วย
นอกเหนือจากสามจุดนี้แล้ว คำประกาศของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ยังจุดชนวนให้ชาวอาหรับและกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทั่วโลก ลุกฮือประท้วงที่สถานทูตอิสราเอลและสถานทูตของชาติที่สนับสนุนอิสราเอลในประเทศของตัวเองด้วย
เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ที่ประเทศจอร์แดนพบกลุ่มผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจใกล้สถานทูตอิสราเอลในกรุงอัมมาน และพบผู้ประท้วงบางคนพยายามบุกโจมตีสถานทูต ขณะตำรวจได้นำรถมาจอดขวางเส้นทางของกลุ่มผู้ประท้วงที่มุ่งหน้าไปยังสถานทูตอิสราเอล และยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม
ส่วนที่ประเทศตูนิเซียพบผู้สนับสนุนปาเลสไตน์กลุ่มใหญ่ออกมาเดินขบวนด้านนอกสถานทูตฝรั่งเศส พร้อมโบกธงปาเลสไตน์
ขณะที่ในการประท้วงดังกล่าว มีนักการเมืองท้องถิ่นออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลตูนิเซียขับไล่เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ และเอกอัครราชทูตของชาติอื่นๆ ที่สนับสนุนการรุกรานของอิสราเอลในดินแดนของปาเลสไตน์ด้วย
นอกจากนี้ยังมีรายงานพบกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน รวมถึงกรุงแบกแดดของอิรักก็ได้ออกมาประท้วงเช่นเดียวกัน
โดยการประท้วงในอิรักมีขึ้นหลังจากที่ มุกตาดา อัล-ซาดาร์ (Moqtada al-Sadr) นักบวชอิสลามนิกายชีอะห์ ผู้นำของขบวนการทางการเมืองและบุคคลสำคัญในการบริหารประเทศอิรัก ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาวอิรักออกมาสนับสนุนกาซาและต่อต้านอิสราเอล
ส่วนที่ตุรกี เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ( 18 ต.ค.) ชาวตุรกีหลายพันคนออกมารวมตัวประท้วงหน้าสถานกงสุลอิสราเอลในนครอิสตันบูล ปะทะกับกองกำลังความมั่นคงของตุรกี หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงตุรกีได้พ่นสเปรย์พริกไทยและฉีดน้ำ เพื่อสลายฝูงชนที่พยายามบุกเข้าไปในบริเวณสถานกงสุลดังกล่าว
สหรัฐคว่ำบาตรการเงินฮามาส “อิสราเอล-อิหร่าน” วิวาทะข้ามประเทศ
https://www.dailynews.co.th/news/2820244/
รัฐบาลสหรัฐคว่ำบาตรการเงินกลุ่มฮามาส ด้านผู้นำอิสราเอลและรัฐมนตรีอิหร่าน วิวาทะข้ามประเทศ.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่ากระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ ขึ้นบัญชีดำสมาชิกระดับสูง 10 คนของกลุ่มฮามาส และเครือข่ายการเงินของกลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซา กาตาร์ ตุรกี แอลจีเรีย และซูดาน
ขณะที่นาย
แอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเสริมว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่ลังเลที่จะใช้กลไกและช่องทางทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อขัดขวางและตัดช่องทางกิจกรรมก่อการร้ายของกลุ่มฮามาส
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐยังคว่ำบาตรบุคคล และหน่วยงานรวมกันอีก 20 รายชื่อ ซึ่งมีฐานอยู่ในจีน ฮ่องกง เวเนซุเอลา และอิหร่าน จากการให้ความสนับสนุนโครงการพัฒนาขีปนาวุธของรัฐบาลเตหะราน และอากาศยานไร้คนขับ
อนึ่ง รัฐบาลวอชิงตันเชื่อมั่นว่า อิหร่านให้ความสนับสนุนกลุ่มฮามาสทั้งในทางการเงิน และทางยุทธวิธี แต่ยอมรับว่า “ยังไม่พบหลักฐานเด่นชัด”
อีกด้านหนึ่ง นาย
ฮอสเซ็น เอเมียร์-อับโดลลาเฮียน รมว.กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าว่า รัฐบาลเตหะราน “อาจแทรกแซงโดยตรง” หากกองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา เนื่องจากการบรรลุข้อตกลงทางการเมืองและการทูตเกี่ยวกับฉนวนกาซา “เป็นไปได้ยากมากขึ้น”
ต่อมา นายกรัฐมนตรี
เบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า อิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ “อย่าลองของ” เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมานั้น “จะรุนแรงกว่าที่คาดคิดมาก”.
