อับบาสประณามกลุ่มฮามาส “ไม่ใช่ตัวแทนของชาวปาเลสไตน์”
https://www.dailynews.co.th/news/2810600/
ผู้นำปาเลสไตน์กล่าวว่า กลุ่มฮามาส "ไม่ใช่ตัวแทน" ท่ามกลางภาวะสงครามกับอิสราเอลที่ยังคงรุนแรง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองรามัลเลาะห์ เขตเวสต์แบงก์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่าประธานาธิบดี
มาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ กล่าวถึงสถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ว่านโยบายและการกระทำของกลุ่มฮามาส “
ไม่ใช่ตัวแทนของชาวปาเลสไตน์” และองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ ( พีแอลโอ ) เท่านั้น ที่ถือเป็นรัฐบาลอันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์
ทั้งนี้ สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา จากการที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนกับอิสราเอล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลแล้ว 1,400 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 3,400 คน
ด้านชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเสียชีวิตมากกว่า 2,000 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 9,000 คน และประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
นอกจากนั้น สมาชิกกลุ่มฮามาสเสียชีวิตแล้ว 1,500 ราย และอิสราเอลและชาวต่างชาติรวมอย่างน้อย 126 คน ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมเป็นตัวประกัน.
สุดจะทน! ‘โตโต้’ แฉตลาดนัดแฝงบ่อน วอน ‘ชาดา’ เข้าเข้าจัดการ หวั่นผู้มีอิทธิพลสีอยู่เบื้องหลังhttps://www.matichon.co.th/politics/news_4233476
สุดจะทน! ‘โตโต้’ แฉตลาดนัดแฝงบ่อน วอน ‘ชาดา’ เข้าเข้าจัดการ หวั่นผู้มีอิทธิพลสีอยู่เบื้องหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ส.ส.เขตพระโขนง-บางนา พรรคก้าวไกล เผยแพร่คลิปวิดีโอพร้อมระบุข้อความผ่านเพจ “
โตโต้ ปิยรัฐ – Piyarat Chongthep” ระบุว่า
“‘สุ
ดจะทนคนอย่างเธอ’ — โตโต้สุดกลั้น โดนลากเอี่ยวมีส่วนเกี่ยวกับบ่อนพนัน บุกปราศรัยหน้าตลาดนัดแฝงบ่อน ขอร้องดีดีแล้วไม่ชอบกัน ลั่นไม่ต้องเอาเงินมาให้ เพราะไม่รับเงินแบบนี้!”
ในคลิปเป็นภาพที่ “
โตโต้” นั่งรถกระบะบุกไปปราศรัยหน้าตลาดนัดแห่งหนึ่ง ย่านถนนลาซาล-แบริ่งตัดใหม่ ที่แฝงบ่อน
โดย “
โตโต้” อ้างว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ว่ามีการเปิดบ่อนพนันในตลาด คือมีการตั้งตลาดนัดที่แฝงเล่นการพนัน และมีการหลอกล่อประชาชนด้วย พบว่ามีประชาชนเสียหายตั้งแต่ 20,000-300,000
ทั้งนี้ “
โตโต้” ระบุว่า เคยยื่นเรื่องไปที่กรมการปกครอง ให้ศูนย์ดำรงธรรม ดำเนินการแต่เรื่องก็เงียบ ร้อง สน.ในพื้นที่ ตร.ก็บอกยังไม่เห็นพฤติกรรมการเล่นพนัน พร้อมกับตั้งกระทู้ถามในสภาไปแล้วด้วย แต่ยังมีการละเล่นที่แอบแฝงการพนันอยู่
ทั้งนี้เคยทำหนังสือถึงสำนักงานเขต แต่ทางสำนักงานเขตบอกว่าทำได้แค่ปรับวันละ 500 จึงหมดหนทางแล้ว เลยใช้เสียงของตนนี่แหล่ะมาเตือนประชาชน
ทั้งนี้ “
โตโต้” ฝากถึง นาย
ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ช่วยมาตรวจสอบด้วยว่ามีคนมีสี มีคนอิทธิพลอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่ เพราะพฤติกรรมแบบนี้โจ่งแจ้ง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
สำหรับลักษณะการเล่นที่แอบแฝงการพนันนั้น “โตโต้” ระบุว่า จะมีลักษณะหลอกให้ประชาชนเข้าไปเล่น เมื่อเข้าไปแล้วจะมีคนมาล้อมหน้าล้อมหลัง คอยชักจูงหลอกล่อ ถ้าเสียไปแล้วจะออกจากวงไม่ได้
ทั้งนี้ โตโต้ระบุว่า และแจ้งความไปตำรวจก็ไม่ทำอะไร โทรไปหาผู้กำกับ ให้ผู้กำกับมาลงพื้นที่ แต่ผู้กำกับก็ติดภาระกิจที่ต่างจังหวัด ระหว่างที่ “
โตโต้” ขึ้นพูดนั้น ไฟที่ตลาดได้ปิดไปด้วย
ขณะที่เพจ “
Friends Talk” ได้ไลฟ์สดขณะที่
โตโต้ ลุกขึ้นปราศัยหน้าตลาดด้วย
ศาลปกครองสูงสุดนัด 20 ต.ค. อ่านคำสั่งคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช. เปิดข้อมูลนาฬิกาหรู ‘ป้อม’ ไม่ครบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4233352
ศาลปกครองสูงสุดนัด 20 ต.ค. อ่านคำสั่งคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช. เปิดข้อมูลนาฬิกาหรู ‘ป้อม’ ไม่ครบ