หมออ๋อง เจอแรงต้าน งานรัฐสภาโปร่งใส อ้างสารพัด ขวางเปิดไลฟ์สด ทุกประชุมกมธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4239051
หมออ๋อง เผย เจอแรงต้าน งานรัฐสภาโปร่งใส่ ยก กม.ระเบียบ ขวางเปิดไลฟ์สด ทุกประชุม กมธ. ยันไม่หวั่น ดำเนินการต่อแน่
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเผยถึงความคืบหน้างานของคณะกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภาโปร่งใสและสมรรถนะสูง โดยมีเนื้อหาดังนี้
“
ล่าสุดที่ประชุมมีมติให้เสนอต่อประธานรัฐสภาทั้งหมด 4 เรื่อง ดังนี้
1. การปรับใช้ตัวเลขอารบิกแทนเลขไทยในหนังสือของหน่วยงานราชการ โดยเริ่มจากวงงานรัฐสภาเพื่อเป็นการยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลและการบริการของภาครัฐ
2. การปรับเพิ่มอุณหภูมิแอร์ขึ้น 2 องศา (จากเดิม 25 เป็น 27 องศา) โดยเริ่มจากทุกวันศุกร์ และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รวมถึงผู้ปฏิบัติงานในรัฐสภาสามารถถอดสูทและแต่งตัวตามฐานานุรูปในการทำงานวันศุกร์ได้ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย Green Parliament
3. การยกเลิกเอกสารเชิญประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทางไปรษณีย์ และเปลี่ยนเป็นการส่งไฟล์ PDF แทน
4. จัดทำจดหมายเชิญถ่ายทอดสดกรรมาธิการไปยังประธานกรรมาธิการแต่ละคณะ เผื่อถ่ายทอดให้ประชาชนได้ติดตามการประชุมตามความสนใจ
หลังจากได้มติทั้ง 4 เรื่องแล้ว ทางที่ประชุมได้เชิญหน่วยงาน Traffy Fondue มาให้ข้อมูล โดยคณะกรรมาธิการสนใจที่จะนำแพลตฟอร์มมาใช้ในอาคารรัฐสภา เพื่อแจ้งปัญหาที่พบภายในอาคารรัฐสภา เช่น พบจุดที่หลอดไฟขาด มีน้ำรั่วซึม เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้พูดถึงการนำแพลตฟอร์ม ‘อยู่ไหน UNAI’ มาทดลองใช้เพื่อบอกทางไปห้องต่างๆ ภายในอาคารแห่งนี้
ล่าสุด นาย
ปดิพัทธ์ ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ในส่วนของการถ่ายถอดสดกรรมาธิการว่า “
ไลฟ์สดการประชุมกรรมาธิการ ไม่ราบรื่นอย่างที่คิดครับ แรงต้านมาทุกระดับ อ้างกฎหมาย ระเบียบ วัฒนธรรมต่างๆ แต่ไม่มีใครต้านความต้องการของประชาชนที่ต้องการ สภาโปร่งใส ได้หรอกครับ ผมดำเนินการต่อแน่นอน”
https://www.facebook.com/OngPadipat/posts/pfbid0MwmMPQMGy7WDeKzi1hn4VdHxp5Ap4BBynuKsDm5cvupLqeM2wzR7MwsGnNojK2Vcl
https://twitter.com/ongpadipat/status/1714566581177798787
JJNY : ม็อบปาเลสไตน์ปะทะกองกำลัง│สหรัฐคว่ำบาตรการเงินฮามาส│หมออ๋อง เจอแรงต้าน งานรัฐสภาโปร่งใส│ประเมินค่าเงินบาทวันนี้
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208362
ส่วนความเคลื่อนไหวของบรรดากลุ่มผู้สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ที่ออกมาประท้วงครั้งใหญ่ในหลายประเทศทั่วตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะที่เขตเวสต์แบงก์ ได้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ และกองกำลังความมั่นคงของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสด้วย
เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นใน "เมืองรามัลเลาะห์ ของเขตเวสต์แบงก์" เมื่อช่วงกลางดึกของเมื่อวานนี้ (17 ต.ค) จากภาพจะเห็นว่า กลุ่มผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ ได้ขวางปาก้อนหิน และตะโกนต่อต้านประธานาธิบดี "มาห์มูด อับบาส" ก่อนจะพากันวิ่งหลบหนี หลังกองกำลังความมั่นคงปาเลสไตน์เปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาและขว้างระเบิดมือ (stun grenade) เพื่อสลายการชุมนุม
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ในเมืองต่างๆของเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงเมืองนาบลุส ทูบาส และเจนิน ซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือที่เป็นจุดปฏิบัติการทางทหารที่สำคัญของอิสราเอลในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็มีเหตุปะทะในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นด้วย แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
การประท้วงของชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงค์เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์โจมตีโรงพยาบาลในกาซาเมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนออกมาแสดงความไม่พอใจต่อบทบาทและท่าทีของประธานาธิบดีอับบาสที่ไม่แข็งกร้าวมากพอต่อเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในฉนวนกาซา
ประธานาธิบดีอับบาสเป็นผู้นำพรรคฟาตาห์ พรรคการเมืองปาเลสไตน์ที่ปกครองเขต West Bank จุดยืนของกลุ่มฟาตาห์ในด้านต่างๆ นั้นแตกต่างจากกลุ่มฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซา
โดยฟาตาห์ยอมรับการมีอยู่ของอิสราเอลและต้องการสร้างรัฐปาเลสไตน์บนเส้นแบ่งเขตแดนปี 1967 ส่วนกลุ่มฮามาสไม่ยอมรับการมีอยู่ของอิสราเอล
ในปี 2006 ปาเลสไตน์จัดการเลือกตั้ง กลุ่มฮามาสได้รับชัยชนะเหนือกลุ่มฟาตาห์ แต่กลุ่มฟาตาห์ไม่ยอมรับและไม่สามารถแบ่งอำนาจบริหารสภาปาเลสไตน์ลงตัวได้ จนนำมาสู่การจับอาวุธสู้กันระหว่างทั้งคู่ จากนั้นในเดือนมิถุนายน ปี 2007 กลุ่มฮามาสเข้ายึดฉนวนกาซา ส่วนกลุ่มฟาตาห์ปกครองเขตเวสต์แบงก์ภายใต้รัฐปาเลสไตน์ หรือ Palestinian Authority; PA ซึ่งได้รับการยอมรับจากองค์การสหประชาชาติ
นอกเหนือจากการปะทะกันใน West Bank หลายประเทศในโลกอาหรับก็เกิดการประท้วงและปะทะกันเช่นกัน
ส่วนที่ประเทศเลบานอน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ กลุ่มก่อการร้ายในเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
มีรายงานว่า พบคนถือธงปาเลสไตน์จำนวนมาก รวมตัวกันประท้วงใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ ในเมืองเอาคาร์ (Awkar) ชานกรุงเบรุต โดยมีการขว้างก้อนหินและขว้างระเบิดขวดจนเกิดไฟไหม้ใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ รวมถึงตะโกนสาบแช่งสหรัฐฯ และอิสราเอล
ขณะที่กองกำลังความมั่นคงของเลบานอนได้สลายการชุมนุมโดยการยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่เริ่มเขย่ารั้วกั้น
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พบกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนรวมตัวที่สถานทูตฝรั่งเศสด้วย ที่กลุ่มผู้ประท้วงในเลบานอนรวมตัวชุมนุมที่สถานทูตสองชาตินี้ เนื่องจากเป็นชาติที่สนับสนุนอิสราเอล และที่เลบานอนไม่มีสถานทูตอิสราเอล
การประท้วงครั้งใหญ่ในเลบานอนเกิดขึ้น หลังจากที่กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ประณามการโจมตีโรงพยาบาลกาซาว่าเป็นการสังหารหมู่ และเป็นอาชญากรรมที่โหดร้าย พร้อมเรียกร้องให้ชาวมุสลิมและชาวอาหรับออกไปชุมนุม รับวันแห่งความโกรธแค้นต่อศัตรูวันนี้ ( 18 ต.ค.)