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม เวลา 10.30 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ พม.47/2566 คดีหมายเลขแดง พม.63/2566 และคดีหมายเลขดำที่ พม.48/2566 คดีหมายเลขแดงที่ พม.62/2566 ระหว่าง นาย
วีระ สมความคิด (ผู้ฟ้องคดี) กับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน (ผู้ฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร (คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่)
คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมาย กรณีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย มีคำวินิจฉัยให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร กรณีการกล่าวหา พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จำนวน 3 รายการ
ได้แก่ 1.รายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด 2.ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุกคน ที่รับผิดชอบในเรื่องกล่าวหาดังกล่าว และ 3.รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เพิกเฉย จึงนำคดีมาฟ้อง
โดยศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเปิดเผยข้อมูลข่าวสารทั้งสามรายการตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย ที่ สค 333/2562 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา
ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่า คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น และคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้มีสาระสำคัญไม่ครบถ้วนตามมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เหตุที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 กล่าวอ้างเพื่อขอพิจารณาคดีใหม่มิใช่เหตุประการใดประการหนึ่งตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ศาลจึงไม่อาจรับคำขอพิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณาได้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 จึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครอง
JJNY : อับบาสประณามฮามาส│‘โตโต้’ แฉตลาดนัดแฝงบ่อน│ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคดี ‘วีระ’ฟ้องป.ป.ช.│ครัวเรือนไทยรับผลกระทบโตช้า
https://www.dailynews.co.th/news/2810600/
ผู้นำปาเลสไตน์กล่าวว่า กลุ่มฮามาส "ไม่ใช่ตัวแทน" ท่ามกลางภาวะสงครามกับอิสราเอลที่ยังคงรุนแรง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองรามัลเลาะห์ เขตเวสต์แบงก์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่าประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ กล่าวถึงสถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ว่านโยบายและการกระทำของกลุ่มฮามาส “ไม่ใช่ตัวแทนของชาวปาเลสไตน์” และองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ ( พีแอลโอ ) เท่านั้น ที่ถือเป็นรัฐบาลอันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์
ทั้งนี้ สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา จากการที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนกับอิสราเอล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลแล้ว 1,400 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 3,400 คน
ด้านชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเสียชีวิตมากกว่า 2,000 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 9,000 คน และประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
นอกจากนั้น สมาชิกกลุ่มฮามาสเสียชีวิตแล้ว 1,500 ราย และอิสราเอลและชาวต่างชาติรวมอย่างน้อย 126 คน ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมเป็นตัวประกัน.
สุดจะทน! ‘โตโต้’ แฉตลาดนัดแฝงบ่อน วอน ‘ชาดา’ เข้าเข้าจัดการ หวั่นผู้มีอิทธิพลสีอยู่เบื้องหลังhttps://www.matichon.co.th/politics/news_4233476
สุดจะทน! ‘โตโต้’ แฉตลาดนัดแฝงบ่อน วอน ‘ชาดา’ เข้าเข้าจัดการ หวั่นผู้มีอิทธิพลสีอยู่เบื้องหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ส.ส.เขตพระโขนง-บางนา พรรคก้าวไกล เผยแพร่คลิปวิดีโอพร้อมระบุข้อความผ่านเพจ “โตโต้ ปิยรัฐ – Piyarat Chongthep” ระบุว่า
“‘สุดจะทนคนอย่างเธอ’ — โตโต้สุดกลั้น โดนลากเอี่ยวมีส่วนเกี่ยวกับบ่อนพนัน บุกปราศรัยหน้าตลาดนัดแฝงบ่อน ขอร้องดีดีแล้วไม่ชอบกัน ลั่นไม่ต้องเอาเงินมาให้ เพราะไม่รับเงินแบบนี้!”