ขณะที่นายกรัฐมนตรีรักษาการ นาจิบ มิคาติ ของเลบานอน ได้ประกาศให้วันนี้เป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ เพื่อไว้อาลัยต่อเหยื่อที่เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล ส่วนกระทรวงศึกษาธิการของเลบานอนได้ประกาศปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน และมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนเพื่อตอบสนองคำสั่งวันหยุดดังกล่าว
ส่วนที่กรุงเตหะรานของอิหร่าน พบกลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาธงชาติอิสราเอล และตะโกนสาปแช่งอิสราเอลด้านนอกสถานทูตอังกฤษและฝรั่งเศสทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่า ฝูงชนจำนวนมากเดินขบวนประท้วงจากจัตุรัสปาเลสไตน์ไปยังสถานทูตฝรั่งเศสและอังกฤษ ก่อนที่การชุมนุมจะสิ้นสุดลงอย่างสงบในช่วงเวลา 03.00 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ( 18 ต.ค.)
ผู้ประท้วงที่สนับสนุนปาเลสไตน์หวังว่าอิหร่านจะให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ และยืนหยัดช่วยปาเลสไตน์ในการต่อสู้กับอิสราเอลด้วย
นอกเหนือจากสามจุดนี้แล้ว คำประกาศของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ยังจุดชนวนให้ชาวอาหรับและกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ทั่วโลก ลุกฮือประท้วงที่สถานทูตอิสราเอลและสถานทูตของชาติที่สนับสนุนอิสราเอลในประเทศของตัวเองด้วย
เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ที่ประเทศจอร์แดนพบกลุ่มผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจใกล้สถานทูตอิสราเอลในกรุงอัมมาน และพบผู้ประท้วงบางคนพยายามบุกโจมตีสถานทูต ขณะตำรวจได้นำรถมาจอดขวางเส้นทางของกลุ่มผู้ประท้วงที่มุ่งหน้าไปยังสถานทูตอิสราเอล และยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม
ส่วนที่ประเทศตูนิเซียพบผู้สนับสนุนปาเลสไตน์กลุ่มใหญ่ออกมาเดินขบวนด้านนอกสถานทูตฝรั่งเศส พร้อมโบกธงปาเลสไตน์
ขณะที่ในการประท้วงดังกล่าว มีนักการเมืองท้องถิ่นออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลตูนิเซียขับไล่เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ และเอกอัครราชทูตของชาติอื่นๆ ที่สนับสนุนการรุกรานของอิสราเอลในดินแดนของปาเลสไตน์ด้วย
นอกจากนี้ยังมีรายงานพบกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน รวมถึงกรุงแบกแดดของอิรักก็ได้ออกมาประท้วงเช่นเดียวกัน
โดยการประท้วงในอิรักมีขึ้นหลังจากที่ มุกตาดา อัล-ซาดาร์ (Moqtada al-Sadr) นักบวชอิสลามนิกายชีอะห์ ผู้นำของขบวนการทางการเมืองและบุคคลสำคัญในการบริหารประเทศอิรัก ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาวอิรักออกมาสนับสนุนกาซาและต่อต้านอิสราเอล
ส่วนที่ตุรกี เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ( 18 ต.ค.) ชาวตุรกีหลายพันคนออกมารวมตัวประท้วงหน้าสถานกงสุลอิสราเอลในนครอิสตันบูล ปะทะกับกองกำลังความมั่นคงของตุรกี หลังจากที่กองกำลังความมั่นคงตุรกีได้พ่นสเปรย์พริกไทยและฉีดน้ำ เพื่อสลายฝูงชนที่พยายามบุกเข้าไปในบริเวณสถานกงสุลดังกล่าว
สหรัฐคว่ำบาตรการเงินฮามาส “อิสราเอล-อิหร่าน” วิวาทะข้ามประเทศ
https://www.dailynews.co.th/news/2820244/
รัฐบาลสหรัฐคว่ำบาตรการเงินกลุ่มฮามาส ด้านผู้นำอิสราเอลและรัฐมนตรีอิหร่าน วิวาทะข้ามประเทศ.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่ากระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ ขึ้นบัญชีดำสมาชิกระดับสูง 10 คนของกลุ่มฮามาส และเครือข่ายการเงินของกลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซา กาตาร์ ตุรกี แอลจีเรีย และซูดาน
ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเสริมว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่ลังเลที่จะใช้กลไกและช่องทางทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อขัดขวางและตัดช่องทางกิจกรรมก่อการร้ายของกลุ่มฮามาส
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐยังคว่ำบาตรบุคคล และหน่วยงานรวมกันอีก 20 รายชื่อ ซึ่งมีฐานอยู่ในจีน ฮ่องกง เวเนซุเอลา และอิหร่าน จากการให้ความสนับสนุนโครงการพัฒนาขีปนาวุธของรัฐบาลเตหะราน และอากาศยานไร้คนขับ
อนึ่ง รัฐบาลวอชิงตันเชื่อมั่นว่า อิหร่านให้ความสนับสนุนกลุ่มฮามาสทั้งในทางการเงิน และทางยุทธวิธี แต่ยอมรับว่า “ยังไม่พบหลักฐานเด่นชัด”
อีกด้านหนึ่ง นายฮอสเซ็น เอเมียร์-อับโดลลาเฮียน รมว.กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าว่า รัฐบาลเตหะราน “อาจแทรกแซงโดยตรง” หากกองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา เนื่องจากการบรรลุข้อตกลงทางการเมืองและการทูตเกี่ยวกับฉนวนกาซา “เป็นไปได้ยากมากขึ้น”
ต่อมา นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า อิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ “อย่าลองของ” เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมานั้น “จะรุนแรงกว่าที่คาดคิดมาก”.
หมออ๋อง เจอแรงต้าน งานรัฐสภาโปร่งใส อ้างสารพัด ขวางเปิดไลฟ์สด ทุกประชุมกมธ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4239051
หมออ๋อง เผย เจอแรงต้าน งานรัฐสภาโปร่งใส่ ยก กม.ระเบียบ ขวางเปิดไลฟ์สด ทุกประชุม กมธ. ยันไม่หวั่น ดำเนินการต่อแน่
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเผยถึงความคืบหน้างานของคณะกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภาโปร่งใสและสมรรถนะสูง โดยมีเนื้อหาดังนี้
“ล่าสุดที่ประชุมมีมติให้เสนอต่อประธานรัฐสภาทั้งหมด 4 เรื่อง ดังนี้
1. การปรับใช้ตัวเลขอารบิกแทนเลขไทยในหนังสือของหน่วยงานราชการ โดยเริ่มจากวงงานรัฐสภาเพื่อเป็นการยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลและการบริการของภาครัฐ
2. การปรับเพิ่มอุณหภูมิแอร์ขึ้น 2 องศา (จากเดิม 25 เป็น 27 องศา) โดยเริ่มจากทุกวันศุกร์ และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รวมถึงผู้ปฏิบัติงานในรัฐสภาสามารถถอดสูทและแต่งตัวตามฐานานุรูปในการทำงานวันศุกร์ได้ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย Green Parliament
3. การยกเลิกเอกสารเชิญประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทางไปรษณีย์ และเปลี่ยนเป็นการส่งไฟล์ PDF แทน
4. จัดทำจดหมายเชิญถ่ายทอดสดกรรมาธิการไปยังประธานกรรมาธิการแต่ละคณะ เผื่อถ่ายทอดให้ประชาชนได้ติดตามการประชุมตามความสนใจ
หลังจากได้มติทั้ง 4 เรื่องแล้ว ทางที่ประชุมได้เชิญหน่วยงาน Traffy Fondue มาให้ข้อมูล โดยคณะกรรมาธิการสนใจที่จะนำแพลตฟอร์มมาใช้ในอาคารรัฐสภา เพื่อแจ้งปัญหาที่พบภายในอาคารรัฐสภา เช่น พบจุดที่หลอดไฟขาด มีน้ำรั่วซึม เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้พูดถึงการนำแพลตฟอร์ม ‘อยู่ไหน UNAI’ มาทดลองใช้เพื่อบอกทางไปห้องต่างๆ ภายในอาคารแห่งนี้
ล่าสุด นายปดิพัทธ์ ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ในส่วนของการถ่ายถอดสดกรรมาธิการว่า “ไลฟ์สดการประชุมกรรมาธิการ ไม่ราบรื่นอย่างที่คิดครับ แรงต้านมาทุกระดับ อ้างกฎหมาย ระเบียบ วัฒนธรรมต่างๆ แต่ไม่มีใครต้านความต้องการของประชาชนที่ต้องการ สภาโปร่งใส ได้หรอกครับ ผมดำเนินการต่อแน่นอน”
https://www.facebook.com/OngPadipat/posts/pfbid0MwmMPQMGy7WDeKzi1hn4VdHxp5Ap4BBynuKsDm5cvupLqeM2wzR7MwsGnNojK2Vcl
https://twitter.com/ongpadipat/status/1714566581177798787