ในคลิปเป็นภาพที่ “โตโต้” นั่งรถกระบะบุกไปปราศรัยหน้าตลาดนัดแห่งหนึ่ง ย่านถนนลาซาล-แบริ่งตัดใหม่ ที่แฝงบ่อน
โดย “โตโต้” อ้างว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ว่ามีการเปิดบ่อนพนันในตลาด คือมีการตั้งตลาดนัดที่แฝงเล่นการพนัน และมีการหลอกล่อประชาชนด้วย พบว่ามีประชาชนเสียหายตั้งแต่ 20,000-300,000
ทั้งนี้ “โตโต้” ระบุว่า เคยยื่นเรื่องไปที่กรมการปกครอง ให้ศูนย์ดำรงธรรม ดำเนินการแต่เรื่องก็เงียบ ร้อง สน.ในพื้นที่ ตร.ก็บอกยังไม่เห็นพฤติกรรมการเล่นพนัน พร้อมกับตั้งกระทู้ถามในสภาไปแล้วด้วย แต่ยังมีการละเล่นที่แอบแฝงการพนันอยู่
ทั้งนี้เคยทำหนังสือถึงสำนักงานเขต แต่ทางสำนักงานเขตบอกว่าทำได้แค่ปรับวันละ 500 จึงหมดหนทางแล้ว เลยใช้เสียงของตนนี่แหล่ะมาเตือนประชาชน
ทั้งนี้ “โตโต้” ฝากถึง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ช่วยมาตรวจสอบด้วยว่ามีคนมีสี มีคนอิทธิพลอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่ เพราะพฤติกรรมแบบนี้โจ่งแจ้ง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
สำหรับลักษณะการเล่นที่แอบแฝงการพนันนั้น “โตโต้” ระบุว่า จะมีลักษณะหลอกให้ประชาชนเข้าไปเล่น เมื่อเข้าไปแล้วจะมีคนมาล้อมหน้าล้อมหลัง คอยชักจูงหลอกล่อ ถ้าเสียไปแล้วจะออกจากวงไม่ได้
ทั้งนี้ โตโต้ระบุว่า และแจ้งความไปตำรวจก็ไม่ทำอะไร โทรไปหาผู้กำกับ ให้ผู้กำกับมาลงพื้นที่ แต่ผู้กำกับก็ติดภาระกิจที่ต่างจังหวัด ระหว่างที่ “โตโต้” ขึ้นพูดนั้น ไฟที่ตลาดได้ปิดไปด้วย
ขณะที่เพจ “Friends Talk” ได้ไลฟ์สดขณะที่ โตโต้ ลุกขึ้นปราศัยหน้าตลาดด้วย
ศาลปกครองสูงสุดนัด 20 ต.ค. อ่านคำสั่งคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช. เปิดข้อมูลนาฬิกาหรู ‘ป้อม’ ไม่ครบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4233352
ศาลปกครองสูงสุดนัด 20 ต.ค. อ่านคำสั่งคดี ‘วีระ’ ฟ้อง ป.ป.ช. เปิดข้อมูลนาฬิกาหรู ‘ป้อม’ ไม่ครบ
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม เวลา 10.30 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ พม.47/2566 คดีหมายเลขแดง พม.63/2566 และคดีหมายเลขดำที่ พม.48/2566 คดีหมายเลขแดงที่ พม.62/2566 ระหว่าง นายวีระ สมความคิด (ผู้ฟ้องคดี) กับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน (ผู้ฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร (คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่)
คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมาย กรณีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย มีคำวินิจฉัยให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร กรณีการกล่าวหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จำนวน 3 รายการ
ได้แก่ 1.รายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด 2.ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุกคน ที่รับผิดชอบในเรื่องกล่าวหาดังกล่าว และ 3.รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เพิกเฉย จึงนำคดีมาฟ้อง
โดยศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเปิดเผยข้อมูลข่าวสารทั้งสามรายการตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย ที่ สค 333/2562 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา
ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่า คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น และคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้มีสาระสำคัญไม่ครบถ้วนตามมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เหตุที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 กล่าวอ้างเพื่อขอพิจารณาคดีใหม่มิใช่เหตุประการใดประการหนึ่งตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ศาลจึงไม่อาจรับคำขอพิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณาได้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 จึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครอง